เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
“แต่งงาน!” สองเสียงผสานกันด้วยความตกใจ
‘นนท์นธี’ ชายหนุ่มสูงโปร่งรูปร่างหน้าตาดีวัยสามสิบ ทายาทเพียงคนเดียวของ ‘ไร่แสงตะวัน’ ตีหน้าเครียดขึ้นมาทันตา เขาหันไปมอง ‘หวานเย็น’ หญิงสาวที่อ่อนกว่าเขาห้าปี เธอแก่นแก้วและไม่ค่อยยอมคน แต่ก็เป็นที่เอ็นดูของทุกคนในไร่ หวานเย็นเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านที่สนิทกับครอบครัวของนนท์นธีมาตั้งแต่เล็ก ทั้งคู่จึงเปรียบเสมือนพี่ชายและน้องสาวที่เติบโตมาด้วย
หมายถึง...สำหรับนนท์นธีคนเดียวเท่านั้น
“ใช่แล้ว ตานนท์...หลานก็รู้ว่าย่าอยู่ได้อีกแค่สามเดือน อาการป่วยของย่าก็ทรุดลงเรื่อยๆ ย่าอยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงที่เพียบพร้อม”
‘คุณย่าเอื้องฟ้า’ คุณย่าของนนท์นธีเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับมือหลานชายเอาไว้ นนท์นธีอยากจะปฏิเสธแต่ก็หวั่นใจต่ออาการป่วยของคุณย่าเหลือเกิน
“ผู้หญิงคนนั้นก็คือหนูเหรอคะ”
หวานเย็นถามเสียงแจ๋ว เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยอาการที่แสดงถึงความดีอกดีใจจนปิดไม่มิด
จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร ในเมื่อนนท์นธีคือชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน แน่นอนว่ารวมตัวเธอเข้าไปด้วย หวานเย็นแอบรักนนท์นธีมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมแล้ว เธอตกหลุมรักในความใจดีแต่ก็สุขุมนุ่มลึกของเขา แม้ว่าระยะหลังมานี้เขาจะชอบตีตัวออกห่างเธอก็ตามที
“ใช่แล้วจ้ะ หวานเย็นที่ทั้งเรียบร้อย น่ารัก แล้วก็อ่อนหวาน ย่าคงสบายใจถ้านธีได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีอย่างหนู”
“แหม คุณย่าล่ะก็ ชมหนูเกินไปแล้วนะ”
หวานเย็นบิดตัวด้วยความเขิน นนท์นธีแอบแค่นยิ้มไม่ให้ใครเห็นพลางมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สลับกับคำพูดที่คุณย่าพูดมาเมื่อครู่
เรียบร้อย...ผู้หญิงที่ไม่เคยใส่กระโปรงเลยนอกจากกระโปรงนักเรียนแถมยังปีนต้นไม้เร็วกว่าลิงแบบนี้น่ะหรือเรียบร้อย?
น่ารัก...กับหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าอายไลน์เนอร์เอาไว้เขียนขอบตาแต่กลับเอามาทาปากอย่างหวานเย็นไม่เหมาะกับคำนี้ที่สุดในโลกแล้ว
สุดท้าย...อ่อนหวาน...ล่าสุดเธอเพิ่งยกพวก (แก๊งเด็กวัดหลังบ้านของเธอ) ไปถล่มกับพวกนักเลงประจำหมู่บ้านจนเนื้อตัวเขียวช้ำไปหมด มองยังไงก็ห่างไกลกับคำว่าอ่อนหวานมากๆ นนท์นธีคิดในใจพลางส่ายหน้า
หากแต่คุณย่าของเขาก็ดูจะถูกใจแม่จอมแก่นคนนี้เสียเหลือเกิน ตั้งแต่เล็กจนโต ลองเขาได้ทำทีเป็นใจร้ายใส่หล่อนเมื่อไหร่ ขี้คร้านจะเป็นเขานี่แหละที่ถูกคุณย่าบ่น
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับคุณย่า”
เขาโต้แย้ง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ยอมแต่งงานกับเด็กไม่รู้จักโตอย่างหวานเย็นแน่ๆ
“ก็เพราะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ น่ะสิ ย่าถึงได้เลือกหวานเย็นมาเป็นเมีย เอ๊ย ไม่สิ เป็นเจ้าสาวของแก บนโลกนี้ไม่มีใครเหมาะกับแกเท่าหวานเย็นอีกแล้ว เชื่อย่าเถอะ”
“คุณย่าครับ...”
“หนูเชื่อค่ะๆๆๆ หนูเชื่อคุณย่าที่สุดในโลกเลย”
หวานเย็นเอ่ยแทรกขึ้น นนท์นธีหันไปทำตาเขียวใส่เธอ แต่มีหรือที่หญิงสาวจะสน เธอรีบแทรกเข้าไปกอดคุณย่าและเอ่ยรับปาก
“หนูจะทำตามที่คุณย่าพูดทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแต่งงานกับพี่นนท์ หนูก็จะแต่งให้ คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ”
“จริงหรือหวานเย็น หนูจะยอมเป็นเจ้าสาวของหลานย่าจริงๆ หรือ”
“จริงค่ะ คนอย่างหวานเย็น พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”
เธอยักคิ้วด้วยท่าทีแสนซน นนท์นธีถึงกับถอนหายใจชุดใหญ่ เขารีบดึงตัวเธอออกห่างจากคุณย่าเพื่อจะพูดเหตุผลของตัวเอง
“ผมไม่แต่งนะครับคุณย่า จะให้แต่งกับลิงทโมนแบบนี้น่ะหรือ ขออยู่เป็นโสดตลอดชีวิตดีกว่าครับ”
“ละ...ลิงทโมนเลยเหรอ พี่นนท์ใจร้าย! หวานไม่ใช่ลิงสักหน่อย”
“แค่เพราะเธอเรียนหนังสือได้ ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ใช่ลิงหรอกนะ จำไว้”
ได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มโกรธ เธอทำแก้มป่อง สองมือกอดอกแล้วเชิดหน้าหนีเขาไปอีกทาง แต่นนท์นธีไม่สนใจ เขาต้องการคุยกับคุณย่าให้จบ
“แปลว่าตานนท์จะไม่ทำตามที่ย่าบอกงั้นรึ”
“ผมทำตามที่คุณย่าบอกได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ครับ อย่างน้อยก็แค่เรื่องนี้ ให้ผมได้เลือกคู่ชีวิตเองเถอะนะครับ”
นนท์นธีอ้อนวอน เหตุผลหลักๆ ที่เขาไม่อยากแต่งงานกับหวานเย็นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องความรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเพราะ...เขามีหญิงสาวในดวงใจอยู่แล้ว หญิงสาวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วย
“แกคงอยากเห็นย่าแก่ๆ คนนี้นอนตายตาไม่หลับสินะ”
“คุณย่าครับ ไม่ใช่แบบนั้น...”
“ออกไป”
“คุณย่า...”
“ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูหวานเย็น แกก็ไม่ใช่หลานของฉันอีกต่อไป ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไปเลย!”
คุณย่าเอื้องฟ้าตะโกนดังขึ้น หวานเย็นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงนนท์นธีออกมาจากห้องก่อนที่ความดันของคุณย่าจะพุ่งสูงทะลุเพดานห้องไปเสียก่อน
“ออกมาก่อนพี่นนท์ บอกให้ออกมาไงเล่า”
ในที่สุดหล่อนก็ทำสำเร็จ นนท์นธีถูกดึงออกมาจากห้องได้ หวานเย็นรีบปิดประตูห้องคุณย่าแล้วยืนกางแขนกางขาขวางเอาไว้
“ถอยไปยัยลิง”
“ไม่ถอย คุณย่ากำลังอารมณ์ร้อน พี่อย่าเพิ่งเข้าไปเลยน่า”
“แต่ฉันต้องคุยกับคุณย่าให้รู้เรื่อง ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเธอแน่”
คำพูดที่ยืนยันอย่างหนักแน่นของเขาทำให้เธอหน้าเสียไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาปั้นหน้าทำตัวปกติ เธอรู้ดีว่านนท์นธีมีนิสัยอย่างไร ความสุขุมนุ่มลึกในตัวของเขามีมากพอๆ กับความดื้อรันหัวชนฝาไม่ยอมใครนั่นแหละ
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยตอนที่คุณย่าใจเย็นสิ พี่ก็รู้นิสัยคุณย่า อยากโดนเพ่นกบาลออกมาหรือไง อีกอย่าง...ที่คุณย่ามีความคิดแบบนี้ก็เพราะท่านยังไม่รู้ว่าพี่มีแฟนน่ะสิ” นนท์นธีชะงักเพราะคำพูดของหวานเย็น ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อคิดหาหนทางที่ดีได้ สองมือของเขาจับไปที่บ่าของหญิงสาวแล้วเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะยัยลิง เธอทำให้ฉันคิดวิธีดีๆ ออกแล้ว”
“วิธีอะไรเหรอพี่”
“ฉันจะเข้ากรุงเทพฯ”
“เอ๋? ทำไมจู่ๆ ก็...”
“ฝากดูแลคุณย่าสักสองวันนะ ฉันจะไปพาหลานสะใภ้มาหาคุณย่า ท่านจะได้เลิกคิดเรื่องจับคู่ให้เธอกับฉันสักที”
นนท์นธีพูดทิ้งไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งลงบันไดไปด้วยสีหน้าดีใจที่หาทางแก้ปัญหาได้
คล้อยหลังชายหนุ่ม หวานเย็นค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นมองตามเขาตาละห้อย เธอรู้ดีแก่ใจว่าสำหรับเขาเธอเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน...
ความรักของเธอ...จะไม่มีวันส่งไปถึงเขาอย่างแน่นอน
“คนบ้า ฉันน่ะ...โตเป็นสาวแล้วนะ”
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY