อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ร่างบอบบางในชุดนอนสุดเซ็กซี่ เดินวนไปวนมารอบห้องหลายรอบอย่างคนที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก เหตุเพราะเย็นนี้เธอมีงานแสดงโชว์ร้องเพลงเพื่อการกุศลที่บิดาได้รับปากเจ้าของงานเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา แฟนหนุ่มของเธอก็โทรมาบอกว่า เขากำลังจะเดินทางมาหาเธอในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ และคืนนี้เขาก็ตั้งใจจะไปดินเนอร์กับเธอด้วย
แต่งานแสดงโชว์เย็นนี้เธอจะยกเลิกก็ไม่ได้ด้วยสิ เพราะเจ้าของงานเป็นถึง ม.จ.พันฤทธิ์ ธรรมราชเดโชชัย เป็นเพื่อนสนิทของ ม.จ.เกรียงไกร ปัณรัตนกุลชรท่านพ่อของเธอ งานการกุศลครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั่วประเทศ เป็นงานที่พวกคุณหญิงคุณนายที่มียศถาบรรดาศักดิ์มากมายมาร่วมงาน แล้วเธอควรจะทำยังไงดี ในเมื่อเย็นนี้เธอก็มีนัดกับคนสำคัญของเธอเช่นกัน และครั้นจะยกเลิกนัดแฟนหนุ่มก็ไม่ได้ เพราะนานๆ ทีเขาถึงจะมาหา
ไลลาคิดไม่ตก เพราะงานแสดงโชว์ก็สำคัญ เดทกับแฟนหนุ่มวันนี้ก็สำคัญ กระทั่งเห็นคุณครูสาวสวยแสนเฉิ่มที่หน้าตาคล้ายๆ ตนเองเดินเข้ามาในบ้าน คนที่คิดหนักมาเกือบชั่วโมงก็เกิดไอเดียดีๆ ขึ้นมา ไลลา หรือ ม.ร.ว.ไลลา ปัณรัตนกุลชร ก็รีบเดินลงไปหาน้องสาวฝาแฝดของเธอและดึงร่างบางขึ้นมาบนห้องอย่างเร็วรี่
“พี่หญิงใหญ่ ลากเล็กขึ้นมาบนนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ” อารียาหน้าตาตื่น เมื่อถามผู้เป็นพี่สาวฝาแฝดของเธอออกไป ไม่รู้ว่าไลลามีธุระอันใดกับเธอ ถึงทำท่ามีลับลมคมนัยแปลกๆ
“หญิงเล็ก พี่มีเรื่องให้น้องช่วย” สีหน้าของไลลาดูเดือดเนื้อร้อนใจเอามากๆ จนอารียาคิดว่าพี่สาวของเธออาจจะกำลังเจอปัญหาใหญ่เข้าจริงๆ
“เรื่องอะไรคะ” ร่างบอบบางแต่ทว่าสมส่วนในชุดกระโปรงเรียบร้อยความยาวถึงหัวเข่าเสื้อผ้าฝ้ายคอกลมแขนตุ๊กตาสีหวานที่ติดกระดุมจนมาถึงต้นคอ สมกับการที่เธอเป็นถึงคุณครูสอนภาษาที่ลูกศิษย์ลูกหาน่าจะเอาเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องของการแต่งกาย
ดวงตากลมโตที่อยู่ใต้กรอบแว่นอันใหญ่ มองมายังผู้เป็นพี่สาวฝาแฝดของเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
ไลลาถอนหายใจออกมาชุดใหญ่ก่อนที่จะเริ่มต้นเล่าถึงเหตุผลและความจำเป็นของเธอ และเรื่องที่ต้องการจะให้น้องสาวฝาแฝดของเธอช่วยเหลือ และพออารียาได้สดับตรับฟังผู้เป็นพี่สาวเล่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ถึงกับอ้าปากค้างตาโตยืนนิ่งเป็นหุ่นตะลึงไปหลายวินาที
“หญิงเล็ก เธอต้องช่วยพี่นะ ถ้าเธอไม่ช่วยพี่ต้องตายแน่ๆ” พี่สาวฝาแฝดจอมมารยาทำหน้าตาน่าสงสารจนคนเป็นน้องสาวแทบใจอ่อน
“แต่ว่าเล็ก...” ใบหน้าหวานที่แสดงความอึดอัดใจ ไม่ได้ทำให้ไลลาใจอ่อนลงแม้แต่น้อย สายตาแหลมคมของผู้เป็นพี่สาวยังคงคาดคั้นเอาคำตอบตกลงจากคนที่เป็นน้องด้วยสายตาขอร้องแกมอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
ทั้งที่ความเป็นจริงสองพี่น้องไม่ค่อยจะพูดคุยกันอย่างสนิทใจเท่าไหร่นัก นั่นเพราะว่านิสัยของสองสาวต่างกันสุดขั้ว
แต่ว่าคราวนี้ไลลามีความจำเป็นต้องพึ่งพาน้องสาวฝาแฝดของเธอจริงๆ หญิงสาวจึงจำเป็นต้องพูดจาดีๆ เพื่อหว่านล้อมให้ครูสาวจอมเปิ่นและแสนเฉิ่ม เข้ามาช่วยในธุระสำคัญของเธอครั้งนี้ให้สำเร็จ
“นะหญิงเล็ก เธอก็รู้ว่างานนี้สำคัญมาก ท่านพ่อได้รับปากท่านอาเอาไว้แล้ว แต่ว่าคนสำคัญของพี่ก็กำลังจะเดินทางมาจากต่างประเทศในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว พี่รู้นะว่าหญิงเล็กมีความสามารถไม่ต่างไปจากพี่ นะๆ หญิงเล็ก ช่วยพี่หน่อยนะน้องรัก”
หม่อมราชวงศ์ไลลาจากที่เคยคิดว่าตนเองเก่งกว่าน้องสาวฝาแฝดของเธอมาโดยตลอด และไม่เคยที่จะบอกว่ารักน้องมาก่อน ตอนนี้กลับมาพูดกลับลำเอาดื้อๆ ว่าน้องสาวของเธอเก่งมีความสามารถไม่ต่างกันกับเธอ แล้วยังมาเรียกอารียาว่าน้องรักอีก ซึ่งมันผิดวิสัยของเธอโดยสิ้นเชิง
ต่างกับหม่อมราชวงศ์อารียาที่รักพี่สาวของเธอมาก แม้ว่าบางครั้งไลลาจะชอบพูดจาไม่ค่อยดีกับเธอนัก และมักข่มเธอเป็นประจำ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยถือสา และยินดีเสมอที่จะช่วยเหลือพี่สาวของเธอทุกอย่าง แต่ว่างานนี้ครูสาวอย่างเธอรู้สึกลำบากใจจริงๆ นั่นเป็นเพราะเธอเป็นคนที่ไม่ชอบการแสดงที่ต้องอยู่บนเวทีท่ามกลางสายตาของคนดูเยอะๆ
เพราะอารียาเป็นคนเรียบร้อยในสายตาของทุกๆ คน แม้ว่าตัวตนจริงๆ ของเธออาจจะขัดกับบุคลิกหน้าตาไปบ้าง แต่ครูสาวก็ไม่ชอบการแต่งตัวหวือหวาหรือว่ามีสีสันฉูดฉาดเหมือนกับพี่สาวของเธอหรอก ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ครูสาวคนสวยชอบทำเป็นประจำก็คือ การเก็บซ่อนความสามารถพิเศษบางอย่างเอาไว้กับตัวอย่างมิดชิด น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเธอสามารถทำบางสิ่งบางอย่างที่หลายคนไม่คาดคิดว่าครูสาวทึนทึกแสนเฉิ่มอย่างเธอจะทำได้ นั่นก็คือ การเต้นระบำหน้าท้อง
มีเพียงไลลาเท่านั้น ที่แอบติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ที่เป็นน้องสาวมาโดยตลอด นั่นเพราะความอิจฉาริษยาที่มีอยู่ในตัว ไม่อยากให้น้องสาวดีเด่นมากไปกว่าตัวเอง ดังนั้นอะไรที่ ม.ร.ว.อารียาทำได้ ม.ร.ว.ไลลาก็ต้องทำได้ดีกว่า แต่ว่าการเต้นระบำหน้าท้องต่อให้เธอฝึกฝนยังไง ก็สู้ผู้เป็นน้องสาวไม่ได้ เพราะสิ่งที่เธอทำได้ดีคือการร้องเพลงมากกว่า
“แต่ว่าเล็กร้องเพลงไม่เก่งเหมือนพี่หญิงใหญ่นี่คะ เล็กคงทำไม่ได้หรอกค่ะ” อารียาก้มหน้าก้มตาปฏิเสธด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดีนัก เธอเองก็อยากจะช่วยพี่สาวอยู่หรอก แต่เธอก็ร้องเพลงได้แค่งูๆ ปลาๆ ผิดเนื้อผิดทำนอง ร้องคาราโอเกะก็ไม่เคยจบเพลงสักครั้ง นั่นเป็นเพราะเธอไม่ค่อยมั่นใจในพลังเสียงของตนเองนัก แต่ถ้า...
“เอาอย่างนี้สิ หญิงเล็กไม่ต้องร้องเพลงก็ได้ แสดงโชว์อย่างอื่นก็ได้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนที่อยู่บนเวทีเป็นหญิงเล็ก ถ้าเราสองคนไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ พี่รู้นะว่าหญิงเล็กเต้นเก่ง โดยเฉพาะเต้นระบำหน้าท้อง...”
“พี่หญิงใหญ่รู้ได้ยังไง?!” อารียารู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะเรื่องที่เธอแอบไปฝึกเต้นระบำหน้าท้องตั้งแต่เด็กด้วยความชอบส่วนตัว คนในครอบครัวยังไม่มีใครรู้เลย เพราะเธอไม่กล้าบอกใคร
ที่สำคัญเธอไม่ชอบนำความสามารถทางด้านนี้ของเธอไปแสดงโชว์ให้คนอื่นดู ถึงแม้ครูผู้สอนบอกว่าเธอเต้นได้เก่งมากและมีพรสวรรค์ทางด้านการเต้นรำ น่าจะลองโชว์ความสามารถให้คนอื่นดูบ้าง แต่อารียาก็ปฏิเสธมาโดยตลอด
“พี่รู้ก็แล้วกันน่า เธอเป็นน้องรักของพี่นะอย่าลืมสิ เพราะฉะนั้นพี่ย่อมรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเธอ และอย่าปฏิเสธว่าเธอทำไม่ได้ ถ้าหญิงเล็กรักพี่ หญิงเล็กก็ต้องช่วยพี่ โอเคมั้ย” ไลลาคาดคั้นเอาคำตอบจากร่างบอบบางตรงหน้าอีกครั้งด้วยประโยคที่บีบบังคับน้องสาวของเธอมากขึ้นกว่าเดิม
“ก็ได้ค่ะ แต่ว่าพี่หญิงใหญ่อย่าเอาเรื่องที่เราสลับตัวกันไปบอกใครนะคะ เล็กอายลูกศิษย์ของเล็ก” อารียาตอบอ้อมแอ้มไม่ค่อยจะเต็มเสียงนัก เพราะไม่อาจปฏิเสธพี่สาวคนนี้ของเธอได้
“ได้สิจ๊ะหญิงเล็ก ขอบใจมากนะ หญิงเล็กเป็นน้องสาวที่น่ารักมากที่สุดของพี่เลย”
ม.ร.ว.ไลลาตาโต ม่านตาขยายด้วยความดีใจสุดๆ โผเข้าสวมกอดน้องสาวฝาแฝดด้วยความลิงโลด เพราะงานนี้เธอได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เธอจึงรีบรับปากน้องสาวว่าจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง ขืนพูดไปใครๆ ก็หาว่าเธอโง่น่ะสิ ดีไม่ดีอาจจะถูกท่านพ่อท่านแม่ตำหนิเอาก็เป็นได้
แต่อารียากลับรู้สึกหวาดหวั่นในใจชอบกล เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยแสดงโชว์ที่ไหนมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ขึ้นโชว์บนเวทีที่ใหญ่มากๆ และงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ก็สำคัญมากด้วย เธอกลัวพลาด กลัวคนอื่นจะจับได้ว่าเป็นเธอเองที่แสดงโชว์แทนไลลา และกลัวว่าจะแสดงโชว์บนเวทีได้ไม่ดีพอ อาจจะทำให้ท่านพ่อและหม่อมแม่ของเธอขายหน้าเอาได้
แต่เพื่อความไม่ประมาท อารียาจึงแอบไปฝึกซ้อมเต้นระบำหน้าท้องอีกครั้งที่สถานฝึกสอน เพราะจากนี้จนถึงเย็นนี้กว่าจะขึ้นแสดงโชว์เธอยังพอมีเวลาอีกตั้งครึ่งค่อนวันที่จะฝึกซ้อมให้มั่นใจ
แม้ว่าคุณครูสอนเต้นของอารียาจะบอกว่าหญิงสาวมีพรสวรรค์มากแค่ไหนก็ตาม แต่สำหรับคนที่ไม่เคยได้แสดงโชว์ความสามารถที่ไหนมาก่อน และไม่เคยคิดว่าตนเองเก่งก็ยังคงต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อไม่ให้ทุกคนขายหน้า พร้อมทั้งไปขอความช่วยเหลือจากคุณครูของเธอในเรื่องการเลือกชุดที่จะขึ้นโชว์ และการแต่งหน้าทำผม และที่จะลืมไม่ได้ก็คือ การขอร้องให้คุณครูของเธอเก็บเรื่องที่เธอจะขึ้นโชว์บนเวทีแทนพี่สาวฝาแฝดเป็นความลับ
1 พ่ายปรารถนาเจ้ารัตติกาล 2 กระหายรักใต้เงาจันทร์ 3 พิศวาสหวามข้ามกาลเวลา(ภาคจบ) ร่างสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ชิดรวดเร็ว จับบ่าบอบบางสองข้างเอาไว้แน่น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ทั้งกล้าหาญและหวาดหวั่น “คุณเลือกทางของคุณเองนะ ณิชา เกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษผม” “ฉะ...ฉันไม่กลัว” “คุณกำลังกลัวมากที่สุดต่างหากล่ะณิชา” ร่างเล็กถูกกระชากเข้ามาบดจูบด้วยความกระหาย ‘ณิชา ยอดรักของข้า’ เขาไม่พูดคำว่ารักออกมาให้เธอได้ยิน แต่ส่งผ่านความรู้สึกนั้นด้วยเซ็กส์ที่ทรงพลัง... เขาทะยานไปข้างหน้ารุนแรง ตอกย้ำกายใหญ่เข้าหาราวกับจะแทงทะลุให้ถึงจิตวิญญาณ ราตรีนี้ความต้องการทางกายของแวมไพร์หนุ่มจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า เขาหลอกล่อเธอด้วยไฟพิศวาสร้อนแรง เพื่อจะดับไฟแค้นในหัวใจ ส่วนเธอทั้งรักทั้งหลงเขา ไม่อาจห้ามใจสักครั้งเมื่อได้ชิดใกล้ แต่เมื่อรู้ความจริงว่าเขาคือใคร ดวงตะวันจะเลือนหายไปจากเธอและเขาหรือเปล่า วันเวลาหมุนเวียน ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนผัน มีเพียงดวงจิตที่ผูกพัน ร้อยปีผันผ่านยังเฝ้าคอย ‘เชอร์ลีน ยอดรักของข้า “ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่เชอร์ลีน ฉันชื่อกิรณา และฉันไม่เคยไปทำความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยรู้จักคุณ แล้วคุณจับฉันมาทำไม”
‘ทั้งๆ ที่รักแต่ไม่อาจครอบครอง ของของเขา เธอจะแย่งมาได้อย่างไร’ “เลิกคิดเถอะ คุณไม่เหมาะสมกับผมสักนิด และสเปคผู้หญิงของผมก็คงไม่ใช่เด็กสาวกะโปโลอย่างคุณ กลับไปเรียนหนังสือให้จบแล้วมีคนอื่นไปซะ ไม่ต้องมายั่วผมอีก เข้าใจที่ผมพูดมั้ย” เธอเข้าใจ... จึงเดินวกกลับมาจูบเขาอย่างยั่วยวนอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มหวาน “ถ้าเรียนจบแล้ว แพรจะกลับมา อย่าเพิ่งแต่งงานนะคะ...” ทว่าเมื่อเรียนจบกลับมาหาเขาอีกครั้ง ได้ใกล้ชิดชายหนุ่มอีกหน ครานี้เธอ ‘ยั่ว’ เขาหนักขึ้น แต่... เธอก็ต้องมาพบกับความร้ายกาจของผู้หญิงของเขา ที่ต้องการจะ ‘เอาเธอให้ถึงตาย!’ ลูกแพรจึงต้อง ‘ร้าย’ กลับบ้าง ‘ร้ายเพราะรัก มันต้องร้ายให้ลึกที่สุด!’
“ผมจะยอมแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยนสามข้อ คุณจะยอมรับได้ไหมแต่คุณต้องผ่านการทดสอบของผมในคืนนี้ให้ได้ก่อนนะ แล้วเราค่อยมาตกลงกัน” ความเป็นชายของเขาก็กำลังร้อนเป็นไฟ เธอมองเขาด้วยสายตาวิงวอน เธอกำลังกลัว กลัวมากที่สุด! “อย่ากลัวผมเลยนะ คุณรู้มั้ยว่าคุณน่ารักไปทั้งตัว คุณสวยจนผมอดใจไม่ไหว แล้วก็หอมหวานจนผมแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว” กฤตภพเก่งกาจเกินกว่าที่เธอจะต้านทานไหว เขาใช้ประสบการณ์อันช่ำชองพาให้เธอเคลิบเคลิ้ม และคล้อยตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าเขาจะดึงขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงนรก เธอก็โบยบินตามเขาไปทุกที่ ตามที่เขาปรารถนา อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากเรียวขาเมื่อไหร่ไม่ทันได้รู้สึกตัว แต่รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อเห็นร่างกายกำยำของเขายืนตรงปลายเตียง
ฟรานซิส ฟาร์นองเดซ เจ้าพ่อธุรกิจไวน์รายใหญ่ที่สุดแห่งอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เขาไม่ต่างกับอสูรร้ายที่ร้ายกาจ ป่าเถื่อน เพียงเพื่อจะกำจัด ‘ผู้หญิงที่หวังรวยทางลัด’ อัญญาลิน ทายาทสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของบริษัทไวน์เนอรี่ชั้นแนวหน้าของไทย เธอตั้งใจไปเที่ยวฝรั่งเศส เพียงเพื่อจะหาความรู้เรื่องการผลิตไวน์มาบริหารงานช่วยผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอ ‘น้องชายของเขา’ “คุณกำลังเข้าใจผิด” “เปล่า ผมกำลังเข้าใจถูกต่างหาก และผมก็รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเองก็คงแอบมีใจให้ผมไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคุณจะยั่วผมท้าทายผม ด้วยการขัดคำสั่งผมเหรอ เพราะคุณก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าเวลาที่คุณขัดคำสั่งผมแล้ว ผมจะลงโทษคุณอย่างไรบ้าง ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย ได้...ผมจะจัดให้” ศีรษะดกดำโน้มต่ำลงมาทันที อัญญาลินคิดเสมอว่าฟรานซิสรังเกียจเธอ หญิงสาวอยากจะรู้จังว่า ในสมองของเขาเคยคิดถึงเธอในแง่ดีบ้างหรือเปล่า หรือคิดแต่จะหาเรื่องทำให้เธอเป็นคนผิดที่คิดขัดคำสั่งเขาแล้วหาทางลงโทษเธอตามอำเภอใจ ‘ผู้ชายไม่มีหัวใจ’ อัญญาลินคิดได้แค่นี้ แล้วสติสัมปชัญญะของเธอก็ดับวูบลงทันที “ก็ได้! ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นผมเป็นคนดีในสายตา ผมก็จะขอเป็นคนเลวอย่างที่คุณประณามก็แล้วกัน” ฟรานซิสสะกดเสียงต่ำลอดไรฟัน มองหน้าคนดื้อรั้นไม่ยอมฟังเหตุผลด้วยประกายตาแข็งกร้าววาววับ ด้วยอารมรณ์คุกรุ่นผสมผสานกับอารมณ์ปรารถนาของร่างกายที่อัดแน่นมานานแล้ว เขาผลักร่างบอบบางที่มีเพียงผ้าแพรปกปิดร่างกายให้นอนราบลงไปกับที่นอน ก่อนที่จะคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ สวมบทอสูรร้ายบ้ากามทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องอ้อนวอนใดๆ จากหญิงสาวอีกต่อไป
ด้วยอำนาจแห่งมนตรา หรือเพราะพรหมลิขิต ชักนำเธอเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรัตติกาล ที่ทั้ง ‘เร่าร้อน’ และ ‘เหน็บหนาว’ ในคราวเดียวกัน ครั้งแรกที่สบตากับเขา ‘รุ้งราตรี’ ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร ทันทีที่ได้ใกล้ชิด โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะหยุดหมุน และแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เธอก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง แต่ทำไมถึงได้หวั่นไหวนัก แค่เพียงจุมพิตแรก หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งมานานของ ‘แดเนียล’ ก็เริ่มสั่นคลอน แค่จูบเดียวก็เหมาเอาว่า เธอเป็น ‘เนื้อคู่’ ของเขา แล้วใครจะเชื่อ เธอไม่อยากเข้าใกล้เขานัก แต่ความจำเป็นบางอย่าง เธอจึงพาตัวองเข้าสู่ ‘คฤหาสน์ที่น่าสะพรึงกลัว’ เป็นหนที่สอง
“คุณพลประภัทร คุณมันเป็นเจ้าหนี้ที่เผด็จการมากที่สุด ทำไมจะต้องให้ฉันไปถ่ายโฆษณากับหมอนั่นด้วย” ...นายอลัน...นายเป็นญาติฝ่ายไหนของคุณพลประภัทร... แล้วเธอจะรู้หรือเปล่า...ว่าความจริงแล้วสองคนนี้เป็นคนๆ เดียวกัน “คงถึงเวลาที่ฉันจะเริ่มคิดดอกเบี้ยเธอแล้วนะสาวน้อย” “ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุด คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ!” อลันรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาทันที และรู้สึกโมโหคนใต้ร่างมากขึ้น จึงใช้กำลังข่มเหงรุกรานหญิงสาวอีกครั้ง เขาบดขยี้เรียวปากอิ่มสีกุลาบอย่างไม่ปรานี... แล้วเมื่อความจริงปรากฏ สมองของดุจดาวก็พร่าเลือนไปหมด แต่ไฟปรารถนาที่กำลังลุกโชนท่วมร่างแกร่งกำยำของเขา มันกำลังพร้อมที่จะแผดเผาร่างของเธอให้หลอมละลาย อะไรก็หยุดเขาไม่ได้! “คุณพลประภัทร อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัว” “ผมกำลังจะมอบความสุขให้กับคุณ จะกลัวทำไม” แต่คุณกำลังจะข่มขืนฉันอยู่นะ” คนไม่มีทางสู้เริ่มขึ้นเสียง “ผมไม่ได้ข่มขืนคุณสักหน่อย เขาเรียกว่าเรียกร้องสิทธิ์ต่างหาก อย่าลืมสิว่าคุณเป็นลูกหนี้ผม และคุณทำผิดสัญญา คุณก็ต้องชดใช้”
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ