รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
หนูนาในวัยสามสิบสองปี เป็นที่จับตาของผู้คนเสมอ ด้วยรูปร่างระหงสมส่วน ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับกลีบซากุระยามต้องแสงอาทิตย์ เรือนผมสีดำขลับยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นลำคอระหงและใบหน้าเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นฉายแววฉลาดเฉลียวและอ่อนโยน จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อ ยามเมื่อเธอแย้มยิ้ม จะปรากฏรอยบุ๋มเล็กๆ ที่แก้มทั้งสองข้าง สร้างเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างเป็นธรรมชาติ
วันนี้หนูนาสวมชุดสูทกระโปรงสีเทาอ่อน เนื้อผ้าเรียบลื่นเข้ารูปพอดีตัว เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวสะอาดตาถูกสอดไว้ด้านในอย่างประณีต กระโปรงทรงดินสอผ่าด้านหลังเล็กน้อย เผยให้เห็นเรียวขาสวยเมื่อยามก้าวเดิน รองเท้าส้นสูงสีดำขลับช่วยเสริมให้รูปร่างของเธอสง่างามยิ่งขึ้น เครื่องประดับมีเพียงต่างหูมุกเม็ดเล็กๆ และนาฬิกาข้อมือเรือนบางสีเงิน ดูเรียบง่ายแต่ก็บ่งบอกถึงรสนิยมที่ดี
ชีวิตภายนอกของหนูนากับภัทร สามีนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ ดูราวกับภาพวาดที่สมบูรณ์แบบ คอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง รถยนต์ราคาแพง และการเข้าสังคมในวงแคบๆ ที่ดูดี แต่ภายในห้องสี่เหลี่ยมที่พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกัน ความเงียบงันกลับเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างน่าอึดอัด ภัทรทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจจนแทบไม่มีเวลาให้หนูนา ความเอาใจใส่และความเสน่หาที่เคยมีในช่วงแรก กลับกลายเป็นความเคยชินและหน้าที่ ความโหยหาความรักและความเร่าร้อนในหัวใจของหนูนาจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่รอวันผลิบาน
ธนาคารสาขาที่หนูนาทำงานตั้งอยู่ในอาคารสูงใจกลางเมือง แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามาในห้องโถง ทำให้บรรยากาศดูสว่างและพลุกพล่าน พนักงานต่างทำงานกันอย่างขะมักเขม้น เสียงพูดคุยโทรศัพท์ เสียงพิมพ์เอกสาร และเสียงประกาศต่างๆ ดังคลอเคลียอยู่ตลอดเวลา รัฐ พนักงานรักษาความปลอดภัยหนุ่มในชุดเครื่องแบบสีกรมท่าเข้ม ยืนตระหง่านอยู่บริเวณประตูทางเข้า รูปร่างสูงโปร่งของเขาอยู่ในชุดที่รีดเรียบ ใบหน้าคมสันดูเคร่งขรึม แต่แววตาที่ทอดมองผู้คนที่เดินเข้าออกกลับดูสุภาพและระมัดระวัง
รัฐมีอายุย่างเข้าสามสิบปี ผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียดรับกับโครงหน้าคมสัน ดวงตาเรียวคมสีดำสนิทมักจะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ภายใต้รอยยิ้มบางๆ ที่นานๆ ครั้งจะปรากฏให้เห็น ไหล่กว้างและแผ่นหลังตรงของเขาบ่งบอกถึงความแข็งแรงและน่าเชื่อถือ หนูนาสังเกตว่ารัฐมักจะยืนประจำการอยู่บริเวณใกล้เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นจุดที่เธอต้องเดินผ่านอยู่เสมอ
ในวันที่วุ่นวาย หนูนาจะสังเกตเห็นรัฐคอยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและพนักงานด้วยความเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตู การให้ข้อมูล หรือแม้แต่การช่วยเหลือยกของหนัก แววตาที่เขามองมายังเธอในบางครั้ง มันมีความแตกต่างจากสายตาของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มันแฝงไปด้วยความชื่นชมอย่างเงียบๆ และความใส่ใจที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
บ่ายวันหนึ่ง ฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงกลางวัน ทำให้ลูกค้าในธนาคารบางตา หนูนาต้องอยู่เคลียร์เอกสารสำคัญที่โต๊ะทำงานของเธอจนเย็นย่ำ แสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว เหลือเพียงแสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สีขาวสว่างจ้าในห้องทำงาน รัฐเป็นยามที่เข้าเวรดึกในคืนนั้น เดินตรวจตราความเรียบร้อยของธนาคารเป็นระยะ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของเขาดังแว่วมาในความเงียบ
เมื่อรัฐเดินผ่านโต๊ะทำงานของหนูนา เขาลดความเร็วในการเดินลงเล็กน้อย หันมาสบตาเธอด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
"เลิกงานดึกนะครับคุณหนูนา ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหมครับ?" น้ำเสียงทุ้มนุ่มของเขากระซิบแผ่วเบา ท่าทางสุภาพและเป็นห่วงเป็นใยนั้น ทำให้ความรู้สึกเหงาในใจของหนูนาจางหายไปเล็กน้อย
"ค่ะ ใกล้เสร็จแล้วค่ะคุณรัฐ ขอบคุณมากนะคะที่ยังอยู่" หนูนาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มหวาน ดวงตาของเธอสบกับดวงตาคมเข้มของรัฐนานกว่าปกติ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านระหว่างกัน
"ยินดีเสมอครับ ถ้าต้องการอะไรเรียกผมได้เลยนะครับ" รัฐพูดจบก็เดินจากไป ทิ้งให้หนูนาอยู่กับความเงียบสงัดอีกครั้ง แต่ความรู้สึกอบอุ่นที่เขาเพิ่งมอบให้ยังคงอบอวลอยู่รอบตัวเธอ หนูนาเหม่อมองไปยังแผ่นหลังกว้างของรัฐที่เดินห่างออกไป แสงไฟสีขาวสว่างจ้าสะท้อนกับเครื่องแบบสีกรมท่าของเขาเป็นเงาเข้มยาวบนพื้น ความรู้สึกบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของหนูนาเริ่มก่อตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ... ความรู้สึกที่อันตรายและเย้ายวนใจ
แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ยังคงส่องสว่างจ้าในห้องทำงานของหนูนา นิ้วเรียวยาวของเธอยังคงพิมพ์เอกสารบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว แต่ความคิดกลับล่องลอยไปยังร่างสูงสง่าของยามหนุ่มที่เดินตรวจตราอยู่ด้านนอก ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยที่รัฐมอบให้เมื่อครู่ยังคงอบอวลอยู่ในความทรงจำ ราวกับสัมผัสที่แผ่วเบาแต่กลับลึกซึ้ง
เวลาล่วงเลยไปอย่างเชื่องช้า จนกระทั่งเอกสารกองสุดท้ายถูกจัดเก็บเข้าแฟ้ม หนูนาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก มองนาฬิกาข้อมือเรือนบาง บอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว เธอเก็บของบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย สะพายกระเป๋าถือหนังสีดำ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงาน
ห้องโถงธนาคารในยามดึกสงัดวังเวงกว่าที่คิด แสงไฟถูกหรี่ลงจนเหลือเพียงแสงสลัวตามทางเดินและบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เสียงฝีเท้าของหนูนาดังสะท้อนก้องกังวานในความเงียบ ร่างสูงของรัฐยืนอยู่บริเวณประตูทางออกด้านหน้า มองตรงไปยังความมืดมิดภายนอก
เมื่อเห็นหนูนาเดินออกมา รัฐหันกลับมายิ้มให้เธออีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้ดวงตาคมของเขาดูอ่อนโยนลงอย่างน่าประหลาด
"เสร็จแล้วเหรอครับคุณหนูนา ให้ผมไปส่งที่รถไหมครับ?" รัฐเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
"ขอบคุณมากค่ะคุณรัฐ แต่รถจอดอยู่ในที่จอดรถของธนาคาร ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ" หนูนาตอบกลับไป แต่ในใจกลับรู้สึกเสียดายที่ช่วงเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาใกล้จะสิ้นสุดลง
"ถ้าอย่างนั้น... เดินทางปลอดภัยนะครับ" รัฐกล่าวลา
"ขอบคุณค่ะ คุณรัฐก็ดูแลความปลอดภัยด้วยนะคะ" หนูนาตอบกลับไป ก่อนจะหันหลังเดินไปยังประตูทางออก แต่แล้วเธอก็ชะงักเท้า หันกลับมาหารัฐอีกครั้ง
"เอ่อ... คุณรัฐคะ คือว่าลิฟต์มันปิดให้บริการแล้วหรือเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นไม่แน่ใจ
รัฐขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยความสุภาพ "ครับคุณหนูนา ลิฟต์ปิดให้บริการหลังสี่ทุ่มครับ ถ้าอย่างนั้นคุณหนูนาต้องใช้บันไดหนีไฟ..." เขาผายมือไปยังประตูสีเขียวทึบที่อยู่สุดทางเดิน
"อ๋อ... ค่ะ" หนูนาตอบรับเบาๆ แต่ในใจกลับเต้นระรัวอย่างควบคุมไม่ได้ เธอเดินไปยังประตูบันไดหนีไฟ เปิดออกแล้วก้าวเข้าไปด้านใน ความมืดและกลิ่นอับชื้นปะทะเข้ามาเล็กน้อย แสงไฟสีส้มจากหลอดไฟฉุกเฉินส่องสว่างเป็นระยะตามขั้นบันได
หนูนาค่อยๆ ก้าวเท้าลงบันไดทีละขั้น เสียงส้นสูงสีดำกระทบกับพื้นปูนดังเป็นจังหวะเงียบๆ ความเงียบและความเปลี่ยวทำให้เธอรู้สึกใจหวิวอย่างประหลาด
ขณะที่เธอกำลังจะเดินลงไปถึงชั้นล่าง เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังขึ้นมาจากด้านหลัง หนูนาหันกลับไปด้วยความสงสัย แสงไฟสลัวๆ ทำให้เธอเห็นร่างสูงของรัฐกำลังก้าวลงบันไดตามมา
"คุณรัฐคะ มีอะไรรึเปล่าคะ?" หนูนาถามด้วยความแปลกใจ
รัฐเดินลงมาจนถึงขั้นเดียวกับเธอ ยืนประจันหน้ากันในแสงไฟสลัวๆ ดวงตาคมของเขาจ้องมองมาที่ดวงตาของหนูนาอย่างลึกซึ้ง แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้หัวใจของหนูนาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
"ผม... ผมเป็นห่วงคุณหนูนาครับ บันไดหนีไฟมันค่อนข้างเปลี่ยว" รัฐกระซิบเสียงแหบพร่า น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปจากความสุภาพตามปกติเล็กน้อย
ความเงียบปกคลุมระหว่างคนทั้งสอง มีเพียงเสียงลมหายใจถี่กระชั้นของพวกเขาที่ดังแข่งกัน หนูนาสัมผัสได้ถึงแรงดึงดูดที่รุนแรงระหว่างเธอกับรัฐ มันเป็นความรู้สึกที่อันตราย แต่ก็หอมหวานและเย้ายวนใจจนเธอไม่อาจปฏิเสธได้
รัฐค่อยๆ เอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเนียนของหนูนาอย่างแผ่วเบา สัมผัสนั้นนุ่มนวลและอบอุ่น ราวกับลูบไล้ความปรารถนาที่ซ่อนลึกอยู่ในใจของเธอให้ตื่นขึ้น
"คุณหนูนา..." รัฐเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาใกล้ริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อของเธอ
หนูนาหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกปรารถนาที่ท่วมท้นนำทางเธอ ริมฝีปากของรัฐแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความหนักหน่วงและดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นจูบที่เต็มไปด้วยความโหยหาและความปรารถนาที่เก็บกดไว้เนิ่นนาน
มือเรียวของหนูนาค่อยๆ ยกขึ้นโอบรอบคอของรัฐอย่างแนบแน่น ตอบรับจูบนั้นอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจางหายไปในความมืดสลัวของบันไดหนีไฟ
ร่างของทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของหนูนา เธอไม่เคยรู้สึกถึงความปรารถนาที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน มันเป็นความตื่นเต้น หวาดเสียว และความต้องการที่ถาโถมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยมีใครมอบให้เธอ
มือที่แข็งแรงของรัฐเริ่มซุกซน ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของหนูนาภายใต้เสื้อสูทเนื้อดี ก่อนจะเลื่อนลงมาสัมผัสสะโพกกลมกลึงของเธออย่างแผ่วเบา หนูนาครางออกมาเบาๆ ในลำคอ ปล่อยให้ความรู้สึกเสียวซ่านครอบงำทุกสิ่ง
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
แนวโคแก่กินหญ้าอ่อน สาวใหญ่กับหนุ่มๆมหาลัย nc pwp 3p 18+ เรื่องราวของป้าแม่บ้านวัยสี่สิบ หล่อนเป็นแม่บ้านในมหาลัยที่ต้องวนไปทำความสะอาดในตึกต่างๆแต่ละคณะทุกสัปดาห์ ไม่รู้เพราะความเส่นห์แรงหรือเคยเป็นนักแสดงนางร้ายจอมมารยามาก่อน ป้าแม่บ้านสามารถตกนักศึกษาชายที่หล่อๆมากินตับเกือบครบทุกคณะ
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
นายหัวอารัณย์พยายามบอกับตัวเองว่า เพลงขวัญ ยังเด็ก และไม่ใช่สเปค แต่แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อได้ลิ้มรสชาติหญ้าอ่อน เขาติดใจจนอยากจะกินซ้ำ ๆ แล้วเธอจะทนเขาได้นานแค่ไหน...... ******************************************************* "ขออีกครั้งเดียวนะ ....ครั้งเดียวนะเพลง" นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด "จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว" "ปากเธอบอกให้ปรานี แต่ตอดถีึแบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า เธอต้องการแบบไหนกันแน่!"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด