'ลูก' ของขวัญจากพระเจ้า...แต่หากมาในเวลาที่ไม่สมควรล่ะ? มันคือหายนะ!! เพราะอนาคตที่แสนงดงามจะจบลง ปูชิดา...ผู้หญิงสุดอาภัพเธอ 'เลือก' ที่จะปิดบัง... เพราะหากหญิงสาวเลือกอีกทาง...หนึ่งชีวิต อาจถูกทำลาย.... 'ซ่อน' จึงเป็นหนทางเดียวที่เธอจะปิดบังไว้จากสายตาคนรอบตัว ยอมถูกตราหน้าว่าเป็น 'หญิงชั่ว' แต่ไม่คิดทำร้ายสายเลือดในอุทร เหมือนชะตาลิขิต พระพรหมขีดเส้นทางไว้ คนที่ไม่ควรย้อนกลับมาเจอกัน กลับได้เจอกันจนได้ 'ปม' ที่เธอพยามปิดบังไว้ ถูกเปิดเผย ความลับที่แอบซ่อนไว้แตกโผ๊วะ!! แม้จะถูกขัดขวาง...แต่ใครล่ะจะกั้นขวางหัตถาของพระพรหมได้
บทที่1.ความทรงจำสีเทา...
‘อย่าทิ้งชิดาไป ได้โปรด?!!’
เสียงคร่ำครวญประหนึ่งจะขาดใจ ได้ฟังแล้วชวนให้สงสารเป็นอย่างยิ่ง เด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่ง...หล่อนกำลังสะอื้นไห้จนตัวสั่นระริก เธอคร่ำครวญเหมือนกำลังขาดใจตายในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า ใบหน้าฉ่ำน้ำตาแหงนเงย ทอดสายตาปวดร้าวมองตามเครื่องบินลำใหญ่...ที่ทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้า จนกระทั่ง...มันหายลับหายไปจากสายตา บนเครื่องบินลำนั้น...มีบุคคลที่เธอ ‘รัก’ รักจนยอมมอบสิ่งล้ำค่าของตัวเองให้กับเขา ‘ความสาว’ สิ่งล้ำค่าที่บุพกาลีพยายามสั่งสอนให้จดจำ แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด แต่...ไม่อาจห้ามความปรารถนาที่ก่อเกิดขึ้นในใจได้ วังวนหวามๆ นั่นทำให้เธอลุ่มหลง มันเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน และวันนี้... ผลของมันนั้นกำลังก่อเกิดในร่างกายเธอ แต่...เขาคนนั้น กลับไม่ได้อยู่ร่วมรับผิดชอบผลงานของตัวเองร่วมกับเธอเสียนี่ และเธอเองก็ปากหนักเกินกว่าจะรั้งเขาเอาไว้ เมื่อเขากำลังไปดี ไปศึกษาหาความรู้ เพื่อกลับมาสานต่อกิจการงานที่บ้านของตัวเอง
ปูชิดา ไวศยปรานนท์ เด็กสาววัย17 ปีเธอเติบโตผลิบานและสวยสมวัยแรกรุ่น แต่ใครจะคิดล่ะว่าเธอกำลังผจญกับเรื่องราวที่หนักเกินตัว เมื่อกำลัง ‘อุ้มท้อง’ โดยที่ไม่มีพ่อของเด็ก
น้ำตาใสใสไหลเป็นทางยาว สองมือยกกอดตัวเองไว้แน่นๆ ริมฝีปากเม้มจนเป็นเส้นตรง แต่ก็ยังมีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาอยู่ดี ใบหน้านองน้ำตาแหงนมองท้องฟ้ากว้าง น้ำตาร้อนๆ ยังคงไหลกลิ้งหล่นร่วงออกมาจาดวงตาชุ่มน้ำตาไม่หยุด ในนาทีที่เธอทราบข่าวร้าย!! เป็นวันเดียวกันที่อีกเสี้ยวหนึ่งของหัวใจของเธอกำลังออกเดินทาง แล้วแบบนี้เธอจะปริปากบอกเขาได้ยังไง? เพราะยิ่งเท่ากับว่าทำให้คนรอบข้างผิดหวัง ไม่มีพ่อ-แม่ คนไหนจะยินดีปรีดาหรอก หากจะมีผู้หญิงมายืนร้องไห้โยเย บอกกับบุตรชายตัวเองว่า ‘หล่อนกำลังท้อง’ ในขณะที่เขากำลังจะไปมีอนาคตสดใส ได้ศึกษาหาความรู้ที่แดนไกล เพื่อกลับมาสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวตัวเอง...
เด็กสาวสุดอาภัพจึงได้แต่กล้ำกลืนน้ำตา ยิ้มส่งให้ ‘พ่อของลูก’ ไปมีอนาคตที่ดี เธอเลือกที่จะปิดบัง ‘ความลับ’ ไว้ ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังจะจมน้ำตาย เพราะหากครอบครัว หรือบิดารู้เรื่อง!! เธอคงถูกลงโทษอย่างหนัก เมื่อทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียง ‘ท้องโย้’ คาบ้านแบบไม่มีพ่อ!!
ปูชิดาเดินคอตก ขาเธอก้าวย่างแทบไม่ออก เมื่อเธอใช้เวลาทำใจอยู่นานกว่า3 ชั่วโมง กว่าจะทำใจได้ และข้างกายว่างเปล่าไม่มีคนปลอบ? ไม่มีใครให้คำปรึกษาได้สักคน เมื่อตัวเองเป็นแค่เด็กกำพร้า หลังบิดามีภรรยาใหม่ แทบจะทันทีที่ส่งมารดาเธอสู่เตาเผา หรือท่านอาจจะมีผู้หญิงอีกคนก่อนหน้านั้นแล้วก็ได้ เพราะเด็กผู้หญิงที่บิดาบอกกล่าวกับเธอว่าเป็น ‘น้อง’ อายุแทบไม่ห่างจากเธอเท่าไรเลย
เธอเลยเหมือนตัวคนเดียวในครอบครัวใหม่ของบิดา ปูชิดาถูกกันออกห่างๆ ด้วยสายตากดต่ำของคุณงามตา และบิดาเห็นดีเห็นงามด้วย เพราะท่านคิดว่า เพราะมีเธอ...เลยทำให้ภรรยาของเขาตาย...
ปูชิดามีความสุขตามอัตภาพ!! จนกระทั่งได้รู้จักกับเขา...ผู้ชายที่เป็นพ่อของลูกเธอ ออสติน อัศวิน เทรย์เวอร์ หนุ่มฮอตที่เป็นขวัญใจสาวๆ เขากำลังเรียนวิทยาลัย’ ในขณะที่เธอเรียนมัธยมปลาย...เป็นเหมือนพรหมลิขิตที่ทำให้เธอเจอผู้ชายแสนดี ได้รู้จักความรัก!! ได้เรียนรู้ร่างกายของกันและกัน
มันผิดเธอรู้...แต่จะทำไงได้ ‘เธอรักเค้า!!’
จนวันนี้ความใจง่ายในวันนั้น กำลังทำให้เธอเข้าตาจน...ปูชิดาจะทำอย่างไรดีกับเลือดเนื้อเชื้อไขที่กำลังก่อเกิดในอุทร
นั่นคือความหลังอดีตของเธอเมื่อ5ปีก่อน ขณะนี้... ปูชิดาอายุ22 ปีเต็ม เป็นสาวสะพรั่งและมีลูกสาวน่ารักน่าชัง1คน!!
ใช่ในวันที่เหมือนโลกถล่มทลายลงตรงหน้า เธอยืนกรานที่จะรักษาหนึ่งชีวิตไว้ แลกกับการเดินออกจากบ้านไวศยปรานนท์มาแบบตัวเปล่า...เธอไม่มีอนาคต ไม่มีที่ซุกหัวนอน ไม่มีสตางค์ติดตัวมาสักบาท แต่เธอก็เชิดหน้ากล้ำกลืนน้ำตาเก็บไว้ในอก เพราะตัวเองผิด!! เธอสมควรถูกทำโทษ
โลกไม่ได้โหดร้ายกับเธอนัก...ในวันที่ไม่เหลือใครรักเธอ คนที่เธอไม่เคยคิดถึง กลับเป็นคนรักเธอที่สุด
นมแผ้ว...แม่นมของมารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่นางเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง จึงยังคงทำงานอยู่ที่บ้านไวศยปรานนท์ นางเดินออกมาจากบ้านไวศยปรานนท์พร้อมกับปูชิดาด้วย สาวใหญ่ร่วมหัวจมท้ายกับหญิงสาวด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้ายของนาง เป็นบุญคุณที่ปูชิดาจะไม่มีวันลืม นมแผ้วคือคนที่รักเธอที่สุด!!
รองจากเด็กผู้หญิงวัย4ขวบ เด็กหญิงอัปสรา ไวศยปรานนท์ น้องนางฟ้าลูกรักสุดสวาทบาดจิตของเธอเอง
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี