ข้าบอกเอ็งว่า เลิกยุ่งกับข้าซักที..!! ข้าไม่ได้ชอบเอ็ง ทำอย่างไรก็ไม่มีวันชอบเอ็ง ทุกคำที่สิงห์ตะคอกกลับไปหาร่างเล็กที่กำลังยืนยิ้มให้เขา ทั้งที่น้ำตาไหลอาบสองแก้ม นับจากนี้ไปพี่จะไม่เห็นหน้าข้าอีก..
ข้าบอกเอ็งว่า เลิกยุ่งกับข้าซักที..!! ข้าไม่ได้ชอบเอ็ง ทำอย่างไรก็ไม่มีวันชอบเอ็ง ทุกคำที่สิงห์ตะคอกกลับไปหาร่างเล็กที่กำลังยืนยิ้มให้เขา ทั้งที่น้ำตาไหลอาบสองแก้ม นับจากนี้ไปพี่จะไม่เห็นหน้าข้าอีก..
ลั่นทมเอ๋ยเคยหอมเคยสดใส
เปรียบดวงใจแสนเจ็บปวดของข้า
อยากจรลาจากจรไม่เหลียวหลัง
ดั่งรักพังสูญสลายมลาย
ดั่งพระพายพัดผ่านมิหวนคืน
มิอาจฝืนใจรักปักต่อพี่
ตัวน้องนี้รักมั่นดังหินผา
จำต้องลาเพราะพี่มิเหลียวแล
ตัวข้าคงเหมือนเจ้านะดอกลั่นทม สวยงามหลากสีแต่มิมีผู้ใดต้องการหรือเข้าใกล้ เพียงเพราะชื่อที่แสนเศร้าของเจ้ากระมัง หญิงสาวนั่งตัดพ้อใต้ต้นลั่นทมสีขาวแซมชมพู เจ้าหล่อนหลงไหลดอกลั่นทมจึงปลูกเอาไว้ห่างจากเรือนมิไกลมากนัก เป็นสวนที่นางรักแลหวงแหนเป็นที่สุดแม้ชาวบ้านจะมองว่าแปลกตาเพราะคนสมัยก่อนไม่นิยมปลูกลั่นทมเพราะชื่อที่อัปมงคล หญิงสาวนามว่าระย้าแก้ว ใบหน้าจิ้มลิ้ม ผมยาวดกดำ ดวงตากลมโต หน้ามนรูปไข่ อกเอวคอดกิ่ว สะโพกผาย ปัจจุบันก็อายุ 18 ปี เธอเป็นลูกพ่อครูศรีไพร เป็นหมอยาคอยรักษาคนในหมู่บ้านอาศัยอยู่ในหมู่บ้านทางเหนือผู้คนผ่านไปมาเรียกว่าหมู่บ้านกลางไพร เพราะเป็นทางผ่านของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพอดีที่พากันสัญจร เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ห่างไกลจากพระนครไม่มากนัก ระหย้าแก้วที่มีใจภักรักมั่นต่อเจ้าสิงห์ผู้ชายที่เคยช่วยชีวิตนางเมื่อครั้งยังเยาว์วัย นางจึงไม่เคยชายตาแลผู้ชายคนใดเลย แต่เจ้าสิ่งห์ที่นับวันยิ่งเกลียดระย้าแก้วที่เอาแต่ตามเขาจนน่ารำคาญ
สิงห์ลูกหัวหน้าหมู่บ้าน อายุอานามก็ 30 ปีแล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลา จมูกโด่ง คมเข้ม สาว ๆ ต่างพากันหมายปอง ไม่ใช่แค่รูปหล่อ ร่างกายกำยำสูงใหญ่กว่าผู้ชายทั่วไปจนโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นเชิงมวยเชิงดาบ ก็ไม่รองใคร อุปนิสัยที่เงียบขรึม ขยัน ดูสง่าผ่าเผยไม่เกเรผู้ใด คอยช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ มีลูกน้องบริวานับร้อย เขาถือเป็นผู้มั่งคั่งในหมู่บ้านพร้อมกับบริวานที่คอยดูแลสวนแลนาข้าว วัว ควาย อีกหลายร้อยเชือก ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยเหลือเด็กผู้หญิงนามว่าระย้าแก้วที่ตกน้ำ แต่เพราะความช่วยเหลือในครั้งนั้น ทำให้เด็กผู้หญิงคนนั้นเฝ้าตามเขาไม่ห่างกายจนเขาชิงชังนางนัก ต่อให้นางตายตรงหน้า ก็คงไม่เหลียวแล เพราะเขาพึงใจ หญิงงามนามว่า จันทร์แรม ที่อยู่ต่างหมู่บ้านไปไม่ไกล อายุ น่าจะห่างจากระย้าแก้วไม่กี่ปี
"ดาหวันคะ เดี๋ยวคุณลุงจะพาไปทานไอศครีมนะคะดาหวันไปกับคุณอานะคะ" "ไปค่ะ ไปทานไอศครีมกับคุงลุง" "ไอ้ราช!! นี่มันลูกกูนะมึงเมื่อไหร่มึงจะไปทำเป็นของตัวเองสักทีวันๆก็หิ้วแต่ลูกกูไปลูกกูมา กูกับเมียคิดว่าไม่มีลูกแล้วเนี่ยตอนนี้???" "ไอ้เวรนี่นี่มันก็หลานกูเหมือนกันเลี้ยงมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ มึงจะยึดเป็นของตัวเองคนเดียวได้ยังไง" "ที่รัก คุณดูมันนะมันมายึดลูกเราสองคนไปเป็นลูกมันแล้วคืนนี้กูจะเอาลูกกูมานอนด้วย" "ไม่ได้คืนนี้กูจะต้องนอนกับดาหวันมึงค่อยเอาไปพรุ่งนี้" " ฮิ ฮิ พี่สองคนเนี่ยตีกันเรื่องหลานทุกวันเลยอีกคนนึงก็อยากเป็นคุณพ่อแสนดี อีกคนนึงก็เป็นคุณพ่อทูนหัว เดี๋ยวดาหวันก็ได้รับความรักเต็มอกจนไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ไหนหรอกค่ะคุณพ่อทั้งสองคน" "วันนี้ดาจะไปนอนกับคุงลุงราช คุงพ่อไปนอนกับคุงแม่เลยค่ะ" "โถ่ลูกดา ลูกเป็นลูกพ่อนะ* "ฮ่าๆๆมึงเห็นไหมว่าหลานรักกูมากกว่ามึง" "ไอ้เพื่อนเวรนี่!!" "งั้นเราไปกินไอศครีมกันดีกว่านะคะดาหวันเดี๋ยวคุณลุงจะพาไปซื้อของเล่นอีก" "ไอ้ราช มึงเอาลูกกูมาเลย ไอ้เพื่อนเฮงซวยเมื่อไหร่มึงจะมีเมียสักทีห๊ะ" เสียงสองเพื่อนรักที่ทะเลาะกันทุกวันในการแย่งการเลี้ยงแม่หนูน้อยดาหวัน เป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวตาโตน่ารักน่าหยิก ถูกและ 2 ข้างถักเปียทุกวัน ราชหรือราชศักดิ์เป็นเพื่อนกับเดชหรือฤทธิเดช สองคนนี้เป็นเพื่อนรักกันตั้งแต่สมัยเรียน จนฤทธิเดชแต่งงานมีลูกเป็นฝั่งเป็นฝาแต่ราชศักดิ์กลับไม่อยากจะแต่งงานมีเพียงแค่คู่นอนไปวันๆเท่านั้น แต่เขากลับไปหลานสาวเพียงคนเดียวที่น่ารักขนาดนี้เขาบอกกับฤทธิเดช ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรทุกอย่างจะตกเป็นของดาหวันแต่เพียงผู้เดียว
"นางมะลิต่อไปนี้มึงต้องขึ้นมาหากูทุกคืน""ทุกคืนเลยเหรอจ๊ะ""ใช่ทุกคืนมึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่า""ไม่มีจ้ะแต่ว่าไม่ทุกคืนไม่ได้เหรอจ๊ะ""ต่อไปนี้มึงจะต้องมาให้กูดูดนมมึงทุกคืนก่อนนอน
ตอนนี้ผ่านมาแล้ว 7 เดือนราฮิมที่ยังตามหาลูกกับเมียไม่เจอ เขากลายเป็นคนเงียบสุขุมไม่พูดไม่จากับใครสักเท่าไหร่วัน ๆ เขาเอาแต่เซ็นเอกสารส่วนการออกไปพบลูกค้า เขาไม่ไปเลย เขาเก็บตัวเงียบ เขาใช้ลูกน้องมือดีทั้งสองทำงานแทนเขา จนบางครั้งโมแอลคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของกิจการไปแล้วเพราะเจ้านายที่เปลี่ยนไปมาก เลิกงานเสร็จ เขาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องดื่มหนักทุกวันจนหลับคาขวดเหล้า ขวดเหล้าเกลื่อนในห้องตั้งแต่เคาน์เตอร์บาร์จนไปถึงห้องนอน ราฮิมเดินโซซัดโซเซไปรอบคอนโดหรูที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของทั้งคู่ ขวดเหล้าไม่รู้เป็นใบที่เท่าไหร่ ในคืนนี้ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดไปหมด เมาไม่เมาไม่รู้ รู้แต่ว่าหัวใจมันเจ็บจนแทบจะระเบิดออกมา ความเงียบเข้ามาแทนที่เสียงเพลงที่เคยเปิดดังลั่น ความมืดเข้ามาแทนที่แสงสีที่เคยทำให้ห้องนี้ดูมีชีวิตชีวา ตอนนี้ทุกอย่างดูว่างเปล่า เหมือนชีวิตของเขาตอนนี้ไม่มีอะไรเหลือให้เกาะเกี่ยวอีกแล้ว "ฮึก...เธอทำกับผมได้ยังไง...ทำไมคุณถึงไม่ให้โอกาสผมได้อธิบายบ้าง นิชา ฮึก .." ราฮิมร้องไห้จนเสียงแหบพร่าออกมา น้ำตาไหลอาบแก้มที่เห่อร้อนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ "นิชาฉันรักเธอ ทำไมถึงทิ้งฉัปไป... ฮึก..." ความทรงจำเก่า ๆ ลอยเข้ามาในหัว เขาจำได้ว่าตอนคบกันใหม่ ๆ เธอสดใสร่าเริงแค่ไหน แต่ตอนนี้... เธอหายไปไหน ไปไหน "นิชาได้โปรดกลับมาหาผม ผมทรมานเหลือเกิน." ราฮิมกำมือแน่น ความเจ็บปวดทวีคูณขึ้นมาอีก เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้องที่เคยมีรูปของเขากับเธอติดอยู่ แต่ตอนนี้เหลือแค่กรอบรูปเปล่า ๆ และรอยความทรงจำที่แสนหวานระวังเธอและเขา "นิชา ผมจะตามหาคุณกับลูกให้เจอ... ไม่ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ก็ตาม..." ราฮิมพูดกระซิบเบา ๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ร่างกายอ่อนล้า แต่หัวใจยังคงร่ำไห้ไม่หยุดตลอด 7 เดือนที่แสนทรมาน
เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด