แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
บทนำ แอบรัก
หกปีก่อนหน้านั้น
ก๊อกก๊อกก๊อก
“ราฟ! นายอยู่หรือเปล่า เฮ้!”
ฉันเคาะประตูระเบียงพร้อมกับส่งเสียงเรียกหมอนั่นจนคอแทบแตก หมอนั่นที่ว่าก็คือ ‘ราฟ’ หรือชื่อเต็มๆ คือ ‘ราฟาเอล’ เพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน เรียนห้องเดียวกันจนถึงปัจจุบัน แล้วยังอยู่บ้านข้างกันมาตลอดอีก ห้องนอนของหมอนี่ก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของฉัน ระเบียงห้องของพวกเราติดกันชนิดที่ว่าขึ้นมายืนบนขอบระเบียงแล้วเดินข้ามหากันได้อย่างสบายๆ อย่างที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้
‘ขอโทษนะซันนี่ พี่ฝากราฟด้วยนะ’
เพราะคำพูดนั้นของ ‘พี่น้ำหวาน’ พี่สาวบ้านตรงข้ามที่อายุมากกว่าฉันและราฟาเอลสามปี ทำให้ฉันต้องมายืนเคาะประตูจนเจ็บมืออยู่ในตอนนี้
ฉันกับหมอนั่นเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนเดียวกันและห้องเดียวกัน ส่วนพี่น้ำหวานเรียนอยู่โรงเรียนสตรีชื่อดังระดับจังหวัด สวย เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกๆ คน พี่น้ำหวานกับราฟาเอลคบกันมาได้ปีกว่าแล้ว ตาบ้านั่นแอบหลงรักพี่น้ำหวานมาตลอดและสารภาพรักไป น่าตกใจมากที่ผู้หญิงที่แสนเพียบพร้อมอย่างพี่น้ำหวานรับรักเขา แถมยังคบกันอย่างหวานชื่นมาตลอด และทั้งที่เป็นแบบนั้น จู่ๆ พี่น้ำหวานก็มาบอกเลิกหมอนี่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยให้เหตุผลว่าได้ทุนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ
พี่น้ำหวานไม่ต้องการมีรักทางไกล และทนไม่ไหวกับพฤติกรรมหึงเรี่ยราดของราฟาเอลอีกต่อไปแล้ว ก็เลยตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็เห็นหมอนี่ควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น แถมยังไม่ซ้ำหน้ากันอีกต่างหาก เวลาแค่เดือนเดียว ตาบ้านั่นเชยชมผู้หญิงไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบคน!
นายเพิ่งอายุแค่สิบห้าปีเองนะยะ จะกร้านโลกอะไรเบอร์นั้น
“ถ้านายไม่เปิดฉันจะเข้าไปแล้วนะ”
พูดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะยืนรอนิ่งๆ รอการตอบกลับจากเจ้าของห้องอีกสักพัก วันนี้เป็นวันเดินทางของพี่น้ำหวาน พวกเราจะไม่ได้เจอเธอไปอีกตั้งหกปีเชียวนะ! ถึงจะจบกันไม่สวยยังไง อย่างน้อยก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เล่นด้วยกันมาก็เยอะ ฉันอยากให้ทั้งสองคนได้ร่ำลากันดีๆ
ครืด...
ฉันถือวิสาสะเปิดประตูระเบียงเข้าไป ภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาเจ้าของห้อง บนพื้นเต็มไปด้วยรูปถ่ายของพี่น้ำหวานที่ถูกฉีก แล้วนี่ไอ้ตัวคนฉีกไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะ? ฉันเดินออกจากห้องไปเดินตามหาดูตามจุดอื่นๆ ของบ้าน ลืมบอกไปว่าหมอนี่อยู่บ้านคนเดียว เพราะคุณแม่เสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนคุณพ่อก็ถูกย้ายให้ไปรับตำแหน่งหัวหน้างานอยู่สาขาที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ปีก่อน ทุกวันนี้ราฟาเอลเลยอาศัยกินข้าวบ้านฉัน แม้ว่าคุณพ่อของหมอนี่จะเสนอช่วยเรื่อค่ากินกับทางพ่อแม่ของฉันแต่พวกท่านก็ไม่รับ เพราะพ่อกับแม่เองก็เห็นราฟาเอลเป็นเหมือนลูกชายคนนึงเหมือนกัน
ฉันเดินลงมาที่ชั้นล่าง มันเงียบและวังเวงเสียจนน่ากังวล เดินมาจนกระทั่งถึงห้องรับแขกที่ฉันมักจะมานั่งเล่นเกมจนหลับไปอยู่เป็นประจำ ทว่าสิ่งที่สายตามองเห็นกลับทำให้ตกใจจนแทบเป็นลม เมื่อมีดสีเงินวาววับกระทบกับแสงไฟในห้องถูกง้างขึ้น
“ราฟ!!!”
ราฟาเอลในสาพเหมือนซอมบี้กำลังจะใช้มีดปักลงที่กลางอกของตัวเอง ฉันรีบวิ่งเข้าไปห้ามหมอนั่นเอาไว้ด้วยการใช้สองมือของตัวเองรั้งแขนข้างที่ง้างมีดแบบสุดแรงเกิด
“อย่านะ! นายจะทำบ้าอะไร!”
“ปล่อยฉัน! ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ถ้าไม่มีน้ำหวานฉันอยู่ไม่ได้!”
เขาตะโกนกลับมาทั้งน้ำตา ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าพี่น้ำหวานจะมีอิทธิพลในชีวิตของราฟาเอลถึงขนาดนี้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ที่เขาเปลี่ยนผู้หญิงนับไม่ถ้วนไม่ใช่เพราะทำใจได้แล้วหรอกเหรอ ที่แท้นั่นก็ทำเพื่อหลอกตัวเองว่าลืมพี่น้ำหวานได้แล้วอย่างนั้นสินะ
“ไอ้บ้า! นายนี่มันบ้าจริงๆ! บ้าชะมัด บ้ามากๆ คิดว่าตัวเองทำบ้าอะไรอยู่”
“เออ! ฉันมันบ้า แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง ยัยนั่นจะไปแล้ว... น้ำหวานจะไปวันนี้แล้วได้ยินไหม!”
สายตาเจ็บปวดและขอบตาที่แดงก่ำบ่งบอกได้ชัดเจนว่าหมอนี่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงขนาดไหน
ให้ตายสิ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกที่ราฟาเอลมีให้พี่น้ำหวานจะมากมายขนาดนี้ เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาถูกบอกเลิก และคิดเอาเองว่าคงทำใจได้แล้ว ฉันนี่มัน...แย่เป็นบ้า
ปล่อยให้เพื่อนสมัยเด็กต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียวมานานเท่าไหร่แล้วนะ
“นายใจเย็นๆ แล้ววางมีดลงก่อนเถอะนะ ทำแบบนี้ไปพี่น้ำหวานก็ไม่กลับมาหรอก อย่าทำร้ายตัวเองเลย”
“เธออย่ามายุ่ง กลับไปซะ”
ราฟาเอลออกแรงกดแขนข้างที่ถือมีดอยู่อีกครั้ง อีตาบ้าเอ๊ย ตัวฉันเล็กเท่ามด จะเอาแรงที่ไหนมารั้งนายไว้ได้มากมายเล่า ได้สติสักทีได้ไหม!
“หยุดนะราฟ อย่าทำร้ายตัวเอง ราฟ!”
“ไปให้พ้น!”
“กรี๊ด!”
ฉึกกก!
เพียงเสี้ยววินาทีที่ราฟาเอลออกแรงผลักฉันให้พ้นทาง แต่ฉันก็ยื้อเอาไว้สุดแรงเกิดกอดแขนเขาและคว้าลงมาด้วย ทำให้เราสองคนต่างล้มลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกัน ทว่ามีดที่เขาถืออยู่ กลับเฉือนแขนซ้ายของฉันตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงข้อศอกเป็นทางยาว เนื้อเปิดเป็นแผลเหวอะและมีเลือดไหลนองออกมาอย่างน่าสยดสยอง
“ซันนี่!” ราฟาเอลร้องเรียกฉันเสียงดัง
“ให้ตายสิ หยุดบ้าได้แล้วใช่ไหม”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉัน...”
หมับ...
ราฟาเอลที่ร่างกายสั่นเทิ้มและกำลังลนลานตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสภาพของฉันถูกฉันดึงเข้ามากอดไว้แน่น มือเล็กๆ ของฉันกดศีรษะเขาให้ซบลงกับหัวไหล่ ฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของตัวเองเริ่มพร่าเลือนคล้ายจะเป็นลม แต่ว่านะ...ถ้าฉันเป็นอะไรไปอีกคนในตอนนี้ ผู้ชายคนนี้จะเป็นยังไง เขาจะต้อง...รู้สึกผิดและเสียใจมากแน่ๆ
“นายยังมีฉันนะราฟ”
“...”
“ถึงพี่น้ำหวานจะไม่อยู่แล้ว แต่นาย...ยังมีฉัน”
“...”
“ฉันจะอยู่กับนายตลอดไป จะอยู่เคียงข้างนายเสมอไม่ไปไหน”
“...”
“เพราะงั้น...นายก็อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ขอร้องล่ะ...”
หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ หัวใจของฉันก็ค่อยๆ เต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง มันทำให้ฉันรู้ได้ในทันทีเลยว่า...
ฉันตกหลุมรักเขา
ฉันแอบรักเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเข้าซะแล้ว
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด