งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
สีหน้าบึ้งตึงของเจ้าบ่าวทำให้ณัฐชาแอบยิ้มขำในใจ
คนบ้าอะไรทำหน้าเหมือนตูด!
เธอแอบนินทาโดยไม่ให้เขารู้
“อุ๊ย!” ณัฐชาไม่ทันตั้งตัว มือหนาก็ดึงมือของเธอไปจับเอาไว้เต็มแรง ก่อนจะสวมแหวนให้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีความอ่อนโยนเอาเสียเลย ชิ!
ถ้าไม่เพราะมารดาของเธอป่วยหนักและต้องการเห็นเธอเป็นฝั่งเป็นฝาล่ะก็ เธอไม่มีทางแต่งงานกับเขาหรอก
เธอกับเขาไม่ได้คบหาดูใจกันด้วยซ้ำ ผู้ใหญ่เป็นคนจัดการให้ แถมเขายังมีอดีตรักฝังใจ เคยอกหักรักคุดมาก่อน เลยไม่คิดที่จะรักผู้หญิงคนไหนอีก
ไม่รักก็ไม่รักสิ เธอเองก็จะไม่ได้รักเขาเหมือนกัน แต่งงานให้มารดามีความสุขในบั้นปลายชีวิตเพราะท่านเป็นโรคร้าย หลังจากนั้นเธอจะเป็นฝ่ายขอหย่าขาดจากเขาเอง ไม่รอให้เขาขับไล่ไสส่งแน่นอน
อีกเหตุผลหนึ่ง ไม่ใช่เพราะมารดาป่วยอย่างเดียว แต่เธออยากหนีจากแฟนเก่าที่นอกใจไปคบหากับเพื่อนของเธอ เขาตามมางอนง้อขอคืนดี เพราะเห็นว่าเธอไม่มีใคร แถมยังยกหางตัวเองอีกว่าเธอยังรักเขามาก จนไม่คิดมีใคร เธอเลยแต่งงานกับจิณณ์ให้เขาได้เห็นว่า เธอก็มีผู้ชายที่ดีให้แต่งงานเหมือนกัน ไม่ได้จะรอเขาเสียหน่อย
จิณณ์เป็นเศรษฐีที่ดิน และยังเป็นที่นับหน้าถือตาแถมยังมีที่ดินติดอยู่กับคีรีอีก การทำให้คีรีกระอัก
การจะเอาคืนคีรีนั้น ก็ต้องแต่งงานกับคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง และไม่กินเส้นกันนี่แหละ ถึงจะทำให้อีกฝ่ายดิ้นได้
ณัฐชาหยิบแหวนขึ้นมาเพื่อจะสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขา เธอยิ้มหวานให้เขา ค่อย ๆ สวมแหวนให้ด้วยท่าทีอ่อนโยน ทำให้จิณณ์ไม่ได้ระแวงว่าเธอจะเอาคืน จนกระทั้งเธอยัดแหวนใส่นิ้วเขาเต็มแรงนั่นแหละ
จิณณ์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว ในขณะที่ณัฐชายิ้มหวานตอบกลับไป ก่อนจะขยับปากไปมาเบา ๆ ว่าทีใครทีมัน แม้จะไม่ออกเสียง แต่เขาก็อ่านปากเธอออก
ยายตัวแสบ! เขาขยับปากต่อว่าเธอ แต่ไม่มีเสียงเปล่งออกมา
สวมแหวนเสร็จก็เป็นการถ่ายรูปคู่และรูปรวม จิณณ์ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เขาดึงเธอมาจุมพิตเต็มเหนี่ยว
ณัฐชาตาโตตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรป่าเถื่อนเช่นนี้ พอเขาดึงเธอเข้ามาหาอีกรอบ เพราะตากล้องบอกว่าอยากได้ซีนหอมแก้มหวาน ๆ อีกหลาย ๆ รูป เธอก็กัดหูเขาเต็มแรง
“โอ๊ย!” จิณณ์ร้องเสียงหลง ไม่คิดว่าเธอจะเอาคืนเขาแบบนี้ และโดยไม่ทันตั้งตัว เธอบิดสีข้างเขาเต็มแรง
“โอ๊ย!” จิณณ์ร้องอีกครั้ง ทำเอาทุกคนขบขันกับท่าทีของเจ้าบ่าวเจ้าสาว พอบิดสีข้างเขาเสร็จ เธอก็ทำหน้าไร้เดียงสาว่าเขินอายที่โดนเขาจุมพิตเมื่อครู่
ฝากไว้ก่อนยายตัวแสบ เขาขยับปากไปมา เธออ่านปากเขาแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
พิธีแต่งงานเสร็จสิ้นก็เป็นพิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ ผู้ใหญ่ต่างอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีความสุข
“ย่าขอให้ลูกทั้งสองมีความสุขมากๆ นะจ๊ะ แล้วก็มีเหลนให้ย่าอุ้มไว ๆ” คุณย่าวรางคณาอวยพรด้วยรอยยิ้ม
“พ่อเองก็ขอให้ลูกมีความสุขมาก ๆ รักกันไปจนแก่เฒ่านะลูกนะ” ทรงสิทธิ์อวยพรให้ลูกสาว
“แม่ดีใจที่ลูกได้เป็นฝั่งเป็นฝากับคนดี ๆ อย่างพ่อจิณณ์เขา จิณณ์แม่ฝากน้องด้วยนะลูก” คนป่วยที่นั่งอยู่บนรถเข็นเพราะเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเอ่ยขึ้น
“ครับ” จิณณ์รับคำเพราะเห็นอาการป่วยของกานดา เขาเองก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจคนป่วย แต่ยายตัวแสบอย่างณัฐชาเขาไม่มีทางยอมให้เธอมาแกล้งอะไรเขาได้อีก
ครอบครัวของณัฐชาย้ายไปอยู่เมืองกรุง นาน ๆ จะกลับมาที่ไร่ที่อยู่ข้าง ๆ เขาสักที เขากับณัฐชาจึงไม่ได้สนิทสนมกันมาก นานๆ จะเจอกันสักที
ผู้ใหญ่ออกไปแล้วทั้งสองก็สะบัดหน้าใส่กัน ณัฐชาเองก็ลุกหนี ทำท่าจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคของเจ้าบ่าวในห้องหอ
“คืนนี้เธอไปนอนบนโซฟาโน่น ฉันไม่ชอบนอนกับคนอื่น มันอึดอัดนอนไม่หลับ”
“โหย... พี่จิณณ์นี่ช่างเป็นสุภาพบุรุษเสียจริงนะคะ ไล่ให้ชาไปนอนที่โซฟา ไม่คิดบ้างเลยเหรอคะว่ามันจะเมื่อยแค่ไหน”
“เรื่องของเธอ”
“พี่ลองไปนอนดูสิ”
“ถ้าไม่อยากเมื่อยก็นอนบนพื้น”
“พื้นก็แข็ง เย็นก็เย็น พี่แมนไหมถามจริง”
“งั้นพิสูจน์กันไหม ว่าฉันแมนรึเปล่า” จิณณ์เดินเข้าหา ทำเอาเธอต้องถอยหนี รีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหอบชุดนอนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
เข้ามาถึงห้องน้ำก็ได้แต่ยืนตาปริบ ๆ อยู่หน้ากระจกเงาบานใหญ่
เวรแล้วไง! รูดซิปชุดแต่งงานไม่ได้
“พี่จิณณ์ พี่จิณณ์คะ” เธอชะโงกหน้ามาเรียกเขาอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
“มีอะไร”
“รูดซิปด้านหลังให้หน่อยค่ะ รูดไม่ถึง”
“ไร้ยางอาย” ประโยคของเขาทำเอาเธออ้าปากค้างตาโต
“บ้าหรือไงพี่จิณณ์ จู่ ๆ มาด่ากันว่าไร้ยางอาย”
“ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหนมาอ่อยให้ผู้ชายรูดซิปให้”
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เมื่อคุณแม่มีสามีใหม่แตงโมและพี่ส้มโอก็ต้องเจอกับพ่อเลี้ยงสายหื่นไปโดยปริยาย แรกๆทุกคนก็อยู่กันมีความสุขดี ไปๆมาๆพี่สาวก็เสียตัวให้พ่อเลี้ยงสุดหล่อ หลังๆแตงโมก็คงไม่รอด ที่น่าแปลกใจคือทุกคนในบ้านหลงเค้าหัวปักหัวปำ ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงคนนี้มีอะไรดี ระหว่าง ความรวย ความหล่อ หรือลีลา ...
หลิวฉูฉู่นางเอกดังย้อนเวลากลับเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ตัวเองแสดง ทว่าเรื่องไม่ง่ายเลยสักนิด เมื่อเธอ ต้องเข้าไปอยู่ในร่างนางร้ายที่สุดท้ายต้องตายตอนจบเพราะถูกพระเอกฆ่าตาย! หลิวฉูฉู่จึงต้องทำทุกวิธีที่จะให้รอดพ้นจากความตายนี้ "ฝ่าบาท รักนะเพคะ" นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวสุขนิยม สายคลั่งรักไม่ควรพลาด ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านคลายเครียด นุบนิบหัวใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดวัน หมายเหตุ ซื้อในเวบถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY