ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / ประวัติศาสตร์ / อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก

อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก

5.0
1 บท/วัน
319 บท
828.9K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง

บทที่ 1 เกิดใหม่เป็นพระชายาผู้บ้าคลั่ง (ภาค 1)

“พระชายาคังงดงามถึงเพียงนั้น น่าเสียดายยิ่งนักที่นางต้องตายไปเช่นนี้ สู้ให้พวกเราได้เล่นสนุกกันเสียก่อนที่นางจะตาย จะได้เบิกบานใจสักหน่อย”

“ฮ่า ๆ…… เจ้าพูดถูก อย่างไรก็กำลังจะตายอยู่แล้ว ถึงพวกเราจะเล่นสนุกกับนาง แล้วจะมีผู้ใดรู้ได้กันเล่า”

“นั่นสิ ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกกับพระชายารองอยู่แล้ว เขาจะเอาเวลาที่ไหนมาสนใจความเป็นความตายของนางกันเล่า บางทีเขาอาจแทบจะรอไม่ไหวอยากให้นางตายไปโดยเร็วก็เป็นได้”

……

ทันทีที่ฉินเซิงฟื้นคืนสติ นางก็เห็นว่ามีบุรุษสองคนกำลังเดินเข้ามาใกล้นางด้วยสีหน้าหื่นกาม อีกทั้งยังพูดจาต่ำช้าออกมาอีกด้วย

นางจึงทำการดึงปิ่นด้ามหนึ่งออกมา ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเข้ามา นางก็กระโดดขึ้นและนำปิ่นแทงเข้าไปในดวงตาของบุรุษหนึ่งในนั้นทันที จากนั้นก็ดึงออกและเสียบเข้าไปที่คอของเขาอีกครั้ง

“โอ๊ย!”

ชายคนนั้นเอามือกุมตาและคอเอาไว้ มีเลือดไหลออกมาจากระหว่างนิ้วของเขาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อชายอีกคนเห็นคนที่หายใจโรยรินใกล้ตายจู่ ๆ ก็แสดงอารมณ์โกรธแค้นลุกขึ้นมาฆ่าคนเช่นนี้ เขาก็ตกใจมากจนรีบหันหลังเพื่อจะวิ่งหนีไปทันที แต่ฉินเซิงจะยอมให้เขามีโอกาสนั้นได้อย่างไร นางรีบวิ่งปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้ จากนั้นก็พลิกมืออย่างแรง มีแสงอันเย็นยะเยือกเปล่งประกายออกมาจากปิ่นแวบหนึ่ง แล้วมันก็ปาดไปที่คอของชายผู้นั้น หลังจากที่ปล่อยมือออกแล้ว ชายผู้นั้นก็ล้มลงไปกับพื้นทันที

หลังจากที่กำจัดบุรุษสองคนนี้ไปได้แล้ว ฉินเซิงก็เซถอยหลังไปสองก้าวและพิงกำแพงพลางหายใจหอบอยู่อย่างนั้น ใบหน้าของนางไม่ได้ดูประหลาดใจกับการได้กลับมาเกิดใหม่เลย มีเพียงความสับสนและเห็นอกเห็นใจเท่านั้น

เจ้าของร่างเดิมเป็นเด็กกำพร้าแห่งจวนท่านแม่ทัพ ด้วยความที่ฮ่องเต้ทรงสงสารนาง พระองค์จึงมีรับสั่งพระราชทานงานแต่งให้นางไปเป็นพระชายาของหวี่เหวินอี้ซึ่งก็คือท่านอ๋องคัง แต่น่าเสียดายที่เขามีหญิงสาวที่ตนเองหมายปองอยู่แล้ว ซึ่งก็คือซางหลี ลูกสาวของมหาราชครูนั่นเอง

เพื่อให้ได้แต่งงานกับคนที่ตนเองรัก หวี่เหวินอี้จึงกักขังเจ้าของร่างเดิมไว้ที่สำนักหนานซาน ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ในการกักขังคนบ้าโดยเฉพาะ โดยให้เหตุผลว่านางเป็นบ้า

ระหว่างที่อยู่ในสำนักหนานซาน เจ้าของร่างเดิมต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส นางสามารถอดทนมาได้จนถึงตอนนี้โดยที่ยังไม่ตาย เพราะความรู้สึกโกรธแค้นและไม่พอใจที่มีอยู่ ตอนนี้พอฉินเซิงเข้ามาอยู่ในร่างแล้ว ความโกรธแค้นนั้นจึงสื่อออกมาด้วย

ก่อนเสียชีวิตในภพชาติที่แล้ว ฉินเซิงเป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีฉายาว่าราชินีแห่งยาพิษ นางเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ดอกไม้หรือหญ้าธรรมดาริมถนนเพียงแค่ต้นเดียว หากมาอยู่ในมือของนางแล้วมันก็อาจกลายเป็นพิษที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้

ซึ่งแน่นอนว่าทักษะทางการแพทย์และยาพิษเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้อยู่แล้ว นางจึงเก่งกาจในเรื่องทักษะทางการแพทย์มากเช่นกัน

นางเคยทำภารกิจมาเยอะแยะมากจนรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเกินไป ดังนั้นนางจึงอยากที่จะค่อย ๆ วางมือแล้ว แต่น่าเสียดายที่ลูกค้าประจำของนางไม่ยินยอม เกรงว่านางจะแฉความลับของพวกเขา ดังนั้นทุกคนจึงร่วมมือกันค้นหาฐานลับของนางแล้ววางระเบิด ระเบิดเพียงลูกเดียวก็ทำให้นางและฐานลับทั้งหมดกลายเป็นผุยผงภายในชั่วพริบตา จากนั้นนางก็ได้มาเกิดใหม่ในราชวงศ์ที่แปลกประหลาดนี้

ฉินเซิงเป็นคนที่แยกแยะระหว่างความรักและความเกลียดชังได้อย่างชัดเจน ในเมื่อนางได้มาครอบครองร่างของคนผู้นี้แล้ว นางก็ต้องแก้แค้นให้เจ้าของร่าง

เมื่อนึกถึงบทสนทนาของบุรุษทั้งสองเมื่อสักครู่นี้ที่ว่า วันนี้ท่านอ๋องคังกำลังจะอภิเษกสมรสกับพระชายารองแล้ว หากเป็นเช่นนั้น การที่นางผู้ซึ่งเป็นพระชายาเอกไม่ไปปรากฏตัว เกรงว่าอาจจะเป็นการเสียมารยาทเอาได้

ฉินเซิงใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากปิ่น แล้วก็ปักกลับไปบนหัวใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็เดินออกไปด้านนอก

สำนักหนานซานตั้งอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งในเขตชานเมืองของเมืองจิง มีทหารยามจำนวนมากคอยเฝ้าอยู่ที่ทางลงเขา แต่สำหรับฉินเซิงแล้ว ทุกที่ล้วนแล้วแต่เป็นทางลงเขาได้หมด ดังนั้นนางจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางนั้น

สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากเมืองจิงถึงหนึ่งร้อยกว่าลี้ ซึ่งหากอาศัยการเดินเท้าไปที่นั่น งานอภิเษกสมรสของหวี่เหวินอี้และซางหลีน่าจะจบลงไปแล้ว

นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วก็เห็นรถม้าคันหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ ฉินเซิงที่ยืนอยู่ข้างถนนจึงยกแขนขึ้น เตรียมจะโบกรถม้าเพื่ออาศัยกลับไปยังเมืองจิง

“นายท่าน มีคนมาขวางทางอยู่ข้างหน้าขอรับ เป็นสตรีสวมเสื้อผ้ามอมแมมนางหนึ่งพะยะค่ะ”

หลังจากที่หมิงเยว่ที่เป็นคนขับรถม้าเห็นฉินเซิง เขาก็รายงานไปยังผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารของรถม้า หลังจากนั้นผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารรถก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเฉยเมยและเกียจคร้านว่า

“มิต้องไปสนใจ”

หมิงเยว่มองไปข้างหน้าครู่หนึ่ง แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยความลำบากใจว่า

“แต่สตรีนางนั้นยืนอยู่กลางถนนเลยนะพะยะค่ะ”

บุรุษผู้นั้นไม่ได้เงยหน้าขึ้นแต่อย่างใด น้ำเสียงของเขายังคงเย็นชาและเรียบเฉยเหมือนเช่นเคย

“มิต้องไปสนใจ”

เอาล่ะ!

หมิงเยว่ที่ได้รับคำสั่งมาดังนั้นจึงไม่ได้ชะลอความเร็วลง เขาพุ่งตรงเข้าไปหาฉินเซิงด้วยความเร็วทันที

เมื่อฉินเซิงเห็นเช่นนี้ รูม่านตาของนางก็หดตัวลง นางรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว ขืนนางช้ากว่านี้เพียงแค่นิดเดียว รถม้าอาจจะทับตัวนางไปแล้วก็เป็นได้

ความอดทนของนางถึงขีดจำกัดแล้ว

ฉินเซิงดึงปิ่นบนหัวออก แล้วก็กระโดดขึ้นไปด้านหลังรถม้าและปีนเข้าหน้าต่างไป จากนั้นก็นำปลายแหลมของปิ่นจี้ไปที่คอของบุรุษในรถม้า แล้วก็ข่มขู่ขึ้นมาเบา ๆ ว่า

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 319 ฆ่าซะ (ภาค 2)   วันนี้00:03
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY