/0/22709/coverbig.jpg?v=af71747802b0d26259c53f80ab39f63b)
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
“พระชายาคังงดงามถึงเพียงนั้น น่าเสียดายยิ่งนักที่นางต้องตายไปเช่นนี้ สู้ให้พวกเราได้เล่นสนุกกันเสียก่อนที่นางจะตาย จะได้เบิกบานใจสักหน่อย”
“ฮ่า ๆ…… เจ้าพูดถูก อย่างไรก็กำลังจะตายอยู่แล้ว ถึงพวกเราจะเล่นสนุกกับนาง แล้วจะมีผู้ใดรู้ได้กันเล่า”
“นั่นสิ ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกกับพระชายารองอยู่แล้ว เขาจะเอาเวลาที่ไหนมาสนใจความเป็นความตายของนางกันเล่า บางทีเขาอาจแทบจะรอไม่ไหวอยากให้นางตายไปโดยเร็วก็เป็นได้”
……
ทันทีที่ฉินเซิงฟื้นคืนสติ นางก็เห็นว่ามีบุรุษสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้นางด้วยสีหน้าหื่นกาม อีกทั้งยังพูดจาต่ำช้าออกมาอีกด้วย
นางจึงทำการดึงปิ่นด้ามหนึ่งออกมา ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเข้ามา นางก็กระโดดขึ้นและนำปิ่นแทงเข้าไปในดวงตาของบุรุษหนึ่งในนั้นทันที จากนั้นก็ดึงออกและเสียบเข้าไปที่คอของเขาอีกครั้ง
“โอ๊ย!”
ชายคนนั้นเอามือกุมตาและคอเอาไว้ มีเลือดไหลออกมาจากระหว่างนิ้วของเขาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อชายอีกคนเห็นคนที่หายใจโรยรินใกล้ตายจู่ ๆ ก็แสดงอารมณ์โกรธแค้นลุกขึ้นมาฆ่าคนเช่นนี้ เขาก็ตกใจมากจนรีบหันหลังเพื่อจะวิ่งหนีไปทันที แต่ฉินเซิงจะยอมให้เขามีโอกาสนั้นได้อย่างไร นางรีบวิ่งปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้ จากนั้นก็พลิกมืออย่างแรง มีแสงอันเย็นยะเยือกเปล่งประกายออกมาจากปิ่นแวบหนึ่ง แล้วมันก็ปาดไปที่คอของชายผู้นั้น หลังจากที่ปล่อยมือออกแล้ว ชายผู้นั้นก็ล้มลงไปกับพื้นทันที
หลังจากที่กำจัดบุรุษสองคนนี้ไปได้แล้ว ฉินเซิงก็เซถอยหลังไปสองก้าวและพิงกำแพงพลางหายใจหอบอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของนางไม่ได้ดูประหลาดใจกับการได้กลับมาเกิดใหม่เลย มีเพียงความสับสนและเห็นอกเห็นใจเท่านั้น
เจ้าของร่างเดิมเป็นเด็กกำพร้าแห่งจวนท่านแม่ทัพ ด้วยความที่ฮ่องเต้ทรงสงสารนาง พระองค์จึงมีรับสั่งพระราชทานงานแต่งให้นางไปเป็นพระชายาของหวี่เหวินอี้ซึ่งก็คือท่านอ๋องคัง แต่น่าเสียดายที่เขามีหญิงสาวที่ตนเองหมายปองอยู่แล้ว ซึ่งก็คือซางหลี ลูกสาวของมหาราชครูนั่นเอง
เพื่อให้ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรัก หวี่เหวินอี้จึงกักขังเจ้าของร่างเดิมไว้ที่สำนักหนานซาน ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการกักขังคนบ้าโดยเฉพาะ โดยให้เหตุผลว่านางเป็นบ้า
ระหว่างที่อยู่ในสำนักหนานซาน เจ้าของร่างเดิมต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส นางสามารถอดทนมาได้จนถึงตอนนี้โดยที่ยังไม่ตาย เพราะความรู้สึกโกรธแค้นและไม่พอใจที่มีอยู่ ตอนนี้พอฉินเซิงเข้ามาอยู่ในร่างแล้ว ความโกรธแค้นนั้นจึงสื่อออกมาด้วย
ก่อนเสียชีวิตในภพชาติที่แล้ว ฉินเซิงเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีฉายาว่าราชินีแห่งยาพิษ นางเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ดอกไม้หรือหญ้าธรรมดาริมถนนเพียงแค่ต้นเดียว หากมาอยู่ในมือของนางแล้วมันก็อาจกลายเป็นพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้
ซึ่งแน่นอนว่าทักษะทางการแพทย์และยาพิษเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว นางจึงเก่งกาจในเรื่องทักษะทางการแพทย์มากเช่นกัน
นางเคยทำภารกิจมาเยอะแยะมากจนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นนางจึงอยากที่จะค่อย ๆ วางมือแล้ว แต่น่าเสียดายที่ลูกค้าประจำของนางไม่ยินยอม เกรงว่านางจะแฉความลับของพวกเขา ดังนั้นทุกคนจึงร่วมมือกันค้นหาฐานลับของนางแล้ววางระเบิด ระเบิดเพียงลูกเดียวก็ทำให้นางและฐานลับทั้งหมดกลายเป็นผุยผงภายในชั่วพริบตา จากนั้นนางก็ได้มาเกิดใหม่ในราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้
ฉินเซิงเป็นคนที่แยกแยะระหว่างความรักและความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน ในเมื่อนางได้มาครอบครองร่างของคนผู้นี้แล้ว นางก็ต้องแก้แค้นให้เจ้าของร่าง
เมื่อนึกถึงบทสนทนาของบุรุษทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ที่ว่า วันนี้ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกสมรสกับพระชายารองแล้ว หากเป็นเช่นนั้น การที่นางผู้ซึ่งเป็นพระชายาเอกไม่ไปปรากฏตัว เกรงว่าอาจจะเป็นการเสียมารยาทเอาได้
ฉินเซิงใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากปิ่น แล้วก็ปักกลับไปบนหัวใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก
สำนักหนานซานตั้งอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งในเขตชานเมืองของเมืองจิง มีทหารยามจำนวนมากคอยเฝ้าอยู่ที่ทางลงเขา แต่สำหรับฉินเซิงแล้ว ทุกที่ล้วนแล้วแต่เป็นทางลงเขาได้หมด ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางนั้น
สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองจิงถึงหนึ่งร้อยกว่าลี้ ซึ่งหากอาศัยการเดินเท้าไปที่นั่น งานอภิเษกสมรสของหวี่เหวินอี้และซางหลีน่าจะจบลงไปแล้ว
นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วก็เห็นรถม้าคันหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ ฉินเซิงที่ยืนอยู่ข้างถนนจึงยกแขนขึ้น เตรียมจะโบกรถม้าเพื่ออาศัยกลับไปยังเมืองจิง
“นายท่าน มีคนมาขวางทางอยู่ข้างหน้าขอรับ เป็นสตรีสวมเสื้อผ้ามอมแมมนางหนึ่งพะยะค่ะ”
หลังจากที่หมิงเยว่ที่เป็นคนขับรถม้าเห็นฉินเซิง เขาก็รายงานไปยังผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารของรถม้า หลังจากนั้นผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารรถก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉยเมยและเกียจคร้านว่า
“มิต้องไปสนใจ”
หมิงเยว่มองไปข้างหน้าครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยความลำบากใจว่า
“แต่สตรีนางนั้นยืนอยู่กลางถนนเลยนะพะยะค่ะ”
บุรุษผู้นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชาและเรียบเฉยเหมือนเช่นเคย
“มิต้องไปสนใจ”
เอาล่ะ!
หมิงเยว่ที่ได้รับคำสั่งมาดังนั้นจึงไม่ได้ชะลอความเร็วลง เขาพุ่งตรงเข้าไปหาฉินเซิงด้วยความเร็วทันที
เมื่อฉินเซิงเห็นเช่นนี้ รูม่านตาของนางก็หดตัวลง นางรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ขืนนางช้ากว่านี้เพียงแค่นิดเดียว รถม้าอาจจะทับตัวนางไปแล้วก็เป็นได้
ความอดทนของนางถึงขีดจำกัดแล้ว
ฉินเซิงดึงปิ่นบนหัวออก แล้วก็กระโดดขึ้นไปด้านหลังรถม้าและปีนเข้าหน้าต่างไป จากนั้นก็นำปลายแหลมของปิ่นจี้ไปที่คอของบุรุษในรถม้า แล้วก็ข่มขู่ขึ้นมาเบา ๆ ว่า
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"