เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
มือเรียวเล็กปรับเบาะรถทางฝั่งคนขับให้เอนไปด้านหลัง หล่อนขึ้นคร่อมเขาเอาไว้ กระโปรงของชุดเดรสที่สวมใส่อยู่ถลกขึ้นมาจนเห็นชั้นในบางเบา ‘เดชาธร’ ที่ยังมีสติไม่ได้เมามายขนาดนั้นพยายามผลักเธอออก หากแต่หญิงสาวที่เวลานี้เร่าร้อนไปทั่วทั้งกายกลับไม่ยอมแพ้ เธอสอดแขนออกจากชุดเดรสของตัวเองแล้วดึงต่ำลงจนอกอวบอิ่มโผล่พ้นออกมาปรากฏแก่สายตาของเขา
“นี่คุณ ใจเย็นก่อน” เขาห้าม ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้ดวงตาคู่สวยนั้นมองเขาด้วยความเว้าวอน
“ทำไมล่ะ แม้แต่คุณก็รังเกียจฉันหรือ ฉันมันน่าเกลียดนักหรือไง”
เธอถามทั้งน้ำตา น้ำเสียงแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจที่สั่งสมมานานบ่งบอกได้ว่าเธอไม่สามารถทนรับเรื่องพวกนี้ได้อีกแล้ว บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปจนเกือบหมดลังยิ่งทำให้เธอไร้ซึ่งสติ
“ผมไม่ได้รังเกียจคุณ แต่คุณจะมาปล้ำผมแบบนี้ไม่ได้”
ร่างสูงตอบ พยายามเบือนหน้าหันไปอีกทางเพราะไม่อยากจะล่วงเกินเธอทางสายตามากนัก
“ฮิๆ ปล้ำงั้นเหรอ คุณนี่...น่ารักจังเลยนะ”
เล็บยาวที่ทาสีแดงเอาไว้กรีดไล้ใบหน้าของเขาเบาๆ อย่างยั่วยวน เธอโน้มตัวมาด้านหน้า ถูไถอกอิ่มกับแผงอกกว้างของเขา
“ฉันอยากเป็นของคุณจัง”
เธอมองเขาดวงตาเลื่อนลอยก่อนจะเขยิบตัวเข้าหามากขึ้น บดเบียดกายสาวกับความแข็งขืนของชายหนุ่มที่ถูกปลุกเร้า ริมฝีปากเล็กประกบเข้าที่ลำคอของเขา หล่อนดูดมันเต็มแรง
“นี่คุณ...!”
จะผลักออกก็ออกแรงได้ไม่เต็มที่ด้วยอารมณ์เคลิบเคลิ้มตามเข้าครอบงำ เขาเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ถูกผู้หญิงสวยราวนางฟ้าแถมยังเซ็กซี่ระดับ ฮอตสตาร์แบบนี้ยั่วยวน มีหรือจะไม่ตบะแตก นาทีนี้เดชาธรกำลังตีกับความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก
“นี่ไง เท่านี้คุณก็เป็นของฉันแล้ว”
ร่างบางชี้ไปที่รอยจูบตรงต้นคอของเขาซึ่งเธอเป็นคนทำไว้เมื่อครู่ ใบหน้าสวยที่ยื่นมาใกล้สะกดเขาให้มองตาม ริมฝีปากเรียวเล็กได้รูปแต้มสีแดงสดเอาไว้ จมูกที่เชิดรั้น และดวงตาคู่สวยแสนเย็นชา ทุกอย่างหลอมรวมให้หล่อนกลายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง
“พอได้แล้ว ถ้าผมทนไม่ไหวขึ้นมา คุณจะยุ่งเอานะ แขไข...”
เขาพูดน้ำเสียงจริงจัง สองมือจับรวบแขนของอีกฝ่ายเอาไว้
“คุณเป็นคนสวยนะ อย่าทำแบบนี้เลย”
เดชาธรพยายามเตือนสติหล่อน เขารู้ดีว่าที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุมาจากอะไร
หญิงสาวคนนี้คืออดีตแฟนของเพื่อนรักของเขา จริงอยู่ว่าเธอเป็นฝ่ายทิ้งเพื่อนของเขาไป หากแต่เธอคงยังรักเขาอยู่และคิดที่จะกลับมาขอคืนดี ทว่าอีกฝ่ายแต่งงานไปแล้วทำให้เธอรู้ตัวว่าไม่มีทางสู้ต่อไปได้ การที่เธอดื่มเบียร์เป็นลังๆ แล้วเมาขนาดนี้คงเพราะตัดสินใจที่จะตัดใจจากเพื่อนของเขาแล้ว
“ถ้าฉันสวย คุณก็กอดฉันสิ” เธอมองเขาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
“กอดฉันหน่อยนะคะ คุณเดช...”
ชายหนุ่มตาโตเมื่อถูกเธอเรียกชื่อ เป็นการยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้มองเห็นเขาเป็นคนอื่นแล้วมาทำรุ่มร่ามด้วย แต่เธอรู้ดีแต่แรกว่าเป็นเขา...
เธอต้องการเขาจริงๆ...
“ผมอดทนได้ไม่นานนะครับ พอเถอะ”
เดชาธรย้ำอีกครั้ง เฮือกสุดท้ายของการระงับสติของเขาเอง ถ้าจากนี้เธอยังไม่หยุด เขาก็ไม่แน่ใจแล้วว่าจะหยุดความต้องการของตัวเองเอาไว้ได้
“ก็ไม่ต้องทนสิคะ ฉันไม่เคยบอกให้คุณอดทนสักหน่อย”
สิ้นคำ หญิงสาวแสนสวยคนนี้ก็ยื่นหน้าเข้ามาจูบเขาอย่างร้อนแรง หล่อนสอดลิ้นเข้ามากวาดไปทั่วโพรงปากของเขา รสชาติของเบียร์ติดอยู่ในปากของคนทั้งคู่
หมับ!
มือหนาจับเข้าที่เต้าอวบแล้วบีบเคล้นมันเต็มแรง เขาเริ่มจูบตอบโต้เธอจนร่างบางอ่อนระทวยในอ้อมแขน เดชาธรจูบไล่ต่ำลงมาจนถึงซอกคอ เขาฝากรอยแดงเอาไว้หลายต่อหลายจุด หญิงสาวตระกองกอดเขาเข้ามาแนบอก บราเซียสีเดียวกับชุดถูกปลดออก ปทุมถันสีชมพูสวยปรากฏแก่สายตา ร่างสูงไม่รอช้า ก้มต่ำลงไปครอบครองมันเอาไว้ ดูดกลืนให้หายเข้าไปในโพรงปาก
“อ๊า...!” แขไขครางเสียงหวาน
เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอและเขามันช่างเกะกะเหลือเกิน มือเล็กช่วยปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย เหมือนอย่างที่เขาช่วยถอดชุดเดรสของเธอออกให้ ร่างบางเกือบจะเปลือยเปล่า เหลือเพียงชั้นในบางเบาที่ปกปิดส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้
เดชาธรเลื่อนมือต่ำลงไปกอบกุมกายสาวเอาไว้ เขาแหวกอันเดอร์แวร์ตัวจิ๋วออกไปด้านข้าง ถูไถนิ้วเรียวกับร่องสาวที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำแห่งความสุข โดยไม่ลืมที่จะปรนเปรอสองเต้าด้วยริมฝีปากและมืออีกข้าง แขไขโอบกอดชายหนุ่มเอาไว้แน่น เธอแอ่นตัวเข้าหาเขาด้วยความต้องการมันล้นปรี่ออกมา
“อ๊ะ อ๊ะ อื้อ อ๊า...”
เธอครางไม่เป็นคำพูด ขณะนิ้วยาวแทงเข้าออกอยู่ภายในกาย เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมบทรักอันร้อนแรงในรถแคบๆ แบบนี้
ใช่แล้ว...ทั้งคู่อยู่กันในรถของเดชาธรนั่นเอง
ระหว่างที่เขากำลังจะกลับบ้าน ก็ตั้งใจจะแวะไปที่บ้านของ ‘นนท์นธี’ เพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของไร่แสงตะวันและเป็นแฟนเก่าของหญิงสาวคนนี้ หากแต่ระหว่างทางที่กำลังจะไป เขาเห็นเธอนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้ารีสอร์ทของไร่จึงจอดรถแวะดู ท่าทางของหล่อนไม่ค่อยดี หากปล่อยเอาไว้เขากังวลกลัวเธอจะคิดสั้นเลยชวนขึ้นรถพามาขับรถเล่น จนมาถึงหน้าบึงน้ำไม่ไกลจากรีสอร์ท ระหว่างนั้นหล่อนก็สังเกตเห็นว่าที่เบาะหลังรถของเขามีเบียร์วางอยู่หลายลัง เป็นเบียร์ที่เขาถูกคนที่บ้านฝากซื้อ แขไขขอเขากินเบียร์พวกนั้นจนเกือบหมดลัง และเริ่มปรับทุกข์ให้ชายหนุ่มฟังจนกระทั่งเมื่อเธอเมาได้ที่ และเขาเองก็เริ่มเมานิดๆ เช่นกัน
“อ๊ะ อื้อ...”
หญิงสาวครางได้ไม่เต็มเสียงนักเมื่อความคับแน่นกำลังคืบคลานเข้ามา ท่อนลำขยายใหญ่กว่าที่เธอเคยผ่านมา ยิ่งอยู่ในท่านั่งบนรถแคบๆ การจะสอดใส่อย่างรวดเร็วจึงเป็นไปได้ยากนัก
“ซี๊ด คุณแข...คุณรัดผมแน่นไปแล้ว”
เดชาธรบอกขณะพยายามบดเบียดยัดเยียดตัวตนเข้าไป แม้จะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนแรกของเธอ แต่ความคับแน่นที่ยังดูสดใหม่นี้ก็สร้างความพึงพอใจให้ไม่น้อย เขาแลบลิ้นไปตวัดเลียเม็ดบัวตรงอกตูมของเธอ ละเลงเสียจนหญิงสาวเสียวซ่านไปหมด
พยายามอยู่ไม่นานเขาก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ แขไขเริ่มขยับสะโพกขึ้นลงด้วยตัวเองเพื่อเป็นฝ่ายคุมเกม เธอร่อนสะโพกไปมา กัดริมฝีปากตัวเองและมองหน้าเขาอย่างยั่วยวน ทุกการกระทำของเธอเซ็กซี่บาดใจเขาเหลือเกิน เดชาธรแทบไม่ต้องทำอะไรเพราะเธอจัดให้ทั้งนั้น ที่เขาทำมีเพียงนอนราบไปกับเบาะ สองมือขยำเต้าอวบเพื่อปลุกเร้าเธอเท่านั้น
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อื้อ อ๊ะ!”
ภาพของเธอที่เขามองเห็นในตอนนี้ช่างติดตาตรึงใจจนยากจะถอน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมอบความสุขให้เขาแบบนี้มาก่อน อันที่จริงถ้าจะพูดให้ถูก...เขาเคยผ่านผู้หญิงมาแค่คนเดียวเท่านั้นคือตอนจบมหาวิทยาลัยที่อเมริกาและที่นั่นจัดงานเลี้ยงกัน คืนนั้นเขาเมามากเลยเผลอได้เสียกับเพื่อนรวมชั้นไป ซึ่งมันก็ผ่านมาหลายปีมากๆ แล้ว
เดชาธรดึงเธอเข้ามาจูบเมื่อจุดสูงสุดกำลังใกล้เข้ามา แขไขจูบตอบอย่างร้อนแรง เธอขยับสะโพกเร็วขึ้นๆ เพราะตัวหล่อนก็ใกล้จะถึงจุดสุดยอดแล้วเช่นกัน สองร่างนัวเนียลูบไล้กันและกัน มือหนากดสะโพกเธอเอาไว้ ปล่อยริมฝีปากของเธอให้เป็นอิสระเพื่อปลดปล่อยเสียงคราง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า!!!”
“อ่า...” ทั้งคู่กระตุกเกร็ง เดชาธรปลดปล่อยทุกอย่างใส่กายสาวไม่เหลือ ร่างบางทิ้งตัวลงนอนซบกับอกกว้าง หอบแฮ่กด้วยความเพลีย
“ชอบจัง...”
เธอพึมพำแต่เขาได้ยินชัดเจน การเป็นที่ต้องการของใครสักคนในเวลานี้ทำเอาชายหนุ่มใจฟู เขาเชยคางหญิงสาวขึ้นมาให้สบตากัน
“ผมถูกใจคุณซะแล้วสิ” ใบหน้าหล่อเหลาเอ่ย แขไขมองความหล่อนั้นด้วยแววตาเลื่อนลอย
“คุณเหมือนเทวดาเลย หล่อจัง”
แขไขเขยิบตัวขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อจูบที่ปลายคางของเขา เดชาธรใช้มือข้างหนึ่งประคองใบหน้าเธอเอาไว้แล้วก้มลงจูบเธออย่างอ่อนโยน
“คุณก็สวยเหมือนนางฟ้าเช่นกัน นางฟ้าของผม”
วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบางไว้แน่น เขาชักอยากจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาแล้วสิ ไม่อยากจะให้เธอ...ต้องมีน้ำตาอีกต่อไปแล้ว
ทว่าแม้จะมีความคิดแบบนั้น หากแต่ในหัวใจของเขาก็ยังมีภาพของผู้หญิงอีกคนชัดเจนอยู่...
ผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเขาและทำให้เขาตัดสินใจที่จะเป็นหมอ...
...ภรรยาของเพื่อนสนิทเขา ‘หวานเย็น’
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY