เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
ความสุขที่สามีมอบให้ไม่ได้
ตอน คืนแรกของคนแปลกหน้า
ความมืดมิดโอบล้อมร่างอรชรของนดา ราวกับผ้ากำมะหยี่เนื้อหนาที่กดทับทุกความรู้สึกผิดชอบชั่วดี แสงจันทร์ส่องลอดผ้าม่านบางๆ เข้ามาในห้องนอนกว้าง จับเงาเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงให้ดูบิดเบี้ยวและน่าหวาดหวั่น นดานอนพลิกตัวไปมาบนเตียงคิงไซส์ ผ้าปูที่นอนเนื้อดีเสียดสีกับผิวเนื้อละเอียดอย่างอ่อนโยน แต่กลับไม่สามารถดับความกระวนกระวายที่กัดกินภายในได้เลย
สามีของเธอ ภาคิน หลับไปแล้วข้างๆ ลมหายใจสม่ำเสมอของเขาบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าจากงานที่ถาโถมเข้ามาตลอดวัน นดาหันไปมองใบหน้าหลับใหลของเขา แววตาเศร้าสร้อยฉายชัดภายใต้แสงจันทร์ ภาคินเป็นสามีที่ดี อบอุ่น และรักเธอหมดหัวใจ ทว่า...เขากลับไม่สามารถเติมเต็มความต้องการที่ลึกเร้นและบิดเบี้ยวในจิตใจของเธอได้
นดาเป็นโรคร้าย โรคเสพติดเซ็กซ์ที่ฝังรากลึกราวกับเถาวัลย์พิษ ความต้องการทางเพศที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน แต่ละคืน มันรุนแรงและเร่าร้อนจนแทบจะกลืนกินความเป็นคนของเธอ ความรู้สึกโหยหาผู้ชาย ความปรารถนาที่จะถูกสัมผัส ครอบงำความคิดของเธออยู่ตลอดเวลา
บาดแผลในอดีต...ร่องรอยจากการถูกข่มขืนในช่วงวัยรุ่นมันไม่ได้จางหายไปตามกาลเวลา ตรงกันข้าม มันกลับบ่มเพาะความต้องการที่แปลกประหลาดในจิตใจของเธอ ความสุขที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด การถูกควบคุม การยอมจำนน...นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนาอย่างลึกซึ้ง
ภาคินพยายามแล้ว เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะตอบสนองความต้องการของภรรยา แต่ความสามารถของเขามีจำกัด ความอ่อนโยนและความรักที่เขามอบให้ มันไม่ได้ตอบโจทย์ความโหยหาที่รุนแรงและบิดเบี้ยวในจิตใจของนดา
ความทรมานจากการถูกความต้องการกัดกิน ความรู้สึกผิดที่ต้องทรมานสามีไปด้วย...มันเป็นวงจรที่นดาไม่สามารถหลุดพ้น
กระทั่งคืนหนึ่ง ภาคินตัดสินใจทำสิ่งที่นดาไม่เคยคาดคิด เขาเรียกเธอมาคุยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด
"นดา...ผมทนเห็นคุณทรมานแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว" ภาคินจับมือเธอแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า
นดามองสามีด้วยความสับสน เธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะพูดอะไร
"ผมรู้...ผมรู้ว่าผมไม่สามารถเติมเต็มคุณได้" ภาคินพูดต่อ "ผมรักคุณมากนะนดา...และผมอยากเห็นคุณมีความสุข...ในแบบที่คุณต้องการจริงๆ"
และในคืนนั้นเอง ภาคินก็แนะนำชายแปลกหน้าคนแรกให้กับนดา ชายที่เขาไว้ใจ ชายที่เขารู้ว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนและอันตรายในจิตใจของภรรยาได้
เมื่อประตูห้องนอนเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของชายแปลกหน้า นดานอนตัวแข็งทื่ออยู่บนเตียง หัวใจเต้นระรัวด้วยความหวาดหวั่นและความตื่นเต้นที่ปะปนกัน
ชายคนนั้นมีรอยสักเต็มแผ่นหลัง ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยว เขามองนดาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
"สวัสดีครับคุณนดา" เสียงทุ้มต่ำของเขาดังขึ้นในความเงียบ
นดาไม่ได้ตอบ เพียงแต่จ้องมองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ภาคินยืนอยู่ข้างประตู มองภรรยาด้วยแววตาที่เจ็บปวดแต่ก็เต็มไปด้วยความหวัง
"ผมฝากนดาด้วยนะครับ" ภาคินพูดกับชายแปลกหน้าด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ปิดประตูห้องลง ทิ้งให้นดาเผชิญหน้ากับความปรารถนาและความกลัวในคืนแรกของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
4Pเหล่ามาเฟียทั้งสามมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงในการรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
“อันตัวข้า มีนามว่าไป๋ฟางเซียน” ปกติคนอื่นข้ามเวลาคงได้รับมิติ พลังวิเศษ ความเทพทรูต่าง ๆ แล้วนางเล่า ไม่เห็นเป็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านบ้าง เท่านั้นยังไม่พอ! นางยังเข้ามาอยู่ในร่างสาวงามอันดับหนึ่ง มีสถานะเป็นถึงภรรยาของท่านแม่ทัพ ที่สามีหาได้รักใคร่ชมชอบไม่ ออกจะเกลียดแสนเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หนำซ้ำสามีหน้าตายผู้นั้นดันมีคนที่ตนพึงใจอยู่แล้ว เช่นนี้นางจะเอาตัวรอดต่อไปในโลกที่ไม่รู้จักได้อย่างไร นอกจากจะต้องปรับตัวอย่างมากแล้ว นางต้องคิดหาวิธีรับมือกับบุรุษผู้เป็นสามีที่จ้องแต่จะกินหัวนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย! โอ สวรรค์ ท่านเกลียดชังอะไรข้านักหนา เหตุใดถึงให้ข้าเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ชีวิตสงบสุขที่ใฝ่ฝัน คงได้จบสิ้นกันแล้ว แต่ช่างเถอะ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่สามารถหลีกหนีได้ นาง! ไป๋ฟางเซียนผู้นี้! จะขอร่วมลงประชันสนามอารมณ์กับเขาเอง! ให้มันรู้กันไปเลยว่า ภรรยาอย่างนาง จะเอาชนะสามีอย่างเขา... ไม่ได้!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด