แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
แฟนไม่นอกใจคือลาภอันประเสริฐของหญิงสาว และฉันคือหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น...ซะเมื่อไหร่! เขาไม่นอกใจแต่กลับนอกกายฉันเป็นว่าเล่น งานนี้ต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ฉันต้องงัดทุกมารยาหญิงมาหยุดเขาให้ได้!
บทนำ แอบรัก
หกปีก่อนหน้านั้น
ก๊อกก๊อกก๊อก
“ราฟ! นายอยู่หรือเปล่า เฮ้!”
ฉันเคาะประตูระเบียงพร้อมกับส่งเสียงเรียกหมอนั่นจนคอแทบแตก หมอนั่นที่ว่าก็คือ ‘ราฟ’ หรือชื่อเต็มๆ คือ ‘ราฟาเอล’ เพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน เรียนห้องเดียวกันจนถึงปัจจุบัน แล้วยังอยู่บ้านข้างกันมาตลอดอีก ห้องนอนของหมอนี่ก็อยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของฉัน ระเบียงห้องของพวกเราติดกันชนิดที่ว่าขึ้นมายืนบนขอบระเบียงแล้วเดินข้ามหากันได้อย่างสบายๆ อย่างที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้
‘ขอโทษนะซันนี่ พี่ฝากราฟด้วยนะ’
เพราะคำพูดนั้นของ ‘พี่น้ำหวาน’ พี่สาวบ้านตรงข้ามที่อายุมากกว่าฉันและราฟาเอลสามปี ทำให้ฉันต้องมายืนเคาะประตูจนเจ็บมืออยู่ในตอนนี้
ฉันกับหมอนั่นเรียนอยู่ ม.3 โรงเรียนเดียวกันและห้องเดียวกัน ส่วนพี่น้ำหวานเรียนอยู่โรงเรียนสตรีชื่อดังระดับจังหวัด สวย เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกๆ คน พี่น้ำหวานกับราฟาเอลคบกันมาได้ปีกว่าแล้ว ตาบ้านั่นแอบหลงรักพี่น้ำหวานมาตลอดและสารภาพรักไป น่าตกใจมากที่ผู้หญิงที่แสนเพียบพร้อมอย่างพี่น้ำหวานรับรักเขา แถมยังคบกันอย่างหวานชื่นมาตลอด และทั้งที่เป็นแบบนั้น จู่ๆ พี่น้ำหวานก็มาบอกเลิกหมอนี่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน โดยให้เหตุผลว่าได้ทุนไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ
พี่น้ำหวานไม่ต้องการมีรักทางไกล และทนไม่ไหวกับพฤติกรรมหึงเรี่ยราดของราฟาเอลอีกต่อไปแล้ว ก็เลยตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฉันก็เห็นหมอนี่ควงผู้หญิงเป็นว่าเล่น แถมยังไม่ซ้ำหน้ากันอีกต่างหาก เวลาแค่เดือนเดียว ตาบ้านั่นเชยชมผู้หญิงไปแล้วไม่ต่ำกว่าสิบคน!
นายเพิ่งอายุแค่สิบห้าปีเองนะยะ จะกร้านโลกอะไรเบอร์นั้น
“ถ้านายไม่เปิดฉันจะเข้าไปแล้วนะ”
พูดออกไปอีกครั้ง ก่อนจะยืนรอนิ่งๆ รอการตอบกลับจากเจ้าของห้องอีกสักพัก วันนี้เป็นวันเดินทางของพี่น้ำหวาน พวกเราจะไม่ได้เจอเธอไปอีกตั้งหกปีเชียวนะ! ถึงจะจบกันไม่สวยยังไง อย่างน้อยก็รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เล่นด้วยกันมาก็เยอะ ฉันอยากให้ทั้งสองคนได้ร่ำลากันดีๆ
ครืด...
ฉันถือวิสาสะเปิดประตูระเบียงเข้าไป ภายในห้องว่างเปล่าไร้เงาเจ้าของห้อง บนพื้นเต็มไปด้วยรูปถ่ายของพี่น้ำหวานที่ถูกฉีก แล้วนี่ไอ้ตัวคนฉีกไปอยู่ไหนซะแล้วล่ะ? ฉันเดินออกจากห้องไปเดินตามหาดูตามจุดอื่นๆ ของบ้าน ลืมบอกไปว่าหมอนี่อยู่บ้านคนเดียว เพราะคุณแม่เสียไปตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนคุณพ่อก็ถูกย้ายให้ไปรับตำแหน่งหัวหน้างานอยู่สาขาที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ปีก่อน ทุกวันนี้ราฟาเอลเลยอาศัยกินข้าวบ้านฉัน แม้ว่าคุณพ่อของหมอนี่จะเสนอช่วยเรื่อค่ากินกับทางพ่อแม่ของฉันแต่พวกท่านก็ไม่รับ เพราะพ่อกับแม่เองก็เห็นราฟาเอลเป็นเหมือนลูกชายคนนึงเหมือนกัน
ฉันเดินลงมาที่ชั้นล่าง มันเงียบและวังเวงเสียจนน่ากังวล เดินมาจนกระทั่งถึงห้องรับแขกที่ฉันมักจะมานั่งเล่นเกมจนหลับไปอยู่เป็นประจำ ทว่าสิ่งที่สายตามองเห็นกลับทำให้ตกใจจนแทบเป็นลม เมื่อมีดสีเงินวาววับกระทบกับแสงไฟในห้องถูกง้างขึ้น
“ราฟ!!!”
ราฟาเอลในสาพเหมือนซอมบี้กำลังจะใช้มีดปักลงที่กลางอกของตัวเอง ฉันรีบวิ่งเข้าไปห้ามหมอนั่นเอาไว้ด้วยการใช้สองมือของตัวเองรั้งแขนข้างที่ง้างมีดแบบสุดแรงเกิด
“อย่านะ! นายจะทำบ้าอะไร!”
“ปล่อยฉัน! ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ถ้าไม่มีน้ำหวานฉันอยู่ไม่ได้!”
เขาตะโกนกลับมาทั้งน้ำตา ฉันเบิกตากว้างอย่างตกใจ คิดไม่ถึงว่าพี่น้ำหวานจะมีอิทธิพลในชีวิตของราฟาเอลถึงขนาดนี้ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา...ที่เขาเปลี่ยนผู้หญิงนับไม่ถ้วนไม่ใช่เพราะทำใจได้แล้วหรอกเหรอ ที่แท้นั่นก็ทำเพื่อหลอกตัวเองว่าลืมพี่น้ำหวานได้แล้วอย่างนั้นสินะ
“ไอ้บ้า! นายนี่มันบ้าจริงๆ! บ้าชะมัด บ้ามากๆ คิดว่าตัวเองทำบ้าอะไรอยู่”
“เออ! ฉันมันบ้า แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไง ยัยนั่นจะไปแล้ว... น้ำหวานจะไปวันนี้แล้วได้ยินไหม!”
สายตาเจ็บปวดและขอบตาที่แดงก่ำบ่งบอกได้ชัดเจนว่าหมอนี่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงขนาดไหน
ให้ตายสิ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความรู้สึกที่ราฟาเอลมีให้พี่น้ำหวานจะมากมายขนาดนี้ เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาถูกบอกเลิก และคิดเอาเองว่าคงทำใจได้แล้ว ฉันนี่มัน...แย่เป็นบ้า
ปล่อยให้เพื่อนสมัยเด็กต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียวมานานเท่าไหร่แล้วนะ
“นายใจเย็นๆ แล้ววางมีดลงก่อนเถอะนะ ทำแบบนี้ไปพี่น้ำหวานก็ไม่กลับมาหรอก อย่าทำร้ายตัวเองเลย”
“เธออย่ามายุ่ง กลับไปซะ”
ราฟาเอลออกแรงกดแขนข้างที่ถือมีดอยู่อีกครั้ง อีตาบ้าเอ๊ย ตัวฉันเล็กเท่ามด จะเอาแรงที่ไหนมารั้งนายไว้ได้มากมายเล่า ได้สติสักทีได้ไหม!
“หยุดนะราฟ อย่าทำร้ายตัวเอง ราฟ!”
“ไปให้พ้น!”
“กรี๊ด!”
ฉึกกก!
เพียงเสี้ยววินาทีที่ราฟาเอลออกแรงผลักฉันให้พ้นทาง แต่ฉันก็ยื้อเอาไว้สุดแรงเกิดกอดแขนเขาและคว้าลงมาด้วย ทำให้เราสองคนต่างล้มลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมกัน ทว่ามีดที่เขาถืออยู่ กลับเฉือนแขนซ้ายของฉันตั้งแต่ข้อมือไปจนถึงข้อศอกเป็นทางยาว เนื้อเปิดเป็นแผลเหวอะและมีเลือดไหลนองออกมาอย่างน่าสยดสยอง
“ซันนี่!” ราฟาเอลร้องเรียกฉันเสียงดัง
“ให้ตายสิ หยุดบ้าได้แล้วใช่ไหม”
“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉัน...”
หมับ...
ราฟาเอลที่ร่างกายสั่นเทิ้มและกำลังลนลานตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นสภาพของฉันถูกฉันดึงเข้ามากอดไว้แน่น มือเล็กๆ ของฉันกดศีรษะเขาให้ซบลงกับหัวไหล่ ฉันรู้สึกได้ว่าสายตาของตัวเองเริ่มพร่าเลือนคล้ายจะเป็นลม แต่ว่านะ...ถ้าฉันเป็นอะไรไปอีกคนในตอนนี้ ผู้ชายคนนี้จะเป็นยังไง เขาจะต้อง...รู้สึกผิดและเสียใจมากแน่ๆ
“นายยังมีฉันนะราฟ”
“...”
“ถึงพี่น้ำหวานจะไม่อยู่แล้ว แต่นาย...ยังมีฉัน”
“...”
“ฉันจะอยู่กับนายตลอดไป จะอยู่เคียงข้างนายเสมอไม่ไปไหน”
“...”
“เพราะงั้น...นายก็อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ขอร้องล่ะ...”
หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ หัวใจของฉันก็ค่อยๆ เต้นแรงขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง มันทำให้ฉันรู้ได้ในทันทีเลยว่า...
ฉันตกหลุมรักเขา
ฉันแอบรักเพื่อนสมัยเด็กของตัวเองเข้าซะแล้ว
เพราะติดใจความเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในคืนนั้น เธอ...จึงกลายมาเป็นนางฟ้าของเขาในวันนี้
เพราะการแต่งงานนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเขา ทำให้ทะเบียนสมรสที่เธอนอนกอดอยู่มีกำหนดหมดอายุ! เธอมีเวลาในฐานะเมียของเขาเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น คอยดูเถอะ..ในสามเดือนนี้เธอจะต้องขึ้นเตียงกับเขาให้ได้!
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ความทะเยอทะยานผลักดันให้นางปีนขึ้นสู่ตำแหน่งฮองเฮาทว่ายังมิทันจะได้เสวยสุข กลับถูกฮ่องเต้ผู้เป็นสวามีสวมข้อหากบฏวางลงบนศีรษะนาง เกิดใหม่คราวนี้นางไม่ขอเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้สารเลวผู้นั้น ชีวิตนี้ที่ได้มาใหม่อีกครั้ง นางจะลิขิตเอง
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
จี้ฮันโจวเป็นคนมีฝีมือร้ายกาจและเด็ดขาด แต่กลับเอ็นดูรักใคร่เสิ่นชือมาก เสิ่นชือ ซึ่งเกือบจะเสียชีวิตเนื่องจากการสมรู้ร่วมคิดจากพ่อและแม่เลี้ยงของเธอ และเธอได้ช่วยชีวิตหัวจี้ฮันโจว นายน้อยของตระกูลใหญ่ที่สุดใน เมืองเซิ่นจิน ส่งผลให้ทั้งสองบรรลุความร่วมมือ และสุดท้ายตกหลุมรักกัน คนนอก: "ไหนบอกว่าคุณชายจี้จะไม่ชอบผู้หญิง ไหนบอกว่าไร้ความปรารถนา และไม่แยแสกับผู้หญิงล่ะ!"
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY