/0/22833/coverbig.jpg?v=594f3a560c3be6ba13e1cccac5ab658f)
เหตุใดศิษย์พี่ปราบผีไม่เก็บเข้ากระเป๋าบ้าง
เหตุใดศิษย์พี่ปราบผีไม่เก็บเข้ากระเป๋าบ้าง
มนุษย์เราเกิดมา สิ่งที่มีติดตัวมาตั้งแต่ในครรภ์มารดาจวบจนเป็นทารกแรกเกิด มีเพียงแต่ความว่างเปล่า ดั่งคำที่กล่าวขานว่าเด็กคือผ้าขาว ไม่ว่าจะเป็นภาษา วัฒนธรรม สังคม ความเป็นอยู่ หรือคุณค่าของการเกิดมาล้วนต้องถูกสั่งสอน แต่งเติมเข้าไป ไม่มีใครพกติดตัวมาได้ตั้งแต่เกิดหรอก
คงไม่ใช่กับนางเล่า อวิ๋นเสียนหนาน สาวน้อยวัยยี่สิบปี นักพรตปราบผีประจำวัดมู่หญง ถ้าหากเป็นโลกเก่าที่นางเคยอยู่ก็คงเป็นสาวน้อยเพิ่งเข้าสู่วัยมหาลัย แต่ไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้
โลกที่นางอยู่ในตอนนี้ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ สาววัยยี่สิบไม่แต่งงานเรียกนางว่าสาวเทื้อ
มารดามันเถอะ หากเป็นโลกเก่าที่นางจากมา วัยนางมีลูกเร็วไปด้วยซ้ำ นางเคยสงสัยเช่นกันนางได้ทะลุมิติมาเหมือนนิยายที่นางเคยอ่านมาหรือไม่
ชีวิตนางในโลกเก่ามีชื่อว่า ไป๋อวิ๋นฮวา อายุยี่สิบห้าปี เป็นสาวตกงานไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนระหว่างข้ามถนนทางม้าลายเพื่อไปซื้อข้าวกิน สาเหตุคือคนขับเมาแล้วขับ จึงทำให้อวิ๋นฮวาเสียชีวิตคาที่
เพ้ยๆ คิดแล้วก็อยากสาปส่งคนขับ งานศพของนางจัดอย่างสงบเรียบง่าย ตอนนั้นที่ล่องลอยเป็นวิญญาณ นางรู้สึกเสียดายอยู่หลายอย่าง ยังไม่ได้อยากทำสิ่งที่อยากทำ พ่อแม่ของนางจะอยู่ได้ไหม
คนรักก็ยังไม่มี หน้าที่การงานก็ยังไม่รุ่งอยากไปสัมภาษณ์งานที่ใฝ่ฝันอยู่เลย อ่าตอนนั้นในหัวของนางคือ เสียดายจัง
หลังจากนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองอยู่ในร่างเด็กทารก คราแรกนางคิดว่าตัวเองทะลุมิติมายังอีกโลกเหมือนนิยายที่เคยอ่านทั่วไปตามเว็บ
แต่เดี๋ยวนะ ไม่ถูกสิในโลกเก่านางตายแล้ว นางโดนสวดส่งวิญญาณอยู่เลย ล่องลอยไปมาจนถึงเวลาที่นางต้องข้ามสะพานไปเจอยายเมิ่ง แต่ยายเมิ่งไม่ได้ให้นางกินน้ำเบญจรส[1] หรืออย่างไร มันต้องลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติสิแต่นี่นางกลับจำอดีตชาติในโลกเก่าตัวเองได้หมด
ต่อมาเมื่อนางเริ่มโตขึ้น มีนามว่าอวิ๋นเสียนหนาน เกิดจากภรรยาเอกของท่านแม่ทัพอวิ๋น บิดาของนางในโลกนี้มีชื่อว่า อวิ๋นเสี่ยวโม่ เป็นถึงแม่ทัพประจำแดนใต้แห่งต้าเฟิ่ง ส่วนมารดานางมีชื่อว่า ไป๋จวิ้นหลัน เป็นภรรยาเอกของท่านแม่ทัพ
จะว่าไงดีตลอดเวลาที่นางยังเป็นทารกจวบจนอายุได้สามขวบ ชีวิตนางสุขสบายมากมาย เป็นที่รักของท่านพ่อท่านแม่ ต่อมาท่านแม่ตั้งครรภ์ นางรับรู้ได้ทันทีในครรภ์ของท่านแม่เป็นบุตรชาย ถามว่านางรู้ได้ไง วิญญาณบรรพบุรุษที่อยู่ปกปักรักษาตระกูลอวิ๋นบอกนาง ใช่นางเห็นสิ่งที่เรียกวิญญาณหรือผี แต่เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ นางก็ตอบไม่ได้
แรกๆก็ไม่ชินมีกลัวบ้าง เพราะที่มาปรากฏให้เห็น ก็มีทั้งแบบปกติและไม่ปกติ จนหลังๆเริ่มชินกับการที่ตัวเองเห็นวิญญาณ บางครั้งนางก็คุยกับผีมากกว่าเด็กคนอื่นในจวนเสียอีก
จู่ๆในวันหนึ่งท่านบรรพบุรุษปรากฏกายบอกกับนางว่าให้เตือนท่านแม่ระวังการนั่งรถม้า มีคนไม่หวังดีต้องการให้ท่านแม่แท้ง นี่คือสิ่งทีี่นางไม่นึกเสียใจที่ได้กล่าวออกไป แม้นจะทำให้นางในหลังจากนั้นถูกส่งตัวมาอยู่กับท่านอาจารย์ ที่วัดอารามมู่หญง เดินทางเข้าสู่เต๋าตั้งแต่ยังเด็กจวบจนถึงตอนนี้
ตอนนั้นที่นางบอกท่านแม่ไป นางยอมรับว่าต่อให้นางมีความทรงจำจากโลกเก่า อายุขัยจากโลกที่แล้วหรือวุฒิภาวะต่างๆแล้วอย่างไร ร่างของนางในตอนนั้นคือเด็กวัยสามขวบ อารมณ์ย่อมมีมากกว่าสติเสียอีก
ท่านบรรพบุรุษตระกูลอวิ๋นบอกกับนางว่าน้องสาวของท่านแม่จะจ้างให้คนทำให้รถม้าพลิกคว่ำ ตั้งใจให้ท่านแม่แท้ง หลังจากที่นางได้ยินสติแตกกระเจิ้งทันที ด้วยความเป็นห่วงท่านแม่นางรีบวิ่งด้วยสองเท้าป้อมและพูดสิ่งที่ได้ยินมาจนหมด แต่สิ่งที่นางได้รับคือ ท่านพ่อไม่เชื่อ ส่วนท่านแม่คิดว่ามีคนตั้งใจยุแยงความสัมพันธ์ของนางกับน้องสาวตนเอง โดยการมาพูดหลอกล่อลูกสาวนางให้กลัว
เรื่องมันยุ่งยากยิ่งขึ้นเมื่อท่านน้าหรือน้องสาวท่านแม่เชิญนักพรตชื่อดังมาดูดวงชะตาให้นาง บอกนางมีดวงกาลกิณี มีดวงตาของความเป็นมาร เป็นภัยต่อครรภ์ที่จะออกมาเป็นชายชาตรี หากบุตรคนนี้รอดปลอดภัยจะได้รับใช้บ้านเมือง ต้องส่งนางไปทางเหนือดินแดนแห่งความยากจนของต้าเฟิ่งเพื่อให้ชำระล้างดวงชะตาของนาง
แน่นอนท่านแม่ย่อมยอมรับไม่ได้ ยังไงเสียอวิ๋นเสียนหนานก็เป็นลูกสาวที่นางให้กำเนิด ฟ้าฝนคงไม่เป็นใจ ท่านแม่เจ็บครรภ์เกือบแท้งด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ เหล่าผู้อาวุโสตระกูลอวิ๋นเชื่อว่าเป็นเพราะดวงชะตาของอวิ๋นเสียนหนาน
อวิ๋นเสียนหนานอยากตะโกนบอกทุกคนว่าท่านแม่มีภาวะเครียดเลยส่งผลต่อเด็กในครรภ์ แต่นั้นและนางพูดไปใครจะเชื่อ เหล่าผู้อาวุโสต่างกดดันท่านพ่อ ให้ขับอวิ๋นเสียนหนานออกจากตระกูล ทำตามสิ่งที่นักพรตจอมล่วงโลกนั้นกล่าว
คิดไปแล้วช่างตลก โลกเก่าที่นางจากมาการเห็นผีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นด้วยซ้ำ แต่โลกแห่งนี้ สถานที่ที่มีแต่ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นอย่างมาก พูดกลับขาวเป็นดำ คนอื่นเห็นผีคือพรจากสวรรค์ อวิ๋นเสียนหนานเห็นผีคือดวงตาเป็นมาร ท่านพ่อในตอนนั้นพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นั้นยิ่งกลับทำให้อาการท่านแม่แย่ลง
เหมือนอวิ๋นเสียนหนานยังมีบุญอยู่บ้าง จู่ๆก็มีนักพรตเฒ่าท่านหนึ่งมาเคาะประตูจวนตระกูลอวิ๋น ขอพบท่านแม่ทัพ จะว่าไปท่านอาจารย์นางในตอนนั้น ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ชุดนักพรตเต๋าที่ท่านใส่มาก็สีซีด มีีรอยปะเต็มตัว ใครจะเชื่อว่านี่คือท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดมู่หญง วัดเลื่องชื่อของลัทธิเต๋า อดีตปฐมฮ่องเต้ศรัทธาวัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก
แต่อย่างว่ากาลเวลาเปลี่ยน ลัทธิมีมากมายเพิิ่มยิ่งขึ้น ทำให้วัดนี้จางหายไปตามการเวลาแต่ถึงกระนั้นก็ยังขึ้นชื่อของความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองปิดประตูคุยอยู่นานสอง จนสรุปออกมาได้ว่า
ท่านอาจารย์ต้องการตัวอวิ๋นเสียนหนานไปเลี้ยงดู สั่งสอนเข้าสู่ลัทธิเต๋า ท่านพ่อเห็นว่านี่คือทางที่ดีจากตัวเลือกที่มีทั้งหมด เขาย่อมเสียใครไปไม่ได้สักคน แต่หากเขาต้องสละ เขาจำเป็นต้องเลือกสละลูกสาวคนโต
นางถูกส่งตัวออกจากจวนไปพร้อมอาจารย์ในคืนนั้นทันที ไม่ได้ร่ำลา บอกกล่าวท่านแม่ หรือพบหน้าท่านพ่อ นางไม่ได้เห็นพบใครเลยเสียด้วยซ้ำ
และนี้คือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักพรตของอวิ๋นเสียนหนาน ผู้คนต่างรับรู้ว่าลูกสาวของท่านแม่ทัพถูกส่งไปอยู่อีกเมืองเนื่องจากสุขภาพไม่ดี หลังจากนางมาอยู่กับท่านอาจารย์ ได้รับการสั่งสอนอย่างดี สัมผัสพิเศษของนาง นางไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายอะไรเลย ท่านอาจารย์ก็บอกเอง ว่ามันช่วยกอบกู้โลกมนุษย์ไม่มากก็น้อย แต่เอาเถิดอาจารย์จะกู้โลกอย่างไร นางไม่รู้ แต่นางจะเป็นนักพรตปราบผีชื่อเสียงกว้างไกลดีกว่า เดินทางปราบผี พูดคุยกัับผีง่ายกว่าคุยกับคนเสียอีก
อวิ๋นเสียนหนานไม่ได้ข่าวคราวของตระกูลอวิ๋นเลย สิ่งที่นางเป็นห่วงก็มีเพียงท่านแม่และน้องชายของนาง ไม่รู้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะรู้เท่าทันคนหรือไม่ สิ่งที่น่ากลัวกว่าผี วิญญาณ คือ จิตใจของคน นางก็ได้แต่หวังว่าการที่สละนางไปจะเป็นเรื่องที่ดีแก่ตระกูล แก่ทุกคน
เชิงอรรถ
^
[1] วิญญาณทุกดวงจะได้ดื่มน้ำเบจรสหรือ น้ำแกงห้ารสจากยายเมิ่งเทพอาวุโสที่ประจำการอยู่ในนรกภูมิ น้ำเบจรสมีอนุภาพคือ ทำให้ลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติหมดสิ้นเชิงไม่เหลือความทรงจำใดใดเลยแม้แต่เรื่องเดียว
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด