ผู้คนหยุดพักนั่งลงบนม้านั่งใต้ร่มไม้ พูดคุยหรือเพียงแค่จิบกาแฟกันอย่าง Slow life ตลาดน้ำแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่ทำให้ใจสงบและได้รับพลังบวกในการเริ่มวันใหม่
“ณิลูก มาช่วยแม่ยกสังขยาหน้ากุ้งไปหน้าร้านหน่อย”
เสียงเจ้าของตลาดน้ำตะโกนเรียกลูกสาวให้มาช่วยยกถาดขนมดังกล่าวมาจากด้านหลังครัวทำให้ ‘ณิชา’ หญิงสาววัย 20 ปีหันไปตามเสียงนั้นพร้อมรอยยิ้มสดใสที่ใครเห็นก็ต้องละลายกันเป็นแถบ
เธอกำลังเพลิดเพลินใจกับการจัดวางบุหลันดั้นเมฆ ลูกชุบ ขนมไข่ อินทนิล ให้ลูกค้าได้เลือกชมเลือกชิมได้อย่างหลากหลาย
“จ้ะแม่!” ลูกสาวคนสวยป้องปากตอบรับมาลีผู้เป็นแม่หรือที่ชาวบ้านในตลาดน้ำแห่งนี้เรียกว่า ‘เจ๊มาลี’
“ถาดขวามือนี้ใช่ไหมจ๊ะแม่?”
เจ๊มาลีพยักหน้าก่อนจะชวนลูกสาวพูดคุยเรื่องคนที่ตามตื๊อขอซื้อที่ดิน
“ช่วงนี้มีพวกนักธุรกิจติดต่อมาขอซื้อที่ดินกับตลาดน้ำของพวกเราถี่ขึ้น แม่ด่าไล่มันเปิงทุกวัน”
ในสายตาเจ๊มาลีหากมีเบอร์แปลกโทรเข้ามาส่วนใหญ่คือคนติดต่อขอซื้อที่ดิน รองลงมาจะเป็นมิจฉาชีพล้วน ๆ
“แล้ววันนี้มีโทรมาอีกไหมจ๊ะ ณิจะได้ช่วยพูดอีกแรงว่าอย่าติดต่อให้เสียเวลามันไม่ได้ผลหรอก” ณิพูดไปยิ้มไป เห็นแม่หงุดหงิดเพราะพวกนักธุรกิจจอมตื๊อบ่อย ๆ ก็อยากลองปฏิเสธแทนแม่บ้าง
“ตอนนี้ยังเช้าตรู่อยู่น่ะสิ สงสัยไอ้พวกนักธุรกิจมันยังไม่ตื่น ณิจำไว้นะลูกให้ตายยังไงก็ห้ามใจอ่อนขายที่ดินกับตลาดน้ำให้พวกมันเด็ดขาด” เจ๊มาลีพูดดักทางไว้ทุกครั้ง หล่อนรู้ว่าลูกสาวเป็นคนหัวอ่อน ไม่ค่อยทันเล่ห์เหลี่ยมคนจึงต้องคอยย้ำเสมอว่าห้ามขายเด็ดขาด!
“หัวเด็ดตีนขาดยังไง ณิไม่ยอมขายให้ใครทั้งนั้นจ้ะแม่ ครอบครัวพวกเรารวมถึงชาวบ้านที่นี่พึ่งพาอาศัยอยู่ด้วยกันมานาน ถ้าเราขายไปทุกคนจะไปอยู่ที่ไหนล่ะจ๊ะ”
“ดีมากลูก ถ้างั้นยกถาดไปวางหน้าร้านได้เลย” ณิชาส่งยิ้มหวานให้แม่ชื่นใจ ก่อนจะยกถาดขนมไปจัดเรียงต่อ
น้ำใบเตย! วันนี้ณิชาโชคดีเป็นพิเศษ ลุงสมหมายแจวเรือผ่านมาพอดี เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดนักชงน้ำโบราณในย่านนี้
ณิชาจึงโบกมือเรียก และสั่งกาแฟโบราณสองขวดซึ่งเป็นของพ่อกับแม่ ส่วนน้ำใบเตยสั่งให้ตัวเองดื่มเพื่อความชื่นใจ
บริเวณหลังตลาดจะเป็นเขตที่ดินของเจ๊มาลีซึ่งบุญชัยผู้เป็นสามีจะรับหน้าที่ปลูกผักสวนครัว ผลไม้พื้นถิ่น ที่สำคัญมีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเป็นสูตรเฉพาะของชาวบ้านที่ตลาดแห่งนี้จัดจำหน่ายอีกด้วย
บริษัท ฉัตรคณา คอร์ปอเรชัน
‘ปราวิน’ ลูกชายคนโตเดินตรงเข้ามาในห้องของท่านประธานบริษัท เขามีเรื่องสอบถามเกี่ยวกับเมกะโพรเจกต์ที่วางแผนไว้นานแล้ว แต่มีความคืบหน้าน้อยมาก
“พ่อครับ เรื่องเจรจาขอซื้อที่ดินกับตลาดน้ำคลองพนาลีจากเจ้าของตลาดน้ำไปถึงไหนแล้วครับ ?”
“ได้เรื่องซะที่ไหนล่ะ ให้คนติดต่อไปก็แล้ว เสนอราคาไปก็แล้ว ฝั่งนั้นไม่รับข้อเสนอใด ๆ แถมปัดตกหมด”
‘สรันศักดิ์’ ผู้เป็นพ่อในวัย 50 กว่าใบหน้าดุดันรูปร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำดูน่าเกรงขามตอบด้วยความหงุดหงิดใจ
ที่ผ่านมาเขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาทุกโครงการยกเว้นครั้งนี้ที่พยายามเท่าไรก็ไม่เป็นผล
“ถ้างั้นพ่อให้ผมเป็นคนไปเจรจาดูไหมครับ...” ปราวินต้องการสร้างผลงานเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทัดเทียมกับก็ผู้หญิงที่เขาหมายตา เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักครั้ง และมักถูกเปรียบเทียบกับน้องชายที่คิดว่าตัวเองสูงส่งอยู่เสมอ
“ฉันให้ลูกน้องมือดีไปเจรจายังไม่สำเร็จ แล้วน้ำหน้าอย่างแกจะไปคุยได้ยังไง”
ยังไม่ทันที่ปราวินจะอ้าปากของานนี้จากสรันศักดิ์เป็นครั้งที่สอง ก็ถูกปรามาสเสียก่อน
ในขณะนั้นเองชายหนุ่มร่างสูงผิวขาวใบหน้าหล่อคมในสูทสีดำราคาแพงเดินยิ้มยกมุมปากสูงเข้ามาภายในห้องพร้อมกับพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม
“ไม่ต้องถึงมือใครหรอก ผมขอเวลาสักสองเดือนพอ…” เสียงของปัณกรณ์ลูกชายคนเล็กแทรกขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศสุดแสนจะอึดอัด
สรันศักดิ์ผู้เป็นพ่อเห็นท่าทางเย่อหยิ่งของลูกชายคนเล็กก็อยากจะรู้ว่าเขาเก่งเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะงานนี้หินจริง ๆ
“แกอยากลองก็ได้ ถ้าแกทำงานนี้สำเร็จ ฉันจะพิจารณาตำแหน่งประธานบริษัทให้ ถ้าแกทำไม่สำเร็จฉันจะปลดแกออกจากทุกตำแหน่ง!”
คำสั่งของท่านประธานค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเท่ากับว่าปัณกรณ์เดิมพันด้วยตำแหน่งรองประธาน ถ้าทำไม่สำเร็จก็เท่ากับว่าล้มเหลว นอกจากไม่มีตำแหน่งแล้วยังกลายเป็นคนตกงานอีก