"เควิน" เจ้าพ่อมาเฟียและนักสะสมของเก่าผู้ทรงอิทธิพลได้มาเจอกับ "นาลัน" นักศึกษาสาวฐานะยากจนที่ได้นำของปลอมมาขายให้เขา หลังจากที่ถูกจับได้ทำให้นาลันตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เควินยื่นข้อเสนอให้นาลันจดทะเบียนสมรสกับเขาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องมีคดีความ
ตอนที่ 1
VIP Customer in the littler bar
[Bar & Restaurant Sathon]
กฎข้อห้ามของการเข้าใช้บริการ
ห้ามสูบบุหรี่
ห้ามทะเลาะวิวาท
‘เควินเฉิน’ มาเฟียหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวใบหน้าหล่อเหลาเป็นลูกครึ่งไทยฮ่องกง ที่สำคัญเป็นลูกชายของ ‘เฉินเหย่กง’ มหาเศรษฐีฮ่องกงที่ถูกขนานขามว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลแห่งเอเชียที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย
ทว่าเควินเฉินไม่ได้เดินตามรอยพ่อไปเสียทุกอย่างเขามีธุรกิจที่สร้างด้วยตัวเองอย่างอสังหาริมทรัพย์ในไทย โรงแรมหรูที่มีคาสิโนใต้ดิน รวมถึงร้านขายอัญมณีโบราณสำหรับลูกค้าที่ค่อนข้างมีฐานะ
เควินเฉินถือเป็นนักสะสมวัตถุโบราณตัวยง ไม่ว่าเขาจะไปงานประมูลวัตถุโบราณที่ไหน เขาต้องได้ในสิ่งที่ต้องการกลับมาทุกครั้ง
ข้อมือหนาที่สวมนาฬิกาแบรนด์เนมราคาหลักสิบล้านเดินล้วงกระเป๋ากางเกงขายาวสีดำเข้ามาภายในบาร์นั่งชิวขนาดกลางแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้หรูหราเหมือนบาร์อื่นๆ เหมือนที่พวกไฮโซชอบไปกัน
สองเท้ายาวที่สวมรองเท้าหนังเงาวับก้าวเดินไปยังโต๊ะอาหารที่เพื่อนสนิทนั่งรออยู่ ท่ามกลางบรรดาลูกค้าสาวๆ ที่นั่งดื่มแอลกอฮอล์ชิลๆ อยู่ในร้านต่างสะกิดให้หันมามองหนุ่มหล่อที่กำลังเดินเข้ามาเป็นตาเดียวกันเพราะนานๆ ทีจะมีผู้ชายไทป์ไฮโซราวกับพระเอกซีรีส์แวะเวียนมาที่นี่สักที
“ว่าไงมึง! ไม่ได้เจอกันนานยังฮ็อตเหมือนเดิมนะมึง ผู้หญิงมองเพียบเลยว่ะ” เซ้นต์เพื่อนสนิทเควินในไทยดีกรีลูกชายว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปยืนขึ้นและจับมือทักทายแกมแซวเพื่อนรัก
สองคนนี้สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเควินต้องไปย้ายไปฮ่องกงพร้อมกับครอบครัว นานๆ ถึงจะได้เจอหน้ากันสักที
“บอดี้การ์ดมึงอยู่ไหนวะ? กูไม่เห็นสักคน” เซ้นต์เอ่ยถามก่อนจะหันหน้าซ้ายขวาไปมองรอบตัวเควินเพราะปกติเพื่อนของเขาจะพาบอดี้การ์ดมาด้วยตลอด
“กูให้รอข้างนอก บาร์ที่นี่เล็กจะตายห่า ขืนพาเข้ามาด้วยเจ้าของร้านคงคิดว่ากูเอาคนมาถล่มร้านเขาดิ”
จริงอย่างที่เควินบอก บาร์สาธรเรียกได้ว่าเป็นบาร์ลับขนาดกลางซึ่งไม่ใหญ่มาก ถ้าพาบอดี้การ์ดนับสิบคนเข้ามาด้วยทั้งเจ้าของร้านทั้งลูกค้าได้แตกตื่นอย่างแน่นอน
คนที่มาใช้บริการที่นี่มักจะเป็นนักศึกษาไม่ก็พนักงานออฟฟิศทั่วไป ที่สำคัญราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่แพงเลยสักนิด
การที่เควินกับเซ้นต์เลือกนัดเจอกันที่บาร์สาธร แต่ไม่นัดเจอกันที่บาร์หรูหราเพราะไม่อยากเจอคนรู้จัก เวลาไปบาร์หรูลักชูทีไร ต้องมีนักธุรกิจไม่ก็พวกไฮโซเข้าหา หรือไม่ก็ขอให้ช่วยเหลือเรื่องธุรกิจตลอด ทั้งคู่จึงตัดรำคาญด้วยการย้ายบาร์หนีเสียเลย
“ก็จริงของมึง ว่าแต่มึงจะมาอยู่ที่ไทยนานป่ะ หรือแค่หนีงานแต่งงานที่ต้องแต่งกับแฟนเก่ามึงชั่วคราว?”
“กูคงอยู่ไทยสักพัก มึงอย่าลืมดิ กูก็มีธุรกิจที่นี่เหมือนกัน ส่วนไอ้เรื่องแต่งงานกูอธิบายป๊ากูไปแล้วว่ากูกับเจนนี่เลิกกันเพราะเข้ากันไม่ได้ ป๊ากูก็ไม่ยอม เซ็งฉิบหาย!” เควินกระดกแอลกอฮอล์เข้าปากเมื่อนึกถึงเรื่องที่กวนใจมาตลอด
“อย่าบอกนะว่า…ป๊ามึงไม่รู้เรื่องที่มึงมาไทย?”
“กูว่าคงรู้แล้วแหละ ยังไงลูกน้องป๊ากูก็คอยรายงานอยู่แล้ว”
“ทำใจเถอะว่ะเควิน กูว่านะยังไงมึงก็หนีงานแต่งไม่พ้นหรอก คนรวยๆ อย่างเราไม่ได้มีชอยซ์ให้เลือกเหมือนคนธรรมดาทั่วไปนะเว้ย” เซ้นต์ตบบ่าเควินเบาเป็นการปลอบใจทางอ้อม ให้ทำใจเสียเนิ่นๆ
“จะยากอะไร กูก็แค่จ้างผู้หญิงสักคนมาแต่งงานกับกูไง มึงเชื่อดิคนที่เดือดร้อนเรื่องเงินมีเยอะแยะ”
เควินยักไหล่เพราะเขาคิดว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย
เซ้นต์ได้แต่ส่ายหัว วิธีของเพื่อนเขาไม่ต่างจากการหนีปัญหาเลยสักนิด แต่ก็เข้าใจได้เพราะเควินกับเจนนี่คบหากันห้าปี สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด ครั้นจะฝืนให้อยู่ด้วยกันต่อไปก็จะมีแต่ทำให้อึดอัดเปล่าๆ
ทว่าครอบครัวของเจนนี่กับครอบครัวของเควินอยากทั้งคู่ให้เป็นทองแผ่นเดียวกันเพราะเรื่องธุรกิจล้วนๆ กรรมจึงมาตกที่เควินเพื่อนสนิทของเขา
พอพูดเรื่องงานแต่งทีไรเควินไม่สบอารมณ์ทุกที มือหนาหยิบซิการ์ที่พกใส่ตลับขึ้นมาจุดไฟแช็กและพ่นควันขึ้นกลางอากาศ
“ขอโทษนะคะ ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในร้านค่ะ” เสียงหวานใสของหญิงสาวที่เอ่ยปากเตือนดังมาจากด้านหลังทำให้เพื่อนรักทั้งสองหันไปมองพร้อมกัน
‘นาลัน’ สาวเชียร์เบียร์คนสวยที่สวมเกาะอกสีแดงรัดรูป กระโปรงสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นต้นขาเนียนขาว ความสวยของเธอทำให้ทั้งเควินและเซ้นต์ต่างจ้องมองตาไม่กระพริบ
ใครจะคิดว่าบาร์เล็กๆจะมีผู้หญิงสวยอย่างกับนางฟ้าทำงานอยู่ด้วย
แต่คำพูดของสาวเชียร์เบียร์คนนี้ดูจะไม่มีผลกับเควินเพราะเขาก็ยังลอยหน้าลอยตาสูบซิการ์ต่อไปโดยไม่แคร์สายตาของเธอ นาลันจึงเอ่ยปากย้ำเตือนเป็นครั้งที่สองเพื่อให้เขาหยุดสูบสักที ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรบกวนไม่จบไม่สิ้น
ปัณกรณ์'ต้องการที่ดินของ'ณิชา' เขาทำทุกอย่างโดยไม่สนวิธีการ วันที่เธอรู้ตัวว่ากำลังท้องและความจริงถูกเปิดเผยว่าเขาเข้ามาเพื่อประโยชน์ทำให้เธอเดินจากเขาไปด้วยความเสียใจ กระทั่งวนมาเจอกันอีกครั้ง! ตัวอย่าง "แม่ครับ โปรดจะได้มีพ่อเหมือนเพื่อนคนอื่นไหมครับ" "น้องโปรดครับ อยู่กับแม่ คุณตา คุณยาย แล้วก็น้าชยานิด มีความสุขไหมครับ" "มีครับ" "ถ้าอย่างนั้นเราอยู่กันแค่นี้ได้ไหมลูก" "ได้ครับ" ลูกชายสุดที่รักพยักหน้าหงึกเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็คงพาพ่อมาหาตัวเองไม่ได้ ภาพหญิงสาวจูงลูกชายที่สะพายกระเป๋าเป้ออกจากโรงเรียนทำให้ปัณกรณ์ที่นั่งสังเกตการณ์ในรถขมวดคิ้วชนกัน ความเคลือบแคลงสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อย ๆ หากมองดูดี ๆ เด็กผู้ชายคนนั้นหน้าตาเหมือนเขาตอนเด็กไม่มีผิด
เพราะปาฏิหาริย์ทำให้ กัญญา' ครูสาวผู้แสนดีฟื้นขึ้นมาในร่างของ 'สรานี' ภรรยาที่ร้ายกาจของคุณนาวี เธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาเกลียดภรรยาตัวเองมาก และพยายามหาทางหย่าเพื่อจบความสัมพันธ์อัน toxic นี้ "คุณนาวี" เสียงเรียกในลำคอกับรอยยิ้มเบาบางที่ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าไฮโซสาว ภายในใจอยากตะโกนบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ใช่สรานี แต่เธอคือครูต่ายคนที่เขาช่วยหาบน้ำที่หมู่บ้านบนดอย แต่กลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ ทว่าสีหน้าท่าทางของหญิงสาวที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลค่อนข้างแปลกจนทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าถึงกับคิ้วขมวดมุ่น ที่ผ่านมาสรานีไม่เคยยิ้มให้เขาแบบนี้มาก่อน "ไหนว่าความจำเสื่อมไง ก็จำชื่อพี่ได้นี่" คำพูดที่ดูดุดันเย็นชาทำให้กัญญาชะงักไปชั่วขณะ คุณนาวีที่เธอรู้จักเป็นผู้ชายที่สุภาพ อ่อนโยน ไม่น่าพูดจาแข็งกร้าวราวกับเธอเช่นนี้ ที่สำคัญสายตาของเขาไม่เหมือนสายตาของคนใจดีที่เคยช่วยเหลือทุกคนบนหมู่บ้านบนดอย มีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปกันนะ "คือฉัน" "ถ้าไม่ได้ความจำเสื่อมก็ดี งั้นก็เซ็นใบนี้ให้พี่ที" เขาหยิบใบหย่าที่พกติดตัวขึ้นมาวางบนโต๊ะรับแขกเพื่อให้สรานีเซ็น ห๊ะ! อะไรกันเนี่ย? หญิงสาวถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก จู่ๆ มาให้เซ็นใบหย่า แล้วเธอจะเซ็นได้อย่างไรในเมื่อเธอไม่ใช่คุณสรานี มันตัดสินใจแทนกันได้ที่ไหน ซวยชะมัดที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆแบบนี้ ตัวละครหลัก ‘นาวี’ ลูกชายวัยสามสิบของหม่อมหลวงอรัญเขาเป็นชายหนุ่มลูกผู้ดีผู้เพียบพร้อมทุกอย่าง ทว่าถูกบังคับให้แต่งงานกับ ‘สรานี’ ลูกสาวเจ้าสัวสายปาร์ตี้ซึ่งนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ความสัมพันธ์อัน TOXIC ทำให้เขาเกลียดเธอจนต้องขอหย่าให้ได้ ทว่าสรานีดันรถชนความจำเสื่อม เธอกลายเป็นอีกคน…. ‘กัญญา’ นักศึกษาจบใหม่วัยยี่สิบสามเธอขึ้นฟื้นขึ้นจากความตายมาอยู่ในร่างของคุณสรานี ก่อนหน้านี้เธอเป็นครูอาสาจากบนดอย อัธยาศัยดีหน้าตาน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน มีโรคหัวใจเป็นโรคประจำตัว
คุณปู่ตายทิ้งมรดกเป็นไร่สุดโทรม 500 ไร่ให้สาริน แต่ความรู้ไม่มีต้องปลอมตัวไปฝึกงานที่ไร่คู่แข่งกลับกลายเป็นการป่วนหัวใจของเขมราชเจ้าของไร่ที่ขึ้นชื่อว่า 'ดุยิ่งกว่าราชสีห์’ "การทำงานในไร่อาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่การเรียนรู้เรื่องหัวใจ อาจจะยากยิ่งกว่า" ......................................................... หลังจากเขมราชฟื้นขึ้นจากการถูกตีบริเวณศีรษะ เขาหันไปถามพยาบาลประจำไร่สองคนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่ายัยตัวต้นเรื่องที่ทำให้เขาบาดเจ็บอยู่ไหนซึ่งพวกเธอก็ชี้ไปด้านหน้าออฟฟิศ "เธอ..." เขาเอ่ยเสียงต่ำ แต่แฝงไปด้วยความเยือกเย็น ตอนนี้ชีวิตของเธอไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือเขา "ฉะ ฉัน... ฉันขอโทษค่ะ ก็เห็นคุณก้ม ๆ เงย ๆ คิดว่ามาขโมยของ" ริมฝีปากบางพยายามเอ่ยอธิบายทั้งที่ยังตื่นตกใจ เขมราชกัดฟันกรอด กำมือแน่น มองหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา "ขโมยบ้าอะไร ฉันเป็นเจ้าของไร่ภูเคียงชล!" สารินหน้าซีด เธอรู้ว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ ทีนี้จะทำอย่างไรดี หวังว่าเขาคงไม่ไล่ตะเพิดเหมือนที่คิดไว้ ทว่าคำพูดของเขาดันตรงกับสิ่งที่ตรงคิดไว้เป๊ะ "ออกไปจากไร่ฉันเดี๋ยวนี้" ซวยแล้วเขาไล่เธอจริง ๆ ด้วย สารินต้องรีบคิดหาวิธีขออยู่ต่อเพราะเธอไม่อยากสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้การทำไร่ ในที่สุดสารินก็ทรุดตัวลงกอดขาของเขา "ฮืออออ คุณเขมราช!!! ได้โปรดเถอะค่ะ ฉันต้องการงานนี้จริง ๆ ฉันมาจากกรุงเทพ โดนไล่ออกจากงานแม่บ้านทำให้ต้องหางานที่นี่ ช่วยให้โอกาสฉันด้วย ฮึก ฮืออออออ" สารินแสร้งทำเป็นร้องไห้โฮทั้งที่ไม่มีน้ำตาสักหยด ไม่ว่าจะสาธยายความน่าสงสารของตัวเองมากแค่ไหน เขมราชก็ไม่สนใจ ตอนนี้เธอเหมือนคนบ้าในสายตาเขา รวมถึงคนงานคนอื่นที่มองมาอีกด้วย ตัวละครหลัก เขมราช ครองกิตติประเสริฐ หรือนายเขม อายุ 26 ปี เจ้าของไร่ภูเคียงชล หล่อ สูง หน้าคมเป็นผู้มีอิทธิพลและกว้างขวางในเขตภาคเหนือ เขาเป็นเจ้านายใจดี อ่อน โยนมีเมตตากับลูกน้อง ตั้งแต่อกหักรักจากนางเอกสาวทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นคน ไม่ดูแลตัวเอง และดุขึ้นกว่าเดิม รอวันที่มีใครสักคนมาทลายกำแพงหัวใจ สาริน ปิ่นประดับเพ็ญ หรือ สา อายุ 23 ปี ดีไซเนอร์สาวถังแตกจากนอเวย์ ได้รับมรดกเป็นไร่ภิรมย์รินจากคุณปู่ แต่ทำไร่ไม่เป็นทำให้ต้องปลอมตัวไปฝึกงานในไร่คู่แข่งซึ่งการเจอกันระหว่างสารินกับเขมราชทำให้เขาสงสัยในตัวเธอและหาทางจับผิดสารพัด
คุณหนูไฮโซยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขารัก แต่ก็สุดท้ายก็ไม่ได้ผล เธอยอมแพ้ และเลือกเดินจากไปพร้อมของขวัญที่เขาทิ้งไว้ให้คือลูกในท้อง! ตัวอย่าง อติกานต์มองไกลๆก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคราผู้หญิงคนนั้นอย่างบอกไม่ถูก... มือหนาถอดแว่นกันแดดออก เขาขยี้ตาอีกครั้ง และพบว่าผู้หญิงที่กำลังคุยกับชาวต่างชาติคนนั้นคืออิงชนา! เธอก็กำลังท้องอยู่... ที่สำคัญเธอท้องโตจนใกล้จะคลอดแล้วด้วย! อติกานต์แทบทรุดเมื่อรู้ว่าอิงชนากำลังท้อง คำถามมากมายผุดขึ้นเต็มหัวไปหมด ทำไมเธอถึงไม่บอกเขาสักคำ ทั้งๆที่เด็กในท้องก็คือลูกเขาเช่นกัน!
'คุณหมอเกี่ยวก้อย' บุกไปตามน้องชายที่ทำตัวเกเรเป็นลูกน้อง 'พุฒิธร' นักเลงหน้าหล่อขวัญใจสาวๆ แต่ตามไปตามมาดันพลาดท้องซะงั้น! ตัวอย่าง ขณะที่กำลังจะก้าวออกจากร้านกาแฟ ประตูร้านถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยไม่ทันระวัง หมอเกี่ยวก้อยชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง "ขอโทษค่ะ!" เธอรีบกล่าวคำขอโทษทันทีทำให้เอกสารที่อยู่ในมือปลิวกระจัดกระจายไปทั่วพื้น "ไม่เป็นไรครับ ผมช่วยเก็บ" เสียงของชายคนนั้นฟังดูสุภาพและใจดีเกินกว่าที่เธอคาดไว้ เขาก้มลงช่วยเก็บเอกสาร เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากัน หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น พุฒิธร! เขาคือพ่อของลูก! คนที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอดหลายปี ร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตแบรนด์หรู กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหนัง ดูภูมิฐานราวกับคนละคนกับในอดีต เขาเคยเป็นนักเลงทวงหนี้แห่งบ้านดอนนาหอมแน่เหรอ "คุณ...มาที่นี่ได้ยังไง?" หมอเกี่ยวก้อยถามเสียงสั่น
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ