เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
นันทวดีพยายามแกะมือของเพื่อนชายที่ลวนลามเธอออก เพื่อนของเธอนัดเธอออกมากินข้าวที่ร้านกึ่งผับ แต่เพื่อนกลับโทร. มาแจ้งว่ารถติดยังมาไม่ถึง เธอจึงนั่งรอไปก่อน วิทวัสที่เป็นเพื่อนอีกคนจึงเดินมานั่งคุยด้วย แต่อีกฝ่ายกลับทำไม่ดีไม่ร้ายเธอ
“นี่ปล่อยนะ!”
“เล่นตัวไปได้” วิทวัสไม่สน จะล้วงมือเข้าไปในร่มผ้าของนันทวดีท่าเดียว แม่เลี้ยงของอีกฝ่ายขายหล่อนให้เขาแล้ว เขาก็มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้
“โอ๊ย!” วิทวัสร้องด้วยความเจ็บเมื่อนันทวดีเอาขวดเครื่องดื่มที่เธอสั่ง ฟาดลงบนศีรษะของเขาเต็ม ๆ แรง
“ไอ้ลามก!” เธอผลักเขาออกก่อนจะวิ่งหนีออกมาแบบไม่คิดชีวิต เธอวิ่งไปตามถนนด้วยความรู้สึกอ่อนล้า เม็ดเหงื่อไหลซึมไปทั่วใบหน้าและตามเนื้อตามตัว
ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
ร่างของเธอถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งของใครบางคน เธอหันไปหา ก่อนที่จะหอบหายใจออกมาอย่างรุนแรง
“อาเอง” เสียงทุ้มนุ่มหูแสนคุ้นเคยนั้นทำให้นันทวดีโผเข้ากอดร่างสูงอย่างไร้สติ
“ทำไมถึงมีสภาพเป็นแบบนี้!” เสียงดุเข้มเอ่ยถาม พีรณัฐรีบประคองเพื่อนหลานสาวไปที่รถอย่างรวดเร็ว
“ช่วยด้วยค่ะอาพีร์” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงร้อนรน มือบางลูบไล้สะเปะสะปะไปตามเนื้อตัวของเขา
“อย่าซนสิ” พีรณัฐทำเสียงดุใส่แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมหยุด เขารู้ว่าเธอโดนวางยาจึงรีบพาเธอไปที่ห้องพักส่วนตัวโดยด่วน
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อนันทวดีรุกหนักจนพีรณัฐไม่ทันตั้งตัว จึงทำให้ทั้งสองมีค่ำคืนที่แสนวาบหวามด้วยกัน
นันทวดีตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงของพีรณัฐ เขาเองก็กำลังนอนมองเธออยู่ก่อนแล้ว
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว นี่เธอมานอนไร้เสื้อผ้าอยู่บนเตียงเดียวกับอาของเพื่อนสาวคนสนิทได้อย่างไรกันนะ
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงของเขาไม่ได้เข้มดุเหมือนทุกครั้ง แต่ก็ไม่ได้อ่อนโยนหวานหูเช่นเดียวกัน
ประโยคคำถามง่าย ๆ นั้น ทำเอาเธอต้องกำจิกผ้าห่มแน่น ได้แต่มองเขาตาปริบ ๆ ด้วยความรู้สึกมึนงงไม่หาย
“เมื่อคืน...” เธอพูดได้แค่นั้นก่อนจะรำลึกถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แล้วก็ต้องตาโตอ้าปากค้างอีกรอบ
“เมื่อคืนเธอโดนวางยา เดินสะเปะสะปะอยู่ข้างถนน ดีที่ไม่โดนผู้ชายลากไปรุม” ประโยคของเขาอาจจะดูโหดร้ายแต่มันคือเรื่องจริงล้วน ๆ
เขาช่วยเธอเอาไว้ แต่เธอดันเสียตัวให้เขานี่นะ
“วดี เอ่อ... วดี” เธออึกอักไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรก่อนดี
“หิวหรือยัง” เขาขยับตัวอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะลุกจากเตียง เธอหลับตาปี๋เพราะเขาอยู่ในสภาพล่อแหลม แต่พอแอบดูก็เห็นว่าเขาหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่เรียบร้อยแล้ว
“วดีต้องขอบคุณอาพีร์ไหมคะ” เธออยากจะเขกหัวตัวเองจริงๆ ที่ถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนั้นออกไป
“ถ้าไม่อยากขอบคุณก็ไม่เป็นไร อาไม่ชอบบังคับจิตใจใคร”
“เอ่อ... ค่ะ”
“อาสั่งอาหารเอาไว้ให้แล้ว คิดว่าวดีคงจะหิว เพราะเมื่อคืนเราเปลืองแรงไปเยอะ” ประโยคราบเรียบของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์อันใด แต่กลับทำให้เธอหน้าแดงร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู มันบ่งบอกว่าเธอกับเขาทำอะไรกันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา
จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนนี่ อยากจะตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ นัก
“อาให้คนไปจัดการคนที่วางยาวดีให้แล้วนะ”
“อาพีร์รู้เหรอคะว่าใคร”
“รู้สิ อาอยู่ในร้านนั้นด้วย จนเห็นเธอเดินโซซัดโซเซออกมา เลยรีบตามมาช่วย”
“วดีตีหัววัสเต็ม ๆ เลย น่าจะหัวแตกหรือตายไปแล้ว”
“ไม่ต้องกลัว ร้านนั้นเป็นของเพื่อนอา เขาไม่มีทางมาเอาผิดอะไรวดีได้แน่นอน”
“ขอบคุณค่ะ” ครั้งนี้เธอขอบคุณเขาจริงๆ วิทวัสมีพ่อแม่รวยจึงเอาแต่ใจตัวเองและใช้เงินมือเติบ เลี้ยงเพื่อนฝูง มีพรรคพวกมากมาย ในขณะที่เธอหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีเงิน ไม่มีพรรคพวกเหมือนอีกฝ่าย ถ้าเขาจะเอาเรื่องขึ้นมาเธอคงเดือดร้อนแน่ ดีที่พีรณัฐยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“อาบน้ำแล้วไปกินข้าวกินปลาเสียก่อน จะได้คุยกัน”
“คุยกันเหรอคะ” เธอทำหน้าตาแตกตื่น
“ทำไม ไม่อยากคุยกับอาเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ แต่ถ้าอาพีร์จะคุยเรื่องที่ต้องรับผิดชอบวดี ไม่ต้องก็ได้นะคะ มันเป็นอุบัติเหตุ”
“ไม่อยากให้รับผิดชอบงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ” เธอพูดอย่างหนักแน่น
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมากินข้าวกัน” เขาตัดบท
“ค่ะ อุ๊ย!” พอลุกจากเตียงเธอก็ต้องร้องด้วยความเจ็บ ร่างแทบทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น พีรณัฐรีบตวัดอุ้มร่างของเธอขึ้นจากพื้น
“อุ๊ย!” อุทานอีกรอบก่อนที่จะคล้องคอหนาเอาไว้ได้ทันท่วงที
“เดี๋ยวอาอุ้มไปส่งที่ห้องน้ำ คิดว่าน่าจะเดินไม่ไหว” สัมผัสอ่อนโยนของเขาทำให้เธอถึงกับเผลอไผลไปกับความใส่ใจนั้น แต่ประโยคของเขานี่สิ ทำเธอหน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหู
เขาวางเธอให้เหยียบยืนบนพื้นห้องน้ำ ก่อนจะถอยออกไปจากห้องน้ำ ไม่ทำให้เธอต้องอึดอัดใจ
หัวใจของนันทวดีเต้นแรงราวกลองเพล ความรู้สึกที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายที่แอบรักมันเป็นแบบนี้นี่เอง
เธอยืนมองตัวเองหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ด้วยใบหน้าแดงก่ำเขินอาย เธอไม่อยากทำให้เขาต้องอึดอัดใจ
เธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขามานานหลายปี แต่เขาไม่อยากหมั้นและแต่งงานกับเธอ เขามีคนที่รักอยู่แล้ว เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน บิดามารดามาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เธอไร้ที่พึ่งพิง ในเมื่อเขาไม่รักใคร่ไยดี เธอก็พร้อมถอยห่าง แต่เขากลับตามติดไม่ยอมให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา
เขาเจอเธอเมื่อวันก่อน ทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที เขาได้เจอเธออีกครั้งในสภาพบาดเจ็บและความจำเสื่อม โดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงเธอคือคู่หมั้นวัยเด็กของเขา แต่เพราะเขาตกหลุมรักเธอ จึงโกหกเธอไปว่าเขาคือสามี!
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด