เดิมชื่อ พ่ายเล่ห์ซาตานจอมหึงหวง สำนักพิมพ์อินเลิฟ นะคะ
เดิมชื่อ พ่ายเล่ห์ซาตานจอมหึงหวง สำนักพิมพ์อินเลิฟ นะคะ
แนะนำเรื่อง.....
ฟรานซิส เลย์เซล
ชื่อของเขาแปลได้อีกชื่อคือ Black Demon
ชายผู้โหยหาความรักแต่กระนั้นกลับรังเกียจความรัก
เป็นเวลาสามปีแล้วที่ ‘ดาริน’ ต้องทนเป็นช่างภาพประจำบริษัทสื่อมัลติมีเดียยักษ์ใหญ่
ของ ‘ฟรานซิส เลย์เซล’ เฝ้ารอว่าสักวันเจ้านายสุดเซ็กซี่ของเธอจะหันมาสนใจและมองเธอในฐานะผู้หญิงเสียที แทนที่จะเห็นเป็นสาวห้าวไร้เสน่ห์อย่างที่เป็นอยู่
แต่การแปลงโฉมธรรมดาๆ คงไม่สามารถลบภาพเดิมๆ ของเธอในสายตาของเขาได้แน่ๆ มันจึงถึงเวลาแล้วที่ดารินจะต้องปฏิวัติตัวเองและเปลี่ยนวิธีที่จะพิชิตหัวใจเจ้านายของเธอ ถึงแม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เธอได้รับบทเรียนจากเขาอย่างเร่าร้อนที่สุดก็ตาม
ขณะที่ฟรานซิสได้แต่ยืนมองการเปลี่ยนแปลงอันน่าตกตะลึงของลูกน้องสาว แต่ในความเป็นจริง
เขาอยากจะตรงเข้าไปกระชากชุดของเธอออก แล้วลบเครื่องสำอางบนใบหน้านั้นทิ้ง เพราะชอบในสิ่งที่เ ธอเป็นมากกว่า แต่ทันทีที่เห็นหญิงสาวยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน ความตั้งใจแรกของมหาเศรษฐีเพลย์บอยก็สั่นคลอน แล้วตัดสินใจกระโจนลงไปเล่นเกมกับเธอทันที เพื่อสอนให้รู้ว่าในโลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่
ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายล่าหัวใจใคร ระหว่างเขากับเธอ
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาเท้าแขน กักขังร่างบอบบางไว้ในวงล้อมมัดกล้าม
“สาวน้อย... ผมเคยสอนอะไรไว้ทำไมไม่เคยจำ”
............................................................
เรื่อง อ้อนรักเจ้านาย เป็นหนึ่งในซีรีย์ Like a boss นะคะ พระเอกของสามเรื่องจะรู้จักกันค่ะ ^^ ทุกเรื่องมีอีบุ๊คขายที่เว็บ MEB ฝากติดตามด้วยน้าาา
............................................................
ลอสแอนเจลิส, รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
“โอย... อยากมีแฟน”
ดารินตะโกนดังลั่นออฟฟิศพร้อมทั้งโยนแฟ้มงานกระจุยกระจาย จากนั้นเสียงโห่จากเพื่อนร่วมงานก็ตามมาเป็นเกรียว ที่นี่คือเลย์เซลครีเอชั่น บริษัทมัลติมีเดียยักษ์ใหญ่ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลก เป็นผู้นำในธุรกิจบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ และหนึ่งเดียวที่ครบวงจรให้บริการครอบคลุมทั้งธุรกิจเพลง ธุรกิจสื่อ ธุรกิจภาพยนตร์ ธุรกิจบรอดแคสติ้ง รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องยาวเป็นหางว่าว ส่วนเธอเป็นช่างภาพต๊อกต๋อยอยู่ในหลืบออฟฟิศ มีฉากกั้นรายล้อมสี่ด้านเป็นอาณาจักรเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยรูปถ่ายกับตารางงานแปะติดเต็มไปหมด
“อยากแต่งงาน!”
“งานการไม่ทำ บ่นแบบนี้มาตั้งสามปีแล้ว ไม่เบื่อบ้างรึไงยะ”
ลูคัส หัวหน้าแผนกผู้ซึ่งยืนยันหนักแน่นว่าตนเองชื่อลูซี่ ไม่ใช่ลูคัส หล่อนเดินอาดๆ มาจิ้มหน้าผากดารินรัวๆ จับเธอไปยืนหน้ากระจกเพื่อสับเสื้อผ้าหน้าผมของเธอเสียเละตุ้มเปะไม่มีชิ้นดี “ชะนีอยากมีซัมติง แต่ดูสภาพของตัวเองหน่อยสิคะ ใส่แต่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ หน้าตาก็ไม่แต่ง เผ้าผมฟูชี้โด่เด่ไม่พอแถมยังไม่รู้จักเอาใจผู้ชาย ชีวิตนี้มีแต่กล้องกับแมว ชาตินี้คงจะหาแฟนได้หรอกนะ”
ดารินสะอื้น เถียงไม่ออก ปล่อยให้เพื่อนช่วยสางผมให้พอดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้าง
“ฮือๆ ลูซี่ไม่แปลกใจบ้างเหรอคะว่าแผนกเรามีแต่ผู้หญิง เกย์ กะเทยไม่ก็พวกลุงลงพุง แล้วแบบนี้รินก็ไม่รู้จะแต่งตัวไปทำไมนี่”
“นั่นมันข้ออ้างของพวกชะนีขี้เกียจ แล้วนี่อะไร?” หัวหน้าหยิบกระปุกออมสินรูปหัวใจที่วางบนโต๊ะขึ้นดู มันเขียนโนตแปะไว้เด่นๆ ว่า ‘สมทบทุนงานแต่งของรินริน’ เมื่อลองเขย่าดูก็มีเศษเหรียญดังก๊องแก๊งๆ “โอยตายแล้วแม่คุณทูนหัว ช่างน่าเวทนา นี่หล่อนอยากแต่งงานขนาดนี้เชียว”
“เตรียมตัวไว้ก็ไม่เสียหายนี่นา อย่างน้อยได้ค่าเช่าชุดเจ้าสาวก็ยังดี” ดารินจะคว้าคืนแต่ตุ๊ดโหดก็ปล่อยก๊ากแบบไม่เกรงใจกัน ลูคัสหัวเราะน้ำตาไหล ยัดเงินใส่ไปร้อยเหรียญก่อนจะโยนกระปุกใบนี้ส่งต่อๆ กันเวียนรอบแผนก เมื่อกระปุกเวียนกลับมาก็มีเงินอัดแน่นจนล้น เวลาจะเผาเธอ ทุกคนในแผนกจะสามัคคีชุมนุมกันมากจริงๆ
“ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว” ลูคัสถาม ดารินจึงนับนิ้วก่อนจะชูให้ดู
“ยี่สิบห้า ไม่สิ หก... มั้งคะ” โทษฐานที่จำอายุตัวเองไม่ได้ ลูคัสจึงเขกไปหนึ่งโป๊ก
“เธอนี่ก็จริงๆ เลย หน้าตาก็สวยหุ่นก็ดี สมองไม่น่าเอ๋อ น่าจะยอมแต่งตัวบ้าง ไม่งั้นฉันจะเป็นแม่ยกดันเธอเป็นนางแบบ ได้ลงนิตยสารรายปักษ์ก็ยังดี” ลูคัสถอนหายใจให้ยัยเพื่อนคนนี้ ดาริน ‘เคย’ เป็นผู้หญิงสวยน่ารัก รูปร่างบอบบางน่าทะนุถนอม ผมดำเงางามยาวถึงกลางหลัง ตอนสมัครงานเข้ามาใหม่ๆ จึงมีแต่คนเหลียวมองตามหลัง
แล้วตอนนี้ล่ะ?! ลูคัสอยากจะกรี๊ด สภาพดารินตอนนี้เหมือนชะนีเดนตาย เหมือนกุหลาบก้นร้านดอกไม้ไม่มีผิด ดารินตัวเล็กนิดเดียวแต่ทำงานแบกกล้องโปรใหญ่เท่ากระบอกปืนใหญ่ตุเลงๆ ไปทั่วทั้งวันได้ไม่มีบ่น เสื้อผ้าหน้าผมกระเซอะกระเซิง หนุ่มทั้งหลายเลยเริ่มขยาดไม่กล้าเข้ามาจีบ
“ไหนดูสิ... กรีดตาไม่เท่ากันอีกแล้วนะเรา” ลูคัสเคยพยายามจับดารินแต่งตัวแล้ว เรียกเกรียวกราวกิ๊วก๊าวจนหนุ่มๆ แต่ละแผนกได้แบบถล่มทลาย แต่พอถึงเวลาออกนอกสถานที่ ดารินก็คว้าแจ๊กเกตตัวโคร่งสวมทับ สวมหมวกเบสบอล รองเท้าบูทหนังหุ้มข้อและผ้าปิดปาก ทุกอย่างที่ลูคัสอุตส่าห์เมคอัพให้จึงไร้ความหมาย หนำซ้ำช่างภาพเพื่อนร่วมงานมีแต่พวกถึกเถื่อน หล่อหลอมให้สาวงามเลียนแบบจนติดนิสัยไปด้วย น่าเสียดายจริงๆ
“เฮ้ ลูซี่ ปล่อยแม่สาวทอมคนนี้ไปเถอะ ผู้ชายน่ะถ้าอยากได้ แค่เอาเท้าเขี่ยๆ พื้นก็เจอ” เสียงแซวลอยมาตามลม
“ไม่ได้ย่ะ! ฉันเป็นหัวหน้าก็ห่วงชีวิตส่วนตัวของลูกน้องเหมือนกัน คือปล่อยไปก็เสร็จพวกสับปะรังเคกันพอดี” ลูคัสตะโกนกลับไป ก่อนจะหันมาจ้องหาดาริน “ที่ผ่านมาก็เจอแต่คนโน้นจีบคนนี้ คนนี้เป็นชู้กับคนนั้น คนนั้นจะหย่ากับคนโน้น มีแต่เคสนี้นี่แหละพิเศษ ‘อยากหาแฟน’ เธอไว้ผมสั้นแบบนี้ดูผ่านๆ ยิ่งเหมือนผู้ชายเข้าไปอีก”
“รินหลับตอนวานให้รูมเมทตัดผมให้ ตื่นมาอีกทีมันก็ตัดผมทิ้งไปแล้วอ่ะ แต่จริงๆ แล้วรินเป็นสาวหวานแสนเรียบร้อยนะคะ” ดารินชี้ให้ดูสติ๊กเกอร์รูปแมวคิตตี้ที่ติดบนอุปกรณ์ถ่ายภาพ
“ช่วงบ่ายมีงานที่สตูดิโอสอง เธอรับผิดชอบด้วย งานนี้มีนายแบบมาหลายคน แต่งตัวใส่กระโปรงสวยๆ สิ เผื่อจะได้หิ้วกลับบ้านสักคนสองคน”
“งานช่างภาพถ้ามัวใส่กระโปรงมันก็ไม่คล่องตัวน่ะสิคะ เวลาย่อตัวถ่ายรุปก็หวอออกพอดี”
“ข้อนั้นฉันไม่เถียง แล้ววันหยุดอยู่บ้านใส่อะไร?”
“บะ...บ๊อกเซอร์กับเสื้อกล้าม” ดารินหดคอตอบเสียงอ่อย พอเห็นสีหน้าของลูคัสแล้วเธอก็ยิ่งจ๋อย อธิบายเสียงอ่อยๆ “กะ...ก็มันใส่สบายนี่คะ”
“ถามจริง มีใครที่ชอบที่เล็งไว้บ้างรึเปล่า ฉันจะได้ช่วยดัน”
“มีค่ะ... แต่เท่าที่ดูรินไม่ใช่สเปกของเขา” เสียงอ่อยหนักกว่าเดิม “รินเคยชวนเขาคุย แต่เขาไม่ตอบ”
“ทำตัวแมนเกินไป ทำตัวเก่งล้ำหน้าเกินไป ไม่รู้จักอ้อนขอความช่วยเหลือจากหนุ่มๆ ผู้ชายที่ไหนจะมาสนใจล่ะคะคุณ” ลูคัสถอนหายใจดังเฮ้อ ดารินทำงานเป็นช่างภาพถ่ายแฟชั่น ถ่ายสินค้า ถ่ายภาพกิจกรรมงานข่าวตามที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท เธอเป็นผู้หญิงก็จริงแต่รับผิดชอบหน้าที่สูง ทำงานเร็ว ไม่เรื่องมาก ฝีมือจัดว่าทัดเทียมรุ่นพี่กระดูกแข็งๆ ในแผนกได้สบาย ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอกลายเป็นผู้หญิงที่ไม่น่าจีบอย่างสมบูรณ์แบบ
“ถือซะว่าเป็นคำสาปจากป๊ะป๋าก็แล้วกันเนอะคุณลูกแหง่ ฮ่าๆ” ลูคัสหัวเราะหลังจากพูดถึงคุณพ่อจอมหวงของดาริน
“รินมาทำงาน ไม่ได้มาทำตัวเหลวไหลอย่างที่พ่อกลัวเสียหน่อย” ดารินอมอากาศจนหน้าป่อง “รินโตแล้วดูแลตัวเองได้ค่ะ”
“งั้นจะให้ฉันรายงานว่าเธอเคยซดวิสกี้ไปสองแก้วแล้วเมาพับเป็นตาแก่ดีไหมหนอ”
“อย่านะลูซี่ ไม่งั้นพ่อลากรินกลับเมืองไทยแน่” ดารินร้อง เธอข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำงานที่ลอสแองเจลิสได้สามปีแล้ว พ่อที่อยู่เมืองไทยเป็นห่วงจนไปหาเบอร์โทรของหัวหน้าลูคัสมาได้จากไหนไม่รู้ พ่อโทรมาฝากให้ช่วยดูแลและอนุญาตให้ลูคัสโทรมารายงานได้ทุกเมื่อ แต่ในสังคมฝรั่งนั้นเรื่องนี้ถือเป็นโจ๊กขบขันในแผนกมาก ทุกคนล้อเธอทุกวันโดยเฉพาะตุ๊ดลูซี่
“ถ้ามีคนมาจีบหล่อนแล้วไม่ผ่านเซ็นเซอร์จากป๊ะป๋า จะทำยังไงล่ะจ๊ะ”
ดารินกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ทันทีที่เห็นเงาของใครคนหนึ่งเดินผ่านมา ร่างบางก็รีบหลบมุดกลับเข้าไปหลังฉากกั้น ทำเอาลูคัสเหวอ แพขนตาหนาเหมือนเพิ่งลงมาจากเวทีคาบาเร่ต์กะพริบสองปริบ มองดารินสลับกับคนต้นเหตุที่ทำให้สาวมาดแมนกลายร่างเป็นสาวน้อยเอียงอายได้ขนาดนี้ ใครกัน?
“เธอหลบคุณฟรานซิสทำไม? อยู่ห่างกันตั้งหลายสิบเมตรยังอุตส่าห์หลบ”
ฟรานซิส เลย์เซล ทายาทเพียงคนเดียวของกลุ่มธุรกิจมัลติมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก เขาสวมชุดสูทตัดเย็บอย่างประณีต รูปร่างแข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามและพละกำลังอันมีชีวิตชีวา ดวงตาคมกริบจ้องมองตรงไปข้างหน้า ดุดันเฉียบขาด ชักนำให้แก้มใสๆ ของเธอมีสีจัดขึ้น ท่วงท่าของเขาขณะย่างก้าวเข้ามาในแววตาของดาริน ช่างงามสง่าและผึ่งผายราวกับพญาราชสีห์เหลือเกิน
“สวัสดีครับ สวัสดี” เขาทักทายบรรดาพนักงานอย่างเป็นกันเอง ใบหน้าหล่อเหลาทรงอำนาจตามแบบฉบับคนในตระกูลมหาเศรษฐี ฟรานซิสมักจะมีรอยยิ้มละไมเป็นมิตรแต้มริมฝีปากอยู่เสมอ ปัจจุบันเขาเป็นประธานกรรมการผู้จัดการใหญ่อยู่สิบห้าบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทดำเนินธุรกิจคล้ายๆ กันโดยแยกสื่อแต่ละประเภทอย่างชัดเจน เช่นสื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุและอินเตอร์เนต รวมไปถึงธุรกิจต้นน้ำอย่างอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษ ไปจนถึงสำนักพิมพ์ชั้นนำในเครือครอบคลุมแตกแขนงออกไปกว่าสิบแห่ง ครองตลาดมากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์
และที่สำคัญคือเขายังโสด...
มันช่างน่าอับอายขายขี้หน้าจริงๆ ! นี่ฉันต้องมาติดแหง็กอยู่ในห้องทำงานของคนแปลกหน้า ใน 'สภาพเกือบล่อนจ้อน' !!!
หลังจากแต่งงานกับกู้หลางเอี้ยน โจวซีได้ทำหน้าที่เป็นภรรยาของกู้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แม้ว่าเขาจะมีคนที่รักอยู่แล้วและปฏิบัติต่อเธออย่างเย็นชา เธอก็ยังยินดีรับความเจ็บปวดเหมือนเป็นความสุข เมื่อทุกคนเห็นพฤติกรรมของโจวซีที่คอยตามใจเหมือนเงา เมื่อรักแรกที่ลืมไม่ลงของกู้หลางเอี้ยนกลับมาจากต่างประเทศ ทุกคนในเมืองต่างรอคอยที่จะเห็นเธออับอาย แต่ไม่คาดคิดว่าโจวซีจะเด็ดขาดและเซ็นสัญญาหย่าโดยไม่หันกลับไปมองอีก กู้หลางเอี้ยนกลับมาขวางเธอด้วยท่าทางที่ดื้อรั้นและตาแดงก่ำ "โจวซี เธอหมายความว่ายังไง?" เธอชูแหวนแต่งงานใหม่ในมือขึ้น พร้อมยิ้มอย่างสดใส "ขอโทษนะ ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว ไม่อยากทนอีกต่อไปแล้ว" …… ทุกคนคิดว่าโจวซีรักกู้หลางเอี้ยนอย่างลึกซึ้ง ราวกับว่าเธอยอมผ่านความยากลำบากและอุปสรรคเพื่อเขา แต่ไม่มีใครรู้ว่า เธอมองผ่านกู้หลางเอี้ยนไปยังชีวิตของคนอีกคนหนึ่งในอนาคต
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY