ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / เพลิงรักเพลิงอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม2)
เพลิงรักเพลิงอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม2)

เพลิงรักเพลิงอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม2)

5.0
109 บท
57.9K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

บทนำ ทั้งรักทั้งเกลียด เสียงครางกระเส่าพลอดรักกันดังอยู่ด้านในห้องนอน ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกเนื้อตัวสั่นสะท้าน ดวงหน้าคู่งามเจ็บปวดร้าวราน กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จนมันไหลอาบพวงแก้ม เธอก้มมองมือของตัวเองที่กำลูกบิด ส่วนอีกข้างถือปืนของสามีที่หยิบติดมือออกมาจากห้องทำงาน ‘น่าสมเพชสิ้นดี’ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ตวาดลั่น! “นางงูพิษ! นางเนรคุณ!” อุษณีย์หัวใจแตกสลาย แรงกำลังแทบไม่มียืนอยู่กลางห้อง มือทั้งสองข้างสั่นระริกกำกระบอกปืนเล็งไปยังร่างเปลือยเปล่าของสาวใช้วัยแค่ยี่สิบปี ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวชาวเขาที่เก็บมาเลี้ยง รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ จะกลายเป็นงูเห่าย้อนมาฉกกัดทำร้ายร่างกายและหัวใจของตัวเอง “ว้าย! คุณณี อยะ อย่าทำอะไรหนูเลย หนูผิดไปแล้ว” สาวใช้คนสวยที่นอนคร่อมร่างชายวัยเจ็ดสิบปีที่ดูอย่างไรก็เหมือนอายุห้าสิบปี หล่อนตกใจขวัญหนีดีฝ่อ เนื้อตัวสั่นเทาทั้งร่างเมื่อหันหลังไปเห็นนายหญิง “แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง คนอย่างแกเลี้ยงเสียข้าวสุก กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ตายเสียเถอะ!” “คุณณี! อย่า!” นายศักดาผลักให้สาวใช้ให้นอนลงข้างๆ ร้องห้ามเมื่อเห็นสิ่งที่อุษณีย์ถืออยู่ “คุณท่านถอยไป ฉันจะฆ่ามัน!!” อุษณีย์ไม่ยอมฟังเหตุผล หลับตาแล้วลั่นไกปืนเก็บเสียง ยิงตรงไปยังร่างผู้หญิงชั่วที่ลืมบุญคุณคนนั้นสามนัดซ้อนติดกัน ปังๆ ๆ!!! “โอ๊ย!” เสียงร้องทำให้อุษณีย์ลืมตามอง หล่อนแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นนายศักดานอนทับร่างของสาวใช้ แผ่นหลังของชายชราเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด “กรี๊ด! คุณท่าน ณีไม่ได้ตั้งใจจะยิงคุณท่านนะ ทำไมคุณท่านต้องปกป้องมันด้วย!” “คุ คุณณี ผะ ผม” นายศักดาพูดไม่ทันจบประโยคก็สิ้นลมหายใจอยู่บนร่างของสาวใช้ที่นอนสิ้นลมหายใจไปก่อนหน้านั้นแล้ว “ฮือ คุณท่าน คุณท่านทำกับณีแบบนี้ทำไม” อุษณีย์นั่งพร่ำเพ้อเหมือนคนเสียสติ มือที่กำปืนอยู่นั้นรีบวางลง แล้วคลานหนีไปนั่งตั้งสติอยู่ตรงหน้าประตู เมื่อสติกลับคืนมา เธอก็รีบจัดการอำพรางเหตุฆาตกรรมนี้หวังให้ตนพ้นผิด พร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องให้คนในบ้านได้ยิน “กรี๊ด! ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!” อุษณีย์ที่มีเลือดท่วมตัวคลานกระเสือกกระสนออกจากห้องด้วยอาการเหมือนคนบาดเจ็บสาหัสสากรรจ์… “ฮือ” เสียงร้องร่ำปานใจจะขาดดังอยู่ในห้วงลึกของความฝันของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ภายใต้อ้อมกอดของชายหนุ่มร่างโต ร่างน้อยกระสับกระส่ายหวาดกลัวต่อภาพที่ฝันเห็น เธอผวาตกใจตื่นขึ้นมาแล้วต้องรีบคลานลงจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำเมื่ออาการวิงเวียนคลื่นไส้จะอาเจียนเล่นงาน “โอ้ก! โอ้ก!!” “เมย์เป็นอะไรครับ?” ชายหนุ่มขยับตัวลุกนั่ง เขาคว้าร่างน้อยไว้แต่ไม่ทันจึงลงจากเตียงเดินไปหาคนที่ส่งเสียงโอ้กอ้ากอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าเรียวรูปไข่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเอียงมองชายคนรัก “พิ พี่พาย เมย์ฝันร้ายค่ะ โอ้ก!!” แล้วรีบหันกลับไปกอดคอชักโครกโก่งคออาเจียนเอาเป็นเอาตายอีกครั้ง “ฝันร้าย? แล้วทำไมมานั่งอาเจียนแบบนี้ล่ะครับ” เพลิงพายยืนมองคนตัวน้อย เขาเป็นห่วงจึงรีบนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง ก่อนจะช้อนอุ้มร่างน้อยขึ้นแนบอก พาเดินไปยังเตียงนอนนั้นแล้วก็ช่วยเธอเช็ดน้ำลายตรงมุมปากให้ “มะ เมย์” เมื่อแผ่นหลังแตะฟูกนุ่ม อารยาก็ขยับตัวจะลุกนั่งแต่ก็ถูกมือใหญ่ดันให้นอนลงเหมือนเดิม เธออยากเล่าความฝันเมื่อครู่นี้ให้ชายหนุ่มได้รับรู้ ‘ทำไมฝันน่ากลัวจัง พี่ณีของเป็นอะไรหรือเปล่านะ’ ได้แต่คิดและหาคำตอบให้ตัวเองอยู่คนเดียว “ทำไมเมย์หน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่า?” เพลิงพายยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างเตียง เขาดันขาเรียวสวยให้ขยับเล็กน้อยแล้วนั่งลงบนขอบเตียง ใช้แขนข้างหนึ่งคร่อมร่างบางเอาไว้ ดวงตาดูขรึมลงหลายส่วนเมื่อมองใบหน้าสวยที่ดูอย่างไรก็คล้ายคลึงหญิงสาวอีกคน ซึ่งเมื่อนานมาแล้วจนถึงขณะนี้ หัวใจของเขาก็ยังมีแผลเพราะผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น “มะ เมย์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” อารยาเบี่ยงหน้าหนีเมื่อดวงหน้าของชายหนุ่มโน้มเข้าหา กลิ่นลมหายใจที่ผสมบุหรี่ทำให้เธอรีบยกมือปิดจมูกกลั้นอาการคลื่นไส้ไว้ ส่วนมืออีกข้างแอบลูบหน้าท้องแบนราบ เธอยังไม่แน่ใจดีว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ อยากตรวจให้แน่ใจเสียก่อนถึงจะบอกข่าวดีนี้ให้พี่พายทราบ “พี่พาไปหาหมอเอาไหม วันนี้ พี่ไม่มีงาน” เพลิงพายยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อฉายความแข็งกระด้างเล็กๆ เมื่อหัวใจฝ่ายหนึ่งที่คอยแต่จะทรยศพร่ำบอกให้รัก แต่อีกฝั่งนั้นบอกให้เกลียดเธออยู่ตลอดเวลา ‘จำไว้เพลิงพาย แกต้องแก้แค้น ชดใช้ให้สิ่งที่แกเจอและต้องเจ็บเจียนตายนั้นให้ได้!’ “แต่วันนี้ เมย์มีเรียนนี่คะ” อารยานอนนิ่ง ไม่ยอมขยับตัวหนี อยากซึมซับเอาความอบอุ่นจากมือหนาที่คอยปัดเส้นผมบนหน้าผาก เขาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมออกให้อย่างอ่อนโยนด้วยเรียวปากหยัก “งั้นเลิกเรียนแล้ว พี่พาไปหาหมอนะ” ใบหน้าคมคายโน้มเข้าชิดดวงหน้างาม เรียวปากหนาได้รูปกระซิบกระซาบชิดกลีบปากบาง ก่อนพรมจูบลงทัณฑ์อย่างแสนหวานเจือความเร่าร้อน ไม่ต้องการฟังคำปฏิเสธจากเธอ…

บทที่ 1 chapter1

อดีตและปัจจุบัน

กรุงเทพฯ...

ณ..คฤหาสน์สีขาวหลังโตหรูหราสร้างบนพื้นที่หนึ่งไร่ มีรั้วกั้นสูงมิดชิดอยู่ในซอยสุขุมวิทซอย 65 ความมืดสลัวยามพลบค่ำเป็นเวลาหนึ่งทุ่มสามสิบนาที ข้างถนนมีรถสปอร์ต Audi R8 รุ่นใหม่ สีเงินยังไม่ดับเครื่องยนต์จอดอยู่ใกล้ประตูรั้วเข้าบ้าน

‘เพลิงพาย ดาราฉาย’ ชายหนุ่มวัย 40 ปี แต่อายุใช่จะทำให้เขาดูแก่เลยสักนิด ใบหน้าหล่อเหลา คมคาย สูง 183 เซนติเมตร ความสมบูรณ์ของร่างกายทุกส่วนสัดเหมือนรูปปั้นหุ่นเดวิด ชายหนุ่มนั่งหลังพิงเบาะรถ แววตาสีเข้มดุจหินผาอ่อนลงเมื่อได้มองป้ายชื่อเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจนจากโคมไฟบนเสารั้ว ‘ดาราฉาย’ นามสกุลที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานให้ทวดและเทียด สืบทอดกันมาจนถึงมารดาของชายหนุ่ม

ดวงตาดุจพญายมเพ่งมองเพดานรถแล้วถอนหายใจเข้าออกแผ่วเบา เมื่อคำนวณเวลาที่เขาจากที่นี่ไป 12 ปีกับอดีตอันไม่น่าจดจำและไม่มีวันลืมความรักที่มาพร้อมกับความแค้น เขาอุตส่าห์ทุ่มเทให้คำมั่นสัญญาระหว่างกันและกัน แต่สิ่งเหล่านั้นมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งขณะนี้ในห้วงลึกของหัวใจที่แกร่งและแข็งแรง พร้อมที่จะทำร้ายล้างผลาญให้หล่อนคนนั้นได้เจ็บอย่างทรมานแสนสาหัส

เรียวปากหยักยิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อย้อนนึกถึงอดีตอันแสนหวานที่ผ่านมา…

“คุณแม่ครับ” เพลิงพายวัยยี่สิบเจ็ดปี เป็นลูกชายคนเดียวของ ‘คุณหญิงแขศรี’ ซึ่งมีเชื้อสายผู้ดีเก่า กับ ‘นายศักดา เทวารักษ์’ นายหัวผู้โด่งดังจากการทำธุรกิจค้าที่ดินและรวยติดอันดับ 3 ในประเทศไทย

“เพลิงลูกแม่” คุณหญิงแขศรีที่นั่งอยู่บนรถเข็น นางเดินได้บ้างไม่ได้บ้างยามป่วยกระเสาะกระแสะแบบนี้ เป็นมานานหลายปีแล้วและช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้นัก พยายามใช้มือที่ไม่มีแรงทั้งสองข้างจับล้อรถเข็นดันให้รถหมุนเพื่อที่จะได้เห็นหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

“ผมอุ้มครับ” เพลิงพายปล่อยมือจากคนที่เขาพาด้วย รีบเดินเข้าไปประคองมารดาที่กำลังพยุงตัวลุกออกจากรถเข็น เขาอุ้มคุณหญิงแขศรีพาไปนั่งที่โซฟา ส่วนตนเองก็ย่อกายนั่งลงบนพรมตรงข้างปลายเท้าของท่าน

“อ้าว หนูณียังไม่กลับอีกหรือ?” คุณหญิงแขศรีเปรยเสียงเอ็นดูถามคนให้การพยาบาลส่วนตัว

“ยังค่ะคุณหญิง” ‘อุษณีย์’ หญิงสาวหน้าสวยวัย 26 ปีตอบคำถามแต่ไม่ได้เงยหน้ามองคุณหญิง

“ณีครับ เข้ามานั่งใกล้ๆ ผมสิครับ” เพลิงพายเรียกเธอให้เข้ามาหา แต่เป็นเขาเองที่ลุกขึ้นไปจูงมือสาวเจ้าให้เข้ามานั่งข้างมารดา

“เพลิง ปล่อยมือณีเถอะค่ะ” อุษณีย์พยายามดึงมือของตัวเองออกจากมือของชายหนุ่ม เมื่อเห็นแววตาของคุณหญิงแขศรีมองความสนิทสนมของเธอและเขา

“แม่ครับ ผมมีเรื่องจะบอกคุณแม่ครับ” เป็นเพราะมารดาแท้ๆ ที่ทำให้เขาได้เจอนางฟ้าชุดขาวผู้ใจดี เพลิงพายได้รับหน้าที่จากมารดาให้ไปเป็นประธานเปิดโครงการช่วยเด็กผู้ด้อยโอกาสในบ้านเด็กกำพร้าจึงได้พบรักกับอุษณีย์ที่นั่น

“มีอะไรหรือเพลิง?” ถามลูกชาย แต่แววตาของคุณหญิงแขศรีที่มองอุษณีย์นั้นเอ็นดูรักใคร่เหมือนลูกเหมือนหลานเสียเหลือเกิน นางรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตั้งแต่ครั้งที่ลูกชายมาขอร้องให้รับเธอเข้ามาทำงานในบ้าน

“ผมกับณี เรารักกันครับ” เพลิงพายไม่อายมารดา เขากุมมือของอุษณีย์ยกขึ้น แล้วแตะริมฝีปากลงบนหลังมือบาง แสดงให้มารดาเห็นว่าพวกเขาทั้งสองรักกันอย่างที่พูด

“คุณหญิง ณี” เธอใจเต้นตุบตับๆ หวาดกลัวนางแขศรีจึงรีบก้มหน้างุด อุษณีย์เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าพร้อมกับน้องสาววัย 9 ปีที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดู และนี่คือจุดที่ทำให้หญิงสาวมุ่งมั่นตั้งใจเรียนจนจบ ม. 6 และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง

“คุณแม่จะว่ายังไงครับ ถ้าผมจะหมั้นกับณี”

“เพลิงคะ!” อุษณีย์ตกใจเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่ตัวเองรักและคอยช่วยเหลือมาตลอดจะกล้าขอหมั้นต่อหน้าคุณหญิงแขศรี แต่ก็แอบดีใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่เขายังให้เกียรติผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างเธอ

“แม่จะไปห้ามทำไม ในเมื่อหัวใจของลูกทั้งสองตรงกัน รักกัน แม่ดีใจเสียอีกที่เพลิงรักหนูณี” แขศรีมองหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ มือเหี่ยวย่นยื่นเข้าไปลูบกระหม่อมของหญิงสาวที่ก้มกราบตรงปลายเท้า

“ขอบคุณคุณแม่มากครับ” เพลิงพายก็ก้มลงกราบเท้าของมารดาเช่นกัน

“แล้วหนูณีล่ะ ยินยอมจะหมั้นกับพ่อเพลิงของฉันไหม?” ถึงจะรู้ชาติกำเนิดของอุษณีย์ว่ามาจากบ้านเด็กกำพร้า แต่นั่นหาได้ทำให้คุณหญิงแขศรีคิดรังเกียจ นางยิ่งรักและเอ็นดูในความดี ไม่ลืมกำพืดของหญิงสาวเสียมากกว่า

“คุณหญิงคะ ณี” ใบหน้างามอาบน้ำตาพยักหงึกๆ ตอบรับทั้งที่ยังก้มหน้า

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY