นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
ถ้าเมียร่าน เมียขอโทษ
ตอน โดนผัวนอกใจเลยวิ่งใส่คุณพ่อ
ตอนสายวันจันทร์ คุณนายสาววัยสามสิบกลางกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟารับแขก หล่อนมีรูปร่างอิ่มอวบแต่ไม่ดูตันหรืออวบมากเพราะมีช่วงขายาว และแขนเรียว ใบหน้าอิ่มรูปแก้มโต ปากนิดจมูกหน่อย คางงอนสวย
แป๊ก! ๆ ๆ มือน้อยรัวพิมพ์ดีดลงบนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ดวงตากลมโตกวาดมองบัญชีรายรับของรีสอร์ทต่างๆของคุณพ่อสามีสลับกับมองหน้าจอ
บนผนังห้องรับแขกของบ้านหรูมีรูปสามีและลูกๆอีกสองคน กับหลานชายและพ่อสามี มีสาวสวยหน้าคมนมโตยืนอยู่ตรงกลาง
ถึงแม้เอวาจะมีอายุสามสิบแล้วแต่เธอก็ยังไม่เคยมีลูกจริงๆ เธอเป็นภรรยาคนที่สองของโอภาส สามีที่แก่กว่าถึงเก้าปี ลูกติดจากโอภาสกับสามีเก่าชื่อว่า แทนและไทย แทนเป็นคนโตเรียนมหาลัยปีสี่ ไทยเป็นน้องเล็กเรียนปีสอง ยังมีหลานชายที่เป็นลูกของน้องสาวสามีชื่อว่าอานน เขาอายุ18ปี
ส่วนคุณพ่อสามีชื่อวสินท่านอายุ65ปี ถึงจะเกษียณแล้วแต่มีทรัพย์สมบัติมากมาย เป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่ง และยังมีรีสอร์ทอีกเป็นสิบๆที่ซึ่งจ้างคนบริหารให้ ส่วนลูกชายก็บริหารโรงงานทอผ้าต่อจากท่าน
และเหตุนี้เองที่คุณนายสาวสวยอย่างเอวาต้องมานั่งทำบัญชีรายรับจนมือหงิกมืองอให้พ่อสามีตั้งแต่เช้า ท่านไม่ค่อยไว้ใจใครเลยจึงไหว้วานภรรยาของลูกชายให้ช่วยดูแลเรื่องเงินๆทองๆ
บรืน! ๆ เสียงรถsuvแล่นมาจอดหน้าบ้าน ชายหนุ่มสองคนในชุดคลุมดำแขนยาวเดินเข้ามาเคาะประตูห้องรับแขกเพื่อพบคุณนายตามเวลานัดหมาย
"เข้ามาเลยค่ะ" เอวาขานรับ
"ขออนุญาตนะครับ ๆ" สองหนุ่มนักสืบเอกชนโค้งคำนับก่อนจะเปิดประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามา ท่วงทีของพวกเขาบ่งบอกเลยว่าคนในตระกูลผู้ดีนี้ได้รับความเคารพจากสังคมมากเพียงไหน
"นั่งเลยค่ะ ว่ามา" คุณนายคนสวยเอ่ยบอกสองหนุ่มโดยที่เธอยังไม่ละสายตาจากจอคอม มือข้างนึงพิมพ์เลข อีกข้างยกแก้วน้ำส้มคั้นมาจิบ
"คือ คุณโอภาสมีเมียน้อยจริงๆครับ" นักสืบคนแรกตอบ
"ว่าแล้ว" เอวาพึมพำโดยไม่สะทกสะเทือนใจใดๆ
"เขามีสามคนครับ คนแรกเป็นเลขา คนที่สองเป็นดารา อีกคนเป็นนักศึกษา เพิ่งซื้อบ้านให้เมื่อเดือนก่อนครับ" นักสืบคนที่สองเอ่ย
เพล๊ง! แก้วน้ำส้มหลุดมือร่วงลงไปแตกเกลื่อนพื้น "คุณครับ คุณเอวา" สองหนุ่มรีบก้มคลานลงมาเก็บเศษแก้วที่อาจบาดเท้าคุณนายคนสวย
อึก! เอวายังสะอื้นในอก จากทีแรกที่มีแผนจะฟ้องเมียน้อย ตอนนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นต่อเสียแล้ว เธอเป็นรองสาวๆพวกนั้นมาก
"แผนอาจต้องเปลี่ยนไป"
"อะไรนะครับ" สองหนุ่มเงยหน้าถาม
"อ้อ! เปล่าค่ะ คุณวางหลักฐานไว้แล้วไปได้เลยค่ะ ค่าจ้างจะโอนภายในวันนี้นะคะ ขอบคุณมาก"
"ครับ ๆ" สองหนุ่มกอบเศษแก้วใส่กำมือแล้วก้มหน้าโค้งคำนับสาวสวยที่ผิวกายขาวโพลนเหมือนไม่เคยโดนแสงแดดเลย พวกเขาทิ้งซองรูปหลักฐานการพบกันของโอภาสกับเมียน้อยทั้งสามคนเอาไว้ พร้อมเบอร์ติดต่อและที่อยู่พวกหล่อนทั้งหมด
คุณนายเอวานั่งกุมขมับอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง เธอรู้ว่าหากฟ้องเมียน้อยสามีต้องเลือกที่จะหย่ากับเธอแล้วไปเเต่งกับเด็กๆพวกนั้นคนใดคนนึงแน่นอน
อีกทางนึงหากเธอกล้าตัดรักกับสามีและฟ้องหย่า ทรัพย์สินเงินทองก็ได้จากเขาไม่ถึงร้อยล้าน เพราะส่วนใหญ่เป็นของท่านวสิน พ่อของสามีเธอนั่นเอง ตัวสามีทำหน้าที่เพียงผู้บริหารโรงงานทอผ้า แต่เจ้าของมรดกที่ดินหลายพันล้านกับรีสอร์ททั่วทุกภาคเป็นคุณพ่อที่เคารพรัก ยังไม่นับรวมกับบ้านหลังนี้ รถหรูต่างๆและสร้อยแหวนเงินทอง เครื่องเงินโบราณที่วางโชว์เต็มบ้าน
"เป็นอีโง่ของสามีก็ไม่เลวเท่าไร ฮิ"
ว่าแล้วคุณนายสาวสวยก็ลุกออกจากห้อง เดินขึ้นบันไดวนสีทองมายังชั้นสี่ของบ้านแล้วเคาะประตูบานไม้ที่สลักลายมังกรน่าเกรงขาม
ก๊อก! ๆ ๆ "คุณพ่อคะ ตื่นรึยังคะ"
"เปิดเข้ามาเลย หนูเอวา"
เสียงชายแก่ที่ฟังดูใจดีขานตอบกลับมา เท่าที่เอวาจำได้ท่านก็รักและเมตตากับเธอเสมอมา ตั้งแต่แต่งเข้ามาร่วมบ้านวันแรกจวบจนวันนี้ท่านวสินยังเรียกเธอว่าหนูตลอดมาไม่เคยเปลี่ยน ทุกเดือนยังให้เงินเดือนใช้เพราะตอบแทนกับที่เธอช่วยทำบัญชี และทุกปีก็มักจะมีของขวัญวันเกิดชิ้นโตให้เมียลูกชายคนนี้ตลอด
"อ้าว! คุณพ่อตื่นนานแล้วเหรอคะ ไม่เรียกหนูล่ะ จะได้ชงกาแฟให้"
เอวาเอ่ยขณะเดินเข้ามาข้างหลังเจ้าสัวที่กำลังก้มหน้าส่องพระอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง เขามีผมขาวและสวมแว่นตา หน้าเหมือนคนเชื้อสายจีน ผิวขาวเหลือง
"รบกวนหนูเปล่าๆ มีอะไรพ่อเรียกคนใช้เอาได้" ท่านวสินตอบโดยไม่หันมองมา ตายังจ้องกล้องส่องพระเครื่องในมือ ตัวพระเก่าแก่และมีราคาถึงแปดหลัก
"ทำอะไรคะ" จู่ๆเมียลูกชายก็เดินเข้ามากอดคอพ่อผัวจากข้างหลัง ด้วยท่าก้มโค้งลงมาแบบนั้นทำให้เต้าใหญ่เท่าหัวเด็กอัดกับท้ายทอยคุณพ่อจนเขาสะดุ้งหน้าสั่น
"หนูเอวา มีอะไรเร่งด่วนงั้นรึ" คุณพ่อสามีเหลียวหลังเงยหน้าถามอย่างงงใจ
"ไม่มีอะไรค่ะ" เอวายิ้มยิงฟันขาวแล้วเดินอ้อมเก้าอี้มายืนหน้าคุณพ่อ ทิ้งตูดงอนใหญ่ลงมานั่งบนตักของท่านแล้วบดหลังกับหน้าอก หล่อนดึงแขนพ่อผัวให้มาโอบกอดเธอแล้วห่องอตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขาเหมือนลูกสาวแท้ๆ
"อูย! หนูเอวา ทำแบบนี้พ่อว่ามันไม่งามเท่าไรนะ"
"กลัวอะไรคะ คุณพ่อกลัวคุณโอภาสรู้เหรอคะ"
"ก็นั่นน่ะซิ" ท่านวสินตอบเสียงสั่นเมื่อโดนตูดงอนนุ่มบดตักจนเป้ากางเกงพอง เลือดหนุ่มสูบฉีดพล่านในรอบยี่สิบปี ใบหน้าขาวตี๋แบบคนจีนแก่ๆมีเลือดฝาดขึ้นจนแดงก่ำ
"หนูไม่ให้สามีรู้หรอกค่ะ เออ! แต่รู้ก็ดีนะคะ คุณพ่อก็รู้ว่าเขาสมควรโดนนอกใจบ้าง" เอวาตอบแล้วดึงหลังมือของคุณพ่อขึ้นมาลูบแก้มนุ่มๆที่เย็นฉ่ำของตัวเอง
"หนูรู้แล้วเหรอ" คุณพ่อตกใจ
"คิดว่าคนฉลาดแบบหนูจะไม่รู้เหรอคะ ว่าสามีนอกใจ" อาวาตอบแล้วดึงมืออีกข้างของพ่อผัวขึ้นมากำเต้าซ้ายตัวเอง
"หนูรู้นะว่าลูกพ่อเจ้าชู้ แต่หนูจะแอบเงียบไว้ หนูไม่อยากอย่าออกไปจากตระกูลนี้ หนูจะแอบนอกใจเขาบ้าง"
"อูย! แล้วหนู หนูเอ เอวาจะทำกับใครล่ะ นอกใจน่ะ"
"กับคุณพ่อไงคะ" สุดสวยบิดเอวหันข้างแล้วเหลียวหลังมาก้มสบตาพ่อผัว
"หือ! จะดีหรือ" คุณพ่อเงยมองใบหน้าอิ่มสวยของเมียลูกชาย เขาตัวสั่นและอยู่ในสภาพเหงื่อตกชุ่มผ้า
"ดีสิคะ หนูไม่ได้มีชู้นอกบ้านซะหน่อย บีบนมหนูสิคะ" เอวาเอ่ยและดึงสองมือของพ่อผัวมากุมเต้านมซ้ายขวา แถมยังเอามือเล็กๆกุมมือใหญ่ของเขาแล้วบีบบังคับให้ฟัดนมของเธอจนเสื้อยับ
"คุณพ่อโกรธที่ควบคุมลูกชายไม่ได้อย่างใจใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นโกรธเขาเท่าไรก็บีบนมหนูให้แรงเท่านั้นได้เลยค่ะ"
"หนูดีใจนะคะที่คุณพ่อแคร์จิตใจหนู เพราะรู้ว่าลูกชายมีชู้แต่ก็เก็บไว้และไม่บอกหนู พ่ออยากให้หนูอยู่กับทุกคนอย่างมีความสุข ใช่ไหมคะ"
"หนูสวยและฉลาดจริงๆ เอวา" คุณพ่อเอ่ยและก้มดมลำคอขาวที่ยาวระหงส์ สูดกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายชุ่มเหงื่อของสาวรุ่นลูกรุ่นหลานเข้าเต็มปอดจนรู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย
"ที่พ่อไม่โอนมรดกอะไรให้โอภาสเลยก็เพราะเรื่องนี้แหละ มันเจ้าชู้ ชอบหลอกลวง ไม่ขี้โกงแต่ก็หัวทึ่มไม่ฉลาดทันคน นี่ถ้าหนูเป็นลูกสาวพ่อนะเอวา พ่อยกทุกอย่างให้ไปแล้ว"
เจ้าสัวเอ่ยพลางเฟ้นฟัดเต้านมใหญ่จนเสื้อทำงานเมียลูกยับคามือ
"เป็นลูกไม่ได้ งั้นให้หนูเป็นเมียคุณพ่อดีไหมคะ เป็นลับๆรู้กันแค่สองคน ฮิ! ๆ"
"อ่าส์! รู้ใจพ่อที่สุดเลย ไหนหันมานี่มา" คุณพ่อเอ่ยแล้วประคองร่างอิ่มอวบนุ่มนิ่มหันมามองหน้ากัน
แคว่ก! ๆ เขาฉีกเสื้อทำงานลายลูกไม้สีม่วงของลูกสะใภ้คนสวย ดึงรั้งชั้นในสีชมพูลงจนเต้านมใหญ่ขาวโพลนโผล่ออกมาอวดสายตา
"กินเลยสิคะ หนูยินดีจะเป็นของคุณพ่อค่ะ" เอวาเอ่ยขณะนั่งตักก้มหน้ามองเจ้าสัวผมหงอก เธอลูบหัวเขาด้วยมือซ้ายแล้วถอดแว่นตาออกด้วยมือขวา
จุ๊บ! จ๊วบ! พ่อผัวโยกหน้าอัดบดกับเต้าใหญ่ โยกหน้าอ้าปากคาบหัวนมดูด ขวาที ซ้ายที
อืม! อือ! "คุณพ่อได้เขียนพินัยกรรมรึยังคะ เรามาแก้พินัยกรรมกันดีไหม" เอวาเงยหน้าอ้าปากครางและลูบผมขาว ดันท้ายทอยพ่อผัวเข้าหาตัวจนหน้าเขาบดอัดเต้านบบุบบู้บี้
"อืม! จุ๊บ! ก็ดีนะ พ่อจะทำมันขึ้นใหม่ หนูเอวาอยากได้อะไรก็ขีดๆเขียนๆลงไปเลย ดีไหมลูก"
"เลิกเรียกหนูว่าลูกได้แล้วค่ะ"
"เมียอยากได้อะไรบ้างหละ หึ! ๆ"
"ก่อนอื่น หนูอยากได้เจ้านี่ค่ะ อยากลองนอกใจสามีบ้าง" เอวาตอบแล้วล้วงมือลงไปกำบีบแท่งรักคุณพ่อจนเป้ากางเกงยับคามือ
"อือ! มันแข็งแล้ว หึ! ๆ มันใช้งานไม่ได้มาตั้งนานแล้วนะ แข็งเฉย ฮ่า! ๆ ๆ ๆ" เจ้าสัวหัวหงอกหัวเราะเสียงดังลั่น
หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน
นางเอกเปิดสำนักไถ่บาป สร้างลัทธิหลอกลวงผู้คนให้บริจาคเงิน แถมยังใช้ร่างกายที่สวยและสาวยั่วยวนเหล่าคนรวยบ้าตัญหาจนยอมเปย์ให้ทุกอย่าง นอกเหนือจากนั้นยังยั่วสวาทเหล่าหนุ่มวัยรุ่นชายฉกรรจ์ให้มาเป็นสมุนรับใช้งานต่างๆ เพื่อแลกกับการได้สัมผัสกับร่างกายอันไร้ที่ติของศาสดาสาว
กระต่ายถูกเก็บมาเลี้ยงในตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทว่าเธอกลับพลาดพลั้งไปมีอะไรกับพี่ชาย พอน้องเห็นเข้าก็แบล็คเมล์เธออีก ไปๆมาๆก็โดนคุณปู่ด้วยอีกคน ในไม่ช้าก็คงไม่พ้นพ่อเลี้ยง สรุปแล้วผู้ชายทั้งบ้านโดนเด็กสาวคนเดียวที่เก็บมาเลี้ยงกินตับจนหมด เธออยากได้อะไรก็ต้องให้ เธออยากไปไหนก็ต้องตามใจ เพราะทุกคนต่างก็คลั่งรักเด็กสาวที่ทั้งสวยและสดใส
นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน
เอรีนคือเจ้าหญิงจากต่างแดนที่อพยพมาลงหลักปักฐานที่เมืองใหญ่ หลังการปฏิวัติตระกูลของเธอก็เปลี่ยนจากราชวงศ์มาเป็นมาเฟียแทน นับแต่นั้นมาเจ้าหญิงที่สวยใสจึงกลายเป็นเจ้าหญิงมาเฟียสายโหด ดุ หื่น และเอาแต่ใจ เรียกได้ว่าชอบผู้ชายคนไหนก็สั่งลูกน้องให้อุ้มมาขืนใจได้ทั้งหมด....
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀