หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
“ฉันรู้สึกทรมานมาก…”
แม้ไฟในห้องของโรงเเรมจะดับลง เเต่แสงสลัว ๆ ที่ลอดมาจากถนนด้านนอกก็ยังมากพอที่จะทำให้เห็นเรือนร่างเพรียวสุดเซ็กซี่ของหญิงสาวตรงหน้า เธอนอนเอนกายอยู่บนเตียงด้วยความขี้เกียจ แต่นั่นก็ยังสามารถดึงดูดความสนใจของกู้เจ๋อข่ายได้ในทันที
“บอกมาซิ! ใครให้คุณเข้ามาในนี้!” -
แม้เขาจะมองเห็นไม่ค่อยชัดว่า หญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เขาก็พอจะเห็นลาง ๆ ว่าเธอเป็นคนสวย เมื่อเจ๋อข่ายเดินมาถึงเตียง เขาก็เชยคางของเธอขึ้นเพื่อดูว่า ผู้หญิงลึกลับที่อยู่บนเตียงของเขานั้นคือใคร แต่จู่ ๆ เพียงไม่กี่วินาที ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นมา แล้วเอาแขนของเธอโอบรอบคอของเขา เขาได้ยินเสียงหายใจอย่างหนักหน่วงราวกับกำลังพยายามจะตั้งสติของตัวเธอให้ได้
“ได้โปรด… ช่วยฉันที…”
การที่เธอเอาตัวมาแนบชิดเขาเเบบนี้ พร้อมกับเสียงหอบหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วงที่ข้างหู ทำให้สติของเจ๋อข่ายขาดสะบั้นลง เขาควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป!
เจ๋อข่ายเติบโตมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เขาเคยเห็นและเคยสัมผัสอบายมุขต่าง ๆ มามากมาย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขาที่จะฉวยโอกาสจากเด็กสาวผู้น่าสงสารที่ดูเหมือนจะถูกวางยาคนนี้
‘ต้องเป็นคนที่ถูกบงการมาเเละอยากได้ประโยชน์จากผมเท่านั้นเเหละ ถึงจะเข้ามาในห้องของผมได้ ยัยนี่ก็คงถูกบังคับให้อัพยา เพราะอยากเพิ่มความสนุกให้ฉันล่ะมั้ง’ เขาคิดในใจด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
จากนั้นเจ๋อข่ายจึงโน้มตัวลงเพื่อจูบหญิงสาวโดยไม่ลังเล
กริ๊ง… กริ๊ง… กริ๊ง… กริ๊ง… !
นิ่งเฉี่ยนซี ลืมตาตื่นขึ้นทันทีเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือที่เธอตั้งเอาไว้เพื่อปลุกเธอทุกเช้า เธอขยี้ตาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุก แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไป…
‘ทะ… ทำไมฉันถึงโป๊แบบนี้ แล้วผู้ชายที่นอนข้างฉันคนนี้ คือใคร?!’ !' เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เฉี่ยนซีก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เสียงกรี๊ดของเธอดังเล็ดรอดออกมาได้
เธอยกมือขึ้นกุมขมับ และพยายามนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อวานนี้
‘โอเค… ฉันจำได้ว่า ซ่งจื่อห้าวพูดกับฉันว่า เขามีเซอร์ไพรส์บางอย่างให้ฉัน และบอกให้ฉันมารอเขาที่โรงแรมแห่งนี้ จากนั้นจ้าวเฟยเอ๋อก็เทน้ำเปล่าให้ฉันหนึ่งแก้ว… และฉันก็ดื่มมัน…
แล้ว… ฉันก็เริ่มเวียนหัว และถูกพามาที่ห้องนี้!’ ดวงตาของเฉี่ยนซีเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเริ่มจำเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเธอได้ เธอสงสัยมานานแล้วว่า ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างจื่อห้าว เเฟนหนุ่มของเธอ กับเฟยเอ๋อ เพื่อนสนิทของเธอเเน่ๆ ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่คิดว่า พวกเขาจะวางแผนทำร้ายเธอได้ถึงขนาดนี้!
เมื่อตั้งสติได้ เฉี่ยนซีก็รีบลุกลงจากเตียงและแต่งตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อออกตามหาจื่อห้าวและเฟยเอ๋อ แต่ก่อนที่เธอจะจากไป เธอก็หันกลับไปมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อคืนนี้ แม้ว่าเขาจะมีอะไรกับเธอ เเต่เขาก็ได้พยายามถามอะไรเธออยู่หลายอย่าง พอคิดดูเเล้ว เขาก็ไม่ได้ทำผิดอะไร
‘จะว่าไป…เขาก็ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย!’ เฉี่ยนซีคิดในใจขณะที่เธอกำลังสำรวจรูปร่างหน้าตาของเขาที่กำลังหลับไหลอยู่ ‘อืม… ไหน ๆ เขาก็หล่อมากขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้น… ฉันจะถือซะว่า ฉันไม่ได้เสียหายอะไรก็แล้วกัน’ เฉี่ยนซียักไหล่ให้กับความคิดนั้น จากนั้นเฉี่ยนซีก็หยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และวางลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะออกจากห้องนี้ไปอย่างเงียบ ๆ
เมื่อเฉี่ยนซีลงมาถึงชั้นล๊อบบี้ของโรงแรม เธอก็เรียกแท็กซี่และตรงไปที่บ้านของจื่อห้าวทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เธอจินตนาการถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ นา ๆ ที่กำลังรอเธออยู่ที่นั่น เเต่เธอยังคงเก็บอาการโกรธเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อเห็นฉากที่บ้านของจื่อห้าว
เธอกวาดสายตามองเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ตั้งแต่ตรงประตูทางเข้าไปจนถึงหน้าประตูห้องนอน เฉี่ยนซียังเห็นเนคไทสีน้ำเงินเข้มที่เธอเคยมอบเป็นของขวัญให้จื่อห้าวด้วย ซึ่งตอนนี้ เนคไทนั่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้นเหมือนเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น
เฉี่ยนซีเดินตรงไปยังห้องนอนของจื่อห้าวอย่างช้า ๆ และพยายามเงี่ยหูฟังในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ในห้องนั้น เนื่องจากประตูห้องนอนถูกเปิดแง้มไว้เล็กน้อย เธอจึงได้ยินเสียงครางของพวกเขาดังออกมาข้างนอกอย่างชัดเจน ในที่สุดเฉี่ยนซีที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปก็คว้า รองเท้าส้นสูงที่อยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้ในมือ แล้วเขวี้ยงใส่คู่ชายหญิงที่อยู่บนเตียงนั่นอย่างเต็มเเรง
“ครั้งหน้าอย่าลืมปิดประตูด้วยล่ะ! อย่าให้คนอื่นเขาเข้ามาเห็นเลยว่า เธอสองคนไร้ยางอายแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่า แกยังมีความสามารถในอีเรื่องนี้รึเปล่า” เฉี่ยนซีกล่าวด้วยความโกรธ
ทันทีที่จื่อห้าวหันไปเห็นสีหน้าโกรธจัดของเฉี่ยนซี เขาก็รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเขาเอาไว้ ในขณะเดียวกัน เฟยเอ๋อก็รีบเอื้อมมือไปคว้าเสื้อเชิ้ตของจื่อห้าวที่อยู่ปลายเตียงขึ้นมาสวม จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเฉี่ยนซี
“เฉี่ยนซี ยังไงซะเธอก็เห็นหมดทุกอย่างแล้ว งั้นฉันขอพูดกับเธอตามตรงเลยแล้วกันนะ เพราะฉันก็ไม่มีอะไรที่จำเป็นจะต้องปิดบังเธออีกต่อไป จื่อห้าวกับฉัน…”
“ไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนไหม?!” เฉี่ยนซีพูดตัดบท พร้อมกับเอามือปิดตาด้วยท่าทางรังเกียจสารรูปของเฟยเอ๋อในตอนนี้ “ช่วยเคารพตัวบ้าง”ั
“นี่ แก!”
เมื่อคนอื่นเห็นเธอในสภาพเเบบนี้เข้า เฟยเอ๋อทั้งโกรธเเละอาย จนพูดไม่อะไรไม่ออก เฉี่ยนซีมองไปที่เฟยเอ๋อ พร้อมกับหัวเราะเจื่อน ๆ สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการงั้นหรอ จื่อห้าว เเบบนี้เหรอรสนิยมแก” เฉี่ยนซีจ้องหน้าจื่อห้าวที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่บนเตียง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่เย้ยหยัน
“เฟยเอ๋อ ฉันเห็นแกเป็นเพื่อนสนิทของฉันมาตลอด แต่มันจะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว!” เฉี่ยนซีพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน “ฉันก็ไม่อยากพูดแบบนี้กับเธอหรอกนะ เพราะฉันคิดว่ามันอาจจะทำร้ายความรู้สึกของเธอ เฟยเอ๋อ ตอนที่เราเป็นเพื่อนกัน เธอคงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เเต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาสินะ แต่ตั้งแต่เล็กจนโต เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็เป็นเสื้อผ้าเก่าของฉัน ของที่เธอใช้ก็เป็นของเก่าที่ฉันไม่ใช้แล้ว เธอไม่คิดว่า มันตลกบ้างเลยเหรอ” เฉี่ยนซีกล่าวขึ้นอย่างแดกดัน พร้อมกับหัวเราะเยาะเฟยเอ๋อ “แล้วตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า เธอจะได้ผู้ชายมือสองจากฉันไปด้วย! เธอนี่ช่ำชองในการเก็บ ‘ขยะ’ จังเลยนะ เฟยเอ๋อ!”
คำพูดเหล่านี้ของเฉี่ยนซีทำให้เฟยเอ๋อรู้สึกเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด พ่อของเฟยเอ๋อเคยเป็นคนขับรถให้กับตระกูลนิ่งมาก่อน ด้วยเหตุนี้ เธอจึงคิดว่าตัวเองฐานะต่ำต้อย และมักรู้สึกด้อยค่าอยู่เสมอ จื่อห้าวที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเฉี่ยนซีเปรียบตนเองว่าเป็น “ขยะ” ก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เขาชี้ไปที่เฉี่ยนซีด้วยท่าทางหาเรื่อง และตะโกนใส่เธอว่า “นั่นคือสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในตัวคุณ เฉี่ยนซี!คุณเอาแต่หลงตัวเอง! คุณยังคิดว่า คุณเป็นลูกเศรษฐีจากตระกูลนิ่งเหมือนเมื่อก่อนอยู่อีกหรอ คุณอย่าลืมนะว่า พ่อของคุณตายไปแล้ว และครอบครัวของคุณก็ล้มละลายไปแล้วเหมือนกัน! ตอนนี้คุณก็เป็นแค่คนจน ๆ ที่ไม่มีประโยชน์อะไรกับผมเเล้ว คุณยังมีหน้ามาพูดถึงเฟยเอ๋อกับผมแบบนั้นอีกหรอ แล้วคุณกล้าบอกผมไหม ว่าเมื่อคืนคุณไปทำอะไรมา”
เมื่อเขาพูดประโยคนี้ขึ้นมา เฉี่ยนซีก็รู้ทันทีว่า พวกเขาเป็นคนวางแผนเรื่องนี้ทั้งหมด
เธอจึงนึกขึ้นได้ว่า จื่อห้าวเคยเล่าให้ฟังว่า เขาหมดเงินจำนวนมากไปกับการพนันที่มาเก๊าเมื่อกไม่นานมานี้ และเขาก็ไม่ต้องการให้ครอบครัวของเขารู้ ดังนั้น เขาจึงขายเธอเพื่อใช้หนี้งั้นเหรอ แต่ดูเหมือนว่า เฟยเอ๋อจะพาเธอเข้าห้องผิดโดยไม่รู้ตัว!
เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นมาได้ เฉี่ยนซีกลับรู้สึกอารมณ์เย็นลงอย่างคาดไม่ถึง เธอมองไปยัง ‘อดีตแฟนหนุ่ม และอดีตเพื่อนสาว’ ที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วยิ้มเยาะอย่างเย็นชา
“ฉันจะบอกให้นะ! เมื่อคืนนี้ฉันได้ใช้เวลาชั่วข้ามคืน กับผู้ชายที่แสนดีคนหนึ่งในโรงแรมนั่น ร่างกายของเขากำยำและเซ็กซี่มาก แล้วเขาก็หล่อมากด้วย! มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉันเลยล่ะ!”
เฉี่ยนซีรู้ว่า จื่อห้าวเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหยิ่งยโส เธอจึงพยายามยั่วยุเขาด้วยคำพูด ตามคาด สีหน้าของจื่อห้าวเปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่เธอพูดจบ เขามองจ้องมาที่เธอและกัดฟันอย่างโกรธจัด
“เธอมันผู้หญิงสารเลว!”
“ฉันจะไปเทียบอะไรกับเธอสองคนได้ล่ะ? ฉันมั่นใจว่า พวกเธอจะเพลิดเพลินกับความน่าสมเพชที่ได้คบกัน” เฉี่ยนซีตอกกลับด้วยคำพูดที่เยาะเย้ยและดูถูก จากนั้นเธอจึงกลับหลังหัน แล้วเดินจากไปพร้อมกับเสียงส้นเท้าที่กระทบพื้นจนดังกึกก้องไปทั่วบ้านราวกับราชินีผู้หยิ่งผยอง
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
เล่อซานเป็นคนใบ้ เธอถูกสามีละเลยมาเป็นเวลาห้าปี ม้แต่เธอตั้งท้องยังถูกแม่สามาีทำร้ายจนแท้งลูก หลังจากการหย่าร้าง สามีของเธอก็ประกาศหมั้นกับคนรักในใจของเขาทันที เธอกุมท้องที่นูนเล็กน้อยไว้ ในที่สุดก็ได้สติและเข้าใจว่าเขาไม่เคยจริงจังกับเธอมาก่อน... เธอหันหลังจากไปอย่างเด็ดขาด และทั้งสองก็กลายเป็นคนแปลกหน้า หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ตามหาเธอไปทั่วโลก เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง เธอก็รักคนอื่นไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาถามอย่างถ่อมตัวว่า "ได้โปรดอย่าไป..." ทว่าคำแรกที่เธอพูดก็คือให้เขาไปให้พ้น!
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
“อ๊ะ… ซี้ดดดดดดด… ” เสียงร้องครางหลุดออกมาจากริมฝีปากของยาดาที่ต้องเผยออ้าทุกครั้งที่ลิ้นของเขาปาดเสยเข้าใส่กลีบสาว ไม่เพียงแค่เลีย แต่ยังสอดนิ้วเข้ามาบดคลึงเม็ดกระสัน ยิ่งทำให้หล่อนเสียวซ่านสุดจะบรรยาย “อู้ววว… กลีบอวบอูมดีจัง” น้ำเสียงสะใจ หลังจากจู่โจมด้วยปลายลิ้นจนน้ำคาวสวาทของหญิงสาวหลั่งไหลออกมาอาบชุ่มสองกลีบ ขมิบสู้ลำนิ้ว “ว้าว… เยิ้มเร็วมากหนูจ๋า” ท่านประธานชอบใจที่เห็นร่างกายของหล่อนตอบสนองการปลุกเร้า ค่อยๆ หงายฝ่ามือสอดเข้ามาระหว่างง่ามก้นด้านหลัง ตะล่อมโอบพูเนื้อโหนกนูนเหมือนกับหลังเต่าคว่ำลงมาประกบกับอุ้งมือพอดี “อ๊า… ซี้ดดดดดด… ” ยาดาร้องครวญครางออกมาด้วยความสยิว นิ้วของเขาไม่เพียงแค่ไล้ลูบ แต่ยังตวัดรัวแหวกร่องแล้วสอดใส่เข้ามาในความฝืดคับ
เมื่อเด็กสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เขาจึงตัดสินใจหนี... แต่สุดท้ายแล้วเขาหรือจะหนีหัวใจตัวเองพ้น ยิ่งได้รับรู้ว่า ‘ลูกพุทรา’ กำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ‘พ่อเลี้ยง’ ที่หลงรักเธอมาตลอดหรือจะยอมปล่อยนกน้อยให้หลุดจากกรงทอง! คำนิยามของท้องฟ้า... อาจคือความอิสระ สายน้ำ... อาจหมายถึงความรัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือความรัก เป็นสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ สิ่งที่ลืมตาตื่นมาก็จะต้องใช้มัน ต้องอยู่กับมันในทุก ๆ วัน ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถมีชีวิตรอดหากปราศจากน้ำ แม้แต่ตัวของเขาเองที่พยายามละ เลิก ทิ้ง ลาจากน้ำโดยไม่สนใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ นี่เขากำลังคิดถึงใคร...? เด็กน้อยในความดูแลงั้นหรือ? ยี่สิบเอ็ดปีแล้วที่พี่ชายของเขา ปองกานต์ได้หาภาระลูกมหึมามาให้ต้องรับภาระดูแลเด็กสาวมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงจากภรรยาว่าลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือไม่ใช่ลูกของตัวเอง ต้นกล้าแข็งแรงได้รับการรดน้ำและพรวดดินเป็นอย่างดีเติบโตเป็นต้นไม้งาม ผลิดอกออกผลมีรากฐานมั่นคงจนเขาไม่ต้องห่วงอะไร กระทั่งเสียงโทรศัพท์สั่นดังจากข้างหู ‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง... พี่รหัสชื่อธามไท กำลังจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน’ ร่างสูงลุกพรวดขึ้นกำโทรศัพท์แน่นยังกับว่าจะบีบมันให้แหลกคามือ ทะเลสีมรกตสดสวยละเลงด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะลึกลงไปในดวงตาของเขาเอง “จะมีผัวเป็นตัวเป็นตน ไม่คิดบอกพ่อเลี้ยงเลยสักคำงั้นหรือ? พุทรา...!”