ตัวตนแท้จริงของหล่อนสลายเป็นเถ้าไปแล้วเพราะญาติที่ต่างจังหวัดมารับร่างไร้ลมหายใจพร้อมเงินชดเชยก้อนโตจากอุบัติเหตุไม่คาดฝัน จบชีวิตเด็กกำพร้าที่เคยแต่เป็นกาฝากของเหล่าญาติทั้งทางฝั่งพ่อกับแม่
‘หลานสาวตายทั้งคน ลุงป้าน้าอาแย่งกันรุมทึ้งค่าทำขวัญอย่างกับแร้งลง’
คือคำค่อนขอดจากปากผู้หญิงสูงวัยคนหนึ่งที่หล่อนพบและรับรู้ว่าเธอคือคุณป้าของ ‘น้องออม หรือ อันริมา’ เจ้าของร่างสะโอดสะองที่ยามนี้มีวิญญาณของหญิงสาวอายุสามสิบสิงสู่อยู่
สรุปแล้วหล่อนลัดขั้นตอนการเกิดใหม่หรือว่าหล่อนเป็นผีวิญญาณแย่งชิงการมีชีวิตอยู่ของคนอื่นกันแน่...หญิงสาวพยายามทำความเข้าใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ฟื้นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาลเอกชนแล้วพบว่าญาติพี่น้องที่รายล้อมล้วนเป็นคนไม่เคยพบหน้าคร่าตากันมาก่อน สักครั้งสักหนก็ไม่เคย
‘หรือสมองยัยออมจะกระทบกระเทือน’ ป้าชะเอมญาติผู้ใหญ่ของอันริมาลงความเห็นก่อนจะสะอื้นฮักเป็นวรรคเป็นเวร ร้อนถึงพี่ชายของน้องออมที่ชื่ออาร์มต้องเข้ามาปลอบ
‘ยัยออมเพิ่งฟื้นนะครับป้าเอม ให้เวลายัยออมอีกหน่อยจะดีกว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่เบาๆ มีคนตายตั้งสองคน’
‘ใครตาย...’ หล่อนได้ยินเสียงไม่คุ้นหูถามออกไป เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากที่ยังบวมแตกเพราะแรงกระแทกจากอุบัติเหตุ
‘เอ่อ...’ หญิงสูงวัยทำท่าทางอึกอัก หันไปสบตากับหลานชาย แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ก็มีชายหญิงคู่หนึ่งควงแขนกันเข้ามาในห้อง หลังจากพบหน้ากันในครั้งที่สอง หล่อนก็จำได้ว่าทั้งคู่คือบิดาและมารดาเลี้ยงของอันริมา
‘ไม้กับผู้หญิงที่เขาขับรถชนตายไงล่ะ เธอชื่อจันทร์ๆ อะไรสักอย่าง’ คำพูดและท่าทีเมื่อเอ่ยชื่อหญิงเคราะห์ร้ายรายนั้นราวกับเอ่ยถึงมดปลวกไร้ค่าที่เป็นการเสียเวลาแม้จะจดจำ
‘ไม่พูดสักคำหล่อนจะตายมั้ย’ ป้าชะเอมตวาดแว้ด ด้วยเข้าใจไปเองว่าการตายของคนชื่อไม้กำลังทำให้หลานสาวของตนเสียขวัญ
‘จันทร์เมษา...’ เจ้าของชื่อครางเสียงแผ่วเบา ไม่สนใจว่าขณะนั้นสตรีต่างวัยสองคนกำลังเริ่มต่อปากคำกันไปมา
จันทร์เมษาจำได้เพียงว่าหลังจากนั้นหล่อนกรีดร้องอย่างเสียขวัญ และพยายามจะลงจากเตียง หล่อนจึงถูกบิดาและพี่ชายเจ้าของร่างรวบตัวไว้ ไม่นานนักก็มีพยาบาลกรูกันเข้ามาในห้อง หลังจากถูกให้ยาเพิ่ม สติการรับรู้ของหล่อนก็ดับวูบไปอีกหน
ทุกครั้งที่รู้สึกตัว หล่อนจะร้องขอกระจก และก็พบความจริงว่าตัวเองไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เพราะอยู่ตัวคนเดียวมานานหลายปีตั้งแต่ ‘ถูกไล่’ ออกจากบ้านที่ต่างจังหวัด การเปลี่ยนแปลงที่มาอย่างปัจจุบันทันด่วนทำให้หล่อนเก็บงำอารมณ์ ไม่ตีโพย ตีพาย และพยายามควบคุมสติให้รู้เท่าทันเหตุการณ์ปัจจุบันเพื่อจะหาคำตอบให้ได้ว่า เหตุใดตนเองถึงได้มาอยู่ในร่างของผู้หญิงคนนี้
ทุกๆ วันในโรงพยาบาล หล่อนจะค่อยๆ ซึมซับเรื่องราวจากปากป้าชะเอมและญาติๆ ที่มาเยี่ยม จึงได้รู้ว่าเพื่อนผู้ชายของ อันริมาเป็นคนขับรถยนต์คันที่พุ่งชนหล่อนขณะเดินร้องไห้อยู่ริมถนน
ใช่...ตอนนั้นหล่อนกำลังร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก ก่อนจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง แล้วสติก็ดับวูบ กระทั่งความเจ็บปวดค่อยทวีขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยาระหว่างพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลในสามสี่วันแรก
“คุณออม...คุณออมคะ” เสียงของสาวใช้ชื่อมดเรียกสติของจันทร์เมษาให้คืนกลับมา
“เอ่อ...มีอะไรหรือจ๊ะ...มด” หญิงสาวพยายามจดจำรายละเอียดและผู้คนที่เกี่ยวข้องกับอันริมาไว้จนขึ้นใจ เพราะข้ออ้างเรื่องสมองกระทบกระเทือนหลังอุบัติเหตุถ้าถูกหยิบยกมาใช้บ่อยเกินไปก็อาจจะดูมีพิรุธได้
มดมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่คุณหนูขี้เหวี่ยงขี้วีนพูดจ๊ะจ๋ากับหล่อน ผิดกับแต่ก่อนที่ชอบกระชากเสียงใส่ เรียกจิกหัวว่านังมด ไม่ก็อีมด
“คุณออมจะลงไปกินข้าวกลางวันข้างล่างหรือให้มดยกมาข้างบนคะ”
จันทร์เมษานิ่งครู่หนึ่งแล้วบอก “ยกข้าวต้มหรือโจ๊กถ้วยนึงมาให้ฉันข้างบนก็พอ”
หล่อนอยากอยู่เงียบๆ ใช้เวลาคิดและวางแผนการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้ท่ามกลางผู้คนแปลกหน้า
รับคำสั่งแล้ว มดก็เดินออกจากห้องไป หญิงสาวเจ้าของห้องคนใหม่เริ่มเดินสำรวจห้องนอนที่ใหญ่เป็นสองเท่าของห้องเช่าในอดีตที่มีห้องน้ำ มุมวางที่นอน มุมทำอาหารเล็กๆ และมุมตากผ้ารีดผ้าในตัวเสร็จสรรพ
หลังบานตู้เสือผ้ากรุกระจกตลอดแนวสูงจรดเพดานมีเสื้อผ้าสำหรับใส่ทุกฤดูและหลากสีสันอัดแน่นอยู่เต็มตู้ บนโต๊ะกระจกเครื่องแป้งก็ไม่ต่างกัน เครื่องสำอางที่วางอยู่บนนั้นล้วนแต่เป็นแบรนด์ดังราคาสูงลิ่ว และหล่อนในอดีตก็ไม่เคยคิดจะเฉียดกายเข้าใกล้ของฟุ่มเฟือยเหล่านี้ด้วยว่าเงินเดือนพนักงานบริษัทจะใช้แต่ละวันช่างกระเบียดกระเสียรเต็มที
จันทร์เมษาหมดแรงกับความเหลื่อมล้ำที่พบเจอแบบกะทันหัน หญิงสาวไม่ได้เดินเข้าไปสำรวจภายในห้องน้ำ หล่อนทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง มันคือเตียงสี่เสาสุดหรูที่หล่อนเคยเห็นตาม โชว์รูมขายเฟอร์นิเจอร์ ละครหลังข่าวและหน้านิตยสาร
รสนิยมของเจ้าของห้องเดิมกับหล่อนดูผิดกันลิบลับ หล่อนที่เป็นยาจกวิญญาณกลับเข้ามาอยู่ในร่างลูกสาวเศรษฐีคนหนึ่ง
ไม่ยุติธรรมทั้งกับตัวหล่อนและเจ้าของร่างเดิม แต่หล่อนจะทำอย่างไรได้ พูดออกไปคนเขาจะหาว่าบ้า หากร่ำร้องอยากไปพบพระพบคนทรงเจ้า เพื่อให้พวกเขาช่วยคลี่คลายเรื่องประหลาดนี้คนอื่นก็จะหาว่างมงาย อีกทั้งแต่ก่อนแต่ไรตัวหล่อนก็ไม่เคยเชื่อถือคนจำพวกนั้น ด้วยคิดว่าเป็นคนต้มตุ๋นหลอกลวง หล่อนเชื่อแต่เพียงว่าทำดีต้องได้ดี
วิญญาณหล่อนอยู่ในร่างนี้ แล้วหญิงสาวที่ชื่ออันริมาล่ะ น้องออมตายวิญญาณแตกดับไปแล้วหรือเป็นผีเร่ร่อนรอวันช่วงชิงร่างของเธอคืน
ยิ่งคิด จันทร์เมษายิ่งปวดหัวจี๊ด หล่อนจะสามารถใช้ชีวิตในร่างคนอื่นได้อย่างไรไม่ให้รู้สึกผิด
หล่อนยังไม่อยากตายไปกับอุบัติเหตุที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ แต่การมีชีวิตในร่างของคนอื่น การต้องแสดงเป็นคนอื่นนับจากวันนี้ไปหล่อนก็ไม่ปรารถนามันเลยสักนิด!