เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
มือเรียวเล็กปรับเบาะรถทางฝั่งคนขับให้เอนไปด้านหลัง หล่อนขึ้นคร่อมเขาเอาไว้ กระโปรงของชุดเดรสที่สวมใส่อยู่ถลกขึ้นมาจนเห็นชั้นในบางเบา ‘เดชาธร’ ที่ยังมีสติไม่ได้เมามายขนาดนั้นพยายามผลักเธอออก หากแต่หญิงสาวที่เวลานี้เร่าร้อนไปทั่วทั้งกายกลับไม่ยอมแพ้ เธอสอดแขนออกจากชุดเดรสของตัวเองแล้วดึงต่ำลงจนอกอวบอิ่มโผล่พ้นออกมาปรากฏแก่สายตาของเขา
“นี่คุณ ใจเย็นก่อน” เขาห้าม ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้ดวงตาคู่สวยนั้นมองเขาด้วยความเว้าวอน
“ทำไมล่ะ แม้แต่คุณก็รังเกียจฉันหรือ ฉันมันน่าเกลียดนักหรือไง”
เธอถามทั้งน้ำตา น้ำเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจที่สั่งสมมานานบ่งบอกได้ว่าเธอไม่สามารถทนรับเรื่องพวกนี้ได้อีกแล้ว บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปจนเกือบหมดลังยิ่งทำให้เธอไร้ซึ่งสติ
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ แต่คุณจะมาปล้ำผมแบบนี้ไม่ได้”
ร่างสูงตอบ พยายามเบือนหน้าหันไปอีกทางเพราะไม่อยากจะล่วงเกินเธอทางสายตามากนัก
“ฮิๆ ปล้ำงั้นเหรอ คุณนี่...น่ารักจังเลยนะ”
เล็บยาวที่ทาสีแดงเอาไว้กรีดไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ อย่างยั่วยวน เธอโน้มตัวมาด้านหน้า ถูไถอกอิ่มกับแผงอกกว้างของเขา
“ฉันอยากเป็นของคุณจัง”
เธอมองเขาดวงตาเลื่อนลอยก่อนจะเขยิบตัวเข้าหามากขึ้น บดเบียดกายสาวกับความแข็งขืนของชายหนุ่มที่ถูกปลุกเร้า ริมฝีปากเล็กประกบเข้าที่ลำคอของเขา หล่อนดูดมันเต็มแรง
“นี่คุณ...!”
จะผลักออกก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามเข้าครอบงำ เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถูกผู้หญิงสวยราวนางฟ้าแถมยังเซ็กซี่ระดับ ฮอตสตาร์แบบนี้ยั่วยวน มีหรือจะไม่ตบะแตก นาทีนี้เดชาธรกำลังตีกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก
“นี่ไง เท่านี้คุณก็เป็นของฉันแล้ว”
ร่างบางชี้ไปที่รอยจูบตรงต้นคอของเขาซึ่งเธอเป็นคนทำไว้เมื่อครู่ ใบหน้าสวยที่ยื่นมาใกล้สะกดเขาให้มองตาม ริมฝีปากเรียวเล็กได้รูปแต้มสีแดงสดเอาไว้ จมูกที่เชิดรั้น และดวงตาคู่สวยแสนเย็นชา ทุกอย่างหลอมรวมให้หล่อนกลายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง
“พอได้แล้ว ถ้าผมทนไม่ไหวขึ้นมา คุณจะยุ่งเอานะ แขไข...”
เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง สองมือจับรวบแขนของอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณเป็นคนสวยนะ อย่าทำแบบนี้เลย”
เดชาธรพยายามเตือนสติหล่อน เขารู้ดีว่าที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุมาจากอะไร
หญิงสาวคนนี้คืออดีตแฟนของเพื่อนรักของเขา จริงอยู่ว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งเพื่อนของเขาไป หากแต่เธอคงยังรักเขาอยู่และคิดที่จะกลับมาขอคืนดี ทว่าอีกฝ่ายแต่งงานไปแล้วทำให้เธอรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้ต่อไปได้ การที่เธอดื่มเบียร์เป็นลังๆ แล้วเมาขนาดนี้คงเพราะตัดสินใจที่จะตัดใจจากเพื่อนของเขาแล้ว
“ถ้าฉันสวย คุณก็กอดฉันสิ” เธอมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“กอดฉันหน่อยนะคะ คุณเดช...”
ชายหนุ่มตาโตเมื่อถูกเธอเรียกชื่อ เป็นการยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้มองเห็นเขาเป็นคนอื่นแล้วมาทำรุ่มร่ามด้วย แต่เธอรู้ดีแต่แรกว่าเป็นเขา...
เธอต้องการเขาจริงๆ...
“ผมอดทนได้ไม่นานนะครับ พอเถอะ”
เดชาธรย้ำอีกครั้ง เฮือกสุดท้ายของการระงับสติของเขาเอง ถ้าจากนี้เธอยังไม่หยุด เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะหยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ได้
“ก็ไม่ต้องทนสิคะ ฉันไม่เคยบอกให้คุณอดทนสักหน่อย”
สิ้นคำ หญิงสาวแสนสวยคนนี้ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเขาอย่างร้อนแรง หล่อนสอดลิ้นเข้ามากวาดไปทั่วโพรงปากของเขา รสชาติของเบียร์ติดอยู่ในปากของคนทั้งคู่
หมับ!
มือหนาจับเข้าที่เต้าอวบแล้วบีบเคล้นมันเต็มแรง เขาเริ่มจูบตอบโต้เธอจนร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขน เดชาธรจูบไล่ต่ำลงมาจนถึงซอกคอ เขาฝากรอยแดงเอาไว้หลายต่อหลายจุด หญิงสาวตระกองกอดเขาเข้ามาแนบอก บราเซียสีเดียวกับชุดถูกปลดออก ปทุมถันสีชมพูสวยปรากฏแก่สายตา ร่างสูงไม่รอช้า ก้มต่ำลงไปครอบครองมันเอาไว้ ดูดกลืนให้หายเข้าไปในโพรงปาก
“อ๊า...!” แขไขครางเสียงหวาน
เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอและเขามันช่างเกะกะเหลือเกิน มือเล็กช่วยปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย เหมือนอย่างที่เขาช่วยถอดชุดเดรสของเธอออกให้ ร่างบางเกือบจะเปลือยเปล่า เหลือเพียงชั้นในบางเบาที่ปกปิดส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้
เดชาธรเลื่อนมือต่ำลงไปกอบกุมกายสาวเอาไว้ เขาแหวกอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วออกไปด้านข้าง ถูไถนิ้วเรียวกับร่องสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความสุข โดยไม่ลืมที่จะปรนเปรอสองเต้าด้วยริมฝีปากและมืออีกข้าง แขไขโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น เธอแอ่นตัวเข้าหาเขาด้วยความต้องการมันล้นปรี่ออกมา
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊า...”
เธอครางไม่เป็นคำพูด ขณะนิ้วยาวแทงเข้าออกอยู่ภายในกาย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมบทรักอันร้อนแรงในรถแคบๆ แบบนี้
ใช่แล้ว...ทั้งคู่อยู่กันในรถของเดชาธรนั่นเอง
ระหว่างที่เขากำลังจะกลับบ้าน ก็ตั้งใจจะแวะไปที่บ้านของ ‘นนท์นธี’ เพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของไร่แสงตะวันและเป็นแฟนเก่าของหญิงสาวคนนี้ หากแต่ระหว่างทางที่กำลังจะไป เขาเห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้ารีสอร์ทของไร่จึงจอดรถแวะดู ท่าทางของหล่อนไม่ค่อยดี หากปล่อยเอาไว้เขากังวลกลัวเธอจะคิดสั้นเลยชวนขึ้นรถพามาขับรถเล่น จนมาถึงหน้าบึงน้ำไม่ไกลจากรีสอร์ท ระหว่างนั้นหล่อนก็สังเกตเห็นว่าที่เบาะหลังรถของเขามีเบียร์วางอยู่หลายลัง เป็นเบียร์ที่เขาถูกคนที่บ้านฝากซื้อ แขไขขอเขากินเบียร์พวกนั้นจนเกือบหมดลัง และเริ่มปรับทุกข์ให้ชายหนุ่มฟังจนกระทั่งเมื่อเธอเมาได้ที่ และเขาเองก็เริ่มเมานิดๆ เช่นกัน
“อ๊ะ อื้อ...”
หญิงสาวครางได้ไม่เต็มเสียงนักเมื่อความคับแน่นกำลังคืบคลานเข้ามา ท่อนลำขยายใหญ่กว่าที่เธอเคยผ่านมา ยิ่งอยู่ในท่านั่งบนรถแคบๆ การจะสอดใส่อย่างรวดเร็วจึงเป็นไปได้ยากนัก
“ซี๊ด คุณแข...คุณรัดผมแน่นไปแล้ว”
เดชาธรบอกขณะพยายามบดเบียดยัดเยียดตัวตนเข้าไป แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่ความคับแน่นที่ยังดูสดใหม่นี้ก็สร้างความพึงพอใจให้ไม่น้อย เขาแลบลิ้นไปตวัดเลียเม็ดบัวตรงอกตูมของเธอ ละเลงเสียจนหญิงสาวเสียวซ่านไปหมด
พยายามอยู่ไม่นานเขาก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ แขไขเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเองเพื่อเป็นฝ่ายคุมเกม เธอร่อนสะโพกไปมา กัดริมฝีปากตัวเองและมองหน้าเขาอย่างยั่วยวน ทุกการกระทำของเธอเซ็กซี่บาดใจเขาเหลือเกิน เดชาธรแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะเธอจัดให้ทั้งนั้น ที่เขาทำมีเพียงนอนราบไปกับเบาะ สองมือขยำเต้าอวบเพื่อปลุกเร้าเธอเท่านั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้อ อ๊ะ!”
ภาพของเธอที่เขามองเห็นในตอนนี้ช่างติดตาตรึงใจจนยากจะถอน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมอบความสุขให้เขาแบบนี้มาก่อน อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูก...เขาเคยผ่านผู้หญิงมาแค่คนเดียวเท่านั้นคือตอนจบมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและที่นั่นจัดงานเลี้ยงกัน คืนนั้นเขาเมามากเลยเผลอได้เสียกับเพื่อนรวมชั้นไป ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้ว
เดชาธรดึงเธอเข้ามาจูบเมื่อจุดสูงสุดกำลังใกล้เข้ามา แขไขจูบตอบอย่างร้อนแรง เธอขยับสะโพกเร็วขึ้นๆ เพราะตัวหล่อนก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้วเช่นกัน สองร่างนัวเนียลูบไล้กันและกัน มือหนากดสะโพกเธอเอาไว้ ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระเพื่อปลดปล่อยเสียงคราง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!”
“อ่า...” ทั้งคู่กระตุกเกร็ง เดชาธรปลดปล่อยทุกอย่างใส่กายสาวไม่เหลือ ร่างบางทิ้งตัวลงนอนซบกับอกกว้าง หอบแฮ่กด้วยความเพลีย
“ชอบจัง...”
เธอพึมพำแต่เขาได้ยินชัดเจน การเป็นที่ต้องการของใครสักคนในเวลานี้ทำเอาชายหนุ่มใจฟู เขาเชยคางหญิงสาวขึ้นมาให้สบตากัน
“ผมถูกใจคุณซะแล้วสิ” ใบหน้าหล่อเหลาเอ่ย แขไขมองความหล่อนั้นด้วยแววตาเลื่อนลอย
“คุณเหมือนเทวดาเลย หล่อจัง”
แขไขเขยิบตัวขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อจูบที่ปลายคางของเขา เดชาธรใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเธอเอาไว้แล้วก้มลงจูบเธออย่างอ่อนโยน
“คุณก็สวยเหมือนนางฟ้าเช่นกัน นางฟ้าของผม”
วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่น เขาชักอยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วสิ ไม่อยากจะให้เธอ...ต้องมีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว
ทว่าแม้จะมีความคิดแบบนั้น หากแต่ในหัวใจของเขาก็ยังมีภาพของผู้หญิงอีกคนชัดเจนอยู่...
ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขาและทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นหมอ...
...ภรรยาของเพื่อนสนิทเขา ‘หวานเย็น’
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน