/0/22833/coverbig.jpg?v=594f3a560c3be6ba13e1cccac5ab658f)
เหตุใดศิษย์พี่ปราบผีไม่เก็บเข้ากระเป๋าบ้าง
มนุษย์เราเกิดมา สิ่งที่มีติดตัวมาตั้งแต่ในครรภ์มารดาจวบจนเป็นทารกแรกเกิด มีเพียงแต่ความว่างเปล่า ดั่งคำที่กล่าวขานว่าเด็กคือผ้าขาว ไม่ว่าจะเป็นภาษา วัฒนธรรม สังคม ความเป็นอยู่ หรือคุณค่าของการเกิดมาล้วนต้องถูกสั่งสอน แต่งเติมเข้าไป ไม่มีใครพกติดตัวมาได้ตั้งแต่เกิดหรอก
คงไม่ใช่กับนางเล่า อวิ๋นเสียนหนาน สาวน้อยวัยยี่สิบปี นักพรตปราบผีประจำวัดมู่หญง ถ้าหากเป็นโลกเก่าที่นางเคยอยู่ก็คงเป็นสาวน้อยเพิ่งเข้าสู่วัยมหาลัย แต่ไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้
โลกที่นางอยู่ในตอนนี้ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ สาววัยยี่สิบไม่แต่งงานเรียกนางว่าสาวเทื้อ
มารดามันเถอะ หากเป็นโลกเก่าที่นางจากมา วัยนางมีลูกเร็วไปด้วยซ้ำ นางเคยสงสัยเช่นกันนางได้ทะลุมิติมาเหมือนนิยายที่นางเคยอ่านมาหรือไม่
ชีวิตนางในโลกเก่ามีชื่อว่า ไป๋อวิ๋นฮวา อายุยี่สิบห้าปี เป็นสาวตกงานไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนระหว่างข้ามถนนทางม้าลายเพื่อไปซื้อข้าวกิน สาเหตุคือคนขับเมาแล้วขับ จึงทำให้อวิ๋นฮวาเสียชีวิตคาที่
เพ้ยๆ คิดแล้วก็อยากสาปส่งคนขับ งานศพของนางจัดอย่างสงบเรียบง่าย ตอนนั้นที่ล่องลอยเป็นวิญญาณ นางรู้สึกเสียดายอยู่หลายอย่าง ยังไม่ได้อยากทำสิ่งที่อยากทำ พ่อแม่ของนางจะอยู่ได้ไหม
คนรักก็ยังไม่มี หน้าที่การงานก็ยังไม่รุ่งอยากไปสัมภาษณ์งานที่ใฝ่ฝันอยู่เลย อ่าตอนนั้นในหัวของนางคือ เสียดายจัง
หลังจากนั้นนางก็ลืมตาขึ้นมา กลับพบว่าตัวเองอยู่ในร่างเด็กทารก คราแรกนางคิดว่าตัวเองทะลุมิติมายังอีกโลกเหมือนนิยายที่เคยอ่านทั่วไปตามเว็บ
แต่เดี๋ยวนะ ไม่ถูกสิในโลกเก่านางตายแล้ว นางโดนสวดส่งวิญญาณอยู่เลย ล่องลอยไปมาจนถึงเวลาที่นางต้องข้ามสะพานไปเจอยายเมิ่ง แต่ยายเมิ่งไม่ได้ให้นางกินน้ำเบญจรส[1] หรืออย่างไร มันต้องลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติสิแต่นี่นางกลับจำอดีตชาติในโลกเก่าตัวเองได้หมด
ต่อมาเมื่อนางเริ่มโตขึ้น มีนามว่าอวิ๋นเสียนหนาน เกิดจากภรรยาเอกของท่านแม่ทัพอวิ๋น บิดาของนางในโลกนี้มีชื่อว่า อวิ๋นเสี่ยวโม่ เป็นถึงแม่ทัพประจำแดนใต้แห่งต้าเฟิ่ง ส่วนมารดานางมีชื่อว่า ไป๋จวิ้นหลัน เป็นภรรยาเอกของท่านแม่ทัพ
จะว่าไงดีตลอดเวลาที่นางยังเป็นทารกจวบจนอายุได้สามขวบ ชีวิตนางสุขสบายมากมาย เป็นที่รักของท่านพ่อท่านแม่ ต่อมาท่านแม่ตั้งครรภ์ นางรับรู้ได้ทันทีในครรภ์ของท่านแม่เป็นบุตรชาย ถามว่านางรู้ได้ไง วิญญาณบรรพบุรุษที่อยู่ปกปักรักษาตระกูลอวิ๋นบอกนาง ใช่นางเห็นสิ่งที่เรียกวิญญาณหรือผี แต่เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่ นางก็ตอบไม่ได้
แรกๆก็ไม่ชินมีกลัวบ้าง เพราะที่มาปรากฏให้เห็น ก็มีทั้งแบบปกติและไม่ปกติ จนหลังๆเริ่มชินกับการที่ตัวเองเห็นวิญญาณ บางครั้งนางก็คุยกับผีมากกว่าเด็กคนอื่นในจวนเสียอีก
จู่ๆในวันหนึ่งท่านบรรพบุรุษปรากฏกายบอกกับนางว่าให้เตือนท่านแม่ระวังการนั่งรถม้า มีคนไม่หวังดีต้องการให้ท่านแม่แท้ง นี่คือสิ่งทีี่นางไม่นึกเสียใจที่ได้กล่าวออกไป แม้นจะทำให้นางในหลังจากนั้นถูกส่งตัวมาอยู่กับท่านอาจารย์ ที่วัดอารามมู่หญง เดินทางเข้าสู่เต๋าตั้งแต่ยังเด็กจวบจนถึงตอนนี้
ตอนนั้นที่นางบอกท่านแม่ไป นางยอมรับว่าต่อให้นางมีความทรงจำจากโลกเก่า อายุขัยจากโลกที่แล้วหรือวุฒิภาวะต่างๆแล้วอย่างไร ร่างของนางในตอนนั้นคือเด็กวัยสามขวบ อารมณ์ย่อมมีมากกว่าสติเสียอีก
ท่านบรรพบุรุษตระกูลอวิ๋นบอกกับนางว่าน้องสาวของท่านแม่จะจ้างให้คนทำให้รถม้าพลิกคว่ำ ตั้งใจให้ท่านแม่แท้ง หลังจากที่นางได้ยินสติแตกกระเจิ้งทันที ด้วยความเป็นห่วงท่านแม่นางรีบวิ่งด้วยสองเท้าป้อมและพูดสิ่งที่ได้ยินมาจนหมด แต่สิ่งที่นางได้รับคือ ท่านพ่อไม่เชื่อ ส่วนท่านแม่คิดว่ามีคนตั้งใจยุแยงความสัมพันธ์ของนางกับน้องสาวตนเอง โดยการมาพูดหลอกล่อลูกสาวนางให้กลัว
เรื่องมันยุ่งยากยิ่งขึ้นเมื่อท่านน้าหรือน้องสาวท่านแม่เชิญนักพรตชื่อดังมาดูดวงชะตาให้นาง บอกนางมีดวงกาลกิณี มีดวงตาของความเป็นมาร เป็นภัยต่อครรภ์ที่จะออกมาเป็นชายชาตรี หากบุตรคนนี้รอดปลอดภัยจะได้รับใช้บ้านเมือง ต้องส่งนางไปทางเหนือดินแดนแห่งความยากจนของต้าเฟิ่งเพื่อให้ชำระล้างดวงชะตาของนาง
แน่นอนท่านแม่ย่อมยอมรับไม่ได้ ยังไงเสียอวิ๋นเสียนหนานก็เป็นลูกสาวที่นางให้กำเนิด ฟ้าฝนคงไม่เป็นใจ ท่านแม่เจ็บครรภ์เกือบแท้งด้วยสาเหตุใดไม่ทราบ เหล่าผู้อาวุโสตระกูลอวิ๋นเชื่อว่าเป็นเพราะดวงชะตาของอวิ๋นเสียนหนาน
อวิ๋นเสียนหนานอยากตะโกนบอกทุกคนว่าท่านแม่มีภาวะเครียดเลยส่งผลต่อเด็กในครรภ์ แต่นั้นและนางพูดไปใครจะเชื่อ เหล่าผู้อาวุโสต่างกดดันท่านพ่อ ให้ขับอวิ๋นเสียนหนานออกจากตระกูล ทำตามสิ่งที่นักพรตจอมล่วงโลกนั้นกล่าว
คิดไปแล้วช่างตลก โลกเก่าที่นางจากมาการเห็นผีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นด้วยซ้ำ แต่โลกแห่งนี้ สถานที่ที่มีแต่ความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเป็นอย่างมาก พูดกลับขาวเป็นดำ คนอื่นเห็นผีคือพรจากสวรรค์ อวิ๋นเสียนหนานเห็นผีคือดวงตาเป็นมาร ท่านพ่อในตอนนั้นพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อปกป้องลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นั้นยิ่งกลับทำให้อาการท่านแม่แย่ลง
เหมือนอวิ๋นเสียนหนานยังมีบุญอยู่บ้าง จู่ๆก็มีนักพรตเฒ่าท่านหนึ่งมาเคาะประตูจวนตระกูลอวิ๋น ขอพบท่านแม่ทัพ จะว่าไปท่านอาจารย์นางในตอนนั้น ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ ชุดนักพรตเต๋าที่ท่านใส่มาก็สีซีด มีีรอยปะเต็มตัว ใครจะเชื่อว่านี่คือท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดมู่หญง วัดเลื่องชื่อของลัทธิเต๋า อดีตปฐมฮ่องเต้ศรัทธาวัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก
แต่อย่างว่ากาลเวลาเปลี่ยน ลัทธิมีมากมายเพิิ่มยิ่งขึ้น ทำให้วัดนี้จางหายไปตามการเวลาแต่ถึงกระนั้นก็ยังขึ้นชื่อของความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองปิดประตูคุยอยู่นานสอง จนสรุปออกมาได้ว่า
ท่านอาจารย์ต้องการตัวอวิ๋นเสียนหนานไปเลี้ยงดู สั่งสอนเข้าสู่ลัทธิเต๋า ท่านพ่อเห็นว่านี่คือทางที่ดีจากตัวเลือกที่มีทั้งหมด เขาย่อมเสียใครไปไม่ได้สักคน แต่หากเขาต้องสละ เขาจำเป็นต้องเลือกสละลูกสาวคนโต
นางถูกส่งตัวออกจากจวนไปพร้อมอาจารย์ในคืนนั้นทันที ไม่ได้ร่ำลา บอกกล่าวท่านแม่ หรือพบหน้าท่านพ่อ นางไม่ได้เห็นพบใครเลยเสียด้วยซ้ำ
และนี้คือจุดเริ่มต้นของการเป็นนักพรตของอวิ๋นเสียนหนาน ผู้คนต่างรับรู้ว่าลูกสาวของท่านแม่ทัพถูกส่งไปอยู่อีกเมืองเนื่องจากสุขภาพไม่ดี หลังจากนางมาอยู่กับท่านอาจารย์ ได้รับการสั่งสอนอย่างดี สัมผัสพิเศษของนาง นางไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายอะไรเลย ท่านอาจารย์ก็บอกเอง ว่ามันช่วยกอบกู้โลกมนุษย์ไม่มากก็น้อย แต่เอาเถิดอาจารย์จะกู้โลกอย่างไร นางไม่รู้ แต่นางจะเป็นนักพรตปราบผีชื่อเสียงกว้างไกลดีกว่า เดินทางปราบผี พูดคุยกัับผีง่ายกว่าคุยกับคนเสียอีก
อวิ๋นเสียนหนานไม่ได้ข่าวคราวของตระกูลอวิ๋นเลย สิ่งที่นางเป็นห่วงก็มีเพียงท่านแม่และน้องชายของนาง ไม่รู้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะรู้เท่าทันคนหรือไม่ สิ่งที่น่ากลัวกว่าผี วิญญาณ คือ จิตใจของคน นางก็ได้แต่หวังว่าการที่สละนางไปจะเป็นเรื่องที่ดีแก่ตระกูล แก่ทุกคน
เชิงอรรถ
^
[1] วิญญาณทุกดวงจะได้ดื่มน้ำเบจรสหรือ น้ำแกงห้ารสจากยายเมิ่งเทพอาวุโสที่ประจำการอยู่ในนรกภูมิ น้ำเบจรสมีอนุภาพคือ ทำให้ลบเลือนความทรงจำในอดีตชาติหมดสิ้นเชิงไม่เหลือความทรงจำใดใดเลยแม้แต่เรื่องเดียว
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
แรกเริ่มเขา 'ซื้อ' เธอมาเพื่อบำบัดความใคร่ เมียชั่วคราวที่มีไว้แก้เหงา แต่สุดท้ายแล้ว...เมียชั่วคราวนั่นแหละ ที่อยากได้เป็นเมียจริงๆ ผู้หญิงสู้ชีวิตอย่างนับดาว...ไม่ยอมแพ้โชคชะตาที่นำพาตนเองไปรับบทน่าอดสู เธอถูกหลอกจากคนที่ไว้ใจที่สุด!! กับการ 'ขายตัว' เขาเหยียดหยามสารพัด ดุถูกจนเธอเจ็บช้ำเจียนตาย เธอเลือกทางหนี เพื่อจบปัญหาน่าปวดหัวครั้งนี้.... ขอเริ่มต้นใหม่ กับชีวิตแบบใหม่ แต่ทำไมล่ะ?...ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอ ในเมื่อเขาชิงชังเธอนักหนานี่นา?????