‘คนของอ้าย อ้ายหวง ไม่เป็นที่หนึ่ง ไม่เป็นที่สอง ถ้าพี่เครื้อรักจริง อ้ายต้องเป็นเมียคนเดียวเท่านั้น’ เน้นคำว่า ‘เมีย’ หนักหน่อย เพราะตำแหน่งนี้ไอ้อ้ายคู่ควร! ‘อ้ายดูแลตัวเอง สะอาดตั้งแต่หัวถึงเท้า วันไหนเที่ยวเล่นมอมแมมหน่อยพี่เครื้อก็ยกเว้นนะ’ ‘อืม’ ‘อ้ายรู้จักกาลเทศะ มีน้ำใจ อันนี้พี่เครื้อชมเองบ่อยๆ ยืดได้ใช่มะ’ ‘ได้’ ‘อ้ายซักล้างกวาดถูทำความสะอาดบ้านได้ งานช่างก็ทำคล่อง กับข้าวก็ทำเป็น ถ้ามีของสดในตู้เย็น ยังไงก็ต้องได้กับไว้กินข้าวสักจาน เนี่ย...ดีพร้อมทุกด้านแบบนี้ ถ้าพี่เครื้อปล่อยอ้ายหลุดมือ จะต้องมีคนบอกว่าพี่เครื้อน่ะ...โงว่วววว’ ‘ครับๆ...พี่จะไม่โงว่ววว น้องอ้ายต้องเป็นเมียพี่เครื้อคนเดียวเท่านั้น’
“ห่าเอ้ย! ตัวก็เท่าเมี่ยง สะเออะแส่เรื่องคนอื่น วอนตีนจนได้นะมึง”
ไม่พูดเปล่า มือก็จิ้มยาหม่องป้ายทารอยฟกช้ำบนแขนบนขาของเด็กรุ่นน้อง
“ก็ไอ้พี่เข้มรังแกไอ้แต๋ม มันแหกปากขอให้ช่วย อ้ายก็ช่วย มันเป็นเพื่อน ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย”
เลิกงานก็ดึก เหนื่อยก็เหนื่อย อาบน้ำแล้วจะล้มตัวลงนอน แต่เขาได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือก็เลยพรวดพราดออกมาเจอแต๋ม เพื่อนทำงานด้วยกันกำลังถูกลูกชายแม่ครัวของร้านฉุดแขนดึงเข้าห้อง
เพราะกลัวแต๋มจะถูกรังแกก็เลยรีบเข้าไปดึงเพื่อนมา ไอ้พี่เข้มมันก็ด่าว่าเขาเสือก ไม่ด่าเปล่า มือถึงตีนก็ถึง ใส่เขาตุ้บตั๊บ ยังไม่ทันจะได้ป้องกันตัวเลยด้วยซ้ำ
‘มึงคิดว่ากูจะทำอะไรมึงเหรอไอ้แต๋ม’ เบต้าร่างใหญ่ นิสัยเกเร ขู่ถามโอเมก้าตัวเล็กที่ตอนนั้นกำลังหงอสั่นยืนอยู่ข้างเขา
‘ผะ...ผมตกใจ’ แต๋มบอกว่าตกใจ แล้วหันมาสบตาเขา จากนั้นก็วิ่งตื๋อกลับไปทางห้องพักของตัวเอง
อ้าว...ถึงตอนนั้นเพิ่งรู้ตัวว่าโดนตีนฟรีๆ เพื่อนแต๋มก็หนีเข้าห้องปิดประตูไม่ถงไม่ถามสุขภาพเขาสักคำ
“เล่นกับใครไม่เล่น ไปเล่นกับไอ้เข้ม แม่งกร่าง ดุเหี้ยๆ ยิ่งกว่าหมาบ้านป้าจิต”
อ้ายหัวเราะพรืด คนแถวนี้เขารู้กันทั่วแหละว่าหมาบ้านป้าจิตซอยสิบน่ะดุแค่ไหน
“อ้ายไม่ได้อยากเล่นกับไอ้พี่เข้ม แค่อยากจะช่วยเพื่อน”
“แล้วมันก็ปล่อยให้เอ็งโดนตีนเนี่ยนะ พวกโอเมก้าขี้ขลาด”
“ไม่เอาน่าพี่ศร แต๋มมันก็คงกลัว น่าสงสารมันออก”
ในสังคมนี้เกิดเป็นโอเมก้าน่ะน่าเห็นใจที่สุดแล้ว โอเมก้าหญิงชีวิตปรกติไม่ต่างจากเบต้าหญิงเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นโอเมก้าชาย คุณจะถูกกดเป็นพลเมืองต่ำชั้นใต้ตีนเบต้าอีกที โอเมก้าชายส่วนใหญ่ร่างกายผอมบาง แรงน้อย สูงอย่างมากก็แค่ร้อยเจ็ดสิบ พร้อมจะถูกอัลฟ่าหรือเบต้ารังแกแล้วตอบโต้ไม่ได้ทุกเมื่อ ยิ่งช่วงฮีทพวกอัลฟ่าและเบต้าชายมากเลยแหละที่เหยียดด่าโอเมก้าชายไม่ต่างจากหมาติดสัด ใช้ฟีโรโมนล่อลวงอัลฟ่าเพื่อจะสมสู่ด้วยเท่านั้น อาจมีโอเมก้าได้อัลฟ่าเลี้ยงดูถึงขั้นแต่งงานกันหลังจากนั้น แต่ก็แค่หนึ่งในสาม ยังมีโอเมก้าชายถูกทิ้งและตกเป็นเหยื่อของการถูกย่ำยีอีกมากในสังคมที่หน่วยงานภาครัฐพร่ำบอกเราด้วยการอัดโฆษณาตามสื่อต่างๆ ว่าทุกคนเท่าเทียม
โธ่...แค่ยาฉีดระงับฮีทรายสามเดือนยังมีราคาที่ต้องจ่าย ที่ฉีดให้ฟรีในโรงพยาบาลรัฐก็แค่ถึงอายุยี่สิบ รัฐเขาว่าประชาชนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องรู้จักรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง ยานั่นไหนเลยจะประสิทธิภาพดีเท่ากับยาที่ โอเมก้าในสังคมคนมีเงินเขาใช้กัน มากสุดก็พึ่งได้แค่ยาเม็ดรายเดือน เรื่องปลอกคอก็ด้วย โอเมก้ารายได้น้อยที่ไหนจะมีเงินซื้อปลอกคอป้องกันการถูกสร้างพันธะมาใส่ คุณเคยเห็นคนจนมีทองใส่ไหมล่ะ มันก็ไม่ต่างกันนักหรอก
เขาว่ากันว่าเกิดเป็นคนนั้นมีบุญกว่าสัตว์ แต่เกิดเป็นโอเมก้าชาย(ยากจน)นั้นเป็นคำสาปของพระเจ้า
อืม...พระเจ้าที่ไหนวะ สาปคนให้ทุกข์ยาก เรียกซาตานจะดีกว่าไหม
“ขืนยังกลัวอยู่แบบนี้ ไอ้แต๋มไม่รอดมือไอ้เข้มแน่”
จริงอย่างพี่ศรว่า โอเมก้ากี่คนแล้วที่ถูกไอ้เข้มข่มเหงรังแกแล้วต้องหนีออกจากร้านไป งานสำหรับโอเมก้าก็หายากเหลือเกิน เดือนๆ นึงเสียเวลากับการฮีทไปสามวันเจ็ดวัน ใครเขาจะอยากจ้างให้ทำงานด้วย ความสำเร็จในชีวิตโอเมก้ายากจนส่วนใหญ่จึงมีอยู่แค่สองทางเลือก
หนึ่งแต่งงานกับอัลฟ่าหรือเบต้าที่รักใคร่และดูแลกันไปจนชั่วชีวิต สองคือถีบตัวเองขึ้นมาด้วยสองลำแข้งเพียวๆ ซึ่งอย่างหลังมีอัตราเกิดขึ้นหนึ่งในร้อยของทางแรก
เพราะเป็นเบต้าตัวเล็กผอมแห้งที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโอเมก้าอยู่เรื่อย อ้ายถึงได้เห็นอกเห็นใจและพยายามรับรู้ความยากลำบากในการใช้ชีวิตของโอเมก้ารอบตัว
“เอาละ กินยาแก้ปวดแล้วก็รีบนอน ขืนลุกมาทำงานบ่ายนี้ไม่ไหว มึงนั่นแหละจะเดือดร้อนแทนไอ้แต๋ม จำใส่หัวไว้ก็ดี เอ็นดูเขาเอ็นเราจะขาด” เบต้าชายรุ่นพี่บอกทิ้งท้ายก่อนออกจากห้องเขาไป
เขาไม่ได้เอ็นดูอะไรแต๋มในทางนั้นเลยสักนิด ที่ทำไปเรียกว่าน้ำใจกับเพื่อนร่วมโลกล้วนๆ หลังจากวันนั้น สังเกตว่าแต๋มมันกลัวไอ้พี่เข้มหัวหดยิ่งกว่าเก่า ไอ้หมอนั่นก็ย่ามใจยิ่งแกล้งมันหนักขึ้นจนร้องห่มร้องไห้ก็หลายหน
“เราไม่อยากทำงานที่นี่แล้วแหละ”
“แต๋มหางานใหม่ได้แล้วเหรอ หรือจะกลับบ้านนอกไปอยู่กับแม่”
แต๋มส่ายหน้า “เราไม่อยากเป็นเมียพี่เข้ม เราไม่ชอบพี่เข้ม ไม่อยากโดนพี่เข้มแกล้งทุกวันแบบนี้ด้วย อ้ายช่วยเราหน่อยได้มั้ย”
“ถ้าจะให้ดักตีหัวไอ้พี่เข้ม อ้ายทำไม่ได้นะ อ้ายไม่ไหวจริงๆ” ไม่อยากหาเรื่องเจ็บตัวอีกแล้ว เขามันก็แค่เบต้าขี้ก้างคนหนึ่งเท่านั้น
“อ้ายมาเป็นแฟนแต๋มได้มั้ย”
“ฮะ...” อ้ายเหวอแดก “แต๋มชอบอ้ายหรือแค่อยากให้อ้ายเป็นไม้กันหมาบ้าชื่อไอ้พี่เข้มอะ”
นี่ถามจริงจังนะเว้ย
“ก็....ก็ไม่มีใครอยากจะช่วยแต๋มเลยนี่นา” เพื่อนโอเมก้าของเขาหน้าเศร้า
เฮ้อ...อ้ายรู้สึกมึนตึ๊บ ห่วงก็ห่วงเพื่อนหรอกนะ แต่ตัวเขาก็ใช่จะรอดจากมือตีนไอ้พี่เข้มได้ ทำงานร้านหมูกระทะเจ๊เนียง ต่างก็รู้แหละว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่ครัวใหญ่น่ะ ไม่มีใครกล้าหือ
เขาอยากช่วยแต๋มในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ฐานะแฟน ก็เลยไปบอกเจ๊เนียงให้แต๋มย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับเขาแทนเพื่อนร่วมห้องที่จู่ๆ ก็หายหัวไม่มาทำงานร่วมอาทิตย์ จนเจ๊เนียงออกปากไล่ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก
แล้วก็ถึงวันที่อ้ายกล้าหือกับไอ้พี่เข้มอีกหนเพราะลูกแม่ครัวใหญ่โมโหให้แต๋มหนักถึงขั้นเอาเตาร้อนๆ ขว้างใส่
และวันนั้นเองโอเมก้าแต๋มก็พบรักกับอัลฟ่าลูกค้าร้านหมูกระทะ ที่บังเอิญมาเข้าห้องน้ำและเห็นเหตุการณ์หลังร้านพอดิบพอดี ผู้ชายคนนั้นช่วยและพาแต๋มขึ้นรถไปด้วยกัน ทิ้งไว้แค่เขาที่หลังจากนั้นก็ถูกไอ้พี่เข้มทุบด้วยกำปั้น เด็กในร้านสมน้ำหน้า และสุดท้ายถูกแม่ไอ้พี่เข้มใส่ไฟกับเจ๊เนียง เขาถูกไล่ออกด้วยข้อหาเป็นตัวสร้างปัญหาทำให้องค์กรร้านหมูกระทะไม่สามัคคีกัน
เหี้ยไรวะเนี่ย!
ช่วยเพื่อนกลายเป็นความเสือก พาชีวิตตัวเองซวย!
สาบานให้ตายเถอะ ต่อไปนี้เขาจะลดความเสือกของตัวเองให้น้อยลง ใครจะเป็นจะตายไงก็ช่าง คนเราอยู่รอดได้ด้วยความเห็นแก่ตัวเท่านั้น...จริงไหม
แต๋มนะแต๋ม ทำกันได้
อ้ายเก็บเสื้อผ้าไม่กี่ชุดที่มีใส่กระเป๋า ได้เงินค่าแรงคงค้างเกือบๆ สองพันบวกกับเงินพี่ศรยัดใส่มือให้อีกห้าร้อย ตลอดชีวิตของการเป็นเด็กมีบ้าน จนต้องเป็นเด็กกำพร้า เขาเรียนรู้ที่จะเป็นเด็กดี สุภาพ หัวอ่อนและเชื่อฟัง หวังจะทำให้ผู้ใหญ่รักเอ็นดู สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเมตตาเกื้อหนุน แต่ขอเถอะ เจอแบบนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว
อ้ายเงยหน้าขึ้นฟ้า ชูนิ้วกลางให้เทวดาสักองค์บนนั้นรับไป แล้วตะโกนว่า...-วย
“ฉะ...ฉันไม่พร้อม” บอกว่าไม่พร้อม ผลลัพธ์คงจะดีกว่าคำว่า ‘ไม่ยอม’ ล่ะมัง “ไม่พร้อมก็ไม่พร้อม แต่คืนนี้พี่จะค้างกับออม” นอนด้วยกันน่ะนะ...หล่อนไม่คิดว่าเขาจะแค่นอนเฉยๆ แน่! “กลับห้องของคุณไปเถอะ ฉันขอร้อง” “ออมคิดจะทำอะไร” เขาคาดคั้นถาม สายตาที่ใช้มองเธอนั้นจ้องเขม็ง “คิดจะหนีไปจากพี่งั้นสิ นัดใครไว้ที่ไหนหรือมันจะมาหาออมที่นี่” “ฉันไม่ได้นัดใครทั้งนั้น ออกไปเลยนะออกไป” หล่อนทำท่าจะพุ่งเข้ามาผลักเขาอยู่รอมร่อ “ฉันๆๆ พี่รู้สึกไม่คุ้น ฟังไม่รื่นหู ไม่อยากจะอ้อนพี่แล้วสิ ก็ไหนแต่ก่อนชอบพูดนัก ออมอย่างนั้น ออมอย่างนี้” เขายวนหล่อนเล่นเมื่อเห็นหล่อนโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “ไม่คุ้นก็เรื่องของคุณ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก” ศิดิตถ์ส่ายหน้า “ไม่ยุ่งไม่ได้ ผัวเมียกันจะไม่ให้ยุ่งกันก็คงแปลก”
เพราะสัมพันธ์สวาทจากแผนลวง เขาผู้ไร้ซึ่งความรัก จึงเกลียดชังในสิ่งที่เธอไม่ได้ก่อ ตราหน้าด่าทอดั่งหญิงแพศยาไร้ค่า เธอจำสั่งหัวใจให้ด้านชา เพียงฝืนทนอยู่ทดแทนคุณ
ถานเจ๋อบอกว่าฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเขาจะไปเฟิงโจว เฉวียนโจวและถายโจว “เฟิงโจว...” ชายหนุ่มพยักหน้า “ข้าจะไปดูเฉิงหยางปิงเสียหน่อย” สือจิ่วมือกำลังพับผ้า สายตามองอาจื้อที่นั่งเล่นกลองป๋องแป๋งอยู่บนตักอาเจ๋อ “ดูเฉยๆ นะ อย่าเข้าไปยุ่งกับเขา” “กลัวเขาจะทำอะไรข้างั้นรึ เขาไม่รู้จักข้านะ” “ไม่รู้แหละ ถ้าเขาไม่มายุ่งกับเราก่อน ก็ห่างๆ เขาไว้ ข้าไม่อยากให้เจ้าไปดึงดูดเขากลับมาวุ่นวายกับอาจื้ออีก อาจื้อเป็นลูกของข้า” “เป็นลูกข้าด้วย” ถานเจ๋อย้ำ สือจิ่วเห็นถึงความแน่วแน่ในดวงตาคู่นั้น “ตราบใดที่ข้ายังเป็นพระเอกในนิยายเรื่องนี้ ตัวร้ายจะทำอะไรข้าได้” “จัว...ย้าย” เสียงเล็กพูดขึ้นมา คนเป็นพ่อมันเขี้ยวจึงบีบแก้มเด้งของเด็กชายพร้อมทำเสียงดึ๋งๆ ไปด้วย มีเสียงฟึดฟัดของเจ้าอ้วนให้ได้ยิน มือเล็กฟาดกลองป๋องแป๋งใส่เข่าอาเจ๋อไปหนึ่งหน สือจิ่วค้อนพระเอกคนเก่งกับความขี้โอ่ของเขา “ก็ไหนเจ้าบอกว่าพระเอกชื่อจ้าวต่งหมิง” ถานเจ๋อวางอาจื้อบนเตียง มีเขานั่งกั้นไม่ให้ลูกตก ชายหนุ่มยกนิ้วขึ้นนับ “ตอนนี้จ้าวต่งหมิงคงอายุหกขวบเองมั้ง ถ้าเขาเป็นพระเอก เจ้าอ้วนก็ต้องเป็นตัวร้าย มิสู้ข้าแย่งตำแหน่งพระเอกมา ให้เฉิงหยางปิงเป็นตัวร้ายไปเลยยังดีกว่า ส่วนเจ้าก็เป็นนางเอก...ดีไหม”
เมื่อชีวิตและความสาวถูกตีราคาเพียงห้าแสนบาท เดือนอ้ายที่ถูกบังคับขายตัวจึงยอมตกเป็นทาสสวาท มอบความรักและหัวใจให้ผู้เป็นเจ้าของชีวิตเธอ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะตอบแทนเธอกลับ ด้วยความรักไม่ใช่เพียงความใคร่ แต่ถึงแม้เธอจะรักและทำทุกอย่างเพื่อเขามากแค่ไหน ในหัวใจของจักรพัฒน์ เดือนอ้ายก็เป็นได้เพียงนางบำเรอที่หน้าตาคล้ายคนรักเก่า สำหรับเขา เธอเป็นได้แค่เงาของแพรพราว ไม่ใช่วุ้นหรือเดือนอ้ายที่เขารัก
นางหาใช่คณิกา เพราะความเข้าใจผิดจึงเกิดสัมพันธ์สวาทคืนเดียว ก่อกำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขที่คุณชายเช่นเขาไม่เคยรู้ว่ามี ****** นางบังเอิญพบเขาบนถนนระหว่างพาเสี่ยวอวี๋ออกไปข้างนอก บังเอิญพบเขานั่งในร้านใกล้กับแผงขายขนมของนาง บังเอิญที่เขาอยากไปนั่งดูเด็กๆ เล่นกันที่ตลาด บังเอิญมีคนสั่งขนมแป้งทอดของนางตะกร้าใหญ่ และคนที่มารับก็คือเขา บังเอิญกับผีน่ะสิ! ‘ท่านลุงหลางใจดี’ ‘เสี่ยวอวี๋ชอบท่านลุงหลาง’ ‘ท่านลุงหลางบอกจะพาไปเที่ยว’ ‘ท่านลุงหลางบอกว่ารักเสี่ยวอวี๋’
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่