อันนากำลังจะเดินตามรอยของแม่อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แม่ของเธอหนีจากพ่อไป แล้วค่อยตั้งท้องไม่ใช่หรือ แต่ตัวเธอน่ะ ท้องแล้วค่อยหนีต่างหาก ท้องกับใครไม่ท้อง ดันท้องกับคนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างนายแพทย์อาร์เธอร์นี่ยังไงเล่า เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวก็ได้โดนของแข็งนี่หรอก” อันนาเอ่ยถามทั้งที่ตัวเองยังพาดอยู่บนตัวของเขา “ของอะไรล่ะที่ว่าแข็งน่ะ” อาร์เธอร์มองสบตาคนที่เอ่ยวาจาท้าทายเขา ขยับขาตั้งชันขึ้นให้ได้มุม แล้วดันส่วนที่เป็นของแข็งของตัวเขาเองบดเบียดที่ท้องน้อยของคนอยากลองดีเน้น ๆ หนัก ๆ อันนาสะท้านเบา ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงของแข็งที่เขาบอก ตอนนั้นเองที่เกิดความคิดซุกซนอยากเอาชนะผุดขึ้นในหัว เธออยากจะผลักเขานอนลงนิ่ง ๆ แล้วเปิดดูให้รู้ไปเลยว่าอะไรที่มันแข็งได้ขนาดนั้น แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยาก ก็จำต้องร้องเรียกเขาด้วยเสียงที่สั่นน้อย ๆ เพราะแรงบดเบียดจากเขาจริงจังมากขึ้น “อาร์ธ” อาร์เธอร์ไม่ตอบรับเธอด้วยคำพูดสักคำ แต่ดวงตาสีฟ้าของเขาดูเข้มแสงวาววับมากยิ่งขึ้น และเธอก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น อันนาถูกมือของเขาวาดขึ้นตรงท้ายทอยอย่างแม่นยำ พร้อมกับดึงลงไปหา แล้วปากของเธอก็ถูกปากของอาร์เธอร์ทาบทับปิดลงอย่างพอดิบพอดี “อี๊” เธอขืนตัวหนี พร้อมกับร้องโวย ยกกำปั้นทุบลงที่อกแข็ง ๆ ของอาร์เธอร์ แต่แล้วกลับถูกเขาบดจูบหนักกว่าเดิม ลึกซึ้งกว่าเดิมเสียอีก เป็นจูบที่ไม่ให้เธอได้ตั้งตัวเอาเสียเลย
ร่างหนัก ๆ ที่กำลังขยับสะโพกของเขาแทรกสอดเข้ามาในตัวเธอนี่มันอะไร ก็ไหนว่าไม่ค่อยได้พัก เข้าเคสผ่าตัดทีละสิบชั่วโมงจนแทบไม่มีเวลาจะได้นอนด้วยซ้ำไป แล้วนายแพทย์อาร์เธอร์เอาเรี่ยวแรงจากที่ไหนมาขย่มใส่ได้ขนาดนี้กัน
ก่อนจะทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นก็ดันถูกปลุกปั่นอารมณ์ด้วยปากและมือของอีกฝ่ายจนอารมณ์แปลกประหลาดไม่รู้ที่มาที่ไปแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกายของเธอ อันนาดิ้นพล่าน กายสาวกระตุกถี่เป็นจังหวะซ้ำ ๆ พร้อมส่งเสียงหวีดร้องดังลั่นห้อง
“อาร์ธ!”
เธอเรียกชื่ออีกฝ่ายพร้อมกับที่เจ้าของร่างใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าหาไม่ยั้งก่อนที่ทุกอย่างในหัวจะพร่าเลือนไปจนหมดสิ้น
เนื้อกายร้อนผ่าวชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ
อันนาลืมตามองเพดานนิ่ง ๆ ก่อนจะตะแคงตัวหลบแขนหนัก ๆ ที่วางพาดลงบนลำตัวของเธอ ปัดแขนล่ำบึ้กนั่นออก พร้อมกับนอนพักจนจังหวะการหายใจเป็นปกติดีแล้วก็ค่อยหันกลับมาที่ร่างของคนที่คร่อมทับเธออยู่เมื่อครู่นี้
เห็นว่าเจ้าของร่างกายใหญ่โตนอนคว่ำหน้าสลบไปแล้วก็ค่อยหย่อนขาลงขยับออกจากเตียงในห้องชุดของอีกฝ่ายไป
ไม่น่าหวังดีกับไอ้หมอหื่นนี่เลย เธอนั่งดื่มอยู่ที่คลับกับอมยิ้มอยู่ดี ๆ ตาก็ดันเหลือบไปเห็นว่าอาร์เธอร์เข้ามาในร้านที่อีกฟาก แล้วนั่งดื่มกับพรรคพวกของเขา แป๊บเดียวเท่านั้นหันไปมองอีกที หมอบ้านี่ก็ฟุบหน้าลงกับโซฟา ร่วงเป็นมะม่วงเลย
พอเห็นอย่างนั้นเธอก็นิ่งเฉยไม่อยากจะสนใจ
แต่แล้วคำพูดของแม่ที่พร่ำบอกมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็เข้ามารบกวนหัวใจของเธอตลอด ว่าให้ช่วยดูแลกันให้ดีเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน เลยทนทำเฉยต่อไปไม่ไหว ถึงได้ชวนอมยิ้มให้เข้าไปลากตัวนายแพทย์อาร์เธอร์กลับห้องพัก
แต่แล้วเธอกลับถูกอาร์เธอร์ลากขึ้นเตียงเสียเอง
เธอทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งต่อย ทั้งตะโกนเรียก แต่เหมือนว่าเขาจะเมาอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่เหล้า ดูไม่ค่อยจะมีสติเท่าไรนัก เดินหน้าปล้ำเธอจนสำเร็จ
การเสียสาวครั้งแรกทั้งทีให้เป็นคนที่ต่างคนต่างรักกันก็ไม่ได้ ทำไมจะต้องมาเป็นไอ้หมอบ้าอาร์เธอร์ คนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กแบบนี้ด้วย
ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ
เธอจึงยกขายันร่างหนาหนักให้พ้นไปจากตัวแต่ก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ เพราะรู้สึกเจ็บตรงส่วนนั้นของตัวเอง
“อาร์ธ ทำอะไรวะเนี่ย รู้ตัวไหม”
เธอได้แต่สบถเบา ๆ แล้วยื่นมือจะปลุกอีกฝ่ายที่พอได้ปลดเปลื้องใส่ตัวเองแล้วก็นอนฟุบหน้าสลบเหมือดไปแบบนั้น ก่อนจะชะงักดึงมือกลับ เมื่อนึกขึ้นได้ถึงตอนเด็ก ๆ อาร์เธอร์ชอบแสดงความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เรื่อย เวลาทำอะไรให้คนอื่นหรือแม้แต่ตัวเธอเองไม่พอใจ
แล้วถ้าอาร์เธอร์รู้ว่าเมื่อคืนทำอะไรกับเธอ ชีวิตวัยสาวจะต้องจบสิ้นลงที่การรับผิดชอบแบบสุภาพบุรุษขั้นสุดของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน
ฮึ่ย!
อันนาได้แต่ทึ้งหัวหูตัวเอง จะบอกว่าเสียใจก็ไม่ใช่ หรือจะบอกว่าผิดหวังก็ไม่เชิง พอกลับขึ้นมาบนรถแล้วค่อยฉุกคิดขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้ไอ้หมอบ้ากามนั่นมันได้สวมถุงยางอนามัยหรือเปล่า
แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง ก็คนมันไม่เคยนี่นา
แต่สภาพแบบนั้นคงไม่ได้สวมแน่นอน
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปมั่วที่ไหนมาบ้าง
แล้วจะท้องไหมนะ
เอาล่ะ อย่างน้อยก็ป้องกันตัวเองก่อนดีกว่า
คิดได้อย่างนั้นแล้วรีบสตาร์ตเครื่องยนต์ เหยียบคันเร่งขับตรงไปจอดลงที่หน้าร้านขายยา ร้านนี้รู้จักกับแม่ด้วย เอาไงดีนะ พรางตัวดีกว่า แล้วก็หยิบแว่นกันแดดอันใหญ่เกินครึ่งหน้าที่ซุกอยู่ในช่องเก็บของขึ้นมาสวม พร้อมกับปล่อยผมกระเซิงปิดทับอีกทีลงไปซื้อยาที่ร้านขายยาตรงทางผ่านจะเข้าบ้าน
เมื่อกลับขึ้นรถมาแล้วก็ให้รู้สึกขัด ๆ ที่ตรงส่วนบอบบางกลางลำตัวอยู่ไม่น้อย
เสียงสบถเบา ๆ เล็ดลอดออกจากปากอีกคำ
ไม่รู้ว่าจะหื่นได้ขนาดนั้น นี่ขนาดว่าไม่รู้สติยังทรงพลังอย่างกับม้าคึก ถ้าสติดีครบถ้วน ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน
น่าสงสารแฟนสาวของอีกฝ่ายจริง ๆ เลย คงจะคึกหนักแบบนี้ทุกครั้งที่นอนด้วยกันแน่ ๆ คิดมาถึงตรงนี้ก็ฟาดมือกับพวงมาลัยรถด้วยอาการเจ็บใจลึก ๆ จากนั้นขับรถตรงกลับเข้าบ้านในทันที
หมอหื่นทรงพลังที่ถูกต่อว่าจากปากหญิงสาวตั้งแต่ลานจอดรถของห้องชุดริมแม่น้ำเพิ่งจะรู้สึกตัวตื่นนี่เอง นายแพทย์อาร์เธอร์ครางในลำคอก่อนจะยกมือขึ้นกุมหัว
เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้แวะคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นหมอประจำแผนกเดียวกันที่คลับหรอกหรือ และถ้าจำไม่ผิดเมื่อคืนเขาไม่ได้สั่งเหล้ามาดื่มด้วยนี่นา แล้วทำไมอาการของเขาตอนนี้มันถึงมึน ๆ งง ๆ ได้ขนาดนี้ เหมือนกับเมามาทั้งคืน
คิดมาถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วมุ่น นึกทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
แสดงว่าเครื่องดื่มแก้วนั้นคงไม่ใช่แค่น้ำเปล่าอย่างเดียว จะต้องผสมอะไรแปลก ๆ ลงไปในนั้นอย่างแน่นอน
เพราะเขาไม่ได้ตั้งใจจะไปที่นั่น แต่พอโดนตามถี่เข้า ทางนั้นบอกให้ออกไปนั่งถกเรื่องงานวิจัยที่ทำร่วมกัน เลยแวะเสียหน่อยเพราะเป็นทางกลับห้องพักพอดี แต่พอคุยไปคุยมาหัวข้อก็เปลี่ยนไปยังเรื่องอื่นแทน
ชายหนุ่มสะบัดหัวแล้วสายตาก็มองเห็นสภาพที่นอนกับสภาพของตัวเขาเองได้ชัดเจนมากขึ้น
สายตามองเห็นชิ้นส่วนของอะไรสักอย่างบนเตียงนอน หยิบขึ้นดูแล้วก็ให้รู้สึกคุ้นเคยไม่น้อย เคยเห็นที่ไหนนะของแบบนี้ แต่พอยิ่งนึกก็ยิ่งปวดหัว นึกไม่ออก
แล้วเมื่อคืนเขาหลับนอนกับใครกัน
ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"
"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ
ปัญญารัตน์กำแท่งตรวจการตั้งครรภ์ในกระเป๋าไว้จนเหงื่อชุ่มเต็มมือ วันนี้เธอมาเพื่อบอกเขาว่า ท้อง แต่นายแพทย์อนลกลับเอ่ยปาก บอกเลิกความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน เพื่อกลับไปคบกับแฟนเก่าของเขาที่กำลังย้อนกลับมาคบกันอีกครั้ง
คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ
พ่อหายตัวไปอย่างลึกลับ พี่สาวของฉันถูกข่มขืนและจุดไฟเผา พี่ชายถูกทำร้ายจนตายและโยนศพลงแม่น้ำ ใครจะช่วยฉันได้ในสถานการณ์แบบนี้ . "เป็นคนของผม แล้วผมจะช่วยคุณลากคนผิดมาแก้แค้น" เจ้าของคำพูดนั้นคือ รฐนนท์ นิยายไม่เน้นสืบสวน เน้นความสัมพันธ์ของตัวเอก จบดี แฮปปีค่ะ
วันดีคืนดีก็มีมาเฟียมาจอดหน้าบ้าน บอกว่าอยากได้ที่ของผืนสุดท้ายของเธอ มาเฟีย เจ้าของรีสอร์ท ฟาร์มควาย ม้า วัวที่อยู่ตรงรอยต่อของไทยมาเจรจาด้วยตัวเอง ทันทีที่เจอกัน ศศิร์ธาไม่ได้แค่อยากได้ที่ของเธอ ตัวเธอเองเขาก็อยากได้ด้วย เสียแต่ว่าเป็นม่ายลูกติด ไอ้ระยำนั่นมันเอาอะไรคิดถึงได้ถึงผู้หญิงแบบนั้นไป
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!