นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
นางเอกถูกสามีนอกใจแต่กลับแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เธอยอมเป็นเมียโง่เพื่อที่ได้แอบกินตับกับพ่อผัว ลูกเลี้ยง หลานชาย และคนสวนในบ้าน สรุปแล้วเธอเสียสามีไปแค่คนเดียว แต่กลับได้ชู้ในบ้านเพิ่มเป็นสิบๆคน
ถ้าเมียร่าน เมียขอโทษ
ตอน โดนผัวนอกใจเลยวิ่งใส่คุณพ่อ
ตอนสายวันจันทร์ คุณนายสาววัยสามสิบกลางกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงโซฟารับแขก หล่อนมีรูปร่างอิ่มอวบแต่ไม่ดูตันหรืออวบมากเพราะมีช่วงขายาว และแขนเรียว ใบหน้าอิ่มรูปแก้มโต ปากนิดจมูกหน่อย คางงอนสวย
แป๊ก! ๆ ๆ มือน้อยรัวพิมพ์ดีดลงบนคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ครุ่นล่าสุด ดวงตากลมโตกวาดมองบัญชีรายรับของรีสอร์ทต่างๆของคุณพ่อสามีสลับกับมองหน้าจอ
บนผนังห้องรับแขกของบ้านหรูมีรูปสามีและลูกๆอีกสองคน กับหลานชายและพ่อสามี มีสาวสวยหน้าคมนมโตยืนอยู่ตรงกลาง
ถึงแม้เอวาจะมีอายุสามสิบแล้วแต่เธอก็ยังไม่เคยมีลูกจริงๆ เธอเป็นภรรยาคนที่สองของโอภาส สามีที่แก่กว่าถึงเก้าปี ลูกติดจากโอภาสกับสามีเก่าชื่อว่า แทนและไทย แทนเป็นคนโตเรียนมหาลัยปีสี่ ไทยเป็นน้องเล็กเรียนปีสอง ยังมีหลานชายที่เป็นลูกของน้องสาวสามีชื่อว่าอานน เขาอายุ18ปี
ส่วนคุณพ่อสามีชื่อวสินท่านอายุ65ปี ถึงจะเกษียณแล้วแต่มีทรัพย์สมบัติมากมาย เป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่ง และยังมีรีสอร์ทอีกเป็นสิบๆที่ซึ่งจ้างคนบริหารให้ ส่วนลูกชายก็บริหารโรงงานทอผ้าต่อจากท่าน
และเหตุนี้เองที่คุณนายสาวสวยอย่างเอวาต้องมานั่งทำบัญชีรายรับจนมือหงิกมืองอให้พ่อสามีตั้งแต่เช้า ท่านไม่ค่อยไว้ใจใครเลยจึงไหว้วานภรรยาของลูกชายให้ช่วยดูแลเรื่องเงินๆทองๆ
บรืน! ๆ เสียงรถsuvแล่นมาจอดหน้าบ้าน ชายหนุ่มสองคนในชุดคลุมดำแขนยาวเดินเข้ามาเคาะประตูห้องรับแขกเพื่อพบคุณนายตามเวลานัดหมาย
"เข้ามาเลยค่ะ" เอวาขานรับ
"ขออนุญาตนะครับ ๆ" สองหนุ่มนักสืบเอกชนโค้งคำนับก่อนจะเปิดประตูกระจกบานเลื่อนเข้ามา ท่วงทีของพวกเขาบ่งบอกเลยว่าคนในตระกูลผู้ดีนี้ได้รับความเคารพจากสังคมมากเพียงไหน
"นั่งเลยค่ะ ว่ามา" คุณนายคนสวยเอ่ยบอกสองหนุ่มโดยที่เธอยังไม่ละสายตาจากจอคอม มือข้างนึงพิมพ์เลข อีกข้างยกแก้วน้ำส้มคั้นมาจิบ
"คือ คุณโอภาสมีเมียน้อยจริงๆครับ" นักสืบคนแรกตอบ
"ว่าแล้ว" เอวาพึมพำโดยไม่สะทกสะเทือนใจใดๆ
"เขามีสามคนครับ คนแรกเป็นเลขา คนที่สองเป็นดารา อีกคนเป็นนักศึกษา เพิ่งซื้อบ้านให้เมื่อเดือนก่อนครับ" นักสืบคนที่สองเอ่ย
เพล๊ง! แก้วน้ำส้มหลุดมือร่วงลงไปแตกเกลื่อนพื้น "คุณครับ คุณเอวา" สองหนุ่มรีบก้มคลานลงมาเก็บเศษแก้วที่อาจบาดเท้าคุณนายคนสวย
อึก! เอวายังสะอื้นในอก จากทีแรกที่มีแผนจะฟ้องเมียน้อย ตอนนี้กลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นต่อเสียแล้ว เธอเป็นรองสาวๆพวกนั้นมาก
"แผนอาจต้องเปลี่ยนไป"
"อะไรนะครับ" สองหนุ่มเงยหน้าถาม
"อ้อ! เปล่าค่ะ คุณวางหลักฐานไว้แล้วไปได้เลยค่ะ ค่าจ้างจะโอนภายในวันนี้นะคะ ขอบคุณมาก"
"ครับ ๆ" สองหนุ่มกอบเศษแก้วใส่กำมือแล้วก้มหน้าโค้งคำนับสาวสวยที่ผิวกายขาวโพลนเหมือนไม่เคยโดนแสงแดดเลย พวกเขาทิ้งซองรูปหลักฐานการพบกันของโอภาสกับเมียน้อยทั้งสามคนเอาไว้ พร้อมเบอร์ติดต่อและที่อยู่พวกหล่อนทั้งหมด
คุณนายเอวานั่งกุมขมับอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง เธอรู้ว่าหากฟ้องเมียน้อยสามีต้องเลือกที่จะหย่ากับเธอแล้วไปเเต่งกับเด็กๆพวกนั้นคนใดคนนึงแน่นอน
อีกทางนึงหากเธอกล้าตัดรักกับสามีและฟ้องหย่า ทรัพย์สินเงินทองก็ได้จากเขาไม่ถึงร้อยล้าน เพราะส่วนใหญ่เป็นของท่านวสิน พ่อของสามีเธอนั่นเอง ตัวสามีทำหน้าที่เพียงผู้บริหารโรงงานทอผ้า แต่เจ้าของมรดกที่ดินหลายพันล้านกับรีสอร์ททั่วทุกภาคเป็นคุณพ่อที่เคารพรัก ยังไม่นับรวมกับบ้านหลังนี้ รถหรูต่างๆและสร้อยแหวนเงินทอง เครื่องเงินโบราณที่วางโชว์เต็มบ้าน
"เป็นอีโง่ของสามีก็ไม่เลวเท่าไร ฮิ"
ว่าแล้วคุณนายสาวสวยก็ลุกออกจากห้อง เดินขึ้นบันไดวนสีทองมายังชั้นสี่ของบ้านแล้วเคาะประตูบานไม้ที่สลักลายมังกรน่าเกรงขาม
ก๊อก! ๆ ๆ "คุณพ่อคะ ตื่นรึยังคะ"
"เปิดเข้ามาเลย หนูเอวา"
เสียงชายแก่ที่ฟังดูใจดีขานตอบกลับมา เท่าที่เอวาจำได้ท่านก็รักและเมตตากับเธอเสมอมา ตั้งแต่แต่งเข้ามาร่วมบ้านวันแรกจวบจนวันนี้ท่านวสินยังเรียกเธอว่าหนูตลอดมาไม่เคยเปลี่ยน ทุกเดือนยังให้เงินเดือนใช้เพราะตอบแทนกับที่เธอช่วยทำบัญชี และทุกปีก็มักจะมีของขวัญวันเกิดชิ้นโตให้เมียลูกชายคนนี้ตลอด
"อ้าว! คุณพ่อตื่นนานแล้วเหรอคะ ไม่เรียกหนูล่ะ จะได้ชงกาแฟให้"
เอวาเอ่ยขณะเดินเข้ามาข้างหลังเจ้าสัวที่กำลังก้มหน้าส่องพระอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง เขามีผมขาวและสวมแว่นตา หน้าเหมือนคนเชื้อสายจีน ผิวขาวเหลือง
"รบกวนหนูเปล่าๆ มีอะไรพ่อเรียกคนใช้เอาได้" ท่านวสินตอบโดยไม่หันมองมา ตายังจ้องกล้องส่องพระเครื่องในมือ ตัวพระเก่าแก่และมีราคาถึงแปดหลัก
"ทำอะไรคะ" จู่ๆเมียลูกชายก็เดินเข้ามากอดคอพ่อผัวจากข้างหลัง ด้วยท่าก้มโค้งลงมาแบบนั้นทำให้เต้าใหญ่เท่าหัวเด็กอัดกับท้ายทอยคุณพ่อจนเขาสะดุ้งหน้าสั่น
"หนูเอวา มีอะไรเร่งด่วนงั้นรึ" คุณพ่อสามีเหลียวหลังเงยหน้าถามอย่างงงใจ
"ไม่มีอะไรค่ะ" เอวายิ้มยิงฟันขาวแล้วเดินอ้อมเก้าอี้มายืนหน้าคุณพ่อ ทิ้งตูดงอนใหญ่ลงมานั่งบนตักของท่านแล้วบดหลังกับหน้าอก หล่อนดึงแขนพ่อผัวให้มาโอบกอดเธอแล้วห่องอตัวเล็กอยู่ในอ้อมกอดของเขาเหมือนลูกสาวแท้ๆ
"อูย! หนูเอวา ทำแบบนี้พ่อว่ามันไม่งามเท่าไรนะ"
"กลัวอะไรคะ คุณพ่อกลัวคุณโอภาสรู้เหรอคะ"
"ก็นั่นน่ะซิ" ท่านวสินตอบเสียงสั่นเมื่อโดนตูดงอนนุ่มบดตักจนเป้ากางเกงพอง เลือดหนุ่มสูบฉีดพล่านในรอบยี่สิบปี ใบหน้าขาวตี๋แบบคนจีนแก่ๆมีเลือดฝาดขึ้นจนแดงก่ำ
"หนูไม่ให้สามีรู้หรอกค่ะ เออ! แต่รู้ก็ดีนะคะ คุณพ่อก็รู้ว่าเขาสมควรโดนนอกใจบ้าง" เอวาตอบแล้วดึงหลังมือของคุณพ่อขึ้นมาลูบแก้มนุ่มๆที่เย็นฉ่ำของตัวเอง
"หนูรู้แล้วเหรอ" คุณพ่อตกใจ
"คิดว่าคนฉลาดแบบหนูจะไม่รู้เหรอคะ ว่าสามีนอกใจ" อาวาตอบแล้วดึงมืออีกข้างของพ่อผัวขึ้นมากำเต้าซ้ายตัวเอง
"หนูรู้นะว่าลูกพ่อเจ้าชู้ แต่หนูจะแอบเงียบไว้ หนูไม่อยากอย่าออกไปจากตระกูลนี้ หนูจะแอบนอกใจเขาบ้าง"
"อูย! แล้วหนู หนูเอ เอวาจะทำกับใครล่ะ นอกใจน่ะ"
"กับคุณพ่อไงคะ" สุดสวยบิดเอวหันข้างแล้วเหลียวหลังมาก้มสบตาพ่อผัว
"หือ! จะดีหรือ" คุณพ่อเงยมองใบหน้าอิ่มสวยของเมียลูกชาย เขาตัวสั่นและอยู่ในสภาพเหงื่อตกชุ่มผ้า
"ดีสิคะ หนูไม่ได้มีชู้นอกบ้านซะหน่อย บีบนมหนูสิคะ" เอวาเอ่ยและดึงสองมือของพ่อผัวมากุมเต้านมซ้ายขวา แถมยังเอามือเล็กๆกุมมือใหญ่ของเขาแล้วบีบบังคับให้ฟัดนมของเธอจนเสื้อยับ
"คุณพ่อโกรธที่ควบคุมลูกชายไม่ได้อย่างใจใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นโกรธเขาเท่าไรก็บีบนมหนูให้แรงเท่านั้นได้เลยค่ะ"
"หนูดีใจนะคะที่คุณพ่อแคร์จิตใจหนู เพราะรู้ว่าลูกชายมีชู้แต่ก็เก็บไว้และไม่บอกหนู พ่ออยากให้หนูอยู่กับทุกคนอย่างมีความสุข ใช่ไหมคะ"
"หนูสวยและฉลาดจริงๆ เอวา" คุณพ่อเอ่ยและก้มดมลำคอขาวที่ยาวระหงส์ สูดกลิ่นน้ำหอมและกลิ่นกายชุ่มเหงื่อของสาวรุ่นลูกรุ่นหลานเข้าเต็มปอดจนรู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย
"ที่พ่อไม่โอนมรดกอะไรให้โอภาสเลยก็เพราะเรื่องนี้แหละ มันเจ้าชู้ ชอบหลอกลวง ไม่ขี้โกงแต่ก็หัวทึ่มไม่ฉลาดทันคน นี่ถ้าหนูเป็นลูกสาวพ่อนะเอวา พ่อยกทุกอย่างให้ไปแล้ว"
เจ้าสัวเอ่ยพลางเฟ้นฟัดเต้านมใหญ่จนเสื้อทำงานเมียลูกยับคามือ
"เป็นลูกไม่ได้ งั้นให้หนูเป็นเมียคุณพ่อดีไหมคะ เป็นลับๆรู้กันแค่สองคน ฮิ! ๆ"
"อ่าส์! รู้ใจพ่อที่สุดเลย ไหนหันมานี่มา" คุณพ่อเอ่ยแล้วประคองร่างอิ่มอวบนุ่มนิ่มหันมามองหน้ากัน
แคว่ก! ๆ เขาฉีกเสื้อทำงานลายลูกไม้สีม่วงของลูกสะใภ้คนสวย ดึงรั้งชั้นในสีชมพูลงจนเต้านมใหญ่ขาวโพลนโผล่ออกมาอวดสายตา
"กินเลยสิคะ หนูยินดีจะเป็นของคุณพ่อค่ะ" เอวาเอ่ยขณะนั่งตักก้มหน้ามองเจ้าสัวผมหงอก เธอลูบหัวเขาด้วยมือซ้ายแล้วถอดแว่นตาออกด้วยมือขวา
จุ๊บ! จ๊วบ! พ่อผัวโยกหน้าอัดบดกับเต้าใหญ่ โยกหน้าอ้าปากคาบหัวนมดูด ขวาที ซ้ายที
อืม! อือ! "คุณพ่อได้เขียนพินัยกรรมรึยังคะ เรามาแก้พินัยกรรมกันดีไหม" เอวาเงยหน้าอ้าปากครางและลูบผมขาว ดันท้ายทอยพ่อผัวเข้าหาตัวจนหน้าเขาบดอัดเต้านบบุบบู้บี้
"อืม! จุ๊บ! ก็ดีนะ พ่อจะทำมันขึ้นใหม่ หนูเอวาอยากได้อะไรก็ขีดๆเขียนๆลงไปเลย ดีไหมลูก"
"เลิกเรียกหนูว่าลูกได้แล้วค่ะ"
"เมียอยากได้อะไรบ้างหละ หึ! ๆ"
"ก่อนอื่น หนูอยากได้เจ้านี่ค่ะ อยากลองนอกใจสามีบ้าง" เอวาตอบแล้วล้วงมือลงไปกำบีบแท่งรักคุณพ่อจนเป้ากางเกงยับคามือ
"อือ! มันแข็งแล้ว หึ! ๆ มันใช้งานไม่ได้มาตั้งนานแล้วนะ แข็งเฉย ฮ่า! ๆ ๆ ๆ" เจ้าสัวหัวหงอกหัวเราะเสียงดังลั่น
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
โกนัมจุนคือคนดีที่ตายแล้วได้เกิดเป็นยมฑูต มีหน้าที่สังหารคนเลวที่ถึงคราวต้องตายเพื่อเอาวิญญาณมันไปลงโทษในนรก และรับวิญญาณคนดีที่เสียชีวิตเพื่อส่งขึ้นสวรรค์ เขามีพี่เลี้ยงยมฑูตรุ่นพี่ชื่อเด็กหญิงจีวอน เธอเป็นเด็กแปดขวบมาร้อยปีแล้วและไม่โตขึ้นอีกเลย
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"
หยางซูมี่บุตรีคนโตแห่งจวนเสนาบดี จำต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายาของอ๋องทมิฬตามบัญชาของฮ่องเต้แต่ในเมื่อนางแต่งเข้ามา สามีเฉยชา ไม่สนใจนาง ทั้งยังแต่งชายารองเข้ามา ทำไมนางต้องเอาชีวิตไปผูกกับเขาด้วย
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด