"นางมะลิต่อไปนี้มึงต้องขึ้นมาหากูทุกคืน""ทุกคืนเลยเหรอจ๊ะ""ใช่ทุกคืนมึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า""ไม่มีจ้ะแต่ว่าไม่ทุกคืนไม่ได้เหรอจ๊ะ""ต่อไปนี้มึงจะต้องมาให้กูดูดนมมึงทุกคืนก่อนนอน
ณ สวนทุเรียน จังหวัดจันทบุรี ภูเขาที่โอบล้อมเขียวชอุ่ม
แสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างห้อง ทำให้เด็กสาวที่ชื่อมะลิถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาแต่เช้า เพื่อมาจัดเตรียมอาหารเช้าให้กับนายหัวราชสีห์ เธอจะต้องตื่นก่อนนายหัวของเธอตั้งแต่ 05.30 น เพื่อเตรียมอาหารเช้าก่อนที่นายหัวของเธอจะตื่นนอน เธอจะต้องเตรียมเสื้อผ้า ที่เขาจะใส่ประจำวันในทุก ๆ วันให้นายหัวของเธอ เธอทำอย่างนี้ตั้งแต่จำความได้จนปัจจุบันเธออายุ 20 ปี เธอก็ยังคงทำไม่เปลี่ยน และนายหัวไม่เคยให้แม่บ้านคนไหน มาจับต้องข้าวของของเขา นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น
จนวันนี้เธอมีอาการปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรงเธอจึงให้แม่บ้านสาวคนหนึ่งไปรับใช้นายหัวราชสีห์ เธอขอให้แม่บ้านสาวทำแทนเธอทุกอย่างเธอแจ้งความชอบและไม่ชอบของนายหัวให้แม่บ้านสาวฟังอย่างละเอียด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจ
"ใครใช้ให้มึงเข้ามาในห้องกู"
"แล้วมะลิมันไปไหนมันไม่ใช่หน้าที่ของมึง"
"ไปตามมะลิมันมาหากู เดี๋ยวนี้แล้วเอาข้าวของของมึงทั้งหมดออกไปจากห้องกูซะก่อนที่กูจะฆ่ามึงทิ้ง"
แม่บ้านสาวสวยถึงกับหน้าถอดสีไปไม่เป็น ได้แต่ลนลานรีบเก็บข้าวของที่นายหัวปาลงพื้นทันที เธอวิ่งลงจากห้องของนายหัว โดยที่ใจของเธอเต้น
เร็วจนผิดจังหวะไปหมด ราวกับโดนกระชากวิญญาณ ข้าวของทุกอย่างที่เธอเตรียมทั้งหมด ก็ตรงทุกอย่างกับที่มะลิได้บอกเธอ ว่านายหัวชอบอะไรและไม่ชอบอะไรแต่ทำไมกันนะเขาถึงได้ดูโกรธขนาดนี้
"ฮื่อ ฮื่อ มะลิทำไมนายหัวถึงได้โกรธฉันขนาดนี้ ฮึก ฮึก"
"เกิดอะไรขึ้นคะพี่ชมพู"
"นายหัวเขวี้ยงข้าวของทุกอย่าง ที่ฉันเตรียมปาลงพื้นแล้วเรียกให้เธอไปหาเดี๋ยวนี้ เขาด่าฉันรุนแรงมาก"
"ฉันขอโทษนะจ๊ะปกติในหัวไม่เคยดุฉันเลย พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่าจ๊ะ"
"ไม่มีอะไรผิดเธอรีบไปเถอะก่อนที่นายหัวจะโกรธมากกว่านี้ข้าวของทั้งหมดนี้ในหัวบอกให้ฉันเอาไปทิ้งเธอห้ามหยิบเอาขึ้นไปบนห้องเด็ดขาด"
"ได้จ้ะเดี๋ยวฉันเตรียมไปใหม่"
มะลิรีบเตรียมข้าวของทั้งหมดใหม่ เพื่อขึ้นไปบนห้องของนายหัว ที่ตอนนี้ทั้งเกี้ยวโกรธและเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าสิ่งใด ที่เธอเคยเห็นปกติเขาเป็นคนดุอยู่แล้ว แต่ไม่เคยเห็นเขาดุใครขนาดนี้ยิ่ง เป็นแม่บ้านผู้หญิงยิ่งไม่เคยเห็นว่าเขาดุเลย แต่วันนี้ทำไมกันนะ เพียงแค่เธอให้แม่บ้านผู้หญิงคนอื่นไปทำแทนเธอมันเกิดอะไรขึ้นกันนี่ ทำไมเขาถึงจะต้องดุขนาดนี้ สองเท้าเล็ก ๆ รีบเร่งฝีเท้าขึ้นไปบนห้องมือ ไม้สั่นไปหมดเมื่อรู้ว่าเธออาจจะต้องโดนดุแน่ๆ
"ก๊อก ก๊อก ก๊อก นายหัวคะมะลิขอเข้าไปนะคะ"
เขาที่ยังไม่ได้ตอบอนุญาต มะลิที่วิ่งสวนผ่านประตูเข้าไปทันทีโดยไม่รอเสียงอนุญาตจากเจ้าของห้อง เสียงที่ทุ้มต่ำราวกับจะฆ่าคนให้ตายไปข้างนึง รังสีอำมหิตแผ่ซ่าน แววตาที่มองมาที่ร่างบางของมะลิราวกับจะกลืนกินเส้นเลือดที่ปูดปูนเพราะความโมโห
"มึงไม่อยากทำหน้าที่ของมึงแล้วหรอ ทำไมต้องให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่ของมึงแทน"
"มะลิขอโทษจ้ะ นายหัวพอดีวันนี้มะลิไม่สบายค่ะมะลิปวดท้องจ้ะก็เลยให้พี่ชมพูเตรียมของ ขึ้นมาให้ในหัวแทนจ้ะ"
ราชสีห์เพียงได้ยินว่า เด็กสาวที่เขารับเลี้ยงป่วย เขามีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันทีว่า เด็กผู้หญิงร่างบางตรงหน้า เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น เธอจึงเงยหน้ามองเขาแล้วตอบด้วยความกลัวราวกับลูกนก
“มึงเป็นอะไร”
"เออ ...พอดีไม่รู้ว่าเป็นประจำเดือนจ้ะ"
"แล้วทำไมมึงไม่บอกกู กูจะได้ให้มึงพักงานซักวัน วันนี้ไม่ต้องมาเตรียมของให้กู"
"แล้วถ้ามะลิไม่เตรียมให้ นายหัวจะใช้อะไร จะทานอะไรล่ะจ๊ะ"
"กูหากินเองได้ มึงไม่ต้องให้คนอื่นมายุ่ง กับข้าวของของกูนอกจากมึงเข้าใจไหมกูไม่ชอบ"
"ขอโทษจ้ะนายหัว มะลิจะจำไว้"
"งั้นมึงก็ไปกินข้าว กินยา วันนี้ก็ไม่ต้องทำงานพักผ่อนซะ เดี๋ยวกู จะเข้าสวนสักหน่อย"
"จ้ะ นายหัว"
"ตอนกลางวัน มึงทำกับข้าว ให้กูกินได้ใช่ไหมทำไหวหรือเปล่า"
"ทำไหวจ้ะนายหัว นายหัวอยากทานอะไรจ๊ะ"
"กูอยากกินคั่วกลิ้งกับแกงส้มใต้ มึงทำให้กูหน่อยแล้วมึงเอาไปส่งให้กูในสวนนะ จักรยานของมึงมันเก่า กูเลยซื้อคันใหม่ให้มึงแล้วนะไว้ให้มึงปั่นไปส่งข้าวให้กูในสวน"
"ฮ้ะ ...!!! นายหัวซื้อจักรยานคันใหม่ให้มะลิเหรอจ๊ะ"
"เออ … กูซื้อให้มึงใหม่ จอดอยู่หลังบ้าน หน้าห้องมึงคันสีชมพู"
"นายหัวขอบคุณมากนะจ๊ะ"
ราชสีห์เขาไม่เคยอ่อนโยนกับผู้หญิงคนไหน และไม่เคยต้องให้ความสนใจกับใคร ผู้หญิงพวกนั้นก็แค่ผู้หญิงไว้สำหรับอุ่นเครื่องของเขา แต่กับนางเด็กมะลิเด็กที่เขาอุปการะเลี้ยงดู มันเพียงเพราะความสงสารเพราะมันได้เสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก มันมีความพิเศษคือดวงตาสีเทาของมันสวยเป็นประกายชวนให้หน้าหลงไหล วันนี้ราชสีห์บอกกับนางมะลิว่าเขาซื้อจักรยานคันใหม่ให้นางมะลิ มันดีใจยิ้มแป้นจนลืมความกลัวต่อเขาทั้งหมดก่อนหน้านี้ไป
เวลาผ่านไปจนใกล้จะเที่ยง มะลิได้เตรียมอาหารที่นายหัวสั่งให้เธอทำห่อทั้งหมดใส่ปิ่นโต และปั่นจักรยานคันใหม่อวดไปทั่วสวน เธอดีใจและภูมิใจกับจักรยานคันนี้มาก เพราะมันทั้งสวยน่ารักมากสำหรับเธอ เธอปั่นจักรยานมาจนเกือบถึงท้ายไร่ ก็ยังหานายหัวของเธอไม่เจอไม่รู้ไปดูงานอยู่ตรงไหนของไร่ เธอจึงปั่นจักรยานไปรอบ ๆ จนไปเห็นกับร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนสั่งงานคนงานผู้ชายในไร่นับ 40 คน ผู้ชายทุกคนจับจ้องมาที่ร่างเล็กที่กำลังปั่นจักรยานสีชมพู ตรงมาหานายหัวราชสีห์ ทุกคนรู้ว่ามะลิคือคนที่ไม่ควรแตะต้อง ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้นางมะลิได้ นอกจากนายหัวราชสีห์ นางมะลิยังไม่รู้ตัวในความพิเศษของเธอก็เท่านั้นเอง ปกตินายหัวไม่เคยให้ใครแตะต้อง เรื่องภายในชีวิตของเขา มะลิคนมองผิวเผินอาจจะเป็นเพียงแม่บ้านที่นายหัวชุบเลี้ยงเท่านั้น แต่สำหรับคนในไร่นี้รู้ดีว่าเธอพิเศษกว่าแม่บ้านทั่วไป ยกเว้นเพียงแค่ตัวของเธอเองเท่านั้นที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองคือคนพิเศษในอนาคต
"ดาหวันคะ เดี๋ยวคุณลุงจะพาไปทานไอศครีมนะคะดาหวันไปกับคุณอานะคะ" "ไปค่ะ ไปทานไอศครีมกับคุงลุง" "ไอ้ราช!! นี่มันลูกกูนะมึงเมื่อไหร่มึงจะไปทำเป็นของตัวเองสักทีวันๆก็หิ้วแต่ลูกกูไปลูกกูมา กูกับเมียคิดว่าไม่มีลูกแล้วเนี่ยตอนนี้???" "ไอ้เวรนี่นี่มันก็หลานกูเหมือนกันเลี้ยงมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ มึงจะยึดเป็นของตัวเองคนเดียวได้ยังไง" "ที่รัก คุณดูมันนะมันมายึดลูกเราสองคนไปเป็นลูกมันแล้วคืนนี้กูจะเอาลูกกูมานอนด้วย" "ไม่ได้คืนนี้กูจะต้องนอนกับดาหวันมึงค่อยเอาไปพรุ่งนี้" " ฮิ ฮิ พี่สองคนเนี่ยตีกันเรื่องหลานทุกวันเลยอีกคนนึงก็อยากเป็นคุณพ่อแสนดี อีกคนนึงก็เป็นคุณพ่อทูนหัว เดี๋ยวดาหวันก็ได้รับความรักเต็มอกจนไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ไหนหรอกค่ะคุณพ่อทั้งสองคน" "วันนี้ดาจะไปนอนกับคุงลุงราช คุงพ่อไปนอนกับคุงแม่เลยค่ะ" "โถ่ลูกดา ลูกเป็นลูกพ่อนะ* "ฮ่าๆๆมึงเห็นไหมว่าหลานรักกูมากกว่ามึง" "ไอ้เพื่อนเวรนี่!!" "งั้นเราไปกินไอศครีมกันดีกว่านะคะดาหวันเดี๋ยวคุณลุงจะพาไปซื้อของเล่นอีก" "ไอ้ราช มึงเอาลูกกูมาเลย ไอ้เพื่อนเฮงซวยเมื่อไหร่มึงจะมีเมียสักทีห๊ะ" เสียงสองเพื่อนรักที่ทะเลาะกันทุกวันในการแย่งการเลี้ยงแม่หนูน้อยดาหวัน เป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวตาโตน่ารักน่าหยิก ถูกและ 2 ข้างถักเปียทุกวัน ราชหรือราชศักดิ์เป็นเพื่อนกับเดชหรือฤทธิเดช สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน จนฤทธิเดชแต่งงานมีลูกเป็นฝั่งเป็นฝาแต่ราชศักดิ์กลับไม่อยากจะแต่งงานมีเพียงแค่คู่นอนไปวันๆเท่านั้น แต่เขากลับไปหลานสาวเพียงคนเดียวที่น่ารักขนาดนี้เขาบอกกับฤทธิเดช ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรทุกอย่างจะตกเป็นของดาหวันแต่เพียงผู้เดียว
ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 7 เดือนราฮิมที่ยังตามหาลูกกับเมียไม่เจอ เขากลายเป็นคนเงียบสุขุมไม่พูดไม่จากับใครสักเท่าไหร่วัน ๆ เขาเอาแต่เซ็นเอกสารส่วนการออกไปพบลูกค้า เขาไม่ไปเลย เขาเก็บตัวเงียบ เขาใช้ลูกน้องมือดีทั้งสองทำงานแทนเขา จนบางครั้งโมแอลคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของกิจการไปแล้วเพราะเจ้านายที่เปลี่ยนไปมาก เลิกงานเสร็จ เขาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องดื่มหนักทุกวันจนหลับคาขวดเหล้า ขวดเหล้าเกลื่อนในห้องตั้งแต่เคาน์เตอร์บาร์จนไปถึงห้องนอน ราฮิมเดินโซซัดโซเซไปรอบคอนโดหรูที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของทั้งคู่ ขวดเหล้าไม่รู้เป็นใบที่เท่าไหร่ ในคืนนี้ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดไปหมด เมาไม่เมาไม่รู้ รู้แต่ว่าหัวใจมันเจ็บจนแทบจะระเบิดออกมา ความเงียบเข้ามาแทนที่เสียงเพลงที่เคยเปิดดังลั่น ความมืดเข้ามาแทนที่แสงสีที่เคยทำให้ห้องนี้ดูมีชีวิตชีวา ตอนนี้ทุกอย่างดูว่างเปล่า เหมือนชีวิตของเขาตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือให้เกาะเกี่ยวอีกแล้ว "ฮึก...เธอทำกับผมได้ยังไง...ทำไมคุณถึงไม่ให้โอกาสผมได้อธิบายบ้าง นิชา ฮึก .." ราฮิมร้องไห้จนเสียงแหบพร่าออกมา น้ำตาไหลอาบแก้มที่เห่อร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ "นิชาฉันรักเธอ ทำไมถึงทิ้งฉัปไป... ฮึก..." ความทรงจำเก่า ๆ ลอยเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าตอนคบกันใหม่ ๆ เธอสดใสร่าเริงแค่ไหน แต่ตอนนี้... เธอหายไปไหน ไปไหน "นิชาได้โปรดกลับมาหาผม ผมทรมานเหลือเกิน." ราฮิมกำมือแน่น ความเจ็บปวดทวีคูณขึ้นมาอีก เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องที่เคยมีรูปของเขากับเธอติดอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่กรอบรูปเปล่า ๆ และรอยความทรงจำที่แสนหวานระวังเธอและเขา "นิชา ผมจะตามหาคุณกับลูกให้เจอ... ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตาม..." ราฮิมพูดกระซิบเบา ๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ร่างกายอ่อนล้า แต่หัวใจยังคงร่ำไห้ไม่หยุดตลอด 7 เดือนที่แสนทรมาน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ