'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
ปัจจุบัน
@ร้านกาแฟ โรงพยาบาลเอกชน
เมื่อมาถึงที่หมาย หญิงสาวแวะร้านกาแฟเจ้าประจำ
cappucino ร้อนหนึ่งแก้วอยู่ในมือขวา ส่วนมือซ้ายเต็มไปด้วยเอกสารปึกหนา ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้าน ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง
หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง
“ขอโทษค่ะ!” เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้กาแฟเกือบจะหก ส่วนเอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
“ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ” เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น
พุฒิธร!
เขาคือพ่อของลูก!
คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อนักเลงทวงหนี้นอกระบบที่เธอรู้จักเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต
“คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?” หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
พุฒิธรไม่ตอบคำถามคนตรงหน้า เพียงแต่จ้องเธออย่างไม่ละสายตา มือหนายื่นเอกสารที่ช่วยเก็บส่งคืนให้
ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าเข้ามายืนขวางหน้าประตูร้านกาแฟทำให้เกี่ยวก้อยรู้ทันทีเลยว่าคงหนีหน้าเขาไม่ได้อีกต่อไป
“ผมไม่ให้คุณไปไหน เราสองคนมีเรื่องต้องคุยกัน….”
“รู้ไหมว่าผมตามหาคุณมาตลอดสี่ปี…” เขาเอ่ยเสียงเข้มและทุ้มต่ำ “ผมไม่ใช่ไอ้ผู้ชายหน้าตัวเมียที่ทำผู้หญิงท้องแล้วจะไร้ความรับผิดชอบ”
พุฒิธรเหลือบไปเห็นชื่อที่ปักอยู่บนเสื้อกาวน์ว่า ‘กานต์พิชชา’ หรือที่เขาเคยรู้จักในชื่อ 'เกี่ยวก้อย'
ก็ว่าล่ะ ตามหาเท่าไรก็ไม่เจอสักที!
4 ปีที่แล้ว….
ณ วัดดอนนาหอม
12.30 น.
ช่วงปลายสัปดาห์เวลาเที่ยงครึ่ง แสงแดดจ้าสาดส่องไปทั่ววัดดอนนาหอม สายลมพัดผ่านทุ่งนาอันกว้างไกล พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์รถกระบะคันเก่าที่ขับเข้ามาจอดหน้าศาลาลานวัด
เสียงเบรกเอี๊ยดกับฝุ่นที่คลุ้งไปทั่วดึงสายตาของชาวบ้านที่กำลังซุบซิบกันอยู่ให้หันไปมอง
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าหล่อเหลา สันกรามคมชัด ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับหลุดออกมาจากแมกาซีนอังกฤษกำลังก้าวเท้าลงจากรถ
เขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือพุฒิธร หรือ “พุฒิ” ลูกชายกำนันขจรที่เพิ่งกลับมาจากลอนดอน
เสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนหลวม ๆ กับกางเกงสแล็กขายาวสีดำ และรองเท้าหนังราคาแพงของเขาดูไม่เข้ากับความเป็น ‘นักเลงบ้านนอก’ สักเท่าไร
แต่แววตาคมกริบและท่าทางการวางมาดของเขาทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาเอ่ยปากทักทาย ทุกสายตาจับจ้องเมื่อเขาโยนบุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำ
“พ่อกูไปไหนวะ! อุตส่าห์ถ่อมาถึงนี่มีเรื่องจะคุยด้วยสักหน่อย” เสียงเข้มของเขาดังก้องไปทั่วลานศาลา
“เอ่อ... กำนันขจรไปช่วยชาวบ้านอยู่จ้ะ” ชายชราผมขาวสูงกำลังกวาดลานวัดอยู่ เดินมาบอกพุฒิธรที่ดูท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไร
ในตอนนั้นเองสาวน้อยสาวใหญ่หลายคนที่นั่งมองอยู่ในศาลาวัดถึงกับหัวเราะคิกคัก บางคนก็แอบซุบซิบกัน
“พ่อกำนันขจรเคยเล่าว่ามีลูกชายหนึ่งคน ไม่คิดว่าจะหล่อขนาดนี้”
“ป๊าด! แต่งตัวโก้ หน้าตาก็หล่อ ฉันได้ยินว่าพ่อพุฒิธรเนี่ยโสดสนิท”
บางคนก็กลั้นยิ้มเมื่อเพื่อนกระซิบข้างหู “ถ้าฉันเป็นติดหนี้เขา ฉันจะยอมเป็นเมียขัดดอกไปตลอดชาติเลย”
พุฒิธรไม่ได้สนใจสายตาของสาวน้อยสาวใหญ่ที่ชม้อยชม้ายชายตาเหล่านั้นเลย
เขามีเป้าหมายเดียวในวันนี้คือคุยกับพ่อของเขาให้รู้เรื่องว่าจะไม่รับตำแหน่งผู้บริหารบริษัทส่งออกข้าวที่กรุงเทพซึ่งเป็นบริษัทของณัฐพรผู้เป็นแม่(เสียชีวิตไปนานแล้ว)
ปัจจุบันบริหารโดยญาติของณัฐพรซึ่งเป็นญาติฝั่งแม่ ทุกคนรอพุฒิธรทายาทสายตรงมารับช่วงต่อ
แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาไม่อยากทำงานในบริษัทของแม่ตัวเองที่สร้างมากับมือ
เขาผัดผ่อนไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าไปเหยียบแม้แต่ก้าวเดียว ดันอยากกลับมาอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ แห่งนี้ซะงั้น ที่สำคัญเขาจองตำแหน่งนักเลงขาใหญ่ปล่อยกู้นอกระบบเพียงคนเดียวเท่านั้น
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะเจอหน้าพ่อเพื่อคุยเรื่องที่คิดไว้ เพื่อนของลูกน้องของพุฒิธรดันหลงผิดติดหนี้พนันที่บ่อนไก่ทำให้ถูกกระทืบจนสาหัส คนเป็นเพื่อนเห็นแล้วทนไม่ได้จึงแบกหน้ามาขอให้เจ้านายตัวเองช่วยแทน
“พี่พุฒิ ได้โปรดช่วยเพื่อนฉันด้วย ขืนปล่อยไว้ในบ่อนมันได้ถูกกระทืบตายแน่” ผดุงศักดิ์ชายหนุ่มวัยยี่สิบคุกเข่ากอดขาพุฒิธรหวังพึ่งบารมีของเขาในฐานะลูกชายกำนันขจร เจ้าตัวหันมามองลูกน้องที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าคุ้นตาด้วยความแปลกใจ
“มึงอายุเท่าไรวะ ยังดูเด็กอยู่เลย”
“ฉันอายุ 20 จ้ะ ส่วนเพื่อนฉันที่กำลังถูกกระทืบก็อายุเท่าฉันนี่แหละจ้ะ”
“อายุยังน้อย แต่เสือกไปเล่นพนันไก่ชน เพื่อนมึงเงินเยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ” เขาหันมามองด้วยสายตาดุดัน เจ้าตัวไม่เข้าใจความคิดของเด็กเกเรพวกนี้สักนิด พ่อแม่ไปอยู่ไหนก็ไม่รู้ทำไมปล่อยปละละเลย ไม่อบรมสั่งสอนลูก
“มันหน้ามืดตามัวหลงผิดคิดว่าเล่นพนันแล้วจะรวยเร็ว พี่พุฒิช่วยเพื่อนฉันเถอะจ้ะถือว่าทำบุญทำทานให้ลูกนกตาดำๆ”
พุฒิธรพยายามเชื่อว่าเด็กมันหลงผิดจริง ๆ แค่ช่วยเหลือไม่ให้มันถูกกระทืบตายและให้โอกาสมันก็พอ ถือซะทำบุญก็แล้วกัน
ปัณกรณ์'ต้องการที่ดินของ'ณิชา' เขาทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ วันที่เธอรู้ตัวว่ากำลังท้องและความจริงถูกเปิดเผยว่าเขาเข้ามาเพื่อประโยชน์ทำให้เธอเดินจากเขาไปด้วยความเสียใจ กระทั่งวนมาเจอกันอีกครั้ง! ตัวอย่าง "แม่ครับ โปรดจะได้มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่นไหมครับ" "น้องโปรดครับ อยู่กับแม่ คุณตา คุณยาย แล้วก็น้าชยานิด มีความสุขไหมครับ" "มีครับ" "ถ้าอย่างนั้นเราอยู่กันแค่นี้ได้ไหมลูก" "ได้ครับ" ลูกชายสุดที่รักพยักหน้าหงึกเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็คงพาพ่อมาหาตัวเองไม่ได้ ภาพหญิงสาวจูงลูกชายที่สะพายกระเป๋าเป้ออกจากโรงเรียนทำให้ปัณกรณ์ที่นั่งสังเกตการณ์ในรถขมวดคิ้วชนกัน ความเคลือบแคลงสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ หากมองดูดี ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาตอนเด็กไม่มีผิด
เพราะปาฏิหาริย์ทำให้ กัญญา' ครูสาวผู้แสนดีฟื้นขึ้นมาในร่างของ 'สรานี' ภรรยาที่ร้ายกาจของคุณนาวี เธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาเกลียดภรรยาตัวเองมาก และพยายามหาทางหย่าเพื่อจบความสัมพันธ์อัน toxic นี้ "คุณนาวี" เสียงเรียกในลำคอกับรอยยิ้มเบาบางที่ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าไฮโซสาว ภายในใจอยากตะโกนบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่สรานี แต่เธอคือครูต่ายคนที่เขาช่วยหาบน้ำที่หมู่บ้านบนดอย แต่กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ทว่าสีหน้าท่าทางของหญิงสาวที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างแปลกจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับคิ้วขมวดมุ่น ที่ผ่านมาสรานีไม่เคยยิ้มให้เขาแบบนี้มาก่อน "ไหนว่าความจำเสื่อมไง ก็จำชื่อพี่ได้นี่" คำพูดที่ดูดุดันเย็นชาทำให้กัญญาชะงักไปชั่วขณะ คุณนาวีที่เธอรู้จักเป็นผู้ชายที่สุภาพ อ่อนโยน ไม่น่าพูดจาแข็งกร้าวราวกับเธอเช่นนี้ ที่สำคัญสายตาของเขาไม่เหมือนสายตาของคนใจดีที่เคยช่วยเหลือทุกคนบนหมู่บ้านบนดอย มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกันนะ "คือฉัน" "ถ้าไม่ได้ความจำเสื่อมก็ดี งั้นก็เซ็นใบนี้ให้พี่ที" เขาหยิบใบหย่าที่พกติดตัวขึ้นมาวางบนโต๊ะรับแขกเพื่อให้สรานีเซ็น ห๊ะ! อะไรกันเนี่ย? หญิงสาวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก จู่ๆ มาให้เซ็นใบหย่า แล้วเธอจะเซ็นได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่ใช่คุณสรานี มันตัดสินใจแทนกันได้ที่ไหน ซวยชะมัดที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ ตัวละครหลัก ‘นาวี’ ลูกชายวัยสามสิบของหม่อมหลวงอรัญเขาเป็นชายหนุ่มลูกผู้ดีผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับ ‘สรานี’ ลูกสาวเจ้าสัวสายปาร์ตี้ซึ่งนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ความสัมพันธ์อัน TOXIC ทำให้เขาเกลียดเธอจนต้องขอหย่าให้ได้ ทว่าสรานีดันรถชนความจำเสื่อม เธอกลายเป็นอีกคน…. ‘กัญญา’ นักศึกษาจบใหม่วัยยี่สิบสามเธอขึ้นฟื้นขึ้นจากความตายมาอยู่ในร่างของคุณสรานี ก่อนหน้านี้เธอเป็นครูอาสาจากบนดอย อัธยาศัยดีหน้าตาน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว
คุณปู่ตายทิ้งมรดกเป็นไร่สุดโทรม 500 ไร่ให้สาริน แต่ความรู้ไม่มีต้องปลอมตัวไปฝึกงานที่ไร่คู่แข่งกลับกลายเป็นการป่วนหัวใจของเขมราชเจ้าของไร่ที่ขึ้นชื่อว่า 'ดุยิ่งกว่าราชสีห์’ "การทำงานในไร่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่การเรียนรู้เรื่องหัวใจ อาจจะยากยิ่งกว่า" ......................................................... หลังจากเขมราชฟื้นขึ้นจากการถูกตีบริเวณศีรษะ เขาหันไปถามพยาบาลประจำไร่สองคนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่ายัยตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาบาดเจ็บอยู่ไหนซึ่งพวกเธอก็ชี้ไปด้านหน้าออฟฟิศ "เธอ..." เขาเอ่ยเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเขา "ฉะ ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ ก็เห็นคุณก้ม ๆ เงย ๆ คิดว่ามาขโมยของ" ริมฝีปากบางพยายามเอ่ยอธิบายทั้งที่ยังตื่นตกใจ เขมราชกัดฟันกรอด กำมือแน่น มองหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา "ขโมยบ้าอะไร ฉันเป็นเจ้าของไร่ภูเคียงชล!" สารินหน้าซีด เธอรู้ว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ ทีนี้จะทำอย่างไรดี หวังว่าเขาคงไม่ไล่ตะเพิดเหมือนที่คิดไว้ ทว่าคำพูดของเขาดันตรงกับสิ่งที่ตรงคิดไว้เป๊ะ "ออกไปจากไร่ฉันเดี๋ยวนี้" ซวยแล้วเขาไล่เธอจริง ๆ ด้วย สารินต้องรีบคิดหาวิธีขออยู่ต่อเพราะเธอไม่อยากสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้การทำไร่ ในที่สุดสารินก็ทรุดตัวลงกอดขาของเขา "ฮืออออ คุณเขมราช!!! ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันต้องการงานนี้จริง ๆ ฉันมาจากกรุงเทพ โดนไล่ออกจากงานแม่บ้านทำให้ต้องหางานที่นี่ ช่วยให้โอกาสฉันด้วย ฮึก ฮืออออออ" สารินแสร้งทำเป็นร้องไห้โฮทั้งที่ไม่มีน้ำตาสักหยด ไม่ว่าจะสาธยายความน่าสงสารของตัวเองมากแค่ไหน เขมราชก็ไม่สนใจ ตอนนี้เธอเหมือนคนบ้าในสายตาเขา รวมถึงคนงานคนอื่นที่มองมาอีกด้วย ตัวละครหลัก เขมราช ครองกิตติประเสริฐ หรือนายเขม อายุ 26 ปี เจ้าของไร่ภูเคียงชล หล่อ สูง หน้าคมเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในเขตภาคเหนือ เขาเป็นเจ้านายใจดี อ่อน โยนมีเมตตากับลูกน้อง ตั้งแต่อกหักรักจากนางเอกสาวทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นคน ไม่ดูแลตัวเอง และดุขึ้นกว่าเดิม รอวันที่มีใครสักคนมาทลายกำแพงหัวใจ สาริน ปิ่นประดับเพ็ญ หรือ สา อายุ 23 ปี ดีไซเนอร์สาวถังแตกจากนอเวย์ ได้รับมรดกเป็นไร่ภิรมย์รินจากคุณปู่ แต่ทำไร่ไม่เป็นทำให้ต้องปลอมตัวไปฝึกงานในไร่คู่แข่งซึ่งการเจอกันระหว่างสารินกับเขมราชทำให้เขาสงสัยในตัวเธอและหาทางจับผิดสารพัด
"เควิน" เจ้าพ่อมาเฟียและนักสะสมของเก่าผู้ทรงอิทธิพลได้มาเจอกับ "นาลัน" นักศึกษาสาวฐานะยากจนที่ได้นำของปลอมมาขายให้เขา หลังจากที่ถูกจับได้ทำให้นาลันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เควินยื่นข้อเสนอให้นาลันจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมีคดีความ
คุณหนูไฮโซยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารัก แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ผล เธอยอมแพ้ และเลือกเดินจากไปพร้อมของขวัญที่เขาทิ้งไว้ให้คือลูกในท้อง! ตัวอย่าง อติกานต์มองไกลๆก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคราผู้หญิงคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก... มือหนาถอดแว่นกันแดดออก เขาขยี้ตาอีกครั้ง และพบว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับชาวต่างชาติคนนั้นคืออิงชนา! เธอก็กำลังท้องอยู่... ที่สำคัญเธอท้องโตจนใกล้จะคลอดแล้วด้วย! อติกานต์แทบทรุดเมื่อรู้ว่าอิงชนากำลังท้อง คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มหัวไปหมด ทำไมเธอถึงไม่บอกเขาสักคำ ทั้งๆที่เด็กในท้องก็คือลูกเขาเช่นกัน!
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"