ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / สมัยใหม่ / หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ
หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

5.0
3 บท/วัน
68 บท
530 ชม
อ่านเลย

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

สารบัญ

บทที่ 1 สัก

ภายในห้องผู้ป่วยวีไอพี ณ เจียงเฉิง

เจียงว่านหนิงที่นอนอยู่บนเตียงกำลังดูวิดีโอในแท็บเล็ต ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย

เธอเป็นไข้สูงจนต้องเข้าโรงพยาบาล คู่หมั้นในนามของเธอกลับไปเปิดห้องที่โรงแรมด้วยกันกับผู้หญิงคนอื่น

ด้านหลังในวิดีโอเป็นทางเดินของโรงแรม แสงไฟค่อนข้างสลัว

แต่เจียงว่านหนิงกลับมองแวบเดียวก็จำได้ทันทีว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเยว่เซินคือเจียงเหยียน น้องสาวต่างมารดาของเธอ

หลังจากปิดแท็บเล็ตลง เจียงว่านหนิงก็มองไปหาคนที่มาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ถ้าฉันไม่สักล่ะ”

เผชิญหน้ากับปฏิกิริยาของเจียงว่านหนิง สุยเจียงกลับไม่รู้สึกตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าเกิดเขาเป็นเจียงว่านหนิง เกรงว่าเขาเองก็คงจะรับไม่ไหวเหมือนกัน

มีที่ไหนกันที่คู่หมั้นไปเปิดห้องกับคนอื่นแล้ว มาขอให้คู่หมั้นของตัวเองช่วยปกปิด

เยว่ซือ กรุ๊ปกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เยว่เซินในฐานะที่เป็นทายาทของเยว่ซือ กรุ๊ป ถูกคนถ่ายวิดีโอแบบนี้เอาไว้ มันส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นของเยว่ซือ กรุ๊ปแล้ว

ถ้าต้องการระงับเรื่องนี้ วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือให้เจียงว่านหนิงที่เป็นคู่หมั้นตัวจริงคนนี้ออกหน้าให้

เจียงเหยียนในวิดีโอไม่ได้ถูกถ่ายเห็นหน้า แต่รอยสักที่เอวมันกลับถูกเปิดเผยออกมาให้เห็น

รอยสักนั้นมันเป็นตัวย่อชื่อของเยว่เซิน

ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเยว่เซิน สุยเจียงมาที่โรงพยาบาล ก็เพื่อที่จะมาถ่ายทอดเจตนาของเยว่เซิน ให้เจียงว่านหนิงสักรอยสักที่เหมือนกันกับของเจียงเหยียนที่เอว

แบบนี้กระแสคลิปวิดีโอในอินเทอร์เน็ตก็จะถูกกลบลงอย่างรวดเร็ว

สายตาที่สุยเจียงมองเจียงว่านหนิงแฝงไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ แต่สุดท้ายกลับพูดเบา ๆ “คุณเจียง นี่เป็นเจตนาของประธานเยว่ ถ้าคุณไม่สามารถให้ความร่วมมือได้ การรักษาในสัปดาห์หน้าของคุณยายคุณ เกรงว่าจะมีปัญหายุ่งยากขึ้นมาไม่น้อย เพราะงั้น...”

คำพูดส่วนหลัง สุยเจียงไม่ได้พูดออกมา แต่เจียงว่านหนิงเข้าใจเจตนาของเขาแล้ว

หรือบอกว่าเป็นเจตนาของเยว่เซินก็ได้

เขากำลังเอายายของเธอมาข่มขู่เธอ

คุณยายจะต้องเข้ารับการรักษาสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทั้งเจียงเฉิง นอกจากเผยเซี่ยงที่เป็นหมออัจฉริยะแล้ว ก็ไม่มีใครที่สามารถทำการรักษาให้กับเธอได้อีก

เจียงว่านหนิงไม่รู้ว่าเยว่เชินไปโน้มน้าวเผยเซี่ยงได้ยังไง

แต่เยว่เซินเอาคุณยายมาข่มขู่เธอ เธอไม่มีอะไรจะไปต่อต้านเขาได้

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เจียงว่านหนิงก็เอนตัวนอนคว่ำลงไปบนเตียงผู้ป่วย

ช่างสักที่นั่งอยู่ด้านข้าง เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือสักเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เจียงว่านหนิงเป็นคนที่มีร่างกายพิเศษ ยาชาที่ช่างสักจัดเตรียมเอาไว้ให้ มันใช้ไม่ได้ผลกับเธอ

ตอนที่สักเสร็จแล้ว ชุดผู้ป่วยลายทางที่เธอสวมใส่ก็เปียกโชกไปหมด ใบหน้าที่เดิมทีก็ไม่มีชีวิตชีวาอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเผือดมากขึ้น

“คุณเจียง ต้องขออภัยด้วยครับ”

หลังจากที่พูดกับคนที่อยู่บนเตียงแล้ว สุยเจียงก็ก้าวเข้าไป ถ่ายรูปรอยสักใหม่บนเอวของเจียงว่านหนิง

หลังจากที่ได้รับการตอบกลับมาจากทางนั้นแล้ว สุยเจียงถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

มองไปหาช่างสักที่อยู่ด้านข้าง สุยเจียงส่งสายตาให้กับเขา จากนั้นก็ออกไปจากห้องผู้ป่วยทันที

“คุณเจียง พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ ตอนค่ำคนขับรถจะมารับคุณ”

หลังจากพูดจบ ก็ไม่รอให้คนบนเตียงมีปฏิกิริยาตอบสนองใด ๆ สุยเจียงก็ออกจากห้องผู้ป่วยไปอย่างเงียบ ๆ

หลังจากที่ได้ยินเสียงปิดประตูห้องผู้ป่วยแล้ว เจียงว่านหนิงถึงได้ลืมตาขึ้นมา

รู้สึกเจ็บแสบบริเวณเอว เจียงว่านหนิงลากสังขารที่หนักอึ้ง เดินเข้าไปในห้องน้ำด้านข้าง

มองรอยสักที่เหมือนกันกับเจียงเหยียน ความเยาะเย้ยในแววตาของเจียงว่านหนิงก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้น รู้สึกหดหู่อยู่ภายในใจขึ้นมาแล้ว

เวลาหนึ่งทุ่ม เจียงว่านหนิงก็ปรากฏตัวขึ้นมาในงานแถลงข่าวของเยว่ซือ กรุ๊ปภายใต้การคุ้มกันของสุยเจียง

เยว่เซินเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน

ผู้ชายหน้าตาโดดเด่น รูปร่างสูงชะลูด สวมเสื้อสูทสีดำงานแฮนด์เมด ยิ่งขับให้เขาดูสูงส่งสง่างามมากขึ้น

ตอนที่สายตามองไปเห็นเสื้อสูทบนตัวของผู้ชายคนนั้น ความดำมืดก็แวบผ่านเข้ามาในตาของเจียงว่านหนิง

เสื้อสูทชุดนี้ เป็นชุดที่เมื่อสองปีก่อนเธอใช้เวลาเดือนหนึ่งเต็ม ๆ ในการทุ่มเทแรงกายแรงใจ ตั้งแต่ออกแบบไปจนถึงการตัดเย็บด้วยตัวเองทั้งวันทั้งคืนจนเสร็จ

เธอยังจำสีหน้าดีอกดีใจตอนที่เยว่เซินได้รับเสื้อตัวนี้ได้ขึ้นใจ

แต่ว่าผ่านไปสองปีแล้ว เสื้อผ้ามันก็ยังคงเป็นเสื้อผ้าตัวเดิม แต่คนกลับไม่ใช่คนในตอนนั้นอีกแล้ว

“คุณเจียง ในฐานะที่คุณเป็นคู่หมั้นของประธานเยว่ ไม่ทราบว่าคุณจะทำยังไงกับเรื่องที่ประธานเยว่ไปเปิดห้องด้วยกันกับสาวสวยมีรอยสักเมื่อคืนเหรอครับ”

“จะทำเป็นหลับหูหลับตา หรือว่า...”

คำพูดของนักข่าวยังไม่ทันจบ ก็รู้สึกช็อกตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้าเสียก่อน

เห็นเยว่เซินยื่นมือออกไปโอบกอดเจียงว่านหนิง ขณะเดียวกันก็จงใจถกชายเสื้อของเธอขึ้นมา

รอยสักที่เหมือนกับในวิดีโอเป๊ะ ๆ ถูกเปิดเผยออกมาต่อหน้ากล้องทันที

ปลายนิ้วของผู้ชายคนนั้นเย็นยะเยือก เจียงว่านหนิงเพียงแค่รู้สึกขยะแขยงตรงบริเวณที่ถูกเขาสัมผัสเท่านั้น ตอนที่เงยหน้าขึ้นมา เจียงว่านหนิงก็ถึงขนาดที่เห็นรอยจูบที่คอของเขาด้วย

กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้นมา เจียงว่านหนิงกัดริมฝีปาก พยายามระงับความรู้สึกพะอืดพะอมนั้นลงไป

“อาหนิง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน คุณอธิบายกับนักข่าวสักหน่อยสิ”

น้ำเสียงของเขาตอนที่พูดอ่อนโยน แต่อารมณ์ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเสียดสี

เจียงว่านหนิงรู้สึกหงุดหงิด แต่เมื่อนึกถึงคุณยายแล้ว สุดท้ายก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ

เธอยิ้มออกมาอย่างช้า ๆ “นักข่าวทุกท่านเข้าใจผิดแล้วค่ะ คนที่อยู่ด้วยกันกับประธานเยว่เมื่อคืน ก็คือฉันเองค่ะ”

“วิดีโออื้อฉาวที่เผยแพร่ลงไปในอินเทอร์เน็ต มันคือความเข้าใจผิดค่ะ”

“ที่แท้ก็เป็นความเข้าใจผิดนี่เอง ความสัมพันธ์ของคุณเจียงกับประธานเยว่มั่นคงมากจริง ๆ ดูเหมือนว่ากำลังจะได้ยินข่าวดีในเร็ว ๆ นี้แล้วสินะ!”

ราวกับเพื่อพิสูจน์ให้กับพวกนักข่าวได้เห็น เยว่เซินกอดเจียงว่านหนิงเอาไว้อย่างสนิทสนมด้วยสีหน้าอ่อนโยน

จนกระทั่งโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าของเขาดังขึ้นมา ตอนที่เห็นคำว่า ‘เหยียนเหยียน’ สว่างขึ้นมา เยว่เซินก็ปล่อยเจียงว่านหนิงออกไปทันที

โชคดีที่พวกนักข่าวแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นจะต้องเป็นข่าวอีกครั้งแน่นอน

แม้จะอยู่ห่างกันมาก แต่เจียงว่านหนิงก็สามารถได้ยินเสียงที่ออดอ้อนของเจียงเหยียน รวมถึงเสียงสนทนาที่แผ่วเบาของเยว่เซิน

เจียงว่านหนิงปฏิเสธรถที่สุยเจียงเตรียมเอาไว้ให้ เธอกลับไปยังคอนโดใจกลางเมืองคนเดียวตามลำพัง

เจียงว่านหนิงนั่งอยู่บนโซฟาริมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานท่ามกลางความมืดอยู่นานสองนาน

มองแสงไฟมากมายข้างนอกหน้าต่าง เธอโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง

หลังจากที่เสียงรอสายดังขึ้นมาสามครั้ง ปลายสายก็รับสาย แต่กลับไม่ได้พูดอะไรอยู่นานสองนาน

ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงหายใจที่ทุ้มต่ำดังขึ้นมาข้างหู เจียงว่านหนิงก็คิดว่าสายน่าจะถูกตัดไปแล้ว

ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงัด เจียงว่านหนิงพูดขึ้นมาอย่างกล้ำกลืนฝืนทน “เงื่อนไขที่คุณสัญญากับฉัน ยังนับอยู่ไหม?”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY