กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง มักทำให้คนมีความสุขถึงที่สุดแต่ก็เหนื่อยไปด้วย
“ที่รัก อีกรอบนะ”
กู้ชิงเฉิงเพิ่งจะนอนลงด้วยความเหนื่อยล้าพร้อมกับเหงื่อที่ไหลท่วม ร่างกายที่นุ่มละมุมของเธอถูกเขาช้อนตัวอุ้มขึ้นมา
การเคลื่อนไหวของเขาทั้งดุดันทั้งเร่งรีบ แต่ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ เธอก็ยังเงยหน้าขึ้นและถามอย่างวิงวอนว่า
“ถิงเซียว ไม่ป้องกันแล้วได้ไหม ฉันอยากมีลูก”
มู่ถิงเซียวถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะอย่างเห็นได้ชัด
แต่หลังจากนั้นไม่นาน เสียงที่เย็นชาของเขาก็ดังเข้าหูเธอมาว่า “มีลูกจะมีอีกหลาย ๆ เรื่องตามมา ผมยังไม่ได้อยากมีตอนนี้”
กู้ชิงเฉิงกัดริมฝีปาก เบ้าตาของเธอแดงขึ้นในทันที “แต่เรากำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้แล้วนะ อีกอย่างผู้ใหญ่ก็อยากมีหลานแล้วด้วย ไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”
คำพูดนี้ แสดงออกถึงการข้อร้องอ้อนวอน
เพราะเธออยากแต่งงานกับเขาจริง ๆ อยากจะสร้างครอบครัวที่มีความสุขกับเขา แล้วก็มีลูกสักคน
แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าที่เย็นชาและแข็งกร้าวของมู่ถิงเซียว สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแพ้ไป “โอเคค่ะ เรื่องลูก เราค่อยว่ากันอีกทีก็ได้”
ในที่สุดสีหน้าของมู่ถิงเซียวก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ขณะที่เขากำลังจะไปต่อ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
หลังรับสาย เสียงออดอ้อนก็ดังขึ้นมา “ถิงเซียว ขอโทษนะคะที่ฉันโทรมารบกวนคุณดึกดื่นแบบนี้”
“พอดีเมื่อกี้นี้ฉันไม่ทันระวังจนล้มในห้องนั่งเล่น ฉันเจ็บเท้ามากเลยค่ะ ถ้าคุณกำลังยุ่งอยู่ งั้นฉัน……”
ก่อนที่เสิ่นถังจะพูดจบ มู่ถิงเซียวก็พูดขึ้นว่า “คุณใจเย็น ๆ รอผม ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ ถิงเซียว ฉันคงไม่ได้รบกวนคุณกับชิงเฉิงใช่ไหม อย่าทำให้เธอเข้าใจผิดนะคะ”
“ไม่งั้นเดี๋ยวฉันเรียกรถไปเอง……”
“ไม่ได้รบกวนหรอก คุณอย่าคิดมาก” เสียงของมู่ถิงเซียวฟังดูอบอุ่นและอ่อนโยน
เหอะ ๆ……
กู้ชิงเฉิงอยากจะหัวเราะจริง ๆ
ในห้องน้ำ ทั้งสองคนเปียกโชก บรรยากาศดูคลุมเครือ กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่แล้ว
นี่น่ะเหรอที่มู่ถิงเซียวบอกว่าไม่รบกวนน่ะ
ที่แท้การได้รับความเอ็นดู ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไร เพราะมีสิทธิพิเศษ เป็นข้อยกเว้น และอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทั้งหมด
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ผู้หญิงที่คู่หมั้นของเธอเอ็นดูกลับไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงอีกคน
มันน่าตลกสิ้นดี!
ในไม่ช้า กู้ชิงเฉิงก็ถูกห่อ และอุ้มขึ้นมา
ตัวเธอถูกคลุมด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่เพื่อปกปิดรูปร่างที่อรชรของเธอเอาไว้
“ผมจะอุ้มคุณไปที่เตียง คุณนอนก่อนเลย!” มู่ถิงเซียวเอ่ยออกมา น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ
แต่คำพูดเหล่านี้ กลับเปรียบเสมือนถังน้ำเย็น ๆ ที่สาดลงมาตรงกลางใจของเธอไม่มีผิด
เขาจะไปหาเสิ่นถังสินะ?
กู้ชิงเฉิงบีบมือแน่น ตัวแทบจะแข็งทื่อไปทั้งตัวแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ค่อย ๆ เดินไปทีละก้าวอย่างช้า ๆ แล้วก็ทำในสิ่งที่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกว่ามันบ้า และไม่อยากจะเชื่อ
เธอเอื้อมมือออกไปกอดมู่ถิงเซียวไว้แน่น
เสียงที่พูดออกมาทั้งนุ่มนวล และสั่นเครือ “วันนี้อยู่เป็นเพื่อนฉันเถอะนะ ไม่ไปได้ไหม?”
เห็นได้ชัดว่ามู่ถิงเซียวดูจะคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
แต่มันก็แค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ตั้งสติได้ และยีผมของเธอไปมา
“อย่างอแงสิ เธอได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ”
“แต่ตอนนี้ฉันก็ต้องการคุณเหมือนกัน ฉันไม่อยากให้คุณไป” ดวงตาของกู้ชิงเฉิงแดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากที่มีคราบเลือดเอาไว้
“อย่างอแงสิ ชิงเฉิง สำหรับผมคุณเป็นคนว่าง่าย มีเหตุผลมาตลอด”
แต่วันนี้เธอไม่อยากเป็นคนมีเหตุผลแล้วนี่ เธอแค่อยากรั้งเขาไว้เท่านั้น
“ถิงเซียว.....” กู้ชิงเฉิงมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์
“ฟังผมนะ ปล่อย”
กู้ชิงเฉิงส่ายหัวไปมา
“ผมจะพูดอีกครั้ง ปล่อย!”
สีหน้าของมู่ถิงเซียวดูเย็นชาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเม้มริมฝีปากและใช้ฝ่ามือใหญ่ ๆ ของเขาค่อย ๆ งัดนิ้วของเธอออกทีละนิด
แรงของเขาเยอะมากจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ
ด้วยความที่ไม่มีความกล้าที่จะรั้งเขาไว้แล้ว เธอจึงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะปล่อยมือออกด้วยความหดหู่ใจ
“เดี๋ยวผมจะรีบไปรีบกลับ” ก่อนออกไป มู่ถิงเซียวได้พูดทิ้งท้ายไว้
รีบไปรีบกลับอย่างนั้นเหรอ?
เกรงว่าคำพูดเหล่านี้จะเป็นเพียงการหลอกเด็กสามขวบซะมากกว่า เคยมีครั้งไหนไหมที่เสิ่นถังเรียกหาเขา แล้วเขาได้กลับมาน่ะ?
ที่มู่ถิงเซียวไม่อยากให้เธอท้อง ก็น่าจะเพราะเสิ่นถังนี่แหละมั้ง
เพราะถือเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา เป็นผู้หญิงที่เขารักแต่ไม่สามารถครอบครองได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเป็นรักแรกที่พวกผู้ชายลืมไม่ลง เขาก็ต้องปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนรักของเขาเป็นธรรมดา
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"