รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
รวมประสบการณ์สวิงกิ้ง
ตอน สามีพาไปโดนหมอนวดผู้ชาย
ฉันชื่อ พิมพ์ อายุสามสิบต้นๆ แต่งงานกับคุณากรณ์ สามีที่ฉันรักมาก เขาเป็นคนเปิดเผยและมักจะชวนฉันทำกิจกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ชีวิตคู่ของเราโดยรวมมีความสุขดี แม้ว่าบางครั้งความซ้ำซากจำเจจะเริ่มเข้ามาบ้าง
วันนี้ คุณากรณ์ชวนฉันมาพักผ่อนที่รีสอร์ทเงียบสงบแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เขาบอกว่ามีสปาที่ขึ้นชื่อเรื่องการนวดแผนไทย และอยากให้ฉันได้ลองผ่อนคลายอย่างเต็มที่
เมื่อมาถึงสปา บรรยากาศเงียบสงบและหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันอโรมา ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นทันที พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มและให้การต้อนรับเราเป็นอย่างดี
คุณากรณ์เลือกโปรแกรมนวดแผนไทยสำหรับสองคน แต่เขาบอกว่าอยากลองนวดกับหมอผู้ชายดูบ้าง ส่วนฉันก็ตามใจเขา เราถูกพาไปยังห้องนวดคู่ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่สวยงาม
ฉันเปลี่ยนเป็นชุดคลุมผ้าฝ้ายเนื้อนุ่ม นอนลงบนเตียงนวดข้างๆ คุณากรณ์ หมอนวดชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีแทน แนะนำตัวว่าชื่อนนท์ จะเป็นหมอนวดของฉัน ส่วนคุณากรณ์ได้หมอนวดอีกคนชื่อสมชาย
การนวดเริ่มต้นขึ้นอย่างนุ่มนวล คุณนนท์คลึงและกดจุดต่างๆ บนร่างกายของฉันอย่างชำนาญ มือของเขามีน้ำหนักกำลังดี ทำให้ฉันรู้สึกสบายตัวมาก คุณากรณ์ที่เตียงข้างๆ ก็ดูผ่อนคลายเช่นกัน
คุณนนท์ค่อยๆ เลื่อนมือลงมานวดบริเวณบ่าและไหล่ของฉัน สัมผัสที่แข็งแรงแต่ก็อ่อนโยนนั้น ทำให้ความเมื่อยล้าของฉันค่อยๆ คลายลง
จากนั้น เขาก็เริ่มนวดบริเวณแขนและขาของฉัน มือของเขาลูบไล้ไปตามผิวเนื้ออย่างแผ่วเบา แต่ในบางจังหวะปลายนิ้วของเขาก็สัมผัสบริเวณที่ใกล้เคียงกับจุดสงวนของฉันอย่างไม่ได้ตั้งใจ สัมผัสเพียงเล็กน้อยนั้นกลับทำให้เกิดความรู้สึกวาบหวามแล่นปราดไปทั่วร่างกาย
ฉันพยายามข่มความรู้สึกแปลกประหลาดนั้นไว้ หลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
คุณนนท์ค่อยๆ เลื่อนมือขึ้นมานวดบริเวณต้นขาของฉัน สัมผัสของเขายังคงนุ่มนวล แต่บริเวณที่ถูกสัมผัสมันใกล้กับจุดที่ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า พยายามเบี่ยงเบนความคิดไปยังเรื่องอื่น แต่สมาธิของฉันเริ่มกระเจิงไปหมด ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นมันช่างแตกต่างจากการถูกสัมผัสโดยคุณากรณ์
แล้วคุณากรณ์ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสบายๆ "พิมพ์ นนท์นวดดีไหม?"
ฉันลืมตาขึ้นเล็กน้อย มองไปยังคุณากรณ์ที่กำลังยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร หมอนวดของเขาก็กำลังนวดบริเวณบ่าของเขาอยู่
"ดีค่ะคุณ" ฉันตอบยิ้มกลับไป แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความกระวนกระวายอย่างประหลาด กลิ่นอโรมาในห้องเริ่มให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป
คุณนนท์ค่อยๆ เปลี่ยนท่านวด เขาให้ฉันนอนตะแคง มือของเขาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงมาบริเวณสะโพก สัมผัสที่นุ่มนวลนั้นทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ใจของฉันเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
จากนั้น เขาก็เริ่มนวดบริเวณบ่าและไหล่อีกครั้ง มือของเขากดคลึงบริเวณที่เมื่อยล้าอย่างชำนาญ แต่ในบางจังหวะ มือของเขาก็สัมผัสกับบริเวณใกล้เคียงกับทรวงอกของฉันอย่างไม่ได้ตั้งใจ สัมผัสเพียงเล็กน้อยนั้นกลับทำให้เกิดความรู้สึกวาบหวามอีกครั้ง
ฉันรู้สึกถึงความกระวนกระวายที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ พยายามควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ แต่ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นมันช่างแตกต่างและห้ามใจยาก
คุณากรณ์ที่เตียงข้างๆ ก็พลิกตัวนอนหงาย มองมาทางฉันด้วยรอยยิ้ม "สบายไหมพิมพ์? หมอนวดคนนี้มือหนักใช้ได้เลยนะ"
ฉันยิ้มตอบ "สบายดีค่ะคุณ" แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ฉันไม่กล้าสบตาสามีนานๆ
คุณนนท์ค่อยๆ เลื่อนมือลงมานวดบริเวณแขนอีกครั้ง มือของเขาลูบไล้ไปตามผิวเนื้ออย่างแผ่วเบา แต่ในบางจังหวะปลายนิ้วของเขาก็สัมผัสกับบริเวณที่ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกเสียวซ่านเริ่มรุนแรงขึ้นอย่างช้าๆ
ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้าอีกครั้ง พยายามข่มความรู้สึกที่กำลังก่อตัวขึ้น แต่สมาธิของฉันเริ่มกระเจิงไปหมด ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นมันช่างแตกต่างและห้ามใจยาก
ร่องรอยผ่อนคลายบนเตียงนวด อาจกำลังนำพาไปสู่ความรู้สึกอื่นที่ซ่อนลึกกว่านั้น... ความรู้สึกที่เริ่มแฝงไว้ด้วยความนัยบางอย่าง... และสายตาของคุณากรณ์ที่มองมาด้วยรอยยิ้มนั้น... มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
คุณนนท์ค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากลงต่ำจากทรวงอกของฉัน ไปยังบริเวณหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไปยังขอบกางเกงที่ฉันสวมอยู่ มือของเขาลูบไล้บริเวณนั้นอย่างแผ่วเบา แต่กลับกระตุ้นความรู้สึกวาบหวามอย่างประหลาด
ฉันหายใจถี่กระชั้น มองไปยังคุณากรณ์ที่ยังคงยิ้มอย่างมีเลศนัยมาทางฉัน หัวใจของฉันเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ฉันไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไร
คุณนนท์ค่อยๆ รูดขอบกางเกงของฉันลงเล็กน้อย ก่อนจะโน้มตัวลงต่ำ ริมฝีปากอุ่นชื้นของเขาสัมผัสกับบริเวณหว่างขาของฉันอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆ เลื่อนลงต่ำไปยังจุดที่ทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวที่สุด
ทันใดนั้นเอง ลิ้นร้อนของเขาก็แตะลงบนกลีบเนื้ออ่อนนุ่มของฉันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ ความรู้สึกเสียวซ่านที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแล่นปราดไปทั่วร่างกายของฉัน น้ำเสียวพุ่งออกจากรูอย่างห้ามไม่อยู่
ฉันเผลอกรีดร้องครางกระเส่า สะโพกของฉันยกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว มือของฉันจิกผ้าปูเตียงแน่น
คุณนนท์ค่อยๆ แหกกลีบเนื้อของฉันออกอย่างช้าๆ แล้วตวัดลิ้นร้อนของเขาลงไปอย่างลึกซึ้ง ความรู้สึกเสียวซ่านมันรุนแรงจนตัวของฉันสั่นเทิ้มไปหมด ฉันร้องดังโหยหวนออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ในขณะนั้นเอง ฉันก็รู้สึกถึงสัมผัสอีกสองคู่ที่บริเวณทรวงอกของฉัน ฉันลืมตาขึ้นอย่างเลือนราง เห็นคุณากรณ์โน้มตัวลงมาดูดดึงยอดอกข้างหนึ่งของฉันอย่างกระหายใคร่ ส่วนหมอนวดอีกคนชื่อสมชายที่นวดให้คุณากรณ์ ก็โน้มตัวลงมาดูดดึงยอดอกอีกข้างหนึ่งของฉันเช่นกัน
ความรู้สึกเสียวซ่านมันยุ่บยั่บไปหมด ฉันไม่รู้ว่าปากใครเป็นปากใคร รู้สึกเพียงแต่ความร้อนชื้นและการดูดดึงที่ทำให้ร่างกายของฉันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ความมึนงงและความปรารถนาถาโถมเข้ามาจนฉันแทบขาดสติ... โลกทั้งใบของฉันหมุนคว้างไปหมด
แนวทาสสวาท ล่อลวง เปิดซิง รุนแรง ซาดิสม์ หลอกเอา คนสวน รุมคุณหนู nc 3p
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
ในยุคก่อนสงครามโลก ยังมีการค้าทาส ในดินแดนแถบเอเชียที่ไม่ระบุชื่อและสถานที่ตั้ง มีปราสาทแห่งหนึ่งตั้งตะหง่านอยู่ริมหน้าผาบนเขาสูง เจ้าปราสาทคือสามีนางเอก เขาเป็นขุนนางชั้นสูง เขาชอบซื้อทาสชายหลากเชื้อชาติมาเลี้ยง ใช้งานพวกเขาหนัก และมักจะให้นางเอกมีอะไรกับคนแปลกหน้าพวกนั้นเพื่อให้เขานั่งดูอย่างมีอารมณ์
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด