ดาวน์โหลดแอป ฮิต

angsumaalin

หนังสือที่ตีพิมพ์ 13 เล่ม

หนังสือของ angsumaalin

พรางรักผลาญหัวใจ

พรางรักผลาญหัวใจ

5.0

คำโปรย ราเชนทร์ เกียรติก้องพิภพ รู้สึกขัดใจเมื่ออยู่ ๆ เขาก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับเด็กในบ้าน เด็กที่พ่อแม่ของเขารับมาอุปการะเลี้ยงดู เขาไม่รู้ว่าเธอมีที่ไปที่มายังไง รู้แต่ว่าพ่อแม่รักเธอมาก มากขนาดบังคับให้เขาแต่งงานกับเธอ ทั้ง ๆ ที่เขามีแฟนอยู่แล้ว ใครรักก็รักไป แต่เขา...เกลียดเธอ เขมจิรา กุสุมา เธอเป็นเด็กสาวที่พ่อแม่ของราเชนทร์รับมาอุปการะ ชีวิตเธอเติบใหญ่มาได้เพราะความเมตตาของพวกท่าน แล้วเธอจะขัดขืนได้อย่างไรเมื่อท่านต้องการให้เธอแต่งงานกับลูกชายคนเดียวของท่าน แม้เธอจะรู้ว่าเป็นได้แค่ เงารักเจ้าสาวซ่อนใจ...เท่านั้น ราเชนทร์ปลดปล่อยธาราใส่ในช่อไม้ของหญิงสาว และก่อนที่เขาจะหมดสติหลับบนตัวของหญิงสาวเขาก็ละเมอออกมาว่า “ผมรักคุณ เกศริน รอผมนะ ผมจะหย่าให้เร็วที่สุด” “...” เสียงเข้มละเมอบอกรักแฟนสาวของเขา ช่างเหมือนสายฟ้าผ่าลงมากลางใจอันบอบช้ำของเธอ มันทำให้เขมจิราเจ็บปวดเสียใจ นี่เขาเห็นเธอเป็นตัวสำรองหรอกหรือ ขนาดร่วมรักกับเธอ เขายังพร่ำเพ้อบอกรัก คนรักของเขาไม่ขาดปาก “ทุกลมหายใจของพี่เชนทร์คงมีแต่คุณเกศรินสินะ” บทนำ “นี่เงินห้าล้าน ฉันให้เธอ แล้วไปจากที่นี่ซะ ไปก่อนที่จะมีงานแต่งระหว่างเธอกับฉันจะเกิดขึ้น” ราเชนทร์โยนซองสีน้ำตาลที่ในนั้นมีเงินสดตามจำนวนที่ชายหนุ่มมบอกลงบนโต๊ะรับแขก “พี่เชนทร์..” “เธอก็รู้ฉันไม่ได้รักเธอ และไม่ต้องการแต่งงานกับเธอ รับเงินแล้วออกไปจากชีวิตฉันซะ เขมมจิรา” ราเชนทร์คำรามเสียงเหี้ยม แล้วเดินออกจากห้อง พร้อมทั้งปิดประตูเสียงดัง ปัง! “พี่...” เขมจิรานั่งก้มหน้าร้องไห้ น้ำตาไหลเป็นสายอาบแก้มสองข้าง เธอไม่ได้เสียใจที่ราเชนทร์ปฏิเสธที่จะแต่งงานกับเธอ แต่เธอเสียใจที่เขาดูถูกเธอและไม่ยอมรับฟังเหตุผลของเธอแม้แต่น้อย ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขา เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มไม่ได้รักเธอ แต่เป็นเพราะคุณกันยา แม่ของเขามาขอร้องไห้เธอแต่งงานกับชายหนุ่ม ซึ่งคุณกันยาเป็นผู้มีพระคุณของเธอ รับเธอมาจากสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า คุณกันยาเลี้ยงดูยกย่องเธอให้เป็นเหมือนหลานแท้ๆคนหนึ่งของท่าน เธอได้ที่อยู่ดีๆ ได้เรียนในโรงเรียนที่ดี ซึ่งหากไม่มีคุณกันยาเธอก็ไม่รู้ว่าชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร และตลอดเวลาที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัวนี้ก็รักและเมตตาเธอทุกคน โดยไม่เคยขอร้องให้เธอทำอะไรตอบแทนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นครั้งนี้.... ‘เข็ม ช่วยแม่สักครั้งเถอะนะ ถือว่าเห็นแก่แม่ได้ไหมลูก เข็มแต่งงานกับพี่เชนทร์ได้ไหมลูก’ คำขอร้องของคุณกันยา ทำให้เขมจิราช็อกไปชั่วขณะ ‘คุณแม่!คะ...คือพี่...’ ครั้งนั้นเธอจะปฏิเสธบอกผู้มีพระคุณท่วมหัวว่า ราเชนทร์มีคนรักอยู่แล้ว และชายหนุ่มก็คงไม่ยอมแต่งงานกับเธอแน่ ‘แม่ไม่เห็นใครเหมาะสมเท่าหนูแล้วนะ ที่จะดูแลตาเชนทร์ได้ดีเท่าเข็ม..’ ‘พี่เชนทร์มีแฟนแล้วนะคะคุณแม่ เธอชื่อเกศริน’ ‘แม่รู้ แม่ถึงอยากให้เข็มแต่งงานกับพี่เขาไง เพราะหล่อนคนนั้นเป็นผู้หญิงไม่ดี แม่ไม่ชอบ จะมีก็แต่ตาเชนทร์เท่านั้นที่ยังคงหูหนวกตาบอดไม่รู้ว่าอะไรเพชร อะไรกรวด ถ้าเข็มรักแม่ เห็นว่าแม่เป็นแม่แท้ๆของหนู เข็มทำตามคำขอของแม่ได้ไหมลูก’ คุณกันยากอดเขมจิราพร้อมกับลูบหัวเธอไปมา ‘นะเข็มนะ ถือว่าช่วยแม่สักครั้งนะลูก’ แล้วแบบนี้มีหรือที่เด็กกำพร้าที่ถูกผู้หญิงใจดีคนนี้นำมาชุบเลี้ยงจะกล้าปฏิเสธ เพราะบุญคุณท่วมหัวที่ท่านเลี้ยงมา ไม่อาจทำให้เธอกล่าวปฏิเสธได้ลง… เขมจิราทรุดนั่งลงบนเตียง เธอมองซองสีน้ำตาลด้วยหัวใจที่สั่นไหว เพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ยังไงก็ต้องมีงานแต่งงานเกิดขึ้น เธอไม่สามารถทรยศผู้มีพระคุณได้ แม้จะรู้ว่าจะต้องเจอพายุร้ายโหมกระหน่ำซัดสาดใส่ไม่หยุด “เข็มทำอย่างที่พี่เชนทร์ต้องการไม่ได้จริงๆค่ะ ขอโทษนะคะ” เขมจิราพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินลุกขึ้นเพื่อเข้าห้องน้ำอาบน้ำนอน เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมเพื่อเข้าพิธีแต่งงาน แม้จะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เจ้าบ่าวจะมาร่วมพิธีหรือไม่… ด้านราเชนทร์เมื่ออาละวาดข่มขู่หญิงสาวแล้ว เขาก็ขับรถออกจากบ้านไปด้วยความเร็ว จุดมุ่งหมายคือผับหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เมื่อเดินทางมาถึง เขาก็เข้าไปด้านในนั่งโต๊ะประจำของเขาทันทีพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มที่แรงที่สุดของผับมาดื่มอย่างไม่ยั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องนึกถึงเรื่องงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ เสียงเพลงในผับดังกระหึ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้คนชายหญิงต่างพากันเต้นอย่างเมาส์มันโดยไม่สนใจโลกภายนอก และแล้วเกศรินแฟนสาวของเขาก็มาถึงเวลาตามนัด เกศรินมาในชุดแหวกอกสีแดงเพลิงเว้าหลังลึกลงไปถึงสะโพก รูปร่างเธอเย้ายวน อกเป็นอก เอวเป็นเอว ใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมองด้วยความตะลึง “เชนทร์ค่ะ..” เสียงดัดจริตแบบนี้ ทำให้ราเชนทร์ที่นั่งดื่มอยู่นั้นเหลือบตามอง เมื่อเห็นว่าเป็นแฟนสาว เขาก็คว้าหล่อนเข้าไปกอด และพูดว่า “ทำไมคุณมาช้าจัง คุณรู้ไหมผมมานั่งรอคุณนานแล้วนะ..” “นี่คุณเมาเหรอคะ” เกศรินไม่ขัดขืน หล่อนยืนกระแซะนั่งหมิ่นบนขาของชายหนุ่ม “ผมไม่เมา!” ราเชนทร์พูดลิ้นพันกันชิดซอกคอระหง “ไปค่ะ เรากลับบ้านกันเถอะ นี่คุณเมามากแล้วนะคะ ลุกขึ้นสิคะ” เกศรินประคองชายหนุ่มพาเดินออกไปจากผับทันที “ไปพักที่คอนโดของคุณนะ ผมไม่อยากกลับบ้าน” เมื่อเข้าไปนั่งในรถ ราเชนทร์ก็บอกแฟนสาว “ได้สิคะ เดี๋ยวเกศจะจัดหนักจัดเต็มให้เชนทร์หายเมาเลยดีไหมคะ” หล่อนพูดพลางส่งสายตายั่วยวนให้กับชายหนุ่ม “อย่ายั่วกันสิ ไม่งั้นมันจะไม่ถึงห้องพักนะ” ราเชนทร์พูดพลางรั้งร่างบางยั่วเย้ามาบดขยี้ริมฝีปาก ซึ่งเกศรินก็ตอบสนองกลับอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน “พอก่อนค่ะเชนทร์ เกศว่าเราไปถึงห้องก่อนดีกว่าไหมคะ ตรงนี้มันไม่เหมาะนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าอายเขาตายเลย” เกศรินแกล้งขัดขืน ทำเป็นหญิงไร้เดียงสา “โอเค” ราเชนทร์พยักหน้าชิดทรวงอกอิ่ม เขาผละจากร่างนุ่มนิ่ม ปล่อยให้เกศรินขับรถ.. เมื่อมาถึงห้องทั้งคู่ก็ตรงเข้าไปยังห้องนอน เขาทั้งสองช่วยกันถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็วและกอดจูบกันอย่างเร่าร้อน ซึ่งราเชนทร์ถึงจะเมามากแค่ไหน เขาก็ไม่ลืมที่จะใส่เครื่องป้องกัน “กึกกักๆ” เสียงเตียงกระทบผนังห้องสั

อ่านเลย
เล่ห์รักนายกรัฐมนตรี my love presiden (ต่อภาคจาก เล่ห์ลวงมาเฟียแค้นรัก)

เล่ห์รักนายกรัฐมนตรี my love presiden (ต่อภาคจาก เล่ห์ลวงมาเฟียแค้นรัก)

5.0

คำโปรย ริชาร์ด เคาน์ซิคาโด้ ชายหนุ่มรูปหล่อตัวใหญ่สูงร้อยแปดสิบห้า พ่อรวยและเป็นลูกผู้ดีเก่า เพราะเขาคือ ลูกชายคนโตของเดวิดกับกล้วยไม้ เขาเติบโตมาด้วยความรักล้นเหลือจากครอบครัวและเขาเจริญรอยตามเดวิดที่เคยเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสมาแล้ว เขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสายเลือดไม่สำคัญเท่ากับการเลี้ยงดู หนุ่มหล่อพ่อรวยคนนี้ยังเป็นถึงนายกรัฐมนตรีอายุน้อย จึงมีทั้งคนที่ชื่นชอบ และคนที่เกลียดชัง งานก็ต้องทำให้ทุกคนเห็นความสามารถ เรื่องความรักก็ต้องจัดการ แต่แม้จะมีสาว ๆ มากมายเพียงใด ในหัวใจของเขาก็มีเพียง ยูริ อัชลันบิน คนเดียวเท่านั้น ยูริ พลเมืองไร้สถานะเชื้อชาติ แม่ของเธอเป็นชาวมาเลเซียและเป็นหญิงขายบริการส่วนพ่อไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่จู่ ๆ เธอก็ได้เป็นเพื่อนกับแคทริน นั่นทำให้ได้เจอกับพี่ชายของเพื่อน แม้จะดีใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดชายคนที่เธอแอบรัก แต่เพราะรู้ฐานะตัวเองดี ทำให้เธอปิดกั้นหัวใจมาตลอดจนกระทั่ง… ตอนนี้ เธอคือ ยูริ เคาน์ซิคาโด้ (มาร์โก) น้องสาวต่างพ่อของแม่ แมทธิว มาร์โก มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ของอิตาลีที่เป็นน้องเขยของริชาร์ด แถมเธอยังเป็นหลานของเดวิดอีกด้วย นั่น ทำให้กวางตัวน้อยของริชาร์ด กลายเป็นลูกเสือที่พ่อเสืออย่าง แมทธิวหวงมาก แต่ริชาร์ถือคติว่า ไม่เข้าถ้ำลูกเสือแล้วจะได้ลูกเสือมาได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาจะต้องจัดการทั้งงานและสาว ๆ คนเก่าออกไปให้หมดก่อน.. แล้วเขาจะใช้ทุกเล่ห์ที่มีพากวางน้อยกลับมาให้ได้…..

อ่านเลย
เล่ห์สวงมาเฟียแค้นรัก (mafia bluff love) ต่อภาคจาก สงครามรักต่างแดน

เล่ห์สวงมาเฟียแค้นรัก (mafia bluff love) ต่อภาคจาก สงครามรักต่างแดน

5.0

“นี่เป็นยาคุมฉุกเฉิน กินซะ ถ้าไม่อยากอุ้มท้องโดยที่ไม่มีพ่อและเรียนไม่จบ.เพราะเมื่อคืนฉันไม่ได้ป้องกัน เพราะทนความร่านของเธอไม่ไหวเลยปล่อยในไปหลายครั้ง” เธออ่านข้อความนั้น ก่อนที่จะ... “ถ้าฉันท้อง ฉันก็จะเอาไอ้มารหัวขนนี่ออก คุณไม่ต้องห่วงว่าฉันจะขอร้องให้คุณมารับผิดชอบ สบายใจได้” แคทรินหยิบยามาถือไว้ในมือ มืออีกข้างก็เขียนข้อความตอบโต้ด้วยสรรพนามที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ไม่มีคำว่า พี่ หรือแคท อีกแล้ว ต่อไปนี้พวกเราจะเป็นคนที่เคยเจอกันเท่านั้น

อ่านเลย
เล่ห์ลวงบ่วงรักเมษา

เล่ห์ลวงบ่วงรักเมษา

5.0

เพี้ยะ เพี้ยะ...!! กังสดาลยังยืนจ้องหน้าเมษา แล้วยกเรียวมือกางออกข่วน และตบลงไปบนผิวแก้มสีแทนนั่น สองสามที สลับซ้ายขวา “กังสดาล!!” ใบหน้าเข้มสะบัดหันไปตามแรงตบ เขาค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบรอยนิ้วมือบนผิวไปมา ลิ้นเรียวใหญ่เลียเลือดตรงมุมปาก แววตาสีนิลเปล่งประกายแดงโรจน์ ค่อยๆ หันมองร่างบางที่ยืนตัวสั่นเทา “กะ…เกลียดนัก คนใจเลว!” ทำใจกล้าเปล่งเสียงเขียวสะบัดใส่ พร้อมทั้งไม่ยอมขยับร่างถอยหนี ถึงจะมีความหวาดกลัวต่อสายตาเพชฌฆาตคู่นั้น “คำก็เลว สองคำก็เกลียด ดี… ฉันจะทำให้เธอเกลียดฉันไปจนตลอดชีวิต ยัยเด็กร่าน!!!” คนร่างโตก้าวเดินย่างสามขุมเข้าไปหาหญิงสาวที่ยังยืนอวดดีปากเก่ง “ยะ…อย่าเข้ามานะ” ใบหน้าซีดกลัวคนตรงหน้า กังสดาลขยับปลายเท้าก้าวเดินถอยหนี เบี่ยงตัวหวังจะวิ่งหนีเขาไปยังห้องของมารดา “มานี่! วันนี้ฉันจะเลวให้เธอเห็น” เมษาเดือดดาล ใบหน้าถมึงทึง ยามนี้หลานสาวไม่คิดที่จะเอ่ยชื่อของเขาเอาเสียเลย คนตัวโตเดินตามรอยเท้าของเจ้าหล่อน แววตาสีนิลเปล่งประกายแดงโรจน์จับจ้องอยู่ที่ร่างบางด้วยความโกรธ ขืนเขามองนานๆ ร่างบางตรงหน้าอาจจะเป็นเถ้าถ่านแน่ เขารีบคว้าข้อมือเรียวบางกำกระชับแน่น ออกแรงกระชากให้หญิงสาวเข้ามาปะทะหน้าอก พร้อมทั้งโน้มใบหน้าลงบนช่วงลำคอระหง เรียวปากหยักซุกไซ้จูบสัมผัสไปตามผิวขาวนวลบนหัวไหล่ ปลายจมูกโด่งคมสันดมดอมกลิ่นจากผิวหอมตรงร่องทรวงอกอย่างบ้าคลั่ง “กรี๊ดดดด... ปล่อยเดี๋ยวนี้! คนเลว…เลวที่สุด ได้ยินไหม… ฮือออๆ” กังสดาลส่งเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เธอหวาดกลัวเขา “เธอตายแน่ กังสดาล!” เสียงอันทรงพลังเปล่งออกมาอย่างน่ากลัว ตุ้บตับๆ… ผลั๊วะๆ… มือเรียวสวยข้างขวายกขึ้นผลักดันใบหน้าเขาให้ออกจากทรวงอก และอีกข้างก็ตบตีขีดข่วนไปตามหัวไหล่ ลำตัวและแผ่นหลังของเขา “หึๆ ฉันเลวได้แน่ คืนนี้แหละ... ฉันจะยัดเยียดความเลวร้ายให้กับเธอ ยัยผู้หญิงร่าน!!” เมษาเค้นเสียงเยือกเย็นจนสาวเจ้าหนาวเยือกเข้าไปในกระดูกสันหลัง เรียวปากหนายังซุกไซ้สัมผัสทั้งดูด ทั้งเล็มผิวขาวตามต้นคอระหง และยังไล่เลียผิวผ่องไปตามเรียวคางงาม

อ่านเลย
เงารักของนายไอศูรย์

เงารักของนายไอศูรย์

4.5

“ฮืออ ฉันเจ็บ ไอ้คนสารเลว!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” ความสาวบริสุทธิ์ถูกทำร้ายทำให้เธอเจ็บร้าวหัวใจไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นและออกคำสั่งแกมขอร้องเขา “เก่งนักไม่ใช่เหรอ ร้องไห้ทำไม” แม้จะรู้สึกสะใจ แต่ลึกๆ แล้วก็อดสงสารและรู้สึกผิดไม่ได้ ทีแรก ไอศูรย์คิดว่าเธอจะช่ำชองเสียอีก ไม่คิดว่าจะยังบริสุทธิ์ผุดผ่องแบบนี้ “ฉันเกลียดคุณ ไอ้สารเลว ชาติชั่ว!!” ทันทีที่พูดจบ ขวัญฤดีก็ต้องกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน เมื่อไอศูรย์กระแทกความใหญ่โตใส่โดยที่ไม่มีคำว่าปรานีจนเธอสลบไปในที่สุด “อย่าเพิ่งตายนะ ตื่นขึ้นมารับรู้สิว่าฉันกำลังย่ำยีเธอ” ไอศูรย์หยุดชะงักเมื่อเห็นร่างน้อยไม่ตอบสนอง ไม่เข้าใจว่าทำไมอยากอ่อนโยนกับเธอ เขาจึงนอนทับโน้มหน้าเข้าหา จับหน้าเธอแล้วจูบริมฝีปากอิ่ม ปลายลิ้นลากไล้ลงมาที่ซอกคอระหงก่อนจะขบเม้มฝากรอยรักไว้ จากนั้นจึงลากลิ้นเลียลงมารอบดอกบัวคู่งาม ‘อื้อ ทุกส่วนสัดของเธอหอมหวานเหลือเกินขวัญฤดี’ เขาคิดพลางดูดดอกบัวคู่งามอย่างกระหายหิว แล้วลากลิ้นลงมาชิมกุหลาบงาม ‘ทำไมถึงได้หวานจับใจขนาดนี้นะ’ ชายหนุ่มสูดดมกลิ่นสาบสาวแล้วกลืนกินน้ำหวานผสม ผสานเลือดสาวบริสุทธิ์รสชาติละมุนทุกหยาดหยด “อยะ อย่า” และถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้สึกตัว แต่ร่างกายกลับตอบรับสัมผัสเขาได้ดีทุกสัดส่วน ไอศูรย์กินน้ำหวานสีใสจากกุหลาบงามอยู่เช่นนั้นนานนับชั่วโมงอย่างเอร็ดอร่อย แล้วจึงค่อยขยับกายลุกขึ้นนั่ง จับความแข็งแรงถูไถตามร่องเนื้อบวมเป่ง ดันเบาๆ เข้าไปในตัวเธออย่างอ่อนนุ่มละมุน ก่อนขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ จากนั้นก็ถี่ขึ้นเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ สุดท้ายก็ปล่อยธารรักสีขาวขุ่นเข้าไปในร่างบางทุกหยาดหยดอย่างลืมตัว...

อ่านเลย
รักร้ายสามีอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม4)

รักร้ายสามีอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม4)

5.0

“ไอ้คนเลว! ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!” ด้านนุดีเมื่อเห็นหน้าวัลลภ เธอก็พ่นวาจาด่าหยาบคายใส่ทันที “จะลงนรกอยู่แล้วยังจะมาทำปากดีอีกนะ” วัลลภดันร่างบางให้หันหลังแล้วแก้เชือกที่มัดมือของเธอออก บังคับด้วยดวงตาถมึงทึงให้นุดีลุกขึ้น แต่กลับเป็นเขาเองที่อุ้มเธอออกจากรถ “โอ๊ยย!! ไอ้บ้า!! ฉันเจ็บนะ!!” เมื่อถูกปล่อยให้ยืน นุดีที่ไม่ทันได้ทรงตัวดีก็เซถลาชนข้างรถล้มลงไปกองบนพื้นดินแข็งๆ “อย่ามาทำสำออย ลุกขึ้น!!” วัลลภไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บไหม เขาจับแขนเล็กกระชากอย่างแรงให้เธอยืนขึ้น “นายพาฉันมาทำอะไรในกลางป่าน่ากลัวแบบนี้” ดงป่าเขียวจนครึ้ม ต้นไม้สูงใหญ่ดำทมิฬหนาทึบ กิ่งก้านใบไหวไปตามลมผสมเสียงแปลกประหลาดร้องและวิ่งไล่กัดกันอยู่ในป่าหญ้าคาข้างทางทำให้นุดีกลัวจนหน้าซีด “นรกอเวจีไง อยากลงไปเล่นน้ำในกระทะทองแดงไหม” วัลลภก้มๆ เงยๆ อยู่หลังรถจึงไม่ได้ทันระวังภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเอง นุดีเป็นอิสระจากสายตาของชายหนุ่ม เธอยิ้มหยันเมื่อเห็นไม้กำลังเหมาะมือ แล้วจับท่อนไม้ขึ้นมาฟาดใส่กลางหลังและหัวของชายหนุ่มอย่างเอาเป็นเอาตาย “แกไปคนเดียวเถอะ ไอ้คนถ่อย!! นี่แน่ะ!!” “โอ๊ยย!! ยัยบ้าเอ๊ย!! นี่เธอกล้าตีหัวฉันเหรอฮะ!!” วัลลภยกมือกุมหัว เขาเดือดเป็นน้ำร้อนเมื่อเห็นเลือดเปรอะมือทั้งสองข้าง “ฉันฆ่าแกแน่ ถ้าเข้ามาหาฉันแม้แต่ก้าวเดียว” นุดีกลัวเมื่อเห็นเลือดแดงฉานซึมออกมาจากศีรษะเขา ไหลเป็นทางผ่านหัวคิ้วเป็นปื้นหยดลงใส่เสื้อยืด เธอเสียงดัง ใช้ไม้ชี้หน้าขู่ชายหนุ่ม “เธอหรือฉันจะถูกฆ่ากันแน่!!” เลือดจากหัวไหลเป็นทางผ่านหน้าผากเข้าตา วัลลภจึงใช้หลังมือเช็ดออก เขาแสยะยิ้มร้ายกาจเมื่อเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้หญิงสาววิ่งหัวซุกหัวซุนหนีเข้าป่า “กรี๊ดดด!!” นุดีวิ่งผ่านต้นไม้ใบหญ้าโดยที่ไม่ได้ดูหน้าดูหลังทำให้สะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งไปกองบนพื้นดิน “ฉันว่าจะไม่รุนแรงกับเธอแล้วนะ!! นุดี แต่เธอรนหาเรื่องเอง” วัลลภกระโจนเข้าไปยืนดักหน้าหญิงสาวที่กำลังคลานหนี เขาคว้าแขนเล็กแล้วกระชากให้เธอลุกยืนเผชิญหน้ากัน “ถุย!! ไอ้ขยะ กะ...แกจะทำอะไรฉัน!!” นุดีก็ใช่จะยอม เมื่อได้ยืนอยู่ในอ้อมแขนกำยำ ใบหน้าของเธออยู่แค่ระดับราวนมของชายหนุ่ม หญิงสาวขัดขืน หยิกข่วนตามตัววัลลภ เขย่งปลายเท้าให้สูงจนดวงหน้าของเขาและเธออยู่ในระดับเดียวกันแล้วก็พ่นน้ำลายใส่หน้าหล่อ วัลลภกลายเป็นคนดุร้าย มือหนาหยาบกร้านเช็ดของเหลวออกจากแก้ม แล้วกางมือออกเหวี่ยงใส่ใบหน้างามซ้อนกันขวาซ้ายสุดแรงเกิด เผียะ!! เผียะ!! “กรี๊ดดด!!” ด้านนุดีไม่ทันตั้งตัว ถูกตบจนล้มกลิ้งไปนอนกองบนพื้นดินอีกครั้ง เธอเจ็บจนน้ำตาไหลจึงยกมือกุมแก้มที่แดงเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้าแล้วค่อยๆ หันมองหน้าผู้ชายใจชั่ว ทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้ “ไอ้หน้าตัวเมีย!! แกตบฉันทำไม!!” “วันนี้แหละ ฉันจะทำให้เธอไม่มีศักดิ์ศรีของความเป็นคน” เสียงของปีศาจคำรามดังก้องป่า มือเพชฌฆาตคว้าข้อมือน้อยกระชากลากถูไปตามทางเล็กๆ ที่ข้างทางมีแต่ต้นหนามกับใบหญ้า “กรี๊ดดด!! ไอ้ผู้ชายป่าเถื่อน!! ทำไมแกต้องทำกับฉันแบบนี้!! ปล่อยฉันนะ!! ไอ้ชั่ว!! ฮืออ” นุดีถูกฉุดลากทั้งที่กึ่งนั่งกึ่งนอนไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยดินแข็งและหินก้อนเล็กๆ เสียงร้องโหยหวนของหญิงสาวดังก้องทั่วป่าทำให้คนงานชายสี่คนที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายให้มารอที่กลางป่าแห่งนี้มองหน้ากัน แล้วหันไปมองเงาดำทมิฬสูงใหญ่เดินลากอะไรบางอย่างตรงมาหาพวกมัน “นะ นาย!!” พวกมันทั้งสี่ยืนตาค้างเมื่อสิ่งที่ฟุบอยู่ตรงหน้ามันนั้นเป็นหญิงสาว ขนาดถูกวัลลภทำร้ายเช่นนี้ก็ยังดูออกว่าเธอสวยและเซ็กซี่มาก “พวกมึงมีโทรศัพท์ไหม?” วัลลภยืนมือเท้าสะเอวมองนุดีกำลังช่วยตัวเองดึงชายกระโปรงผ้าลูกไม้ที่ถลกขึ้นจนเห็นต้นขาขาวผ่องสองข้างลงปิดเนื้อเปลือยของตัวเอง “มะ มีครับ” ไอ้ลูกน้องสี่คนไม่ได้มองหน้าวัลลภเวลาพูด เพราะจุดสนใจของพวกมันคือผู้หญิงของเจ้านาย ซึ่งเวลานี้ เธอคลานหนีไปนั่งชันเข่าอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ “พวกมึงถ่ายคลิปผู้หญิงคนนี้ไว้ ทำแบบนี้สิวะ ไอ้ห่า” วัลลภแยกเขี้ยวใส่นุดี เขาแย่งโทรศัพท์ของลูกน้องมาถือไว้ด้วยมือเดียวแล้วย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าเธอ มือข้างที่ว่างยื่นเข้าไปจับคางน้อยบีบจนปากของหญิงสาวห่อแล้วดันให้หันมาสู้กล้อง “คะ ครับ” พวกลูกน้องพากันทำหน้าหื่นเหมือนเจ้านายแล้วจ่อกล้องโทรศัพท์ทำตามคำสั่งของนาย “ไอ้ลภ!! แกบอกให้พวกสวะนี้หยุดถ่ายฉันเดี๋ยวนี้นะ!!” นุดีแย่งโทรศัพท์จากมือของวัลลภได้ก็เหวี่ยงเครื่องสื่อสารเฉียดหน้าของชายหนุ่มไปกระทบต้นไม้เสียงดัง เพล้งง!! “พวกมึงเตรียมเก็บภาพทุกช็อตไว้เลยนะ กูจะเล่นเป็นพระเอกคาวบอยควบม้าให้พวกมึงดู” แววตาดุจเสือร้ายหันขวับมองไอโฟนรุ่นใหม่กองเป็นเศษขยะอยู่ข้างต้นไม้ วัลลภกระตุกยิ้ม หันกลับมามองมือสองข้างที่กำกระชับคอเสื้อเปิดไหล่ของนุดี แล้วกระชากจนขาดเป็นสองส่วนเผยให้เห็นอกอิ่มขาวผ่องล้นออกมาจากบราไร้สาย “ว้ายย!! อย่าทำฉัน ฮืออ” นุดีรีบยกแขนข้างเดียวกอดตัวเองไว้ ส่วนอีกข้างทุบตี หยิกข่วนไปตามตัวของเขาอย่างบ้าคลั่ง “พวกมึงอย่าลืมถ่ายวิดีโอนะโว้ย!! กูจะแสดงหนังสดกับยัยนี่ในกระท่อม” สายตาของลูกน้องมองนุดีอย่างหื่นกระหายทำให้วัลลภรีบฉุดให้เธอเข้ามาซบหน้าอก แล้วอุ้มคนตัวน้อยขึ้นพาดบ่า “ไอ้คนเลว!! ฉันเกลียดแก!! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!!” นุดีอับอายจนอยากจะทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดมากที่สุด จึงทำร้ายเขาโดยการทุบๆ ที่หัวไหล่และจะกัดหลังเขาอีกครั้ง “ถ้าเธอกัดฉันอีก เธอได้มีผัวเป็นกรรมกรแบกหามหลายคนแน่!!” โครมม!! ก่อนที่วัลลภจะถีบประตูกระท่อมให้เปิดกว้างนั่นเขาได้คำรามเสียงเหี้ยมขู่เธอ

อ่านเลย
เถื่อนรักอสูรร้าย (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม3)

เถื่อนรักอสูรร้าย (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม3)

5.0

“ฮืออ คุณมันผู้ชายสารเลว หนูเกลียดและขยะแขยงคุณที่สุด!” ดาวเรืองร้องไห้โฮเมื่อรู้สึกถึงรอยสัมผัสน่าขยะแขยงของเสี่ยไพรัตน์ มือที่จับปลายผ้าห่มก็ถูเช็ดไปตามผิวขาวผ่องจนแดงเถือก ซึ่งเสียงสะอื้นไห้ของเด็กน้อยทำให้คนที่ยืนเท้าสะเอวเป็นเด็กแรกเกิดอยู่ตรงปลายเตียงนั้นตื่นจากความฝันที่เป็นจริง สิงขรหน้าแดงก่ำโกรธเด็กน้อยที่บังอาจเช็ดรอยสำผัสที่เขาทำไว้บนตัวเธอ ร่างโตจึงรีบก้าวขึ้นเตียงคลานตามไป มือใหญ่คว้าหมับกำกระชับแน่นที่ข้อเท้าน้อย พร้อมออกแรงกระชากดึงให้คนตัวเบาเข้ามาปะทะแผ่นอก “กรี๊ดดด! ไอ้คนชั่ว! คนเลว ! ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ!” ถึงจะเจ็บระบมไปทุกตารางนิ้วบนร่างกาย ดาวเรืองก็ไม่ต้องการให้เขาแตะต้อง แม้จะมีแรงเพียงน้อยนิด แต่ก็ปกป้องตัวเองโดยการใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบตีคนใจโฉดอย่างบ้าคลั่ง “ปากดี ด่าเก่งนักนะ อย่างนี้มันต้องโดนอีกสักสามสี่รอบ หรือว่าจะทั้งคืนเลยดีไหม?” สิงขรอุ้มเด็กน้อยให้เข้ามานั่งอยู่บนตัก ซึ่งทำให้ดวงหน้าของคนทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน มือหนาสอดเข้าท้ายทอยฉุดเบาๆ ให้ดวงหน้างามแหงนขึ้นเพื่อรองรับคำขู่จากปากหยักที่บดขยี้กลีบปากบวมเจ่อ และเมื่อได้ชิมความหอมหวานในโพรงปากนุ่มพอใจแล้ว เขาก็ตวัดอุ้มร่างน้อยขึ้นพาดบ่า ฝ่ามือใหญ่กางออกแล้วฟาดลงบนสะโพกกลมงอนเสียงดังเผียะๆ พร้อมทั้งก้าวลงเตียงเดินดุ่มๆ พาหญิงสาวเข้าห้องน้ำ “ปล่อยหนูนะ โอ๊ยย! ไอ้ลุงแก่ชอบรังแกเด็ก! ฮืออ” เสียงใสครางปนเสียงสะอื้นเมื่อถูกปล่อยให้เท้าแตะพื้น ขาเรียวสวยสั่นระริกไม่มีแรงยืนด้วยตัวเองจึงทรุดลงไปนั่งบนพื้นห้องน้ำ “ก็ไอ้ลุงแก่คนนี้ไม่ไช่เหรอที่ทำให้เธอพ้นจากไอ้แก่พุงโย้ตัณหากลับนั้น” สิงขรไม่ชอบใจเป็นอย่างมากที่หญิงสาวมักเรียกเขาว่าลุง ดวงตาสีนิลเริ่มแดงก่ำจ้องมองหญิงสาวที่กำลังคลานหนีไปนั่งขดตัวเป็นกิ้งกืออยู่ข้างชักโครก “คุณก็ไม่ต่างอะไรกับเสี่ยไพรัตน์เลยสักนิดที่ชอบล่อลวงเด็กสาวพาไปทำมิดีมิร้ายเหมือนกัน” ดาวเรืองร้องไห้โฮเมื่อนึกถึงภาพของไอ้เสี่ยแก่รุ่นตาพุงก็โย้ น่าเกลียดที่สุด ไอ้ตาแก่นั่นกำลังย่ำยีเธอ แต่แปรเปลี่ยนเป็นภาพของสิงขรที่เป็นคนทำร้ายพรากความบริสุทธิ์ไปโดยที่ไม่ได้ยินยอมสักนิด หญิงสาวนั่งกอดเข่าใบหน้าเขลอะน้ำตาก็แนบชิดมือของตัวเองที่วางอยู่บนหัวเข่า เรียวปากบวมเจ่อก็กระซิบเสียงแผ่วเบาหวังให้ได้ยินเพียงคนเดียว “ยัยเด็กบ้าเอ๊ย! เธอกล้าเปรียบฉันเป็นไอ้เฒ่าไพรัตน์หัวงูนั่นได้ไงฮะ? แล้วถ้าฉันไม่รักษาด้วยร่างกายของฉัน ป่านนี้ เธอก็คงจะขาดใจตายไปนานแล้ว และตอนนี้ มันก็อยากจะเข้าไปในตัวเธอเพื่อทดสอบดูว่าหายจากอาการสยิวซ่านหรือยัง” คำพูดดูหมิ่นของเด็กน้อยทำให้สิงขรโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาเอาแต่พูดเรื่องใต้สะดือให้เธอฟัง ‘เฮอะ! ทำเป็นหน้าแดง อายละสิที่เห็นตัวตนของฉัน’ สิงขรคำรามพูดอยู่ในใจ “อ๊ายย! ไอ้คนทุเรศ! อย่าคิดเอาไอ้หนอนเน่าน่าเกลียดนั่นเข้ามาใกล้หนูเด็ดขาด” ดวงตากลมโตคลอน้ำตาเบิกโพลงเมื่อเห็นความใหญ่โตตรงหว่างขาของเขา ซึ่งมันผงกหัวเบ่งกล้ามจนเห็นเส้นเลือดสีเขียวปูดใส่เธออย่างที่ว่าจริงๆ “หึ! ก็ไอ้หนอนตัวนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอหายจากอาการซ่านสยิว แตะตรงไหน ผิวนี่สั่นระริกไปตามการลูบไล้ของฉันไม่ใช่เหรอ ฮะ” ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อผสมแววตากลมโตสั่นไหวหวาดกลัวนั้นทำให้สิงขรนึกสนุก เขายิ้มแยกเขี้ยวน่ากลัว ชี้มือให้เธอดูความแข็งแกร่งที่มันชูชันตั้งโด่

อ่านเลย
เพลิงรักเพลิงอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม2)

เพลิงรักเพลิงอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม2)

5.0

บทนำ ทั้งรักทั้งเกลียด เสียงครางกระเส่าพลอดรักกันดังอยู่ด้านในห้องนอน ทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านนอกเนื้อตัวสั่นสะท้าน ดวงหน้าคู่งามเจ็บปวดร้าวราน กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่จนมันไหลอาบพวงแก้ม เธอก้มมองมือของตัวเองที่กำลูกบิด ส่วนอีกข้างถือปืนของสามีที่หยิบติดมือออกมาจากห้องทำงาน ‘น่าสมเพชสิ้นดี’ เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ตวาดลั่น! “นางงูพิษ! นางเนรคุณ!” อุษณีย์หัวใจแตกสลาย แรงกำลังแทบไม่มียืนอยู่กลางห้อง มือทั้งสองข้างสั่นระริกกำกระบอกปืนเล็งไปยังร่างเปลือยเปล่าของสาวใช้วัยแค่ยี่สิบปี ไม่คิดเลยว่าเด็กสาวชาวเขาที่เก็บมาเลี้ยง รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ จะกลายเป็นงูเห่าย้อนมาฉกกัดทำร้ายร่างกายและหัวใจของตัวเอง “ว้าย! คุณณี อยะ อย่าทำอะไรหนูเลย หนูผิดไปแล้ว” สาวใช้คนสวยที่นอนคร่อมร่างชายวัยเจ็ดสิบปีที่ดูอย่างไรก็เหมือนอายุห้าสิบปี หล่อนตกใจขวัญหนีดีฝ่อ เนื้อตัวสั่นเทาทั้งร่างเมื่อหันหลังไปเห็นนายหญิง “แกมันเลี้ยงไม่เชื่อง คนอย่างแกเลี้ยงเสียข้าวสุก กินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ตายเสียเถอะ!” “คุณณี! อย่า!” นายศักดาผลักให้สาวใช้ให้นอนลงข้างๆ ร้องห้ามเมื่อเห็นสิ่งที่อุษณีย์ถืออยู่ “คุณท่านถอยไป ฉันจะฆ่ามัน!!” อุษณีย์ไม่ยอมฟังเหตุผล หลับตาแล้วลั่นไกปืนเก็บเสียง ยิงตรงไปยังร่างผู้หญิงชั่วที่ลืมบุญคุณคนนั้นสามนัดซ้อนติดกัน ปังๆ ๆ!!! “โอ๊ย!” เสียงร้องทำให้อุษณีย์ลืมตามอง หล่อนแทบหายใจไม่ออกเมื่อเห็นนายศักดานอนทับร่างของสาวใช้ แผ่นหลังของชายชราเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด “กรี๊ด! คุณท่าน ณีไม่ได้ตั้งใจจะยิงคุณท่านนะ ทำไมคุณท่านต้องปกป้องมันด้วย!” “คุ คุณณี ผะ ผม” นายศักดาพูดไม่ทันจบประโยคก็สิ้นลมหายใจอยู่บนร่างของสาวใช้ที่นอนสิ้นลมหายใจไปก่อนหน้านั้นแล้ว “ฮือ คุณท่าน คุณท่านทำกับณีแบบนี้ทำไม” อุษณีย์นั่งพร่ำเพ้อเหมือนคนเสียสติ มือที่กำปืนอยู่นั้นรีบวางลง แล้วคลานหนีไปนั่งตั้งสติอยู่ตรงหน้าประตู เมื่อสติกลับคืนมา เธอก็รีบจัดการอำพรางเหตุฆาตกรรมนี้หวังให้ตนพ้นผิด พร้อมทั้งส่งเสียงกรีดร้องให้คนในบ้านได้ยิน “กรี๊ด! ชะ ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!” อุษณีย์ที่มีเลือดท่วมตัวคลานกระเสือกกระสนออกจากห้องด้วยอาการเหมือนคนบาดเจ็บสาหัสสากรรจ์… “ฮือ” เสียงร้องร่ำปานใจจะขาดดังอยู่ในห้วงลึกของความฝันของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่ภายใต้อ้อมกอดของชายหนุ่มร่างโต ร่างน้อยกระสับกระส่ายหวาดกลัวต่อภาพที่ฝันเห็น เธอผวาตกใจตื่นขึ้นมาแล้วต้องรีบคลานลงจากเตียง วิ่งเข้าห้องน้ำเมื่ออาการวิงเวียนคลื่นไส้จะอาเจียนเล่นงาน “โอ้ก! โอ้ก!!” “เมย์เป็นอะไรครับ?” ชายหนุ่มขยับตัวลุกนั่ง เขาคว้าร่างน้อยไว้แต่ไม่ทันจึงลงจากเตียงเดินไปหาคนที่ส่งเสียงโอ้กอ้ากอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าเรียวรูปไข่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเอียงมองชายคนรัก “พิ พี่พาย เมย์ฝันร้ายค่ะ โอ้ก!!” แล้วรีบหันกลับไปกอดคอชักโครกโก่งคออาเจียนเอาเป็นเอาตายอีกครั้ง “ฝันร้าย? แล้วทำไมมานั่งอาเจียนแบบนี้ล่ะครับ” เพลิงพายยืนมองคนตัวน้อย เขาเป็นห่วงจึงรีบนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง ก่อนจะช้อนอุ้มร่างน้อยขึ้นแนบอก พาเดินไปยังเตียงนอนนั้นแล้วก็ช่วยเธอเช็ดน้ำลายตรงมุมปากให้ “มะ เมย์” เมื่อแผ่นหลังแตะฟูกนุ่ม อารยาก็ขยับตัวจะลุกนั่งแต่ก็ถูกมือใหญ่ดันให้นอนลงเหมือนเดิม เธออยากเล่าความฝันเมื่อครู่นี้ให้ชายหนุ่มได้รับรู้ ‘ทำไมฝันน่ากลัวจัง พี่ณีของเป็นอะไรหรือเปล่านะ’ ได้แต่คิดและหาคำตอบให้ตัวเองอยู่คนเดียว “ทำไมเมย์หน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่า?” เพลิงพายยืนเท้าสะเอวอยู่ข้างเตียง เขาดันขาเรียวสวยให้ขยับเล็กน้อยแล้วนั่งลงบนขอบเตียง ใช้แขนข้างหนึ่งคร่อมร่างบางเอาไว้ ดวงตาดูขรึมลงหลายส่วนเมื่อมองใบหน้าสวยที่ดูอย่างไรก็คล้ายคลึงหญิงสาวอีกคน ซึ่งเมื่อนานมาแล้วจนถึงขณะนี้ หัวใจของเขาก็ยังมีแผลเพราะผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น “มะ เมย์ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ” อารยาเบี่ยงหน้าหนีเมื่อดวงหน้าของชายหนุ่มโน้มเข้าหา กลิ่นลมหายใจที่ผสมบุหรี่ทำให้เธอรีบยกมือปิดจมูกกลั้นอาการคลื่นไส้ไว้ ส่วนมืออีกข้างแอบลูบหน้าท้องแบนราบ เธอยังไม่แน่ใจดีว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ อยากตรวจให้แน่ใจเสียก่อนถึงจะบอกข่าวดีนี้ให้พี่พายทราบ “พี่พาไปหาหมอเอาไหม วันนี้ พี่ไม่มีงาน” เพลิงพายยิ้มมุมปาก ใบหน้าหล่อฉายความแข็งกระด้างเล็กๆ เมื่อหัวใจฝ่ายหนึ่งที่คอยแต่จะทรยศพร่ำบอกให้รัก แต่อีกฝั่งนั้นบอกให้เกลียดเธออยู่ตลอดเวลา ‘จำไว้เพลิงพาย แกต้องแก้แค้น ชดใช้ให้สิ่งที่แกเจอและต้องเจ็บเจียนตายนั้นให้ได้!’ “แต่วันนี้ เมย์มีเรียนนี่คะ” อารยานอนนิ่ง ไม่ยอมขยับตัวหนี อยากซึมซับเอาความอบอุ่นจากมือหนาที่คอยปัดเส้นผมบนหน้าผาก เขาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตามไรผมออกให้อย่างอ่อนโยนด้วยเรียวปากหยัก “งั้นเลิกเรียนแล้ว พี่พาไปหาหมอนะ” ใบหน้าคมคายโน้มเข้าชิดดวงหน้างาม เรียวปากหนาได้รูปกระซิบกระซาบชิดกลีบปากบาง ก่อนพรมจูบลงทัณฑ์อย่างแสนหวานเจือความเร่าร้อน ไม่ต้องการฟังคำปฏิเสธจากเธอ…

อ่านเลย
รอยอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม1)

รอยอสูร (ซีรีส อสูรซ่อนรัก เล่ม1)

5.0

หมดแล้วใช่ไหมที่จะกลับมาเหมือนเดิม ทุกอย่างช่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว มันเร็วเกินไปที่หญิงสาวจะรับได้ แพรพรรณพยายามพยุงร่างไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ ก้าวเท้าเดินลงบันไดแต่ละขั้น ช่างไกลแสนไกล อยากจะหนีไปให้ไกลๆ จากความเจ็บปวดทรมานแบบนี้เหลือเกิน “ทำไมพี่ต้องหลอกแพรด้วย ทำไมต้องโกหกแพร” ร่างบอบบางค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนขั้นบันได เธอไม่มีแรงที่จะเดินต่อเพราะความเจ็บปวดที่ระบมจนหัวใจข้างซ้ายตีบตันรัดจนหายใจไม่ออก “ฮือๆ” มือทั้งสองข้างเกาะกรงเหล็กไว้แน่น ความช้ำร้าวรานหัวใจทำให้แพรพรรณอยากระบายความเจ็บจึงใช้ศีรษะโขกกับราวบันไดเสียงดังตึงๆ “เสียงไรวะ?” เสียงสะอึกสะอื้นร้องไห้โหยหวนเหมือนคนเจ็บปวดใกล้ตายดังจนทำให้ชายหนุ่มสูงใหญ่ดูภูมิฐานตกใจ เขาเดินหลงกลุ่ม มองซ้ายหันขวาก็หาทางออกไม่เจอ สงกรานต์จึงยืนเอามือเท้าสะเอวฟังเสียงที่ดังอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล “ลูกจ๋า แม่จะทำอย่างไรดี” ดวงตากลมโตเอ่อล้นน้ำตาก้มลงมองมือของตัวเองที่ลูบหน้าท้อง สื่อให้ลูกในท้องรู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน “ฮือ มะ แม่ขอโทษ” แพรพรรณเงยหน้ากะพริบตาหลายครั้งเพื่อกักน้ำตาให้หยุดไหลเพื่อจะได้มองรอยด่างบนเพดาน ช่างเหมือนหัวใจของตัวเองที่มันด่างช้ำเป็นสีเลือด หญิงสาวปิดเปลือกตาหยุดสะอื้น แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา มือก็เกาะราวบันไดฉุดตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แต่ด้วยที่รีบลุกผสมกับอาการวิงเวียนศีรษะจึงทำให้หน้ามืด คนท้องยืนเซโอนเอนไปมาจน “คุณระวัง!!!” “โอ๊ย!” แพรพรรณสั่นกลัวอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มที่ไม่เคยเห็นหน้า หญิงสาวหวาดหวั่น ตากลมโตนั้นเงยมองบันไดสามขั้นที่ตัวเองยืนอยู่ มันสูงมากสำหรับคนท้องอย่างเธอ แพรพรรณค่อยๆ หันกลับมามองคนที่เข้ามารับตัวเธอไว้ ถ้าไม่มีชายคนนี้ เธอคงเสียลูกไปแน่ “คุณเป็นยังไงบ้างครับ?” สงกรานต์กึ่งนั่งกึ่งนอนหลังพิงฝาผนัง ชายหนุ่มเจ็บเล็กน้อยเพราะใช้ร่างกายใหญ่โตรองรับน้ำหนักให้หญิงสาวได้นอนทับบนลำตัว “ลูกแม่” แพรพรรณครางเรียกลูกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง นั่งใช้สีข้างพิงหน้าอกของชายแปลกหน้าแล้วก้มมองมือสั่นระริกลูบหน้าท้องแบนราบปลอบขวัญคนที่อยู่ข้างใน “จะ เจ็บตรงไหนบ้างครับ” สงกรานต์จ้องมองเรียวหน้าหวานรูปไข่อย่างหลงใหล ใช่ว่าไม่เคยเจอะเจอคนสวย แต่สำหรับผู้หญิงร่างเบาหวิวคนนี้ช่างน่ารักอ่อนหวานถูกใจเขาเหลือเกิน “ฉะ ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พยายามขยับตัวออกจากวงแขนของชายหนุ่ม เธอถอยออกมานั่งพับเพียบ ระวังให้มากที่สุดเพื่อจะไม่ให้กระทบกระเทือนถึงลูกในท้อง “ลุกไหวไหมครับ?” สงกรานต์ยิ้มเมื่อเห็นอาการหวาดกลัวของเธอ แต่เขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วยฉุดหญิงสาวให้ลุกขึ้นยืน “ขะ ขอบคุณมากค่ะ” “คุณโอเคนะครับ” หนุ่มหล่อเจ้าสำราญได้พินิจมองดวงหน้างามอย่างจริงจังก็นึกพอใจสาวแสนหวานดูจะไร้เดียงสาเข้าเสียแล้ว ไม่นึกเลยว่าการที่มาดูสินค้าผ้าไหมด้วยตัวเอง จะทำให้เขาได้เจอนางฟ้าเดินดิน “ฉันขอตัวนะคะ” เมื่อมีสติ แพรพรรณก็มองหน้าชายหนุ่ม นึกในใจว่าคนหน้าตาหล่อเหลาสูงใหญ่ตรงหน้านี้เป็นใคร และทำงานอยู่แผนกไหน “เดี๋ยวครับ” สงกรานต์รีบก้าวเดินเข้าไปยืนดักหน้าเธอไว้ “มีอะไรเหรอคะ?” แพรพรรณแทบจะเดินชนคนตัวสูงใหญ่ “คือ ผมหาทางออกไม่เจอครับ” “คะ!?” “ครับ เมื่อสักครู่ ผมเดินดูผ้าไหมเพลินไปหน่อยเลยหลงทางน่ะครับ” สงกรานต์ยิ้มอย่างอายๆ พร้อมยกมือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เก้อ “คุณเดินไปตามทางที่มีลูกศรสีเขียวตรงพื้นสุดมุมตรงนั้นนะคะ แล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปอีกนิดเดียวจะมีลิฟต์ลงไปด้านล่าง” พอชี้มือบอกชายหนุ่ม แพรพรรณก็รีบหันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได แววตาเป็นกังวลเมื่อก้มหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือของตัวเอง ‘นี่พี่ฝนต้องหาว่าเราอู้งานอีกแน่เลย’ “เดี๋ยวครับคุณ คุณชื่ออะไรครับ ทำงานอยู่ที่นี่เหรอ ผมชื่อสงกรานต์นะ” สงกรานต์ยืนเกาะราว เขาชะโงกหน้าก้มลงมองขั้นบันไดที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดเป็นก้นหอย ชายหนุ่มยิ้มให้เมื่อเห็นเธอหยุดวิ่งแล้วแหงนหน้าขึ้นมามอง…

อ่านเลย
รอยรักหัวใจทมิฬ

รอยรักหัวใจทมิฬ

5.0

สิงโตยืนจังก้าน่ากลัวดักรอหญิงสาวอยู่ที่ข้างรั้วประตูบ้านหลังใหญ่ ใบหน้าของเขาดูดุร้าย สายตาดวงเข้มแดงก่ำมันอาจลุกเป็นไฟเผาผลาญร่างอวบอั๋นนั่นได้ถ้าขืนเขามองนานๆ แค้นใจยิ่งนัก เธอกล้าดีอย่างไรไปหาและขอร้องให้น้ำผึ้งทำแบบนั้น ชายหนุ่มขบกรามเข้าหากันแน่นจนเกิดเป็นสันตามแนวคาง ยามได้เห็นใบหน้าระรื่นระริกระรี้ของเธอ “มารยา!!... เลว เห็นแก่ตัวที่สุด” เสียงเข้มเปล่งออกมาทำให้หญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาเปิดประตูรั้วบ้านหยุดชะงัก “พิ พี่...โต !!” พรพรรณสะดุ้งตกใจ เสียงสั่นๆ เปรยถามชายหนุ่ม เธอหมดสภาพไร้ความดีงามติดตัว ยามไปพบเจอน้ำผึ้ง นึกแล้วก็น่าใจหาย เธอกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจในสายตาของน้ำผึ้ง ทำเรื่องเลวร้ายแต่กลับมีหน้าไปขอร้องให้หญิงสาวเดินออกไปจากชีวิตสิงโต เสียงอันดุดันของชายหนุ่มทำให้เธอต้องรีบห่อตัว ร่างบางสั่นเล็กน้อย “ใช่!! ฉันเอง” คนตัวโตก้าวเดินย่างสามขุมเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ ตาดวงเข้มดุดันจ้องมองเธอไม่วางตา รวมทั้งใบหน้าของเขาถมึงทึงน่ากลัวเหลือเกิน “พิ...พี่โต มาหาพรมีอะไรหรือเปล่าคะ?” เปรยเสียงสั่นเอ่ยถามเขา กลัวสายตาของคนร่างโตเหลือเกิน แต่เธอก็ทำใจกล้า ทำเป็นไม่เกรงกลัว เธอต้องเข้มแข็ง “หึ หึ... มีหน้ามาถามฉันนะ ร้ายกาจที่สุด...” “พี่โตพูดเรื่องอะไรคะ?” “เธอรู้อยู่แก่ใจยังมีหน้ามาถามฉันนะ พรพรรณ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดดักหน้าของเธอไว้ ไม่ให้หญิงสาวเข้าบ้านไปได้ง่ายๆ “หลีกค่ะ… พรจะเข้าบ้าน” พรพรรณยกมือขึ้นผลักคนร่างหนาให้หลีกทางให้ แต่ก็ไม่ทำให้คนร่างโตขยับเขยื้อนเลย เขายังยืนจ้องหน้าของเธออยู่ “เธอนี่ร้ายยิ่งกว่าที่ฉันคิดเสียอีกนะ คงอยากได้มากสินะ ผัวน่ะ ถึงสั่นระริกๆ ไปสั่งคนนั่นคนนี้ให้เดินออกไปจากฉัน” สิงโตเปล่งเสียงกระซิบลอดออกมาตามไรฟัน เขาเอ่ยวาจาเหยียดหยัน มุมปากหนากระตุกยิ้มเยือกเย็น “พี่โต...มันจะมากไปแล้วนะ” พรพรรณเปล่งเสียงอันสั่นเครือ ดวงตากลมโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอแหงนใบหน้าอันขาวซีดมองคนตัวโต “เธอนี่จิตใจทำด้วยอะไร ?” “แล้วใครล่ะที่ทำให้พรเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะพี่โตเหรอ... คนเห็นแก่ตัว เลวที่สุด” พรพรรณเปรยเสียงไหวหวั่นกระซิบ “เธอนี่กล้านะ ถ้าฉันไม่เมาคงกินเธอไม่ลงแน่…” “แต่พรก็เป็นเมียพี่โตแล้ว เมียที่ท้องด้วย ลูกของพี่โตอยู่ในนี้ไง” พรพรรณแหงนมองคนที่ตัวสูงกว่าเธอมาก แล้วก้มหน้าลงชี้นิ้วไปตรงท้องที่ยังโหนกนูน สื่อให้เขารับรู้ไว้ว่าสามเดือนแล้ว “เธอแน่ใจหรือว่าไอ้เด็กในท้องของเธอน่ะ มันเป็นลูกของฉัน” สิงโตเอ่ยเสียงเยาะเย้ย “คนทุเรศ ถึงพรจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ พรก็ไม่ได้มั่วนะ หลีกไป…” มือบางยกขึ้นผลักคนร่างหนาที่ยังกักเธอไว้ “เธอกล้าดีอย่างไรไปขอร้องน้ำผึ้งแบบนั้น” สิงโตอยากจะหักคอคนตรงหน้าเสียเหลือเกิน เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นกางออกคล้ายๆ จะจับลำคอระหงนั้นขย้ำบีบให้แหลกคามือ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงัก “พรทำไปเพราะลูก พรผิดด้วยเหรอคะ?” “ลูกของเธอคนเดียว ไอ้มารหัวขนในนั้นมันไม่ใช่ลูกฉัน” คนร่างสูงก้มมองหน้าท้องโตเล็กน้อย เปล่งออกมาด้วยความแค้น พร้อมทั้งกางมือออกทั้งสองข้างหวังจะบีบขย้ำลำคอระหงนั่น “เอาสิคะ... การที่พรไปขอร้องน้ำผึ้งมันทำให้พี่โตเป็นบ้าก็เอาสิคะ ฆ่าพรเลย บีบสิคะ บีบเลย... เลวที่สุด” เธอยืดขยับลำคอให้ชายหนุ่ม ท้าทายเขาตรงหน้า ใบหน้าที่มีน้ำตาไหลอาบแก้มนวลก็แหงนมองหน้าของคนเห็นแก่ตัว “เธออย่าท้าทายฉันนะพรพรรณ” สิงโตแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม มือยกขึ้นชี้หน้าหญิงสาว “พรไม่ได้ท้า... บีบเลยค่ะ จะได้หายแค้นไง” หญิงสาวตัวสั่นเทา ยามได้เห็นแววตาเข้มส่องแสงประกายสีแดงก่ำพิโรธมายังเธอ “หึหึ!! เธอได้ตายสมใจแน่ ฉันจะทำให้เธอตายทั้งเป็น มานี่!! นางมารร้าย” สิงโตเหลืออด เขากระชากร่างอวบอั๋นนั่นเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด จนทำให้ใบหน้าของหญิงสาวกระทบอกแกร่ง “โอ๊ยย!!...พรเจ็บนะ คนบ้า” สาวร่างอวบพยายามดิ้นให้ออกจากการรัดกุมของชายหนุ่ม เธอแหงนใบหน้ามองเขา ส่วนชายหนุ่มก็ก้มมองเธออยู่เช่นกัน สองสายตาจ้องมองกัน “หยุดดิ้น!! และไปกับฉันเดี๋ยวนี้” สิงโตฉุดกระชากลากดึงหญิงสาวให้เดินตามเขาไปยังรถที่จอดอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนใหญ่ “กรี๊ดดด!! ปล่อยพรนะ” พรพรรณทั้งรั้งทั้งทุบตีข้อมือใหญ่ที่จับกุมข้อมือของเธอ “หยุดกรี๊ดสักที ถ้าเธอมีปากเสียงกับฉัน เธอได้ตายเป็นศพไม่สวยแน่” สิงโตเปลี่ยนจากการฉุดกระชาก เขาใช้แขนอันทรงพลังโอบกอดรอบช่วงอกอิ่ม กึ่งอุ้มกึ่งลากหญิงสาวพาเดินข้ามถนนใหญ่ มือใหญ่อีกข้างก็ประกบปิดเรียวปากของเธอไว้ ไม่ยอมให้เสียงกรี๊ดร้องของเธอเล็ดลอดออกมาให้ใครต่อใครได้ยิน

อ่านเลย
บ่วงแค้นหัวใจปีศาจ

บ่วงแค้นหัวใจปีศาจ

5.0

เอี๊ยดดด!! โครมม!!! ร่างบอบบางถูกแรงกระแทกจากรถคันที่วิ่งเข้ามาชนรถของเธอ จึงทำให้ตัวเธอกระเด็นออกนอกรถลอยไปหลายเมตร ร่างน้อยกระแทกลงกับพื้น เลือดไหลออกปากเสียชีวิตคาที่ทันที ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมุงดู บ้างก็โทร.แจ้งตำรวจ บ้างก็โทร.แจ้งมูลนิธิฯ ดารินช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้า เธอมึนหัวมากแต่ก็พยายามตั้งสติ ใบหน้าอาบเลือดหันไปมองพี่ชายที่นั่งฝั่งคนขับรถ “พิ...พี่ชาย” ดารินครางเสียงสั่นเมื่อเห็นพี่ชายมีเลือดท่วมตัว มือสั่นระริกยื่นเข้าไปแตะตรงร่องจมูกทำให้รู้ว่าพี่ชายไม่หายใจเช่นเดียวกับผู้หญิงที่พี่ชายได้ขับรถชน ซึ่งในเวลานั้น ดารินไม่สามารถช่วยพี่ชายและผู้หญิงคนนั้นได้ ดวงตาเอ่อเต็มน้ำตาหนักอึ้งปิดลง และภาพของพี่ชายและผู้หญิงคนนั้นก็ค่อยๆ จางหายไปเมื่อลมหายใจของเธอแผ่วลงที่ละน้อยและหมดสติไปโดยไม่รู้ตัว… กริ๊งงงง!!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมากลางดึกในขณะที่เขากำลังหลับฝันดีอยู่ หัสดินเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนที่จะแนบลงบนข้างหู เขาก็แตะนิ้วสัมผัสคอยฟังเสียงด้วยความหงุดหงิด และสิ่งที่ได้รับฟังจากต้นสายทำให้หัสดินแทบขาดอากาศหายใจ เหมือนเขากำลังจะตาย “อะ...อะไรนะครับ! มะ...ไม่จริงไม่ใช่...น้องสาวของผมเสียชีวิตแล้ว...ผมไม่เชื่อ! คุณโกหก!” หัสดินแค้นเสียงเย็นใส่ต้นสายที่โทร.มาแจ้งข่าวการตายของน้องสาว บิดามารดาของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่ชายหนุ่มอายุสิบห้า เขาก็ต้องดูแลกิจการของครอบครัว เรียนไปด้วย บริหารงานไปด้วยพร้อมทั้งดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวที่มีอายุเพียงเจ็ดขวบ มัจจุราชช่างโหดร้ายมาก พรากบิดามารดาของเขาไปยังไม่พอ ยังมาพรากหัวใจดวงสุดท้ายของเขาไปอีก กุลธิดา น้องสาวผู้แสนน่ารัก และอ่อนโยนที่เขาคอยเฝ้าดูแลทะนุถนอมรักใคร่ยิ่งกว่าไข่ในหินต้องมาจบชีวิตลงก่อนวัยอันสมควร ทั้งที่พรุ่งนี้เป็นวันที่เธอจะต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเป็นวันแรก หัสดินกำมือแน่นแค้นเคืองไอ้คนที่มันพรากชีวิตของน้องสาวของเขาไปโดยที่เธอไม่มีความผิด เขาจะเอาเรื่องคนที่มันทำลายดวงใจของเขาจนถึงที่สุด พวกมันจะต้องชดใช้อย่างแสนสาหัส! โรงพยาบาลแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุง... “น้องสาวของผมที่ชื่อกุลธิดาอยู่ห้องไหนครับ” เมื่อมาถึงโรงพยาบาล หัสดินก็รีบตรงไปยังห้องฉุกเฉิน เมื่อเห็นนางพยาบาลเดินออกมาจากห้อง ชายหนุ่มก็รีบตรงเข้าไปถาม “เสียใจด้วยนะคะ ทางเราพยายามยื้อคนป่วยไว้อย่างสุดความสามารถแล้วค่ะ” สีหน้าของนางพยาบาลก็สลดเสียใจไปกับญาติคนตาย เธอได้พาหัสดินตรงเข้ายังเตียงที่มีร่างของน้องนอนนิ่งไม่หายใจ มือหนาสั่นเทาจับผ้าสีขาวเปิดออกจากร่างกายขาวซีด ดวงหน้างามที่ไม่พบแม้แต่รอยฟกช้ำเลยสักนิด น้องของเขาช่างเหมือนเจ้าหญิงนิทราที่หลับใหลรอวันตื่นขึ้นอีกครั้ง “กุ...กุล...อึกก!!” หัสดินร่างกายเย็นเฉียบ ยืนแทบไม่ไหว มือทั้งสองข้างต้องเกาะขอบเตียงของน้องสาวไว้แน่น น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหลออกมาเองเมื่อได้เห็นร่างของน้องสาวสิ้นลมหายใจ มือใหญ่สั่นเทาค่อยๆ เอื้อมไปจับใบหน้างามขาวซีดเซียวไร้สีเลือดที่มีเพียงรอยช้ำตรงมุมปากเล็กน้อย เขาค่อยๆ ไล่สัมผัสลูบเส้นผมยาวเป็นลอนสีน้ำตาลอ่อนแผ่วเบาด้วยความรัก หัสดินเสียใจและเจ็บแค้นคนที่ทำให้น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาเสียชีวิต “คู่กรณีน้องผมอยู่ไหนครับ?” หัสดินเอ่ยถามนางพยาบาลที่พาเขาเข้ามาหาน้องสาว “อยู่เตียงตรงข้ามกับคุณค่ะ รอดหนึ่ง เสียชีวิตหนึ่งค่ะ” นางพยาบาลบอกชายหนุ่ม “หมายความว่าไงครับ” หัสดินทำหน้าสงสัยจึงถามนางพยาบาล “ทางคู่กรณีคุณมีสองคนค่ะ คนพี่ที่เป็นผู้ชายเสียชีวิต ส่วนคนน้องเป็นผู้หญิงรอดชีวิตค่ะ” นางพยาบาลเอ่ยตอบ พร้อมทั้งชี้มือให้ชายหนุ่มดูทางฝั่งตรงข้าม หัสดินไม่รอให้นางพยาบาลพาไป เขาเดินย่างสามขุมตรงไปยังเตียงนอนก็พบว่า คนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นยังมีชีวิตอยู่ เด็กสาวหน้าตาสะสวยอายุคงจะรุ่นๆ เดียวกันกับน้องสาวของเขา หัสดินมองเด็กสาวด้วยความแค้น แววตาสีเข้มจับจ้องมองสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยาง เรียวปากหยักได้รูปสวยยิ้มเยือกเย็นเมื่อเห็นรอยฟกช้ำทั่วทั้งตัวของแม่สาวน้อย ความสะใจเต็มอกเมื่อเห็นเด็กคนนี้มีรอยแผล “ดาริน พฤกษากร หึ! เธอสินะที่เป็นคนขับรถชนน้องสาวของฉัน แถมยังทำให้พี่ชายตัวเองตายอีก เธอนี่มันเลวชั่วช้าเสียจริงๆ ฉันจะรอเธอออกจากโรงพยาบาล แล้วเราจะได้เจอกัน...เธอจะต้องชดใช้ให้ฉันอย่างสาสม...ดาริน พฤกษากร” หัสดินเค้นเสียงเย็น ยะเยือกดังเกล็ดหิมะลอดออกมาจากไรฟัน…

อ่านเลย
น้ำผึ้งไร้ปีก

น้ำผึ้งไร้ปีก

5.0

อดีตผิดหวังจากความรักที่มืดมนเหมือนท้องฟ้าที่มืดดำ “เขา...” ต้องหนีความเจ็บปวดเดินทางท่องเที่ยวไปทุกที่หวังรักษาแผลในใจที่เน่าเฟะ อตีตอันเลวร้ายของเธอเปรียบเสมือนกำไรชีวิตพลักดันให้เธอ “หญิงสาวชาวป่า” อย่างเธอต้องดิ้นรน ความผิดหวังจากความรักความเสียใจครั้งแล้วครั้งเล่า แผลในใจที่คิดว่าหายสนิท แต่มันยังไม่หายดีมันยังเป็นแผลเหวอะเน่าเฟะ และเจ็บทุกครั้งเมื่อนึกถึง สายฝนที่ตกลงมาปรอยๆ คือสายฝนแห่งรักแท้ สายลมพัดมากับปรอยฝนพัดเอาเขาและเธอให้มาพบกันท่ามกลางบรรยากาศของเมืองเชียงใหม่ “เธอ...” หนีความผิดหวังจากบ้านเกิดมาอยู่ไกล เพื่อมารักษาแผลในใจ และหวังจะสร้างชีวิตใหม่ ทิ้งเรื่องราวในอดีตที่ขื่นขมไว้เป็นเพียงความทรงจำอันเจ็บปวด “เขา...” ผิดหวังจากรักครั้งแรกจะเป็นจะตายเพราะรักไม่สมหวัง อับอายเพื่อนฝูง จนเลือกเดินหันหลังให้กับชีวิตที่สมบูรณ์สุขสบาย เลือกที่จะลองใช้ชีวิตที่ธรรมดา ออกท่องเที่ยวไปทุกที่ “Thailand” คือประเทศที่เขาเลือกเดินทางมาเที่ยวและนี่คือจุดเริ่มต้นของคนทั้งสองที่มาพบเจอกัน “เขาคือ...หมอวิเศษที่คอยเยียวยารักษาแผลใจที่เน่าเฟะของเธอจนหายสนิท” “เธอคือ…ช้างเท้าหลังที่เดินตามรอยเท้าของเขาไปทุกที่ เป็นแสงตะเกียงคอยส่องทางให้เขาเดิน” ความรักไม่ต้องมีเรื่องชนชั้นเชี้อชาติกำเนิดมากั้นขวาง ขอให้มีแค่สองหัวใจเป็นหนึ่งเดียว สำหรับสองชีวิตที่มีแผลในใจเหมือนกัน “เขาและเธอ” ที่โหยหายาวิเศษมาสมานแผลให้กันและกัน ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นที่ทั้งสองสร้างขึ้นมาจึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “ครอบครัว”

อ่านเลย
สงครามรักต่างแดน (WAR OR LOVE)

สงครามรักต่างแดน (WAR OR LOVE)

4.6

แคว่กก... กระโปรงตัวเดียวที่ยังสมบูรณ์เป็นรูปร่างถูกมือใหญ่ดึงทึ้งฉีกขาดอีกครั้ง ซึ่งบ่งบอกความบ้าบิ่นของเจ้าพ่อกาสิโนที่มีนิสัยชอบทำร้ายผู้หญิงก่อนมีเซ็กซ์พิสดาร เขาจับมือทั้งสองข้างของเธอขึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียว ร่างโตโถมทับร่างบาง ใบหน้าคมคายก้มลงซุกไซ้ไปตามซอกคอขาวนวล ริมฝีปากร้ายพรมจูบผิวเนื้อทุกตารางนิ้วบนใบหน้านองน้ำตา ริมฝีปากหนาไล้มาประกบจูบบดขยี้เรียวปากอิ่มจนทำให้ปากบางที่แตกอยู่แล้วกลับแตกและมีเลือดไหลซิบออกมาอีก “อย่าทำฉัน...ฮืออ” กล้วยไม้หมดหนทาง ไม่มีเรียวแรงที่จะสู้จึงอ้อนวอนชายหนุ่มด้วยเสียงสะอื้นไห้ครางฮือๆ อยู่ในลำคอ “หยุดแหกปากร้องเสียที ในนี้ไม่มีใครเขาสนใจโสเภณีอย่างเธอหรอก” ยาเสพติดผสมยาปลุกเซ็กซ์ออกฤทธิ์กระตุ้นให้อาเล็กกลายเป็นคนถ่อยสถุลที่สุด “ฮืออ...ปละ...ปล่อยฉัน!!” ความถ่อยกักขฬะของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากเปียกชุ่มน้ำลายเหนียวๆ ปาดเลียไปตามดวงหน้าหวานทำให้กล้วยไม้ขยะแขยง เธอดิ้นรนอย่างแรงเอาตัวรอด แต่กล้วยไม้ก็ไม่มีทางสู้แรงมหาศาลของคนสวะจึงปล่อยให้เขาจูบลูบคลำตามอำเภอใจ แล้วเมื่อชายหนุ่มหลงกล เธอจึงกัดเข้าที่ปลายลิ้นของเขาจนจมเขี้ยว “โอ๊ย!! ฤทธิ์เยอะนะมึง” อาเล็กยังนอนคร่อมร่างบาง เขาร้องโอดครวญยกมือขึ้นกุมปากที่โชกไปด้วยเลือด ความเจ็บปวดตุบๆ ตรงแผลกลางลิ้นทำให้อารมณ์โกรธเดือดดาล และยิ่งเป็นเพศตรงข้ามมาทำกับเขาแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มที่ชอบดูถูกผู้หญิงทุกคนเป็นเพียงเศษขยะฉุนขาด แล้วก็… เผียะ!! เผียะ!!! อาเล็กใช้มือข้างที่กุมปากชุ่มไปด้วยเลือดฟาดลงบนพวงแก้มนวลของกล้วยไม้สองครั้งอย่างแรง “กรี๊ดดด!! ฮืออ” เสียงหวานกรีดร้องครวญครางเพราะความเจ็บปวด ดวงหน้าขาวที่ถูกตบแดงช้ำบวมเป่ง มองเห็นเป็นรอยฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มอย่างชัดเจน “อาเล็ก หยุด!!!” ภาพของผู้หญิงร่างบอบบางถูกทำร้าย ชุดกระโปรงตัวสวยถูกฉีกขาดวิ่นไม่มีติดกายจนมองเห็นริ้วรอยเขียวช้ำบนผิวขาวอย่างชัดเจน เธอนอนสั่นระริกอยู่ใต้ร่างของอาเล็ก ทำให้เดวิดเกิดความเดือดดาลอยากจะฆ่าไอ้น้องชายจอมชั่วที่มันช่างกล้ามาทำความเลวระยำในพื้นที่ของเขา “พิ...พี่ใหญ่!!” มือใหญ่กำเป็นกำปั้นกำลังจะชกลงบนหน้าท้องของหญิงสาวก็ต้องหยุดค้างไว้ เมื่อเขาได้เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง “ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!!” ‘สถุลสิ้นดี’ เดวิดกัดฟันเสียงดังกรอดๆ เขาเค้นเสียงด่าน้องชายต่างมารดาออกมาจากไรฟัน “มาดมัวแซลล์” เจสันได้รับคำสั่งจากแววตาของเจ้านายที่ขณะนี้ช่างดูน่ากลัวมาก รีบทำตามคำสั่งเข้าไปประคองร่างน้อยที่นอนขดตัวเหมือนกุ้งโดนเผาอยู่บนพื้น “กรี๊ดดด!! ยะ...อย่าเข้ามานะ...ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลย” กล้วยไม้เหมือนคนขาดสติหวาดกลัวกลัวเรื่องเลวร้าย เธอกรีดร้องพร้อมทั้งตะเกียกตะกายถอยหลังหนี ไม่ยอมให้เจสันได้แตะเนื้อต้องตัว “ไอ้เจสัน! มึงปล่อยผู้หญิงของกูเดี๋ยวนี้นะ!!” อาเล็กตะคอกเสียงใส่เจสัน พร้อมทั้งก้าวเดินจะเข้าไปจะฉุดกล้วยไม้ที่อยู่ในวงแขนของเจสัน “ฉันบอกให้หยุด!!” ดวงตาเปล่งแสงอ่อนลงเมื่อเหลือบตามองร่างเปลือยที่อยู่ในอ้อมแขนของเจสัน... แวบแรกที่เห็นใบหน้าบวมเป่ง มองไม่ออกว่าเจ้าของใบหน้านั้นจะมีรูปหน้าแบบไหน...เดวิดเมินหน้าหนีไม่เข้าใจตัวเองทำไมความรู้สึกขณะนี้อ่อนยวบ สงสารเธอ เขาอยากจะปกป้องดูแลเธอ และไม่อยากให้ชายหน้าไหนได้แตะต้องตัวเธออีกด้วย “พี่ใหญ่บอกให้ไอ้ดำมันปล่อยผู้หญิงของผมด้วย” อาเล็กถึงจะเกรงกลัวเดวิด แต่ชายหนุ่มก็ยังใจกล้าทำท่าทางยิ่งใหญ่ใส่พี่ชาย “ผู้หญิงเขาไม่ยินยอม นายก็ยังจะขืนใจเธอเนี่ยนะ” เดวิดถอดเสื้อสูทให้เจสัน พยักหน้าให้เจสันใช้เสื้อของเขาคลุมร่างน้อยไว้ไม่อยากให้ผิวบางที่เขียวช้ำถูกมือของเจสัน บ้าที่สุด นี่เขาหวงเธอ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันหรือ เดวิดครุ่นคิดสับสนหัวใจของตัวเองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่ได้เห็นเสี้ยวหน้าบวมเป่งนั้น “จะเต็มใจไม่เต็มใจ ผมก็จ่ายค่าตัวเธอไปแล้ว...พี่ใหญ่บอกให้ไอ้เจสันมันส่งตัวเธอมาให้ผมเร็วๆ” อาเล็กยังมีอาการเมายา ชายหนุ่มพูดเสียงแข็งปนเสียงหัวเราะและทำท่าทีฮึดฮัด พูดลิ้นพันกันฟังแทบจะไม่รู้เรื่อง “คุณเดวิดคะ...ฉันว่าอย่าไปสนใจเรื่องของผู้หญิงแบบนี้เลยค่ะ นี่คงจะโก่งราคากับคุณอาเล็กอีกละสิหล่อน” ซูซี่ที่ยืนฟังของสองพี่น้องทะเลาะกันเพราะเด็กผู้หญิงนั้น รีบเข้ามาตัดบท แววตาสีน้ำทะเลแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงเดือด จ้องมองหน้าสวยของซูซี่ ความร้อนของแววตาสีเข้มดั่งไฟบนใบหน้าสุดเซ็กซี่ทำให้ซูซี่ต้องหลบหน้างุด “ฮือออ...อย่าาา” กล้วยไม้สติยังไม่กลับมาอยู่กับตัว คนตัวน้อยเริ่มมีอาการแปลกใหม่ขึ้นกับตัวเธอ ครางเสียงกระเส่าใบหน้าเต็มน้ำตาดูเซ็กซี่ ดวงตาหวานคลอน้ำตาเยิ้มแพรวพราวมองหน้า เจสัน มือที่คอยปกปิดของสงวนนั้นคลายออกเปลี่ยนเป็นลูบไล้ไปตามจุดสำคัญใต้ร่มผ้าที่มีติดร่าง

อ่านเลย

คุณอาจชอบ

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

อ่านเลย
ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

อ่านเลย
ท่านอ๋องพระชายาท่านจะหย่าแล้วนะ

ท่านอ๋องพระชายาท่านจะหย่าแล้วนะ

5.0

ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!

อ่านเลย
พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

อ่านเลย
เจ้าสาวที่ถูกเมิน

เจ้าสาวที่ถูกเมิน

5.0

เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀

อ่านเลย
ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

อ่านเลย
หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

อ่านเลย
ท่านแม่ผู้นี้คืออดีตสุดยอดนักฆ่า

ท่านแม่ผู้นี้คืออดีตสุดยอดนักฆ่า

4.9

เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!

อ่านเลย
หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

หวนคืนอดีตเปลี่ยนชะตาร้ายให้เป็นลิขิตรัก

5.0

รักคือทุกข์...ทุกข์ที่จะทำสตรีนางหนึ่งถูกจองจำไปตลอดกาลเพราะความโง่เขลา ชาติก่อนหมิงหลิ่งฟางตกตายเพราะเลือกเดินทางผิด ส่งผลให้ชะตากรรมของครอบครัวเข้าขั้นเลวร้ายถูกความอัปยศครอบงำตระกูล แต่แล้วสวรรค์กลับยินยอมให้นางได้คืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว ด้วยการนำดวงจิตจากยุคปัจจุบันของนางมาเปลี่ยนแปลงเรื่องราว ชาตินี้หมิงหลิ่งฟางไม่ขอเป็นคนโง่เขลา เพราะนางจะเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมหลงเดินทางผิด เอาแต่บูชาความรักจนครอบครัวถึงจุดยากลำบาก และแม้ว่านางจะไม่ได้รักใคร่ หยางจวินเฟย แต่นางก็ฉลาดพอที่จะเลือกฝั่งผู้ชนะ นางจะต้องทำทุกทางเพื่อผูกมิตรกับเขา เพื่อให้บุรุษผู้นี้กลายเป็นแผ่นฟ้าที่คอยคุ้มครองนางกับครอบครัวให้จงได้ หมดเวลาของนี้หมิงหลิ่งฟางผู้อ่อนแอและเจ้าน้ำตาแล้ว จากนี้นางจะทำทุกทางเพื่อให้ตระกูลหมิงรอดพ้นเภทภัย

อ่านเลย