เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
“แต่งงาน!” สองเสียงผสานกันด้วยความตกใจ
‘นนท์นธี’ ชายหนุ่มสูงโปร่งรูปร่างหน้าตาดีวัยสามสิบ ทายาทเพียงคนเดียวของ ‘ไร่แสงตะวัน’ ตีหน้าเครียดขึ้นมาทันตา เขาหันไปมอง ‘หวานเย็น’ หญิงสาวที่อ่อนกว่าเขาห้าปี เธอแก่นแก้วและไม่ค่อยยอมคน แต่ก็เป็นที่เอ็นดูของทุกคนในไร่ หวานเย็นเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านที่สนิทกับครอบครัวของนนท์นธีมาตั้งแต่เล็ก ทั้งคู่จึงเปรียบเสมือนพี่ชายและน้องสาวที่เติบโตมาด้วย
หมายถึง...สำหรับนนท์นธีคนเดียวเท่านั้น
“ใช่แล้ว ตานนท์...หลานก็รู้ว่าย่าอยู่ได้อีกแค่สามเดือน อาการป่วยของย่าก็ทรุดลงเรื่อยๆ ย่าอยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝากับผู้หญิงที่เพียบพร้อม”
‘คุณย่าเอื้องฟ้า’ คุณย่าของนนท์นธีเอ่ยขึ้นพลางเอื้อมมือไปจับมือหลานชายเอาไว้ นนท์นธีอยากจะปฏิเสธแต่ก็หวั่นใจต่ออาการป่วยของคุณย่าเหลือเกิน
“ผู้หญิงคนนั้นก็คือหนูเหรอคะ”
หวานเย็นถามเสียงแจ๋ว เธอชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยอาการที่แสดงถึงความดีอกดีใจจนปิดไม่มิด
จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไร ในเมื่อนนท์นธีคือชายหนุ่มในฝันของสาวๆ ทั้งหมู่บ้าน แน่นอนว่ารวมตัวเธอเข้าไปด้วย หวานเย็นแอบรักนนท์นธีมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมแล้ว เธอตกหลุมรักในความใจดีแต่ก็สุขุมนุ่มลึกของเขา แม้ว่าระยะหลังมานี้เขาจะชอบตีตัวออกห่างเธอก็ตามที
“ใช่แล้วจ้ะ หวานเย็นที่ทั้งเรียบร้อย น่ารัก แล้วก็อ่อนหวาน ย่าคงสบายใจถ้านธีได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ดีอย่างหนู”
“แหม คุณย่าล่ะก็ ชมหนูเกินไปแล้วนะ”
หวานเย็นบิดตัวด้วยความเขิน นนท์นธีแอบแค่นยิ้มไม่ให้ใครเห็นพลางมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า สลับกับคำพูดที่คุณย่าพูดมาเมื่อครู่
เรียบร้อย...ผู้หญิงที่ไม่เคยใส่กระโปรงเลยนอกจากกระโปรงนักเรียนแถมยังปีนต้นไม้เร็วกว่าลิงแบบนี้น่ะหรือเรียบร้อย?
น่ารัก...กับหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าอายไลน์เนอร์เอาไว้เขียนขอบตาแต่กลับเอามาทาปากอย่างหวานเย็นไม่เหมาะกับคำนี้ที่สุดในโลกแล้ว
สุดท้าย...อ่อนหวาน...ล่าสุดเธอเพิ่งยกพวก (แก๊งเด็กวัดหลังบ้านของเธอ) ไปถล่มกับพวกนักเลงประจำหมู่บ้านจนเนื้อตัวเขียวช้ำไปหมด มองยังไงก็ห่างไกลกับคำว่าอ่อนหวานมากๆ นนท์นธีคิดในใจพลางส่ายหน้า
หากแต่คุณย่าของเขาก็ดูจะถูกใจแม่จอมแก่นคนนี้เสียเหลือเกิน ตั้งแต่เล็กจนโต ลองเขาได้ทำทีเป็นใจร้ายใส่หล่อนเมื่อไหร่ ขี้คร้านจะเป็นเขานี่แหละที่ถูกคุณย่าบ่น
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะครับคุณย่า”
เขาโต้แย้ง หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่ยอมแต่งงานกับเด็กไม่รู้จักโตอย่างหวานเย็นแน่ๆ
“ก็เพราะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ น่ะสิ ย่าถึงได้เลือกหวานเย็นมาเป็นเมีย เอ๊ย ไม่สิ เป็นเจ้าสาวของแก บนโลกนี้ไม่มีใครเหมาะกับแกเท่าหวานเย็นอีกแล้ว เชื่อย่าเถอะ”
“คุณย่าครับ...”
“หนูเชื่อค่ะๆๆๆ หนูเชื่อคุณย่าที่สุดในโลกเลย”
หวานเย็นเอ่ยแทรกขึ้น นนท์นธีหันไปทำตาเขียวใส่เธอ แต่มีหรือที่หญิงสาวจะสน เธอรีบแทรกเข้าไปกอดคุณย่าและเอ่ยรับปาก
“หนูจะทำตามที่คุณย่าพูดทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแต่งงานกับพี่นนท์ หนูก็จะแต่งให้ คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ”
“จริงหรือหวานเย็น หนูจะยอมเป็นเจ้าสาวของหลานย่าจริงๆ หรือ”
“จริงค่ะ คนอย่างหวานเย็น พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว”
เธอยักคิ้วด้วยท่าทีแสนซน นนท์นธีถึงกับถอนหายใจชุดใหญ่ เขารีบดึงตัวเธอออกห่างจากคุณย่าเพื่อจะพูดเหตุผลของตัวเอง
“ผมไม่แต่งนะครับคุณย่า จะให้แต่งกับลิงทโมนแบบนี้น่ะหรือ ขออยู่เป็นโสดตลอดชีวิตดีกว่าครับ”
“ละ...ลิงทโมนเลยเหรอ พี่นนท์ใจร้าย! หวานไม่ใช่ลิงสักหน่อย”
“แค่เพราะเธอเรียนหนังสือได้ ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ใช่ลิงหรอกนะ จำไว้”
ได้ยินแบบนั้นหญิงสาวก็เริ่มโกรธ เธอทำแก้มป่อง สองมือกอดอกแล้วเชิดหน้าหนีเขาไปอีกทาง แต่นนท์นธีไม่สนใจ เขาต้องการคุยกับคุณย่าให้จบ
“แปลว่าตานนท์จะไม่ทำตามที่ย่าบอกงั้นรึ”
“ผมทำตามที่คุณย่าบอกได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ครับ อย่างน้อยก็แค่เรื่องนี้ ให้ผมได้เลือกคู่ชีวิตเองเถอะนะครับ”
นนท์นธีอ้อนวอน เหตุผลหลักๆ ที่เขาไม่อยากแต่งงานกับหวานเย็นไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องความรักเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเพราะ...เขามีหญิงสาวในดวงใจอยู่แล้ว หญิงสาวที่เขาคิดจะแต่งงานด้วย
“แกคงอยากเห็นย่าแก่ๆ คนนี้นอนตายตาไม่หลับสินะ”
“คุณย่าครับ ไม่ใช่แบบนั้น...”
“ออกไป”
“คุณย่า...”
“ถ้าแกไม่ยอมแต่งงานกับหนูหวานเย็น แกก็ไม่ใช่หลานของฉันอีกต่อไป ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไปเลย!”
คุณย่าเอื้องฟ้าตะโกนดังขึ้น หวานเย็นเห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงนนท์นธีออกมาจากห้องก่อนที่ความดันของคุณย่าจะพุ่งสูงทะลุเพดานห้องไปเสียก่อน
“ออกมาก่อนพี่นนท์ บอกให้ออกมาไงเล่า”
ในที่สุดหล่อนก็ทำสำเร็จ นนท์นธีถูกดึงออกมาจากห้องได้ หวานเย็นรีบปิดประตูห้องคุณย่าแล้วยืนกางแขนกางขาขวางเอาไว้
“ถอยไปยัยลิง”
“ไม่ถอย คุณย่ากำลังอารมณ์ร้อน พี่อย่าเพิ่งเข้าไปเลยน่า”
“แต่ฉันต้องคุยกับคุณย่าให้รู้เรื่อง ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเธอแน่”
คำพูดที่ยืนยันอย่างหนักแน่นของเขาทำให้เธอหน้าเสียไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาปั้นหน้าทำตัวปกติ เธอรู้ดีว่านนท์นธีมีนิสัยอย่างไร ความสุขุมนุ่มลึกในตัวของเขามีมากพอๆ กับความดื้อรันหัวชนฝาไม่ยอมใครนั่นแหละ
“เรื่องนั้นไว้ค่อยคุยตอนที่คุณย่าใจเย็นสิ พี่ก็รู้นิสัยคุณย่า อยากโดนเพ่นกบาลออกมาหรือไง อีกอย่าง...ที่คุณย่ามีความคิดแบบนี้ก็เพราะท่านยังไม่รู้ว่าพี่มีแฟนน่ะสิ” นนท์นธีชะงักเพราะคำพูดของหวานเย็น ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อคิดหาหนทางที่ดีได้ สองมือของเขาจับไปที่บ่าของหญิงสาวแล้วเอ่ยขอบคุณ
“ขอบคุณมากนะยัยลิง เธอทำให้ฉันคิดวิธีดีๆ ออกแล้ว”
“วิธีอะไรเหรอพี่”
“ฉันจะเข้ากรุงเทพฯ”
“เอ๋? ทำไมจู่ๆ ก็...”
“ฝากดูแลคุณย่าสักสองวันนะ ฉันจะไปพาหลานสะใภ้มาหาคุณย่า ท่านจะได้เลิกคิดเรื่องจับคู่ให้เธอกับฉันสักที”
นนท์นธีพูดทิ้งไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งลงบันไดไปด้วยสีหน้าดีใจที่หาทางแก้ปัญหาได้
คล้อยหลังชายหนุ่ม หวานเย็นค่อยๆ ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นมองตามเขาตาละห้อย เธอรู้ดีแก่ใจว่าสำหรับเขาเธอเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้น ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน...
ความรักของเธอ...จะไม่มีวันส่งไปถึงเขาอย่างแน่นอน
“คนบ้า ฉันน่ะ...โตเป็นสาวแล้วนะ”
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง