กู้ชิงเฉิงกัดริมฝีปาก เบ้าตาของเธอแดงขึ้นในทันที “แต่เรากำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้แล้วนะ อีกอย่างผู้ใหญ่ก็อยากมีหลานแล้วด้วย ไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ?”
คำพูดนี้ แสดงออกถึงการข้อร้องอ้อนวอน
เพราะเธออยากแต่งงานกับเขาจริง ๆ อยากจะสร้างครอบครัวที่มีความสุขกับเขา แล้วก็มีลูกสักคน
แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าที่เย็นชาและแข็งกร้าวของมู่ถิงเซียว สุดท้าย เธอก็ต้องยอมแพ้ไป “โอเคค่ะ เรื่องลูก เราค่อยว่ากันอีกทีก็ได้”
ในที่สุดสีหน้าของมู่ถิงเซียวก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย
ขณะที่เขากำลังจะไปต่อ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
หลังรับสาย เสียงออดอ้อนก็ดังขึ้นมา “ถิงเซียว ขอโทษนะคะที่ฉันโทรมารบกวนคุณดึกดื่นแบบนี้”
“พอดีเมื่อกี้นี้ฉันไม่ทันระวังจนล้มในห้องนั่งเล่น ฉันเจ็บเท้ามากเลยค่ะ ถ้าคุณกำลังยุ่งอยู่ งั้นฉัน……”
ก่อนที่เสิ่นถังจะพูดจบ มู่ถิงเซียวก็พูดขึ้นว่า “คุณใจเย็น ๆ รอผม ผมจะไปเดี๋ยวนี้”
“ค่ะ ถิงเซียว ฉันคงไม่ได้รบกวนคุณกับชิงเฉิงใช่ไหม อย่าทำให้เธอเข้าใจผิดนะคะ”
“ไม่งั้นเดี๋ยวฉันเรียกรถไปเอง……”
“ไม่ได้รบกวนหรอก คุณอย่าคิดมาก” เสียงของมู่ถิงเซียวฟังดูอบอุ่นและอ่อนโยน
เหอะ ๆ……
กู้ชิงเฉิงอยากจะหัวเราะจริง ๆ
ในห้องน้ำ ทั้งสองคนเปียกโชก บรรยากาศดูคลุมเครือ กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันอยู่แล้ว
นี่น่ะเหรอที่มู่ถิงเซียวบอกว่าไม่รบกวนน่ะ
ที่แท้การได้รับความเอ็นดู ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไร เพราะมีสิทธิพิเศษ เป็นข้อยกเว้น และอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทั้งหมด
สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ผู้หญิงที่คู่หมั้นของเธอเอ็นดูกลับไม่ใช่เธอ แต่เป็นผู้หญิงอีกคน
มันน่าตลกสิ้นดี!
ในไม่ช้า กู้ชิงเฉิงก็ถูกห่อ และอุ้มขึ้นมา
ตัวเธอถูกคลุมด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่เพื่อปกปิดรูปร่างที่อรชรของเธอเอาไว้
“ผมจะอุ้มคุณไปที่เตียง คุณนอนก่อนเลย!” มู่ถิงเซียวเอ่ยออกมา น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ
แต่คำพูดเหล่านี้ กลับเปรียบเสมือนถังน้ำเย็น ๆ ที่สาดลงมาตรงกลางใจของเธอไม่มีผิด
เขาจะไปหาเสิ่นถังสินะ?
กู้ชิงเฉิงบีบมือแน่น ตัวแทบจะแข็งทื่อไปทั้งตัวแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ค่อย ๆ เดินไปทีละก้าวอย่างช้า ๆ แล้วก็ทำในสิ่งที่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกว่ามันบ้า และไม่อยากจะเชื่อ
เธอเอื้อมมือออกไปกอดมู่ถิงเซียวไว้แน่น
เสียงที่พูดออกมาทั้งนุ่มนวล และสั่นเครือ “วันนี้อยู่เป็นเพื่อนฉันเถอะนะ ไม่ไปได้ไหม?”
เห็นได้ชัดว่ามู่ถิงเซียวดูจะคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
แต่มันก็แค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็ตั้งสติได้ และยีผมของเธอไปมา
“อย่างอแงสิ เธอได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ”
“แต่ตอนนี้ฉันก็ต้องการคุณเหมือนกัน ฉันไม่อยากให้คุณไป” ดวงตาของกู้ชิงเฉิงแดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากที่มีคราบเลือดเอาไว้
“อย่างอแงสิ ชิงเฉิง สำหรับผมคุณเป็นคนว่าง่าย มีเหตุผลมาตลอด”
แต่วันนี้เธอไม่อยากเป็นคนมีเหตุผลแล้วนี่ เธอแค่อยากรั้งเขาไว้เท่านั้น
“ถิงเซียว.....” กู้ชิงเฉิงมองเขาอย่างอาลัยอาวรณ์
“ฟังผมนะ ปล่อย”
กู้ชิงเฉิงส่ายหัวไปมา
“ผมจะพูดอีกครั้ง ปล่อย!”
สีหน้าของมู่ถิงเซียวดูเย็นชาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเม้มริมฝีปากและใช้ฝ่ามือใหญ่ ๆ ของเขาค่อย ๆ งัดนิ้วของเธอออกทีละนิด
แรงของเขาเยอะมากจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ
ด้วยความที่ไม่มีความกล้าที่จะรั้งเขาไว้แล้ว เธอจึงหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นก่อนจะปล่อยมือออกด้วยความหดหู่ใจ
“เดี๋ยวผมจะรีบไปรีบกลับ” ก่อนออกไป มู่ถิงเซียวได้พูดทิ้งท้ายไว้
รีบไปรีบกลับอย่างนั้นเหรอ?
เกรงว่าคำพูดเหล่านี้จะเป็นเพียงการหลอกเด็กสามขวบซะมากกว่า เคยมีครั้งไหนไหมที่เสิ่นถังเรียกหาเขา แล้วเขาได้กลับมาน่ะ?
ที่มู่ถิงเซียวไม่อยากให้เธอท้อง ก็น่าจะเพราะเสิ่นถังนี่แหละมั้ง
เพราะถือเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา เป็นผู้หญิงที่เขารักแต่ไม่สามารถครอบครองได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเป็นรักแรกที่พวกผู้ชายลืมไม่ลง เขาก็ต้องปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นคนรักของเขาเป็นธรรมดา