วันนนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาที่ตระกูลเฉียวจัดให้กับเฉียวเฉี่ยนผู้เป็นลูกสาวแท้ ๆ
เมื่อสิบแปดปีก่อน เฉียวเฉี่ยนถูกคนลักพาตัวไป สามีภรรยาตระกูลเฉียวตามหาเธอมาตลอดหลายปีแต่ไม่เจอเบาะแสร่องรอยอะไรทั้งนั้น สุดท้ายก็รับเลี้ยงเฉียววานมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
แต่ใครจะไปคิดว่าเฉียวเฉี่ยนกลับถูกพาตัวกลับมาหลังจากที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนเฉียววานก็กลายเป็นส่วนเกินภายในชั่วข้ามคืน
“เฉี่ยนเฉี่ยน!”
เสียงกรีดร้องของแม่เฉียวดังออกมาจากในวิลล่า วินาทีต่อมา เธอกับพ่อเฉียวก็พุ่งออกมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
แม่เฉียวเห็นเฉียวเฉี่ยนที่อยู่ในสระน้ำ ก่อนจะหันไปหาเฉียววานที่ยืนอยู่ริมฝั่ง ความโกรธเกลียดเคียดแค้นผุดขึ้นมาในแววตา “เฉียววาน! นังเนรคุณ! ทำไมถึงต้องผลักน้องสาวของแกลงน้ำด้วย !”
พ่อเฉียวไม่พูดพร่ำทำเพลงกระโดดลงไปช่วยเธอในสระน้ำทันที ส่วนแม่เฉียวก็ชี้หน้าด่าเฉียววานด้วยความโมโหเกรี้ยวกราด “ไสหัวออกไปซะ! บ้านหลังนี้ไม่ต้อนรับแก!”
“หนูไม่ได้ผลักเธอนะคะ” สีหน้าของเฉียววานเย็นชา น้ำเสียงสงบนิ่งจนแทบจะเฉยชา “เธอกระโดดลงไปเองต่างหากล่ะ”
“พูดจาไร้สาระ!” แม่เฉียวโกรธจนสั่นไปทั้งตัว “เฉี่ยนเฉี่ยนจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน พวกเรารับเลี้ยงแกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่แกกลับตอบแทนพวกเราแบบนี้เนี่ยน่ะเหรอ !”
ในเวลานี้ เฉียวเฉี่ยนก็ถูกพ่อเฉียวช่วยขึ้นมาแล้ว
เธอเปียกโชกไปทั่วทั้งตัว ซบพิงอยู่ในอ้อมกอดของพ่อเฉียวด้วยตัวสั่นเทา เบ้าตาแดง น้ำเสียงอ่อนแอ “พ่อ แม่ อย่าไปโทษพี่เลย... มันเป็นความผิดของหนูเอง หนูนั้นไม่ควรกลับมา...”
ท่าทางแบบนั้นมันราวกับดอกไม้ที่สั่นไหวอยู่ท่ามกลางสายลมหนาว
“เฉี่ยนเฉี่ยน ลูกจิตใจดีเกินไปแล้ว!” แม่เฉียวกอดเธอด้วยความรู้สึกเอ็นดู ก่อนจะหันกลับไปพูดกับเฉียววานด้วยเสียงเกรี้ยวกราด “เก็บข้าวของของแก แล้วไสหัวออกไปจากตระกูลเฉียวซะ!”
พ่อเฉียวรู้สึกลังเลอยู่นิดหน่อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่กดต่ำ “แต่ว่าตอนที่พวกเรารับเฉียววานมาเลี้ยง ได้สัญญากับผู้อำนวยการเอาไว้ว่าจะดูแลเลี้ยงดูเธอเป็นอย่างดีนะ เรื่องนี้มันอาจจะเป็นความเข้าใจผิดอะไรก็ได้...”
“เข้าใจผิดอะไรกัน !” แม่เฉียวขัดจังหวะด้วยเสียงโกรธเกรี้ยว “ตอนนี้คนที่ร่วงตกลงไปในสระน้ำคือลูกสาวแท้ ๆ ของคุณนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเฉียววานผลักเธอ เธอจะกระโดดลงไปเองหรือไงกัน? !”
พ่อเฉียวอ้าปากค้าง สุดท้ายก็ก้มหัวลงอย่างเงียบสงบ “... ก็ได้ ส่งเธอกลับไปก็แล้วกัน”
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรออกไปหาหมายเลขของผู้อำนวยการเหวิน
ตอนที่รับเลี้ยงเฉียววานในตอนแรก ก็เป็นเพราะว่ารัฐบาลช่วยเงินอุดหนุนจำนวนหนึ่งล้านห้าแสน มันสามารถนำมาแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของตระกูลเฉียวได้พอดี
ตอนนี้ลูกสาวแท้ ๆ กลับมาแล้ว เฉียววานก็กลายเป็นส่วนเกินไปทันที
ดังนั้นการที่เฉียววานจากไปมันก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้
เฉียววานยืนอยู่ด้านข้าง จ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเฉยชา
เธอรูปร่าสูงเพรียว ผิวขาวผ่องราวกับหิมะ ใบหน้าที่เล็กเท่าฝ่ามืองดงามจนแทบจะเรียกได้ว่าสวยสง่าแบบเย็นยะเยือก
แต่ในดวงตาสีดำขลับคู่นั้นกลับไร้ซึ่งความโกรธแค้น ไร้ซึ่งความน้อยใจ มีเพียงแค่ความเงียบสงัดเท่านั้น
หลังจากที่พ่อเฉียววางสายลง ก็ถูมือด้วยความรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย “เฉียววาน อีกเดี๋ยวผู้อำนวยการเหวินก็จะมารับลูกแล้ว... สิ่งของที่ซื้อให้กับลูกก่อนหน้านี้ ลูกเอามันไปได้เลย นอกจากนี้ ลูกก็รับเงินห้าพันนี้เอาไว้เถอะนะ...”
“หนูไม่ต้องการ” เฉียววานขัดจังหวะอย่างเรียบเฉย
เฉียวเฉี่ยนหลบซ่อนอยู่ในอ้อมกอดของแม่เฉียว แววตาสะใจ แต่ใบหน้ากลับน่าสงสาร “พี่ พี่ยังโกรธที่ฉันกลับมาอยู่ใช่ไหม? ฉันเพียงแค่อยากจะกลับมาแสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่เท่านั้น...”
“เด็กโง่ คนที่ต้องพูดขอโทษ คือเฉียววานต่างหากล่ะ เธอเป็นฝ่ายมาแย่งชิงที่อยู่อาศัยของคนอื่นเอง” แม่เฉียวพูดขึ้นด้วยความเอ็นดู
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่ ฉันไม่ใช่พี่ของเธอ” เฉียววานกวาดสายตามองพวกเธออย่างเย็นชา “พวกคุณต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าฉันไม่ได้ผลักเธอ”
สามีภรรยาของตระกูลเฉียวถูกพูดแทงใจดำ ใบหน้าแข็งชะงัก แต่ว่าเฉียวเฉี่ยนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเอง พวกเขารู้ดีว่าเลือดมันย่อมข้นกว่าน้ำ
“เฉียววาน ตอนนี้เรื่องมันจบสิ้นลงแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะสืบสาวราวเรื่องอะไรอีกต่อไป” พ่อเฉียวพูดพลางหน้านิ่วคิ้วขมวด
แม่เฉียวเองก็โกรธแล้วเหมือนกัน กำลังจะระเบิดโมโหออกมา จู่ ๆ ข้างนอกบ้านก็เกิดความวุ่นวายขึ้นเสียก่อน
หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเข้ามา ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างสุภาพนอบน้อม “คุณเฉียว ฉันมารับตัวเฉียววานกลับไป”
เฉียวยวนหมินอึ้งตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้า “เฉียววาน ไปด้วยกันกับผู้อำนวยการเหวินเถอะ”
ผู้อำนวยการเหวินรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปหาเฉียววานด้วยสายตาอ่อนโยน “เด็กดี ฉันมารับเธอแล้วนะ ไม่เป็นไรนะ นี่ไม่ใช่ความผิดของเธอ ฉันจะช่วยหาครอบครัวที่ดีกว่าให้กับเธอเอง”
เธอจับมือของเฉียววานเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน “ตอนที่เธอกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าครั้งล่าสุด ในตอนนั้นเธอเคยเจอกับป้าหลู่ว่านชิง ยังจำได้ไหม หลู่ว่านชิงชอบเธอมาก หลังจากที่รู้สถานการณ์ของเธอแล้ว ก็เต็มใจที่จะรับเลี้ยงเธอทันที”
แววตาของเฉียววานสั่นเล็กน้อย
หลู่ว่านชิง... ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนคนนั้นน่ะเหรอ
ผู้อำนวยการเหวินยิ้มเล็กน้อย “พวกเขาอยู่ระหว่างทางแล้ว ถ้าเธอเต็มใจ นับจากนี้ไปที่นั่นก็คือบ้านของเธอ”
หลังจากที่หยุดลงเล็กน้อย ก็พูดขึ้นต่อ “ฉันรู้สึกว่าครอบครัวนี้เหมาะสมกับเธอมากกว่า”
เบื้องบนให้โอกาสกับเธอแค่สี่ครั้งเท่านั้น นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้ายังไม่สามารถจัดการกับเด็กคนนี้ให้เรียบร้อยอีกล่ะก็ ...
เฉียววานเงียบไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้า “ได้ค่ะ”
ผู้อำนวยการเหวินได้ยินแบบนี้ ก็ยิ้มด้วยความโล่งใจ