เธอเคยเห็นคนอื่นโดนจับคลุมถุงชนแต่งงาน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีจะปฏิเสธหัวชนฝา แต่ที่ไหนได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอบตกลงไปเสียแล้ว หลังจากได้เห็นหน้าคุณหมอหนุ่มแสนสุภาพ ปากแดงแก้มใสน่าลูบไล้เสียเหลือเกิน!
เธอเคยเห็นคนอื่นโดนจับคลุมถุงชนแต่งงาน แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีจะปฏิเสธหัวชนฝา แต่ที่ไหนได้ รู้ตัวอีกทีก็ตอบตกลงไปเสียแล้ว หลังจากได้เห็นหน้าคุณหมอหนุ่มแสนสุภาพ ปากแดงแก้มใสน่าลูบไล้เสียเหลือเกิน!
คู่บ่าวสาวที่เพิ่งเดินลงมาจากบนห้องทำให้คุณย่าภัทรลดายิ้มหวานออกมาในทันที ในขณะที่รัศมีกับจิราพรหันไปมองหน้ากันก่อนที่จะแอบเบ้ปากออกมาเพราะไม่ชอบวิรากานต์ สะใภ้คนใหม่ของตระกูล
“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ มากินข้าวกันจ้ะ” คุณย่าเอ่ยกับหลานชายและหลานสะใภ้ด้วยรอยยิ้ม
ชยันต์ทำท่าจะนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของตัวเอง แต่คุณย่าก็รีบพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เลื่อนเก้าอี้ให้เมียเราด้วยสิ” เขาทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน
คุณหมอหนุ่มใบหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ ทำให้ทุกคนไม่อาจรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่คนเป็นภรรยาอย่างวิรากานต์
วิรากานต์เหลือบมองเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหันไปขอบใจสาวใช้ที่เริ่มตักข้าวใส่จานให้
เธอเข้าห้องหอกับเขาแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาไม่ไล่ไปนอนบนพื้นหรือบนโซฟา แต่แบ่งเตียงให้นอนครึ่งหนึ่ง โดยมีหมอนข้างกั้นเอาไว้
หญิงสาวแอบคิดว่าเขาอาจจะเป็นเกย์ก็ได้ เพราะตั้งแต่รู้จักกันก่อนแต่งงานเขาทำตัวห่างเหินจนน่าสงสัย
ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอกับเขาเจอกันแค่ครั้งเดียวจริงๆ ตอนที่เขานัดเธอไปดูชุดแต่งงานก่อนแต่งงาน จึงไม่ได้ทำความรู้จักกันมากกว่านั้นเลย
เธอไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลอะไรที่ยอมมาแต่งงานกับลูกหนี้เช่นเธอ เพราะเขามีความเพียบพร้อมทั้งฐานะและหน้าที่การงาน แถมการศึกษาก็ดี หน้าตาก็ยังหล่อเหลาเสียอีก
“ตักอาหารให้เมียเราบ้างสิ เมื่อคืนหนูนอนหลับสบายไหมจ๊ะ” คุณย่าภัทรลดาเอ่ยถามหลานสะใภ้ด้วยรอยยิ้มมีความสุข
“นอนหลับสบายค่ะคุณย่า” วิรากานต์เอ่ยตอบอย่างสุภาพ ก็เมื่อวานเหนื่อยทั้งวัน พอทิ้งตัวลงนอนก็ระแวงว่าคนข้าง ๆ จะทำอะไร แต่ที่ไหนได้ เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองหลับจนถึงเช้า
“ดีแล้วจ้ะ หนูมาอยู่ที่นี่ก็ให้ถือว่าเป็นบ้านของหนูนะจ๊ะ มีปัญหาอะไรก็บอกย่าได้เลย”
“ค่ะคุณย่า” วิรากานต์รับคำ เธอรับรู้ได้ถึงสายตาอำมหิตของแม่สามีและน้องสาวของสามีอย่างจิราพรที่ไม่ชอบใจเธอนัก แต่จิราพรรณน้องสาวของชยันต์อีกคนกลับยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอจึงยิ้มตอบกลับไปอย่างเป็นมิตรเช่นกัน
“แต่งงานแล้วจะให้มานั่ง ๆ นอน ๆ เป็นคุณนายคงไม่ได้หรอกนะคะคุณแม่ ถ้าไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำงานในบ้าน” รัศมีพูดขึ้น เธอเป็นสะใภ้ของที่นี่ก็ต้องทำงานเหมือนกัน
“หนูกานต์เขามีความสามารถหลายอย่าง หล่อนไม่ต้องกลัวหรอกว่าเขาจะทำอะไรไม่เป็นเลย เขาเป็นผู้ดีมีการศึกษา ไม่ใช่คนกระจอกงอกง่อยเสียหน่อย ฉันหาภรรยาให้หลานชายของฉันก็ต้องเลือกดี ๆ อยู่แล้ว ไม่ใช่ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนมาก็ไม่รู้” ภัทรลดาเหน็บลูกสะใภ้ที่นั่งหน้าตึงอยู่อีกด้านของโต๊ะอาหาร
“ไม่กระจอกแต่ติดหนี้บ้านเรามหาศาลนี่เหรอคะ แหม... คุณแม่นี่ช่างยกยอเสียจริงนะคะ” รัศมีเหน็บกลับ
“เขาเป็นหนี้จริง แต่หนูกานต์แต่งงานกับชยันต์แล้วก็ถือว่าหนี้สินจบสิ้นกันไป” ภัทรลดาสวนกลับอีกดอก
วิรากานต์มองคนทั้งสองโต้ตอบกันไปมาก็พบว่าแม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่กินเส้นกัน เธอเหลือบมองสามี ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกินข้าวเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร สงสัยจะชินกระมัง
ท่าทีของเขาดูดีทุกระเบียบนิ้ว สมกับมีอาชีพที่เขาทำอยู่
หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จ ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน คุณย่าอยู่บนตึกใหญ่ เธอกับชยันต์อยู่ปีกซ้ายของตึก ส่วนแม่สามีของเธอกับลูกสาวของพวกนางอยู่ปีกขวา คิดว่าคงไม่ต้องเจอหน้ากันหรือเกี่ยวข้องอะไรกันมาก แต่ที่ไหนได้!
“หล่อนมาอยู่ที่นี่จะงอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลยไม่ได้นะ อย่างน้อยก็ต้องทำงานบ้าน” รัศมีเจอหน้าลูกสะใภ้ก็ใส่เต็มที่ ถ้าไม่เพราะแม่สามีคิดสั้น เรียกร้องให้ลูกชายของนางต้องแต่งงานเพื่อมีทายาทสืบสกุล นางไม่มีวันยอมให้วิรากานต์มาแต่งงานกับลูกชายของนางแน่ เพราะหมายตาศิรินภาเอาไว้ให้ลูกชายแล้ว
“คุณแม่จะให้ช่วยอะไรบอกมาได้เลยนะคะ หนูเต็มใจค่ะ” วิรากานต์คิดว่าการทำดีเอาใจแม่สามีไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เป็นธรรมดาที่แม่สามีกับลูกสะใภ้ย่อมเขม่น
กันเป็นธรรมดา แต่ถ้าเธอทำดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ยังไงก็ต้องเอาชนะใจแม่สามีได้แน่นอน
“หล่อนเต็มใจแน่นะ”
“ค่ะคุณแม่” วิรากานต์ยิ้มหวานให้แม่สามี
“หล่อนไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่หรอก ฉันฟังแล้วขนลุก”
“งั้นจะให้หนูเรียกว่าอะไรเหรอคะ” วิรากานต์เอ่ยถามกลับ เธอเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย ๆ นางไม่ชอบให้เรียกว่าอย่างไร เธอก็ไม่เรียกอย่างนั้น
“เรียกชื่อฉันดีกว่า ฉันมีลูกชายกับลูกสาวแค่สามคน ไม่มีลูกสาวที่ไหนอีก”
“ค่ะคุณรัศมี”
“งั้นไปซักผ้าด้วย ผ้าวางไว้ที่ลานซักล้าง หล่อนต้องซักให้หมดภายในวันนี้”
“ค่ะ ได้อยู่แล้ว” วิรากานต์ยิ้มแฉ่ง ก็แค่ซักผ้ามันจะไปยากอะไร
“ห้ามให้คนอื่นช่วยเด็ดขาด”
“อ้อ... ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะเดินไปยังลานซักผ้าหลังบ้าน แล้วก็ต้องอ้าปากค้างตาโตเมื่อเห็นผ้ากองโตตรงหน้า
"เราเคยสัญญากัน...ใต้ดาวดวงนั้น ว่าจะไม่ทิ้งกันไปไหน แต่บางครั้ง...การจากลาไม่ได้เกิดจากคนที่อยากไป และเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คำสัญญานั้น...ยังจะมีความหมายอยู่ไหม"
“เธอคือเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการ แต่กลับเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อาจปล่อยไปได้” แต่เมื่อเขายิ่งอยู่ใกล้เธอ เขากลับยิ่งอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ ทว่าเธอไม่ใช่หมากให้เขาควบคุม เขาต่างหากที่จะถูกเธอควบคุมและยอมจำนนรักต่อเธอ
คะนึงนิจรักเขาจึงยอมยกทุกอย่างให้เขาทั้งตัวและหัวใจ แต่เขาเพียงแค่หลอกกินฟรี เตะถ่วงเวลาออกไปเพื่อไปหาผู้หญิงที่ดีกว่า ในเมื่อเขาเห็นเธอเป็นของไร้ค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาจากชีวิตของเขา โดยไม่เสียดายผู้ชายหลอกลวงอย่างฉัฐดนัยเลย
เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้
เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
© 2018-now MeghaBook
บนสุด