ความชื่นชอบในเรื่องเพศของคนไม่เหมือนกัน.. บางคนชอบแบบเรียบง่าย บางคนชอบแบบโลดโผน จึงคิดค้นหาวิธีเพื่อให้ตัวเองมีความสุขในแบบที่ตัวเองต้องการ..
ท่ามกลางความวุ่นวายในเมืองหลวง มีผัวเมียคู่หนึ่งทำธุรกิจขายส่งมานาน จนประสบความสำเร็จ มีเงินเก็บอยู่พอสมควร แต่รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตที่เป็นแสนจะวุ่นวายในธุรกิจนี้ จึงคิดจะเปลี่ยนแปลงชีวิต โดยการย้ายที่อยู่ ไปหากินที่ต่างจังหวัด
เป้าหมายของผัวเมียคู่นี้คือ ไปซื้อบ้านที่ห่างจากตัวอำเภอ แต่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น เพื่อจะเปิดร้านโชห่วย และออกเงินกู้บ้างเล็กๆน้อยๆ เพราะถ้าเปิดร้านในตัวอำเภอ อาจต้องแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นทุนใหญ่ และคงจะสู้เขาไม่ได้
ผัวเมียคู่นี้มีความคิดอยากใช้ชีวิตพอเพียง เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย และการได้อยู่ต่างจังหวัด มลพิษทางอากาศจะดีกว่าเมืองหลวง ทิวทัศน์ก็สวยงาม และคิดว่าผู้คนมีน้ำใจ ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเหมือนที่เคยเจอมา
เมื่อตัดสินใจดีแล้ว ผัวเมียคู่นี้จึงพากันขายทรัพย์สินที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายไปอยู่อำเภอหนึ่งในจังหวัดสระบุรี เพราะใกล้กรุงเทพฯ สะดวกในการเดินทางมาซื้อของไปขาย
คนเป็นผัวชื่อนายโน๊ต อายุ 42 ปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว หน้าตาหล่อคม ส่วนคนเป็นเมียชื่อนางชมพู่ อายุ 36 ปี รูปร่างขาวอวบ หน้าอกใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าออกหมวยๆหน่อย
ทั้งคู่อยู่กันกันมา 7-8 ปี ไม่มีลูก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใด ทั้งที่ไม่ได้คุม จึงทำให้การย้ายที่อยู่ไม่ต้องพะวงเรื่องย้ายโรงเรียนลูก
หลังทานอาหารเย็นเสร็จ นายโน๊ตบอกกับเมียว่า
“ชมพู่.. เพื่อนพี่เค้าหาบ้านที่เราต้องการได้แล้วนะ พรุ่งนี้เราไปดูกัน”
“จ้ะพี่โน๊ต พี่จะเดินทางกี่โมงจ๊ะ”
“ว่าจะออกซัก 9 โมงเช้า จะได้มีเวลาเดินดูบรรยากาศรอบๆด้วย ว่าเราจะค้าขายไหวมั้ย”
นางชมพู่พยักหน้ารับรู้ แล้วทั้งสองก็ช่วยกันเก็บจานล้าง ก่อนจะอาบน้ำและขึ้นนอน
......................
9 โมงเช้า นายโน๊ตกับนางชมพู่ขับรถไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ห่างจากตัวอำเภอในจังหวัดสระบุรีพอสมควร เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างมีพื้นที่สำหรับขายของ ส่วนด้านบนเป็นที่พักอาศัย หลังบ้านมีลำคลองและมีพื้นที่ปลูกผักสวนครัว เนื้อที่กว้างพอสมควร
“ดีจัง มีพื้นที่กว้างขวาง ชมพู่อยากปลูกสวนเล็กๆด้วย จะได้สดชื่น”
“อืม.. พี่ชอบที่นี่นะ พี่ตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้แหละ.. ชมพู่เห็นด้วยมั้ย”
“เห็นด้วยจ้ะ.. รอบๆบ้านหลังนี้ก็มีคนอาศัยอยู่เยอะ ร้านขายของชำที่เราจะเปิดคงจะขายดีนะจ๊ะ”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้น ตกลงพี่จะไปทำสัญญาซื้อขายกับเจ้าของเก่าเลยนะ”
“จ้ะพี่”
แล้วนายโน๊ตและนางชมพู่ทำเรื่องซื้อขายบ้านกับเจ้าของเก่าที่กรมที่ดินเรียบร้อย ทั้งสองช่วยกันซื้อเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ มาช่วยกันตกแต่งเป็นร้านขายของชำและที่พักอาศัย
ผ่านไปไม่ถึง 1 เดือนทุกอย่างก็เรียบร้อย ร้านขายของชำพร้อมเปิดให้บริการ เพื่อนบ้านในละแวกนั้นต่างเข้ามาทำความรู้จักนายโน๊ตและนางชมพู่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใหม่ และดีใจที่มีร้านขายของชำมาเปิดใกล้บ้าน ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเพื่อซื้อเครื่องอุปโภคบริโภค
“ดีจังเลย มีร้านมาเปิดใกล้บ้าน อย่างนี้เราไม่ต้องเข้าเมืองซื้อของตุนแล้ว”
ชาวบ้านแถวละแวกนั้นต่างก็ยินดีปรีดาที่มีร้านโชห่วยมาเปิดใกล้บ้าน หลายบ้านแวะเวียนมาทำความรู้จักกับนายโน๊ตและนางชมพู่ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านใหม่ สร้างความดีใจให้กับผัวเมียเจ้าของร้าน เพราะมองเห็นผลกำไรในวันข้างหน้า
“อยากได้สินค้าอะไร สอบถามได้นะครับ ผมชื่อโน๊ต และนี่ชมพู่ ภรรยาผม ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เป็นคำกล่าวที่นายโน๊ตบอกกับชาวบ้านที่เดินผ่านหน้าร้าน เป็นการผูกมิตรไมตรีกับเพื่อนบ้าน เพื่อผลทางการค้าในอนาคต
……………………..
หลังจากเปิดร้านได้ 1 เดือน นายโน๊ตและนางชมพู่ก็ได้รู้จักผู้คนมากมาย ที่แวะเวียนกันมาซื้อของ.. สังคมต่างจังหวัด พอซื้อของเสร็จก็ชวนกันคุยนั่นคุยนี่ จนเกิดความสนิทสนมมากขึ้นเรื่อยๆ
เพื่อนบ้านบางคนไม่ได้มาซื้อของ แต่มานั่งปรับทุกข์บ้าง ระบายความในใจบ้าง ปัญหาในครอบครัวบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของชาวบ้านในละแวกนั้น..
วันนี้นายโน๊ตมีธุระ ไม่ได้อยู่ขายของที่ร้าน เพราะต้องพาแม่ที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่งไปหาหมอ ตามที่หมอนัด..
หลังจากเปิดร้านเรียบร้อย นายโน๊ตบอกกับนางชมพู่เมียรักว่า
“วันนี้พี่จะไปหาแม่ พาแม่ไปหาหมอ แล้วค้างที่บ้านแม่หนึ่งคืน ชมพู่อยู่เฝ้าร้านคนเดียวนะ มีอะไรก็โทรมาหาพี่ได้ตลอดเวลา”
“จ้ะพี่โน๊ต ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วง ชมพู่จะดูร้านเอง”
พูดจบนายโน๊ตก็เดินไปขึ้นรถ แล้วขับออกไป.. นางชมพู่ก็จัดข้าวจัดของที่ร้านให้ดูเป็นระเบียบ แล้วเตรียมขายของ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
มีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเดินมาทักทาย บ้างก็มาซื้อของ บ้างก็มาก็ชวนคุย ทำให้นางชมพู่ไม่รู้สึกเหงา เพราะมีแต่เพื่อนบ้านดีๆ
บางรายที่สนิทกันหน่อย พอรู้ว่าที่ร้านมีการออกเงินกู้ด้วย ก็มีการมาขอกู้เงิน แล้วคิดดอกเบี้ยกันไป ยิ่งทำให้นายโน๊ตกับนางชมพู่มีความสนิทสนมกับเพื่อนบ้านมากขึ้น
การออกเงินกู้ของนายโน๊ตไม่ได้คิดดอกเบี้ยแพงมาก ร้อยละห้าต่อเดือน ถือว่ากำลังดี จึงมีชาวบ้านที่มีปัญหาเรื่องเงินเข้ามาขอกู้กันไม่ขาดสาย ทำให้นายโน๊ตและนางชมพู่มีรายได้อีกทางหนึ่ง
หมอทำเสน่ห์ที่เป็นผู้หญิง ทั้งสาวและสวย จะสามารถทำเสน่ห์ได้จริงหรือ.. หรือมีอย่างอื่นแอบแฝง หาคำตอบได้ใน.. หมอเสน่ห์สาวฉาวรัก
หมวยเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ มีผัวแล้ว แต่รายได้ไม่พอใช้ จึงขายขนมหวานหน้าบ้าน เพื่อหารายได้ช่วยผัวอีกทางหนึ่ง.. ความที่หมวยมีรูปร่างหน้าตายั่วยวน และชอบแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสา ทำให้มีลูกค้าผู้ชายแวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย.. และแล้วก็มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น.. นายหมวยได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต.. สำคัญที่สุดคือ..ผัวที่ไม่ค่อยทำการบ้าน กลับมาลุ่มหลงเธออย่างโงหัวไม่ขึ้น..
เมียเพื่อนที่สนิทกันมาก บ้านอยู่ใกล้กัน เห็นหน้ากันเกือบทุกวัน ความใกล้ชิด สนิทสนม และเป็นกันเอง อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นได้
อาจารย์เรืองได้เปิดสำนักหมอเสน่ห์ และตั้งตนเป็นหมอเสน่ห์... ผู้ที่มาหามักจะโดนเล่ห์เหลี่ยมอันแยบยลของหมอเสน่ห์หลอกละเมิดทางเพศเกือบทั้งสิ้น... เรื่องจะได้ผลหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญกรรมของแต่ละคน
ฉันได้มีโอกาสเล่นเกมสวิงอีกครั้งหนึ่ง... ยอมรับเลยว่าครั้งนี้สนุกกว่าทุกครั้ง... เพราะรอบนี้พี่วิทย์คนคิดเกม... และที่สำคัญ มีสามีภรรยาชาวต่างชาติคู่ใหม่มาร่วมด้วย... โดยเฉพาะสามีของคู่ใหม่ เพียงแค่เห็นครั้งแรกฉันก็แอบหลงใหลจนสุดหัวใจ...
ฉันแอบปลื้มหนุ่มหล่อข้างบ้านมานาน... แต่ก็ได้แค่มอง เพราะทั้งฉันและเขาต่างมีคู่ของตัวเองอยู่แล้ว.. อยู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อคู่ฉันและคู่เขาได้มาร่วมเต้นแอโรบิค ความเร้าใจจึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเหลือเชื่อ...
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!