"ถ้าทำแบบนี้ จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ"
งานเลี้ยงวันเกิดน้องมิ้นท์อายุครบ 19 ปี @โรงแรมหรูย่านหัวหิน
ภายในห้องสวีตของโรงแรมหรูมินนี่ยังยืนใช้แผ่นหลังบางพิงกับบานประตูห้องหลังจากที่เธอวิ่งหนีขึ้นมาด้านบนเพียงลำพัง มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากบาง พลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ สิ่งที่โนอาห์ทำกับเธอมันเรียกว่าจูบหรือเปล่า ใช่จูบหรือเปล่านะ มุมปากบางกระตุกยิ้มหัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามราวกับจะหลุดออกมา ดีใจ เธอดีใจ ที่ในที่สุดคุณลุงสุดหล่อของเธอก็ตอบสนองในสิ่งที่เธอต้องการถึงแม้ว่าเขาจะเมาก็ตาม
เหตุการณ์ก่อนหน้า
"ลุงโนอาห์คะ เมาแล้วเหรอคะ"
" ... " ชายหนุ่มนิ่งเงียบนั่งถือแก้ววิสกี้หมุนควงเบาๆ จ้องมองใบหน้าหวานของเด็กสาวตรงหน้านิ่ง ในขณะที่เพื่อนๆ ต่างก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะ บางคนก็กลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง
"ลุงโนอาห์คะ ให้มิ้นท์เรียกพี่สกายกับพี่ซันให้ไหมคะ"
" ... " มินนี่ยื่นใบหน้าใสเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะนึกสนุกจุ๊บคุณลุงอย่างที่เคยทำเธอมองซ้ายมองขวาแนบริมฝีปากบางเฉียบลงกับกลีบปากของเขาเบาๆ อย่างที่เคยทำ แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่เหมือนเคยเพราะคุณลุงของเธอสอดแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าในโพรงปากบางมินนี่ตกใจจนเบิกตาโตขึ้นเธอตั้งใจจะผละออกแต่ทว่ากลับถูกมือหนาของโนอาห์รั้งท้ายทอยเอาไว้ เขาขบเม้มกลีบปากของเธอเล่นอย่างเอาแต่ใจ ทั้งดูด ทั้งขบ ทั้งกัด แล้วกระหวัดควานหาลิ้นเล็กอย่างดูดดื่มเร่าร้อน
"โนอาห์"
เธอเอ่ยเรียกเขาเสียงเบาทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ มือเรียวยกขึ้นแตะกลีบปากของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าหวานแดงซ่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนร่างกายของเธอร้อนรุ่มจนหาสาเหตุไม่ได้ เธอทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรลุงโนอาห์ของเธอแตกต่างไปจากทุกครั้งที่เคยเป็น เขาเคยสุภาพและอ่อนโยนกับเธอ แต่เมื่อครู่กลับดุดันและเร่าร้อนปานนั้น
"เอ่อ พี่สกาย พี่ซัน ชะ ... ช่วยไปดูลุงโนอาห์หน่อยค่ะ น่าจะเมาแล้ว"
"ครับคุณหนู"
มินนี่รีบวิ่งกลับห้องพักของตัวเอง เธอปิดประตูอย่างไม่แรงมากนักก่อนจะพิงหลังกับประตูห้องพักแล้วแตะริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง ความรู้สึกนั้นยังคงอยู่ราวกับว่าเขายังบดจูบเธออยู่เลย จูบของเขาในครั้งนี้มันไม่เหมือนกับที่เธอเคยได้รับ หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
"เมื่อกี๊จูบใช่ไหม"
วันต่อมา...
ก๊อกๆ ก๊อกๆ
เสียงประตูห้องพักของมินนี่ดังขึ้นในช่วงสายเด็กสาวยังคงอยู่ในชุดนอนกระโปรงสีขาววาบหวิวบางเบาเนินอกอวบไร้บราเซียร์ปกปิดยามที่เธอเดินเนินอกของเธอก็กระเพื่อมไปตามแรงสะเทือนของการเดิน ใบหน้าหวานมู่ทู่หงุดหงิดคนที่รบกวนเวลานอนของเธอ
แกร๊ก!
"มีอะ!"
ปัง!
ทันทีที่เห็นหน้าคนที่มาเคาะประตูมินนี่ก็เบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจ เธอรีบปิดประตูทันทีเพราะตอนนี้ร่างกายเธอกำลังรุ่มร้อน และรู้สึกใบหน้าเธอวูบวาบแปลกๆ หญิงสาวยกมือขึ้นเช็กกลิ่นปากของตัวเอง โอเค ไม่มีผ่าน เธอตัดสินใจดึงคอเสื้อลงมาอีกหน่อยก่อนจะเปิดประตูด้วยท่าทางงัวเงียอีกครั้ง
"โนอาห์~"
"ทำไมตื่นสายจังครับ ไม่สบายรึเปล่าหน้าแดงๆ นะ"
สายตาคมของโนอาห์เผลอมองไปที่เนินอกอวบของเธอ เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอแล้วรีบละสายตาจากอกอวบมามองที่ใบหน้าหวานของเธอแทน มือหนาวางลงที่หน้าผากมนของคนตัวเล็ก สองเท้าหนักก้าวเข้าไปในห้องพักของเธออย่างที่เคยทำเสมอมา มือหนาจับต้นแขนของเธอเบาๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม แผงอกของคุณลุงมันทำให้ร่างกายของเธอสั่น ยิ่งโนอาห์ปลดกระดุมเสื้อฮาวายลายทะเลสีฟ้าอ่อนที่ใส่มาเพียงสองสามเม็ดมันยิ่งขับให้เขาดูดีเป็นเท่าตัว
ตุ๊บ
มินนี่ตัดสินใจแนบใบหน้าหวานกับอกแกร่งของคุณลุงสุดหล่อ สองแขนเรียวโอบรอบเอวหนาของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน ก่อนเงยหน้าขึ้นนิดหน่อยมองปลายคางของเขา ยิ่งมอง ก็ยิ่งหล่อ ยิ่งมองก็ยิ่งหลง เธอหวง หวงเขาเหลือเกิน
"ไหนให้ลุงดูหน่อย ป่วยหรือเปล่าครับทำไมหน้าแดงๆ"
"อยากแตะตรงนี้" นิ้วชี้เล็กจิ้มไปที่หน้าผากหนา ก่อนจะแนบแก้มนวลกับอกแกร่งของคุณลุงสุดหล่อ โนอาห์เองมีเหรอที่จะขัดใจหลานรัก เขาจับตัวเธอให้ยืนเผชิญหน้ากัน ก่อนที่จะโน้มตัวลงมาเล็กน้อยแล้วใช้หน้าผากหนาแตะสัมผัสกับหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบกระเด็นหลุดออกมา เธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจเจือกลิ่นบุหรี่ แถมยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์ผสมมาด้วยอีกนิดหน่อย ลมหายใจอุ่นร้อนของโนอาห์ ทำให้มินนี่เผลอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาบดจูบสอดแทรกลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากของเธออย่างเร่าร้อนดุดัน
สองสายตาประสานกันเข้าอย่างจัง สายตาคมจ้องมองเธอด้วยความเป็นห่วง แต่ดวงตากลมของคนตัวเล็กกลับคิดเลยเถิดไปไหนต่อไหน มินนี่อยากจะลองจูบกับเขาอีกครั้ง แต่เธอต้องห้ามใจเอาไว้
'ไม่ได้นะยัยมิ้นท์ นี่เพื่อนพ่อนะโว้ย'
'แต่เขาหล่อนะ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันสักหน่อย'
'เอาเลย แกต้องทำตามสิ่งที่แกต้องการนะยัยมิ้นท์'
'อ่ะ ใจเย็นๆ สิ ค่อยเป็นค่อยไป'
ความคิดตีกันให้วุ่นวาย มือเรียวกำแน่นอยากจะจูบคุณลุงอีกสักครั้งแต่ในที่สุดเธอก็เชื่อความคิดสุดท้ายของตัวเอง ค่อยเป็นค่อยไป
"พะ พอแล้วค่ะ"
"เช็กแล้วตัวอุ่นๆ นะครับ เป็นอะไรไหม"
"โนอาห์~ มิ้นท์อยากไปเดินเล่นริมทะเลค่ะ"
"ไปกับใคร พี่ทิศเหนือ ทิศใต้ หรือ เทย์แลนด์ จีน่า"
"มิ้นท์อยากไปกับโนอาห์ รอมิ้นท์อาบน้ำแป๊บนึงนะคะ"
"ครับๆ" ว่าแล้วมินนี่ก็เดินไปที่ส่วนของห้องนอน เพื่อไปจัดการธุระส่วนตัว ส่วนโนอาห์ก็เดินออกไปที่ระเบียงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเอาสารนิโคตินเข้าร่างกายระหว่างรอหลานสาวของตัวเอง ไม่นานนักมินนี่ก็เดินออกมาในชุดที่ทำให้โนอาห์ต้องปวดหัว เธอใส่เสื้อเกาะอกสีขาวแค่ช่วงอกโชว์หน้าท้องร่องสิบเอ็ดบ่งบอกถึงการดูแลตัวเองอย่างดี กับกระโปรงพลิ้วๆ บางๆ สีเดียวกับเสื้อตัวจิ๋ว เขารู้สึกไม่ชอบใจนักแต่ก็ไม่อยากต่อว่ามากเพราะเขาชอบที่จะให้อิสระหลานสาวมากกว่า
"สวยไหมคะ" ร่างบางถลาเข้าสวมกอดเอวหนาของคุณลุง เกยคางมนเอาไว้ที่แผงอกกว้างดูดี เธอหลงใหลเขา เธอหวงเขา และชอบรอยสักรูปกุหลาบที่ลำคอของเขามาก ในชีวิตเธอตั้งแต่เจอผู้ชายมาโนอาห์คือคนที่เธอรักปักใจ และหวงแหนที่สุด
"เดี๋ยวใส่เสื้อคลุมไปด้วยนะครับ"
"ไม่เอา"
"มิ้นท์" เขากดเสียงต่ำ ดุ คนตัวเล็ก แม้จะอยากให้อิสระแค่ไหนก็รู้สึกหวงแหนอยู่ดี
"โนอาห์ไปด้วย ไม่เห็นต้องใส่เสื้อคลุมเลยนี่คะ นะคะ น้าาาา~"
"เฮ้อ ดื้อ" ว่าหลานสาวอย่างไม่จริงจังมากนักก่อนจะกดจูบลงที่หน้าผากมนของเธอแล้วเป็นฝ่ายเดินเข้าไปในโซนแต่งตัวหยิบเอาผ้าคลุมไหล่สีขาวบางๆ ติดมือมาด้วย มือหนาจับประสานกับมือเรียวเอาไว้พากันเดินออกมานอกห้องพักของเธอ โดยที่คนตัวเล็กเอาแต่มองมือที่ประสานกัน หัวใจของเธอเต้นอย่างไม่ยอมสงบสุข ก่อนจะหยุดลงเมื่อ...
"จะไปไหนกันวะ"
"ดะ แดดดี้!"
เขาเป็นทนายหนุ่มหล่อมากความสามารถที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา การศึกษา ฐานะทางบ้าน สังคม เรียกได้ว่าเนื้อหอมในหมู่สาวๆ ไม่ว่าจะโสด ซิง หรือมีคู่ครองแล้วหากเสนอให้เขาก็พร้อมจะสนองทุกเมื่อ สาวๆ ต่างอยากควบคุม และครอบครองเขา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนอย่างเขาน่ะ 'รักสนุก แต่ไม่ผูกพัน' ก็ตาม คนอย่างเขาไม่เคยคิดหยุดอยู่ที่ใคร ความซิงไม่สามารถผูกมัดเขาได้ จนกระทั่ง... เธอเดินเข้ามาในชีวิตเขา
❤ โปรเจกต์สุดฮอตต้อนรับวาเลนไทน์ Match Love Valentines ❤ เรื่องราวของสาวขี้เหงาทั้งสี่คนที่เกิดอาการ เปลี่ยวใจอยากมีใครสักคน เลยต้องเข้าแอปหาคู่อย่าง MATCH LOVE เพื่อตามหาคู่เดตที่มาทำให้วาเลนไทน์ของพวกเธอ ไม่ต้องเหงาใจอีกต่อไป และแอปนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการแมตช์รักของพวกเธอ...แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังจากแอปหาคู่สักหน่อย? ไปลุ้นกันว่าแอปนี้จะช่วยให้พวกเธอสละโสดได้ไหม...!!!!
เธอทำให้เขารัก เธอทำให้เขาแค้น และก็เป็นเธอที่กลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขา เขาที่พยายามลืมความรักของเธอกดความเจ็บแค้นเอาไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจ เธอทำให้เขารู้จักคำว่า "ทั้งรัก ทั้งแค้น" เป็นอย่างดี ในเมื่อเธอเลือกจะกลับมาเขาก็จะสาดความเจ็บแค้นคืนกลับไปให้เธอได้รู้สึก ให้เธอได้รู้สึกถึงความเจ็บช้ำที่ไม่มีวันลืมได้ลง
"ไม่ใช่ นี่มันเกียร์ฉัน!" "Oh! ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษ ก็คุณลุงไม่ให้มองมิลก์ก็กำผิดกำถูกสิคะ แล้วข้ามมาทำไมตอนรถไม่นิ่งละคะ" "ใครมันจะไปคิด ว่าเธอจะคิดทำมิดีมิร้ายกับฉันเล่า" "มิลก์เหรอคะ ที่คิดทำมิดีมิร้ายกับคุณลุงน่ะ ไม่ใช่ใช่คุณลุงเหรอคะ มาสอนมิลก์ขับรถแท้ๆ ตรงนั้นยังจะตั้งอยู่อีก"
ผอ. หนุ่มสุดหื่น พ่อปลาไหลตัวพ่อ รักและหวงความโสดยิ่งกว่าชีวิต ใช้เงินแก้ปัญหาทุกอย่างจนมาเจอเธอ หญิงสาวที่เขาจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่เคยได้ใจเธอสักที ความอยากเอาชนะของเขามันเป็นบ่อเกิดความรักที่ก่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"