คราแรกไซเรนวัยเเรกผลิได้ลองฝึกใช้เวทย์มนต์กับมนุษย์ เพื่อลวงให้เขาหลงใหล ทว่ากลับหลงลีลาร่ายสวาทจากชายผู้นั้นเสียเองกระทั่งก่อเกิดเป็นความรัก...ทั้งที่รู้ว่าความรักระหว่างเธอเเละเขามิอาจสมหวัง เเต่เธอยังคงปรารถนาที่จะรัก... ไม่ว่าอย่างไรเธอไม่อาจทนกับการสูญเสียเขาได้ “ไม่ต้องถอยห่างข้าก็ได้ ข้าไม่ทำอะไรเจ้า ข้าสัญญา” ฟรานซ์ตอบพร้อมกับยกมือสองข้างขึ้น “ข้าคิดว่าไม่เหมาะ...อีกอย่างท่านมีคนรักอยู่แล้ว...” ไซเรนสาวตอบ ทว่ามือแกร่งชายหนุ่มกลับรั้งร่างอรชรเเนบชิดปะทะแผงอกแกร่งรับรู้ถึงเลือดเนื้อที่ร้อนเร่าดั่งเพลิงพายุ “ฟรานซ์!” “ข้าหนาวเจ้าไม่หนาวบ้างรึ?”
บทนำ
เสียงลมทะเลพัดแรงขึ้นเหมือนพายุลูกใหญ่กำลังจะใกล้เข้ามาในอีกไม่ช้า เรือส่งสินค้าขนาดใหญ่ล่องไปตามกระแสลมพายุและคลื่นที่ซัดแรงกระเซ็นเข้ามาในเรือ ทุกคนบนเรือต่างภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เพราะรู้ดีว่าแทบถิ่นนี้มีตำนานว่าอย่างไร
ฟรานซ์ กัปตันเรือหนุ่มมองออกไปยังท้องทะเลกว้าง ทั้งที่รู้ว่าอันตรายเพราะเรื่องตำนาน แต่ทว่าตำนานสำหรับเขาก็แค่เรื่องเล่าขานที่ไม่มีวันเป็นจริง เขาต้องเดินทางผ่านน่านน้ำของแม่น้ำไรน์ และเป็นทางเดียวที่จะทำให้สินค้าถึงจุดหมายได้เร็วที่สุด
“ท่านฟรานซ์ข้าว่าอ้อมไปอีกทางไม่ดีหรือท่าน ทางนี้ข้าคิดว่าอันตราย...เราอาจจะส่งของช้าสักสองวัน แต่ข้าว่ามันปลอดภัย” ลูกเรือพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเพราะต่างใครก็รู้ดีกว่า แม่น้ำไรน์มีตำนานเป็นมาว่าอย่างไร...
“เจ้ากลัวอย่างงั้นหรือ ตำนานที่ว่าจะมีจริงได้อย่างไร” ฟรานซ์หันมาพูดกับลูกเรือ
สีหน้าของเมสซีดูไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่เพราะด้วยเป็นคนที่หลงเชื่อกับตำนานอย่างสุด ๆ ต่อให้จะจริงหรือไม่เขาก็ไม่เคยคิดจะลบหลู่มัน
“ขะ...ข้าแค่คิดว่าตำนานคงจะเป็นจริง...ไม่เช่นนั้นทุกคน...งั้นท่านก็เอา ไอ้นี่อุดหูไว้ดีกว่านะ ข้าคิดว่าอย่างงั้น”
เมสซีพูดด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นพร้อมกับส่งขี้ผึ้งให้ฟรานซ์
“เจ้าให้ข้าทำไม? มันไม่จำเป็นสำหรับข้า” เมื่อพูดจบมือของฟรานซ์ก็เหวี่ยงขี้ผึ้งทิ้งลงในทะเล
“ทะ...ทิ้งมันทำไม...นั่นเหลืออันสุด...” ยังพูดไม่ทันจบเสียงแว่ว ๆ ไพเราะที่ชวนให้หลงใหลดังก้องเข้าที่ประสาทหูของคนบนเรืออย่างฟรานซ์ราวกับต้องมนตร์สะกดในชั่วพริบตา
เมสซีมองสายตาของฟรานซ์ที่หันมองออกไปยังท้องทะเลพร้อมทั้งก้าวออกไปอย่างช้าๆ เขารู้ทันทีว่าเสียงขับกล่อมของ ไซเรน ปีศาจแห่งแม่น้ำไรน์ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
ฟรานซ์ก้าวออกไปอย่างช้าๆ จนถึงขอบเรือ เขาก้าวขึ้นไปที่ปลายเรือเตรียมท่าจะกระโดดในขณะที่เมสซีนั้นเดินเข้ามารั้งกัปตันหนุ่มเอาไว้ เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าหากผ่านทางนี้ต้องเจอเสียงของไซเรน ดีที่เขาเตรียมมาแต่ทว่าอันที่เขาเพิ่งให้ฟรานซ์ไปเป็นอันสุดท้ายและก็เพิ่งถูกโยนทิ้งลงไปในทะเล เพราะตอนนี้ลูกเรือทุกคนได้อุดหูไปกันหมดแล้ว
“ท่านฟรานซ์ ท่านจะทำอะไร!” เมสซีตะโกนเรียกพร้อมใช้มือดึงแขนของฟรานซ์เอาไว้ ทว่าเจ้าตัวนั้นสติได้ล่องลอยไปกับเสียงขับกล่อมของไซเรนแล้ว
แขนแกร่งของฟรานซ์นั้นสะบัดและผลัก เมสซีออกไปจนล้มลงพื้น สายตาคมจ้องมองไปยังโขดหินข้างหน้าที่มีไซเรนตนหนึ่งกำลังร้องเพลงเรียกหาเขาอยู่ เขาไม่รีรอที่จะกระโดดน้ำลงไปเพื่อว่ายน้ำไปหา
“ท่านฟรานซ์!!!” ไม่ทันเสียแล้ว ลูกเรือทุกคนต่างมองไปที่ฟรานซ์เมื่อว่ายไปตามกระแสน้ำเพื่อไปหาไซเรนที่นั่งร้องเพลงบนโขดหิน วินาทีนั้นทุกคนรู้ว่าฟรานซ์ต้องไม่รอดอย่างแน่นอนเพราะไซเรนไม่มีทางที่จะปล่อยให้มนุษย์ที่เข้ามาหาต้องรอดมือไป
1. โลภะพิศวาส เสียงสะท้อนในความมืด คือ ปีศาจที่ซ่อนเร้น หากปรากฏขึ้น ไฟพิศวาสอาจแผดเผาเป็นเถ้าธุลี "ครั้งแรกของคุณไม่ใช่เหรอ" เขาเอ่ยขึ้นราวกับเป็นเรื่องปกติ "ถ้าไม่เตรียมให้พร้อมคุณจะเจ็บเอานะ" -------------------------------- 2. ตัณหะราตรี ปีศาจ คือ ความมืดในใจของมนุษย์ หากมีแล้วปีศาจจะปรากฏขึ้น ท่ามกลางไฟราคะแห่งนิรันดร์ "เธอยั่วฉันเองนะ ห้ามพูดว่าไม่ไหว เพราะฉันจะทำให้เธอพูดแค่ว่าเข้ามาลึก ๆ สิ"
หวงรักซาตาน ความรู้สึกที่ต้องเก็บไว้เพียงคนเดียว มันอึดอัดมากขนาดไหนคนๆ นั้นไม่มีทางเข้าใจ ทั้งที่พยายามมาตลอด ทำทุกอย่างให้เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทำไมถึงต้องแสดงท่าทีแบบนั้นออกมา ได้โปรด...เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ "พราว...ฉันขอนะ” เขากระซิบน้ำเสียงพร่าบอกเธอ แต่ทว่าหญิงสาวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ "ไม่เอานะ คิวคิว...เราเป็นเพื่อนกันนะ” เพื่อน...!! นครินทร์หยุดชะงักลงมองคนใต้ร่างที่ตัวสั่น มันเป็นที่เขาไม่อยากจะคิดถึงในตอนนี้ จะให้เขาหยุดทั้งที่เขาอยากจะเข้าไปอยู่ในร่างเธอจะตายอยู่แล้ว ไม่มีทางซะหรอก… "แล้วยังไง” ++++++++++++++++++++++ ซ่อนรักซาตาน ยิ่งหนียิ่งโหยหา ยิ่งพยายามดิ้นให้หลุดยิ่งผูกมัด “ฉันนอนกับนายไปแล้ว นายก็รักษาสัญญาบ้างสิ! ...” เธอกำลังกลัว “ฉันไม่เคยบอกว่าจะนอนกับเธอแค่ครั้งเดียว” “ณัฐ!...” เขายิ้มที่มุมปากในขณะที่มองท่าทางโกรธของอีกฝ่าย “นอนกับฉันจนกว่า ฉันจะพอใจแล้วจะไปตามคำที่เธอขอ” “คนใจร้าย...” ญาตาวีมองหน้าชายหนุ่มด้วยความเสียใจและขุ่นเคือง “นายต้องการอะไรอีก!! สนุกมากสินะ...สนุกที่แกล้งฉัน” “อืม...เธอน่าแกล้ง” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดึงหญิงสาวเข้ามาอยู่ในวงแขนแกร่ง “แล้วก็ น่าเอาด้วย”
เมื่อสาวสายอ่อยสิบแปดมงกุฎได้รับข้อเสนอของมาเฟียหนุ่ม เธอจะต้องทำอย่างไร เพราะเงินเป็นสาเหตุที่ทำให้หนีไม่พ้นจากพันธนาการเขา !
เพราะถูกเข้าใจผิดคิดว่าจะมาเป็นภรรยาคนใหม่ ทำให้บุตรชายเพียงคนเดียวอย่าง "จิรัฎฐ์" ไม่ยอมรับเเละพยายามข่มขู่หญิงสาวด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้ออกไปจากชีวิตบิดา แต่กลายเป็นว่าเขากลับติดใจบทลงทัณฑ์ซะเอง
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาเเละพบว่าได้เสียความทรงจำทั้งหมดไป ขณะที่เขาเดินเข้ามาหาเเละบอกว่า "ผมคือสามีของคุณ" ...เธอเชื่อหมดใจ เเละมอบร่างกาย หัวใจให้ จนกระทั่งวันที่เขาพูดขึ้นว่า "ที่รัก...เราหย่ากันไหม?"
ความฝันของ ‘ฟางเหม่ยอี้’ คือการมีความรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต และเมื่อวันที่ปรารถนามาถึง เจ้าชายปริศนาได้มอบดอกกุหลาบให้ 999 ดอก นั้นให้กับเธอ แต่ใครจะไปรู้ว่าคือเขากันละ ! ทว่าสำหรับ ‘เฟยหลง’ การที่ได้มองรอยยิ้มของสาวน้อยนั้นทำให้เขามีความสุขมากที่สุด แม้จะไม่ยอมรับว่าแอบชอบเธอก็ตาม แต่ทว่าลูกพี่ลูกน้องได้บอกกับเขาว่า “ถ้าอยากรู้ว่าหลงรักไหม ให้ลองกอดดูสิ !”
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย