‘มึงคิดว่ากูจะทำอะไรมึงเหรอไอ้แต๋ม’ เบต้าร่างใหญ่ นิสัยเกเร ขู่ถามโอเมก้าตัวเล็กที่ตอนนั้นกำลังหงอสั่นยืนอยู่ข้างเขา
‘ผะ...ผมตกใจ’ แต๋มบอกว่าตกใจ แล้วหันมาสบตาเขา จากนั้นก็วิ่งตื๋อกลับไปทางห้องพักของตัวเอง
อ้าว...ถึงตอนนั้นเพิ่งรู้ตัวว่าโดนตีนฟรีๆ เพื่อนแต๋มก็หนีเข้าห้องปิดประตูไม่ถงไม่ถามสุขภาพเขาสักคำ
“เล่นกับใครไม่เล่น ไปเล่นกับไอ้เข้ม แม่งกร่าง ดุเหี้ยๆ ยิ่งกว่าหมาบ้านป้าจิต”
อ้ายหัวเราะพรืด คนแถวนี้เขารู้กันทั่วแหละว่าหมาบ้านป้าจิตซอยสิบน่ะดุแค่ไหน
“อ้ายไม่ได้อยากเล่นกับไอ้พี่เข้ม แค่อยากจะช่วยเพื่อน”
“แล้วมันก็ปล่อยให้เอ็งโดนตีนเนี่ยนะ พวกโอเมก้าขี้ขลาด”
“ไม่เอาน่าพี่ศร แต๋มมันก็คงกลัว น่าสงสารมันออก”
ในสังคมนี้เกิดเป็นโอเมก้าน่ะน่าเห็นใจที่สุดแล้ว โอเมก้าหญิงชีวิตปรกติไม่ต่างจากเบต้าหญิงเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นโอเมก้าชาย คุณจะถูกกดเป็นพลเมืองต่ำชั้นใต้ตีนเบต้าอีกที โอเมก้าชายส่วนใหญ่ร่างกายผอมบาง แรงน้อย สูงอย่างมากก็แค่ร้อยเจ็ดสิบ พร้อมจะถูกอัลฟ่าหรือเบต้ารังแกแล้วตอบโต้ไม่ได้ทุกเมื่อ ยิ่งช่วงฮีทพวกอัลฟ่าและเบต้าชายมากเลยแหละที่เหยียดด่าโอเมก้าชายไม่ต่างจากหมาติดสัด ใช้ฟีโรโมนล่อลวงอัลฟ่าเพื่อจะสมสู่ด้วยเท่านั้น อาจมีโอเมก้าได้อัลฟ่าเลี้ยงดูถึงขั้นแต่งงานกันหลังจากนั้น แต่ก็แค่หนึ่งในสาม ยังมีโอเมก้าชายถูกทิ้งและตกเป็นเหยื่อของการถูกย่ำยีอีกมากในสังคมที่หน่วยงานภาครัฐพร่ำบอกเราด้วยการอัดโฆษณาตามสื่อต่างๆ ว่าทุกคนเท่าเทียม
โธ่...แค่ยาฉีดระงับฮีทรายสามเดือนยังมีราคาที่ต้องจ่าย ที่ฉีดให้ฟรีในโรงพยาบาลรัฐก็แค่ถึงอายุยี่สิบ รัฐเขาว่าประชาชนโตเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องรู้จักรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง ยานั่นไหนเลยจะประสิทธิภาพดีเท่ากับยาที่ โอเมก้าในสังคมคนมีเงินเขาใช้กัน มากสุดก็พึ่งได้แค่ยาเม็ดรายเดือน เรื่องปลอกคอก็ด้วย โอเมก้ารายได้น้อยที่ไหนจะมีเงินซื้อปลอกคอป้องกันการถูกสร้างพันธะมาใส่ คุณเคยเห็นคนจนมีทองใส่ไหมล่ะ มันก็ไม่ต่างกันนักหรอก
เขาว่ากันว่าเกิดเป็นคนนั้นมีบุญกว่าสัตว์ แต่เกิดเป็นโอเมก้าชาย(ยากจน)นั้นเป็นคำสาปของพระเจ้า
อืม...พระเจ้าที่ไหนวะ สาปคนให้ทุกข์ยาก เรียกซาตานจะดีกว่าไหม
“ขืนยังกลัวอยู่แบบนี้ ไอ้แต๋มไม่รอดมือไอ้เข้มแน่”
จริงอย่างพี่ศรว่า โอเมก้ากี่คนแล้วที่ถูกไอ้เข้มข่มเหงรังแกแล้วต้องหนีออกจากร้านไป งานสำหรับโอเมก้าก็หายากเหลือเกิน เดือนๆ นึงเสียเวลากับการฮีทไปสามวันเจ็ดวัน ใครเขาจะอยากจ้างให้ทำงานด้วย ความสำเร็จในชีวิตโอเมก้ายากจนส่วนใหญ่จึงมีอยู่แค่สองทางเลือก
หนึ่งแต่งงานกับอัลฟ่าหรือเบต้าที่รักใคร่และดูแลกันไปจนชั่วชีวิต สองคือถีบตัวเองขึ้นมาด้วยสองลำแข้งเพียวๆ ซึ่งอย่างหลังมีอัตราเกิดขึ้นหนึ่งในร้อยของทางแรก
เพราะเป็นเบต้าตัวเล็กผอมแห้งที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโอเมก้าอยู่เรื่อย อ้ายถึงได้เห็นอกเห็นใจและพยายามรับรู้ความยากลำบากในการใช้ชีวิตของโอเมก้ารอบตัว
“เอาละ กินยาแก้ปวดแล้วก็รีบนอน ขืนลุกมาทำงานบ่ายนี้ไม่ไหว มึงนั่นแหละจะเดือดร้อนแทนไอ้แต๋ม จำใส่หัวไว้ก็ดี เอ็นดูเขาเอ็นเราจะขาด” เบต้าชายรุ่นพี่บอกทิ้งท้ายก่อนออกจากห้องเขาไป
เขาไม่ได้เอ็นดูอะไรแต๋มในทางนั้นเลยสักนิด ที่ทำไปเรียกว่าน้ำใจกับเพื่อนร่วมโลกล้วนๆ หลังจากวันนั้น สังเกตว่าแต๋มมันกลัวไอ้พี่เข้มหัวหดยิ่งกว่าเก่า ไอ้หมอนั่นก็ย่ามใจยิ่งแกล้งมันหนักขึ้นจนร้องห่มร้องไห้ก็หลายหน
“เราไม่อยากทำงานที่นี่แล้วแหละ”
“แต๋มหางานใหม่ได้แล้วเหรอ หรือจะกลับบ้านนอกไปอยู่กับแม่”
แต๋มส่ายหน้า “เราไม่อยากเป็นเมียพี่เข้ม เราไม่ชอบพี่เข้ม ไม่อยากโดนพี่เข้มแกล้งทุกวันแบบนี้ด้วย อ้ายช่วยเราหน่อยได้มั้ย”
“ถ้าจะให้ดักตีหัวไอ้พี่เข้ม อ้ายทำไม่ได้นะ อ้ายไม่ไหวจริงๆ” ไม่อยากหาเรื่องเจ็บตัวอีกแล้ว เขามันก็แค่เบต้าขี้ก้างคนหนึ่งเท่านั้น
“อ้ายมาเป็นแฟนแต๋มได้มั้ย”
“ฮะ...” อ้ายเหวอแดก “แต๋มชอบอ้ายหรือแค่อยากให้อ้ายเป็นไม้กันหมาบ้าชื่อไอ้พี่เข้มอะ”
นี่ถามจริงจังนะเว้ย
“ก็....ก็ไม่มีใครอยากจะช่วยแต๋มเลยนี่นา” เพื่อนโอเมก้าของเขาหน้าเศร้า
เฮ้อ...อ้ายรู้สึกมึนตึ๊บ ห่วงก็ห่วงเพื่อนหรอกนะ แต่ตัวเขาก็ใช่จะรอดจากมือตีนไอ้พี่เข้มได้ ทำงานร้านหมูกระทะเจ๊เนียง ต่างก็รู้แหละว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่ครัวใหญ่น่ะ ไม่มีใครกล้าหือ
เขาอยากช่วยแต๋มในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ฐานะแฟน ก็เลยไปบอกเจ๊เนียงให้แต๋มย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับเขาแทนเพื่อนร่วมห้องที่จู่ๆ ก็หายหัวไม่มาทำงานร่วมอาทิตย์ จนเจ๊เนียงออกปากไล่ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก
แล้วก็ถึงวันที่อ้ายกล้าหือกับไอ้พี่เข้มอีกหนเพราะลูกแม่ครัวใหญ่โมโหให้แต๋มหนักถึงขั้นเอาเตาร้อนๆ ขว้างใส่
และวันนั้นเองโอเมก้าแต๋มก็พบรักกับอัลฟ่าลูกค้าร้านหมูกระทะ ที่บังเอิญมาเข้าห้องน้ำและเห็นเหตุการณ์หลังร้านพอดิบพอดี ผู้ชายคนนั้นช่วยและพาแต๋มขึ้นรถไปด้วยกัน ทิ้งไว้แค่เขาที่หลังจากนั้นก็ถูกไอ้พี่เข้มทุบด้วยกำปั้น เด็กในร้านสมน้ำหน้า และสุดท้ายถูกแม่ไอ้พี่เข้มใส่ไฟกับเจ๊เนียง เขาถูกไล่ออกด้วยข้อหาเป็นตัวสร้างปัญหาทำให้องค์กรร้านหมูกระทะไม่สามัคคีกัน
เหี้ยไรวะเนี่ย!
ช่วยเพื่อนกลายเป็นความเสือก พาชีวิตตัวเองซวย!
สาบานให้ตายเถอะ ต่อไปนี้เขาจะลดความเสือกของตัวเองให้น้อยลง ใครจะเป็นจะตายไงก็ช่าง คนเราอยู่รอดได้ด้วยความเห็นแก่ตัวเท่านั้น...จริงไหม
แต๋มนะแต๋ม ทำกันได้
อ้ายเก็บเสื้อผ้าไม่กี่ชุดที่มีใส่กระเป๋า ได้เงินค่าแรงคงค้างเกือบๆ สองพันบวกกับเงินพี่ศรยัดใส่มือให้อีกห้าร้อย ตลอดชีวิตของการเป็นเด็กมีบ้าน จนต้องเป็นเด็กกำพร้า เขาเรียนรู้ที่จะเป็นเด็กดี สุภาพ หัวอ่อนและเชื่อฟัง หวังจะทำให้ผู้ใหญ่รักเอ็นดู สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะเมตตาเกื้อหนุน แต่ขอเถอะ เจอแบบนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว
อ้ายเงยหน้าขึ้นฟ้า ชูนิ้วกลางให้เทวดาสักองค์บนนั้นรับไป แล้วตะโกนว่า...-วย