ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / บำเรอสวาททาสรักอสูร
บำเรอสวาททาสรักอสูร

บำเรอสวาททาสรักอสูร

3.9
72 บท
56.8K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา เธอถูกกักขังอยู่นอ้อมกอดของอสูรร้าย กายสาวสั่นสะท้านดั่งดอกไม้ต้องสายฝนจนกลีบช้ำ เขาขยี้ขยำด้วยไฟแค้น อัดแน่นไปด้วยไฟเสน่หาลึกเร้น “คืนนี้ทำให้ผมพอใจสิ แล้วคุณกับพี่สาวของคุณจะได้เป็นอิสระ” ทัพเทวินทร์ยื่นข้อเสนอให้เชลยสาวในคืนวันหนึ่ง ยังไงคืนนี้เธอคงต้องเสี่ยงดูสักครั้ง แค่สบตาเขาหญิงสาวก็รู้ว่า เขาต้องการเธอมากแค่ไหน สาตาที่เขามองเธอราวกับจะกลืนกิน แล้วเธอล่ะ ต้องการเขาหรือเปล่า หรือแค่ต้องการให้เขาพึงพอใจในคืนนี้เพื่อแลกกับอิสรภาพก็เท่านั้น

บทที่ 1 ประจันหน้าซาตาน

“เจอเป้าหมายหรือยัง นาคา” เสียงเข้มต่ำมีอำนาจถามลูกน้องคนสนิทออกไปด้วยนัยน์ตาคมกล้าเป็นประกายวาวโรจน์ดุจดั่งดวงตาพญาเหยี่ยวที่ดุร้าย

“ยังครับเจ้านาย คาดว่าอีกไม่เกินสามวันเราต้องได้ตัวเธอมาอย่างแน่นอนครับ” นาคราชตอบเจ้านายออกไปด้วยสีหน้ามั่นใจ

“ตามหาหล่อนให้เจอด่วนที่สุด เรามีเวลาไม่นานนัก” ทัพเทวินทร์มหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อออกคำสั่งกับลูกน้องอีกครั้งก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถ

ภายในรถเมอร์ซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสสีดำสุดหรูมีคนขับหน้าตาเคร่งขรึมเป็นสารถีขับรถให้พร้อมกับบอดี้การ์ดอีกสองคนที่ท่าทางดุร้ายอย่างกับผู้ร้ายในหนังนั่งอยู่ทางด้านหน้าหนึ่งคน และข้างๆ อีกหนึ่งคนเพื่อระวังภัย เมื่อร่างสูงใหญ่ขึ้นประจำที่เรียบร้อยแล้วรถก็ออกตัวไปอย่างรวดเร็วดั่งพายุ

เที่ยงนี้ทัพเทวินทร์มีนัดกับปาณิตาที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร ทุกครั้งที่มหาเศรษฐีหนุ่มขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพฯ เขามักจะแวะมาหาหญิงสาวอยู่เสมอๆ เพราะเธอเปรียบเสมือนแหล่งข่าวชั้นเยี่ยมที่แสนจะเต็มใจให้ชายหนุ่มมาคุ้ยเขี่ยหาข่าวอย่างถึงเนื้อถึงตัวในห้องพักสุดหรูของเจ้าหล่อนทุกครั้งไป

ร่างงามระหงในชุดเดรสหรูสีแดงสดกำลังนั่งไขว่ห้างรอใครบางคนอย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อเห็นคนที่กำลังตั้งตารอคอยเดินเข้ามาหาหญิงสาวจึงลุกขึ้นยิ้มอย่างดีอกดีใจ

“คุณเทวินทร์ แป๋มดีใจจังเลยค่ะที่คุณมา นึกว่าจะลืมนัดแป๋มเสียแล้ว” ปาณิตาพูดด้วยน้ำเสียงสดใสและทำท่าทางออดอ้อนนิดๆ อย่างมีจริตมารยา

“ผมจะลืมนัดคุณแป๋มได้อย่างไรกันครับ ก็คุณน่ารักขนาดนี้” ร่างสูงใหญ่ส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้นางแบบสาวตรงหน้า จนหญิงสาวแทบละลายให้กับสายตาคมคู่นั้น

ทัพเทวินทร์เป็นผู้ชายที่หล่อขาดบาดใจสำหรับสาวๆ แทบทุกคนที่ได้พบเห็นเขา ยิ่งถ้าใครได้จ้องตาคมซึ้งของชายหนุ่มในระยะประชิดแล้วละก็ ไม่ว่าจะเป็นสาวเล็กหรือว่าสาวใหญ่ เป็นอันต้องหวั่นไหวทุกรายไป แต่ทว่ามหาเศรษฐีหนุ่มหล่ออย่างทัพเทวินทร์กลับไม่เคยคิดที่จะสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลยสักคน

แต่สำหรับปาณิตาหญิงสาวมั่นใจในเสน่ห์และความสาวความสวยของตนเองมากเหลือเกินว่า จะสามารถเกาะกุมหัวใจของมหาเศรษฐีหนุ่มเอาไว้ได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใครมาจากไหน หญิงสาวรู้เพียงว่าทัพเทวินทร์รวยมากเพียงแค่ธุรกิจด้านคอนโดและโรงแรมเพียงอย่างเดียวของชายหนุ่มก็มีรายได้มากมายมหาศาลแล้ว หากใครได้เขาเป็นสามีผู้หญิงคนนั้นก็คงจะสบายไปทั้งชาติ

“คุณเทวินทร์จะทานอะไรดีคะ เดี๋ยวแป๋มสั่งให้” ปาณิตาถามชายหนุ่มอย่างเอาใจ ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางยี่ห้อหรูมาอย่างดีไม่มีที่ติ เริ่มคลี่ยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้คนที่นั่งตรงหน้าอย่างเปิดเผย

“ผมทานอะไรก็ได้ ที่นี่อาหารของเขาอร่อยทุกอย่างคุณแป๋มสั่งเลยดีกว่าครับ”

หลังจากที่นางแบบสาวสั่งรายการอาหารต่อพนักงานเสิร์ฟ ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที อาหารหน้าตาน่าทานก็มาเสิร์ฟอยู่ตรงหน้าของหนุ่มสาวทั้งคู่ เมื่อทานข้าวกันไปได้ประมาณสักสองสามคำทัพเทวินทร์ก็เริ่มสอบถามข้อมูลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับคู่แข่งทางการค้าของเขาทันทีโดยไม่ให้เสียเวลา ซึ่งปาณิตาก็ไม่น้อยหน้าหญิงสาวรู้ว่าคนตัวโตตรงหน้าต้องการอะไร และเธอก็เตรียมข้อมูลทุกอย่างมาให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้วอย่างรู้ใจ

“ไม่ทราบว่าคุณแป๋มได้ข้อมูลเกี่ยวกับการประมูลที่...”

ร่างหนาพูดยังไม่ทันจบประโยค นางแบบสาวก็ยื่นซองสีขาวมาให้ชายหนุ่มตรงหน้าทันที เพื่อต้องการให้มหาเศรษฐีหนุ่มรู้ว่าเธอใส่ใจและรู้ใจเขามากเพียงใด

“นี่ค่ะ สิ่งที่คุณต้องการแป๋มเตรียมไว้ให้คุณหมดแล้ว” ร่างบางยิ้มให้ชายหนุ่มอีกครั้งอย่างประจบประแจง

“คุณแป๋มนี่รู้ใจผมไปเสียทุกอย่างเลยนะครับ ไม่เสียแรงที่ผมไว้ใจคุณ” นักธุรกิจหนุ่มพูดจาเอาใจนางแบบสาวอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาจนปาณิตายิ้มแก้มแทบปริ

“แล้วเอ่อแป๋มจะได้รางวัลอะไรเป็นค่าตอบแทนเหรอคะสำหรับการเป็นคนรู้ใจของคุณ” สายตายั่วยวนและทอดสะพานให้ชายหนุ่มอย่างเปิดเผย ไม่บอกก็รู้ว่าหญิงสาวต้องการสิ่งใด

“งั้นคืนนี้เราไปเต้นรำกันที่เดิม จากนั้นก็ไปหาอะไรทำต่อสนุกๆ กันสองคนคุณแป๋มว่าดีไหมครับ” ทัพเทวินทร์พูดเอาใจนางแบบสาวบ้างทำให้ชายหนุ่มได้รับยิ้มหวานตอบกลับจากหญิงสาวไม่หุบเลยทีเดียว

“คุณรู้มั้ยคะว่าคุณก็เป็นคนที่รู้ใจแป๋มมากที่สุดเหมือนกัน” ปาณิตาช้อนสายตาหวานซึ้งขึ้นมองใบหน้าที่หล่อเหลาปานเทพบุตรตรงหน้าอย่างพึงพอใจ แค่คิดว่าคืนนี้จะได้อยู่ในอ้อมกอดที่แข็งแกร่ง และจะได้อยู่ภายใต้ร่างใหญ่โตกำยำของชายหนุ่ม กายสาวก็ร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายของเธอโหยหาบทรักอันร้อนแรงของเขามาเป็นแรมเดือนแล้ว

ทัพเทวินทร์มีสัมพันธ์กับปาณิตาก็แค่ทางกายเท่านั้น และทุกครั้งที่มีอะไรกับหญิงสาวชายหนุ่มจะป้องกันตนเองอย่างดีเสมอ เขาไม่เคยพลาดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะความที่ไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมาผูกมัดและเรียกร้องอะไรจากเขาได้ ผู้ชายอย่างเขาจึงถือคติอย่างหนึ่งเสมอว่า ‘สนุกกันต่อได้ถ้าไม่ผูกมัด ถ้าคิดจะฟัดก็ต้องรัดให้ดี’ นี่คือคติในการคบผู้หญิงของชายหนุ่ม

ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่มหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อจะคบได้เกินสี่เดือน ไม่ว่าเจ้าหล่อนจะสวยหยาดฟ้ามาดิน จะเอาใจชายหนุ่มดีมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครที่จะยื้อความสัมพันธ์กับเขาเอาไว้นานๆ ได้ ‘เพราะเงิน’ ผู้ชายอย่างเขาจึงเรียกผู้หญิงมาหาได้อย่างง่ายดาย และก็เพราะเงินอีกนั่นแหละที่สามารถไล่พวกหล่อนออกไปจากชีวิตของเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเช่นกัน

คืนนี้ทั้งปาณิตากับทัพเทวินทร์ก็มาเที่ยวที่ผับดังแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพมหานคร ผับนี้ส่วนใหญ่จะมีแต่คนรวยๆ มาเที่ยว หรือไม่ก็อาจจะมีพวกดารานางแบบมาเที่ยวกันบ้างพอสมควร และทันทีที่สองหนุ่มสาวที่ทั้งคู่ดูโดดเด่นยิ่งกว่าใครๆ เดินเข้ามาในผับ เจ้าของผับก็รีบเดินเข้ามาต้อนรับแขกคนสำคัญทันทีเหมือนดังคำกล่าวที่ใครๆ หลายคนบอกว่า ลูกค้าคือพระเจ้านั่นแหละน่าจะเหมาะสมในการบริการครั้งนี้

“สวัสดีครับ เชิญครับ จะเลือกเครื่องดื่มอะไรดีครับ เดี๋ยวผมจะให้เด็กเอามาบริการให้” เจ้าของผับถามทัพเทวินทร์ด้วยวาจาสุภาพ

“เอาเหมือนเดิมนะ แล้วคุณล่ะจะรับอะไรดีครับ” เสียงทุ้มหันไปถามคนข้างๆ เบาๆ พอได้ยิน

“แป๋มขอไวน์ที่ดีที่สุดของร้านก็แล้วกันค่ะ อ้อ...แล้วก็กับแกล้มเหมือนเดิมนะเสี่ย” นางแบบสาวหันไปบอกเจ้าของผับด้วยเสียงหวานใสก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้กับคนตัวโตข้างๆ

“ได้ครับ รอสักครู่นะครับเดี๋ยวเด็กๆ จะนำทุกย่างที่คุณทั้งสองต้องการมาเสิร์ฟให้” เสี่ยใหญ่พูดจบก็เดินเลี่ยงออกไป แล้วหยุดพูดคุยกับเด็กเสิร์ฟไม่กี่คำก็ไปบริการโต๊ะอื่นต่อ

ไม่นานนักทั้งเครื่องดื่มและกับแกล้มทุกอย่างก็ถูกลำเลียงมาวางไว้ตรงหน้าภายในเวลาอันรวดเร็วเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีพนักงานเด็กหนุ่มมาคอยชงเครื่องดื่มให้ตลอดเวลาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าหนุ่มสาวทั้งสองต้องการอะไร ทุกอย่างก็จะถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว เพราะทัพเทวินทร์กับปาณิตาถือว่าเป็นแขกวีไอพีเกรดเอเลยก็ว่าได้

“คุณเทวินทร์นี่เสน่ห์แรงจังเลยนะคะ”

“อ้าว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ” ชายหนุ่มสงสัย

“คุณเทวินทร์ก็ลองหันไปมองรอบๆ ตัวคุณสิคะ มีแต่สาวๆ จ้องคุณอย่างกับจะกลืนกินคุณเข้าไปทั้งตัวอย่างนั้นแหละ”

ทัพเทวินทร์จึงหันไปมองรอบๆ ตามที่ปาณิตาบอก และเมื่อร่างใหญ่กวาดสายตาอันทรงเสน่ห์ของเขามองไปเรื่อยๆ สายตาคมกล้าก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างของสาวงามคนหนึ่ง รูปร่างของเธอช่างอ้อนแอ้นอรชรเหมือนงานศิลปะชั้นเอก บอบบางแต่ได้สัดส่วน ช่วงขาที่เรียวยาวสวยอย่างกับเรียวขาของนางแบบแถวหน้า สะโพกที่กลมมนงอนงามกระชับได้สัดส่วนรับกับเอวบางที่คอดกิ่ว ชุดที่หญิงสาวใส่เผยให้เห็นหน้าท้องที่แบนราบน่าสัมผัสน่าลูบไล้ยิ่งนัก

แค่เห็นหน้าท้องที่เซ็กซี่ของโคโยตี้สาว ร่างกายหนุ่มถึงกับปวดร้าวดีดตัวขึ้นมาทันที ดีที่ใต้โต๊ะค่อนข้างมืดไม่เช่นนั้นล่ะก็ สาวๆ โต๊ะข้างๆ คงจะตาเป็นกุ้งยิงกันเป็นแถวๆ เพราะเห็นนกเขามันโก่งคอขันก็เป็นได้ ทัพเทวินทร์ต้องพยายามกล่อมนกเขาของเขาให้สงบลงแต่มันก็ดื้อด้านยิ่งนัก เมื่อสายตาคมของเขายังคงจ้องมองร่างงามระหงที่กำลังเต้นยั่วยวนอย่างไม่วางตา

นอกจากนักแด๊นซ์สาวจะมีรูปร่างยั่วใจชายแล้ว หญิงสาวยังมีใบหน้าที่สวยใสเรียบเนียน ดวงตากลมโตแจ่มจรัสดั่งแสงดาวอยู่ภายคิ้วเรียวยาวที่โก่งดั่งคันศร บวกกับจมูกเล็กโด่งเป็นสันเชิดน้อยๆ ที่แสดงถึงความดื้อรันของเจ้าตัวมันช่างรับกับริมฝีปากจิ้มลิ้มพริ้มเพราน่าจูบยิ่งนัก ในความรู้สึกของมหาเศรษฐีหนุ่มในตอนนี้ เขานึกอย่างจูบหญิงสาวขึ้นมาทันทีชายหนุ่มอยากจะรู้นักว่าถ้าหากเขาได้จูบเธอจริงๆ จูบนั้นจะหวานซึ้งเพียงใด

“คุณเทวินทร์คะ คุณเทวินทร์” ปาณิตาเรียกหวานใจของเธอเสียงดังนิดหนึ่ง

“...” เงียบไม่มีเสียงตอบรับและร่างหนาก็ทำท่าเหมือนกับว่ายังไม่ได้ยินที่หญิงสาวเรียก

“คุณเทวินทร์!” ปาณิตาเรียกชายหนุ่มที่กำลังเหม่อมองไปยังเวทีเสียงดังมากขึ้นอีกนิด แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่สนใจ จนกระทั่งโคโยตี้สาวหยุดเต้นร่างใหญ่จึงได้หันมาสนใจคนข้างๆ อีกครั้ง และก็แปลกใจที่เห็นปาณิตาหน้าบูดหน้าบึ้งใส่เขาอย่างแสนงอน

“อ้าว คุณแป๋มทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ” ทัพเทวินทร์แกล้งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนว่าหญิงสาวโกรธเขาเรื่องอะไร และตัวเขาเองก็ไม่รู้สึกกังวลใจอะไรกับอาการขัดใจของหญิงสาวนัก เพราะชายหนุ่มสนใจแต่ร่างบางที่เต้นอยู่บนเวทีนั้นมากว่า แม้ว่าโคโยตี้สาวจะเดินลงจากเวทีไปแล้วแต่ชายหนุ่มก็ยังจำภาพหญิงสาวได้ติดตา

“แป๋มงอนคุณจริงๆ ด้วยนะคะ ถ้าคุณยังสนใจคนอื่นมากกว่าแป๋ม” พอจบประโยค ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตแวววับ ก็มองใบหน้าคมเข้มหล่อเหลานั้นอย่างคาดโทษด้วยความรู้สึกหึงหวง คืนนี้เมื่อเขามากับเธอหญิงสาวก็ไม่อยากให้ชายหนุ่มสนใจสาวคนไหนไปมากกว่าเธอ ไม่อย่างนั้นเธอไม่ยอมแน่ๆ

ตื้ด...ตื้ด...ตื้ด!

โทรศัพท์มือถือกำลังสั่นสะเทือนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของทัพเทวินทร์ติดต่อกันสองสามครั้ง ชายหนุ่มจึงขอตัวออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกที่เป็นมุมส่วนตัวมากที่สุด คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อได้ยินลูกน้องคนสนิทรายงานมาตามสาย

“ว่าไงนะ พูดอีกทีซิ เจอหล่อนแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“เปล่าเจอเธอครับเจ้านาย แต่เราได้ข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวของเธอแทนครับ” นาคาลูกน้องคนสนิทที่ทัพเทวินทร์วานให้ไปตามหาผู้หญิงแพศยาคนนั้นที่เขาแค้นหล่อนยิ่งนักรายงานมาตามสาย ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแล้วสายสืบบอกว่าหล่อนหนีไปอยู่เมืองนอกกับสามีชาวฝรั่ง แต่ข้อมูลสำคัญที่พบคือหล่อนมีน้องสาวที่รักมากคนหนึ่งกำลังทำงานเป็นสาวโคโยตี้อยู่ที่ผับแห่งหนึ่งซึ่งก็คือผับที่ ทัพเทวินทร์มาเที่ยวคืนนี้นี่เอง

“ส่งรูปน้องสาวของแม่นั่นมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!” เสียงเข้มมีอำนาจออกคำสั่งกับลูกน้องแทบจะทันที

“รอสักครู่ครับเจ้านายผมจะส่งไปให้เดี๋ยวนี้” เพียงแค่ไม่กี่นาทีภาพของน้องสาวของผู้หญิงแพศยาคนนั้นก็มาปรากฏบนหน้าจอมือถือเมื่อคนรับเปิดดู ชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเองเลยว่าภาพผู้หญิงที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอมือถือของเขาจะคือคนๆ เดียวกับแม่สาวโคโยตี้คนเมื่อกี้ที่เต้นจนเขามองแทบน้ำลายหก หล่อนมีน้องสาวที่สวยมากขนาดนี้เชียวเหรอ

‘เสียดายจังเลยนะสาวน้อยที่เธอเกิดมาเป็นน้องสาวของคนที่ฉันแค้นมากที่สุด มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผู้หญิงสวยๆ อย่างเธอจะต้องได้รับชะตากรรมที่เจ็บปวดทรมานไม่ต่างกับน้องชายของฉัน พี่สาวของเธอจะต้องได้รับความเจ็บปวดเหมือนอย่างที่ฉันได้รับ ในเมื่อพี่สาวของเธอทำร้ายน้องชายสุดที่รักของฉันได้ลงคอ ฉันในฐานะพี่ชายขอแก้แค้นด้วยการทำร้ายเธอให้ได้รับความเจ็บปวดนั้นเช่นเดียวกัน’

ร่างสูงใหญ่ยืนคิดอย่างคลั่งแค้นในใจ แล้วแผนการร้ายๆ ก็เกิดขึ้นในหัวสมองอันชาญฉลาดและแยบยลของเขา ชายหนุ่มเรียกพนักงานชายในร้านมาคุยประมาณสองสามนาทีแล้วโทร.คุยกับลูกน้องสักพักก็กลับเข้ามานั่งในร้านตามเดิมเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

“ทำไมออกไปนานจังเลยคะ แป๋มนั่งรอคนเดียวตั้งนาน” นางแบบสาวพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด

“เผอิญต้องคุยธุระสำคัญที่ต้องอธิบายยาวหน่อยน่ะครับ ก็เลยคุยนานไปนิดหนึ่ง ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณแป๋มรอนาน เอาอย่างนี้ดีกว่า เราออกไปเต้นรำกันดีไหมครับ” ร่างสูงชะลูดกำยำปานนายแบบท่าทางองอาจยืนขึ้นผายมือไปยังร่างบางตรงหน้าด้วยท่าทีให้เกียรติและเชื้อเชิญหญิงสาวให้ออกไปเต้นรำกับเขา นางแบบสาวไม่ปฏิเสธรีบลุกจากเก้าอี้ทันที แล้วคล้องแขนใหญ่ล่ำของชายหนุ่มออกไปกลางฟลอร์เต้นรำท่ามกลางฝูงผีเสื้อราตรีทั้งหลาย ที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน

เมื่อคู่หนุ่มสาวที่ดูโดดเด่นยิ่งกว่าคู่ไหนๆ เต้นรำกันจนเหนื่อยและกลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง แก้วเครื่องดื่มของปาณิตาก็ถูกสลับสับเปลี่ยนเป็นแก้วใบใหม่เรียบร้อยแล้ว ตามคำสั่งของมหาเศรษฐีหนุ่มที่จ้างวานพนักงานเสิร์ฟชายด้วยค่าแรงที่มากเกินพอสำหรับคนหาค่ำกินเช้าอย่างพนักงานเสิร์ฟคนนี้ และพนักงานทุกคนรวมถึงเจ้าของร้านรู้ว่า ทัพเทวินทร์มีอิทธิพลมากแค่ไหนจึงไม่มีใครกล้าคิดขัดความต้องการของเขา

“สนุกจังเลยค่ะคุณเทวินทร์ แต่ก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะนี่ สงสัยไม่ค่อยได้เต้นรำนานไปหน่อย” ปาณิตาหัวเราะเสียงใสปนหอบนิดหน่อยเมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม

“ถ้าคุณแป๋มเหนื่อยก็รีบดื่มนี่แก้กระหายก่อนสิครับเดี๋ยวก็ดีขึ้น” พูดจบสายตาคมก็จ้องมองร่างบางตรงหน้ายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้วอย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มกำลังยิ้มร่าอยู่ในใจอย่างเจ้าเล่ห์โดยที่หญิงสาวที่นั่งตรงหน้าไม่มีโอกาสได้ล่วงรู้เล่ห์เหลี่ยมของชายหนุ่มเลยสักนิด ไม่นานนักร่างบางก็ฟุบหลับไปกับโต๊ะอย่างหมดท่า ลูกน้องของทัพเทวินทร์คนหนึ่งที่รูปร่างใหญ่โตกำยำเดินเข้ามาอุ้มร่างของปาณิตาออกไป ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง

แต่ละคืนณัฐกานต์ต้องออกมาเต้นอยู่หน้าเวทีถึงสองรอบ หญิงสาวชอบเต้นเป็นชีวิตจิตใจ ใครจะรู้บ้างว่าณัฐกานต์ที่ดูอ่อนหวานเรียบร้อยในตอนกลางวันจะกลายเป็นนางแมวสาวยั่วสวาทที่แสนจะเซ็กซี่ในตอนกลางคืนอย่างกับเป็นคนละคนกัน เพราะฐานะทางการเงินที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก ทำให้หญิงสาวต้องหารายได้พิเศษหลังจากเรียนปริญญาตรีจบมาหมาดๆ แต่ยังหางานดีๆ ทำไม่ได้ โดยการนำความสามารถที่ตนเองมีอยู่ออกมาใช้เพื่อหารายได้พิเศษ

เต้นอีกรอบเดียวณัฐกานต์ก็จะได้กลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว ร่างบางระหงหมุนตัวไปรอบๆ หน้ากระจกเพื่อสำรวจดูความเรียบร้อยของตนเองอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วสวมวิญญาณนักเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างพลิ้วไหวเหมือนดั่งนางหงส์ สะกดสายตาให้ทุกคนข้างล่างเวทีหันมามองเธออีกครั้งด้วยท่าเต้นที่เซ็กซี่เร้าใจกว่าครั้งแรก

มีพนักงานเสิร์ฟหนุ่มคนหนึ่งวิ่งมาหาหญิงสาวที่หน้าเวทีเขายื่นแผ่นกระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่งมาให้ ณัฐกานต์รับมาอ่านก่อนที่จะปรายทอดมองไปยังหนุ่มหล่อที่นั่งคนเดียวอยู่ที่โต๊ะข้างหน้าด้านล่างเวทีด้วยจังหวะการเต้นของหัวใจที่เริ่มจะไม่คอยปรกติเท่าไหร่นัก เมื่อโดนจ้องมองด้วยสายตาคมคู่นั้น สงสัยคงจะเป็นพวกอยากซื้อตัวเธอไปนอนด้วยอีกรายกระมัง ถึงแม้ว่าจะเริ่มชินกับการที่มีพวกเสี่ยๆ ทั้งหลายทั้งเสี่ยเล็กเสี่ยใหญ่ที่คอยจะตะครุบเธอถ้าทำได้ แต่หญิงสาวก็ยังรู้สึกหวั่นๆ ใจยังไงพิกลเพราะเธอมีความรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าช่างดูน่ากลัวยิ่งนัก

ณัฐกานต์เพิ่งมาทำงานที่ผับนี้ได้ไม่ถึงเดือนหญิงสาวจึงไม่รู้ว่าทัพเทวินทร์เป็นแขกประจำของที่นี่และไม่เคยเห็นหน้าชายหนุ่มมาก่อน หญิงสาวจึงเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจร่างสูงใหญ่ขึ้นมาทันทีที่เธอมายืนอยู่ตรงหน้าเขา

“ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรให้ดิฉันรับใช้เหรอคะ” เสียงหวานใสเอ่ยถามออกไปตามมารยาท

ทัพเทวินทร์ทราบมาจากพนักงานเสิร์ฟหนุ่มแล้วว่าเด็กสาวแค่เพียงมาหารายได้พิเศษแค่เต้นรำเท่านั้นไม่ได้มาขายตัว แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะเชื่อใครง่ายๆ ถ้ายังไม่ได้พิสูจน์ บางทีหญิงสาวก็อาจจะโกหกเพื่อโก่งค่าตัวก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ชายหนุ่มก็อยากจะลองใจหญิงสาวเหมือนกันว่าถ้าหากเขาเสนอเงินให้เธอมากพอ สาวโคโยตี้เช่นเธอจะยังปฏิเสธเงินของเขาอยู่อีกหรือเปล่า

“ถ้าคืนนี้ฉันขอให้เธอนั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันจะได้หรือเปล่า”

“นั่งเป็นเพื่อนได้ค่ะแต่ไม่ดื่ม แต่ว่าตอนนี้ดิฉันไม่ว่างแล้วค่ะเพราะได้เวลากลับบ้านแล้ว ต้องขอโทษด้วยนะคะ” ร่างบางพูดจบก็ทำท่าจะเดินหนีแต่คำพูดที่ทรงพลังอำนาจของชายหนุ่มเปรียบเหมือนโซ่ที่กระชากหญิงสาวเอาไว้

“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งไป โอเคงั้นฉันขอถามเธออีกครั้ง ว่าถ้าฉันจะขอให้เธอไปนั่งเป็นเพื่อนฉันที่ห้อง เธอจะคิดค่าบริการเท่าไหร่”

นั่นไงล่ะ ในที่สุดชายหนุ่มก็เผยไต๋ออกมาจนได้ ผู้ชายรวยๆ ก็เหมือนกันหมดทุกคน เห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นที่ซื้อได้ด้วยเงิน หญิงสาวล่ะเกลียดนักผู้ชายประเภทนี้

“ขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันแค่มาแด๊นซ์อย่างเดียวค่ะไม่ได้มาทำอย่างอื่น”

“แล้วถ้าฉันให้เธอเท่านี้ล่ะเธอยังจะกล้าปฎิเสธอีกมั้ย” มือหนาเขียนอะไรยิกๆ ที่กระดาษแผ่นหนึ่งก่อนจะกรอกตัวเลขลงไปแล้วยื่นมันให้เธอ

“นี่คุณ! ฉันบอกคุณแล้วไงคะว่าฉันไม่ขายตัว ได้ยินชัดมั้ยคะ” ร่างบางเริ่มสั่นเทิ้มด้วยความโมโห เสียงดังมากขึ้นตามอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่น ใช่อยู่ตัวเลขที่ชายหนุ่มเขียนให้มันมากกว่ารายได้ที่เธอทำงานมาทั้งปีรวมกันเสียอีก แต่หญิงสาวก็ไม่คิดที่จะแคร์สิ่งที่เขาหยิบยื่นให้ กลับยิ่งรู้สึกขยะแขยงผู้ชายตรงหน้านี้มากขึ้น ผู้ชายอะไรหน้าตาก็ดีแต่นิสัยแย่ชะมัด เขาเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นหรือยังไงกัน ถึงได้ขอซื้อต่อรองราคากันเป็นผักเป็นปลาแบบนี้

“โอกาสดีๆ ไม่ได้มีมาง่ายๆ นะคุณ คิดดูดีๆ สิ คุณต้องเต้นไปอีกกี่คืนต้องรับแขกไปอีกสักกี่คนคุณถึงจะได้เงินมากมายขนาดนี้ แค่ไปกับผมคืนเดียวมันไม่สึกหรอเท่าไหร่หรอกน่า ดีไม่ดีคุณอาจจะติดใจผมก็ได้นะ”

เผียะ!

เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อดังสนั่นหวั่นไหว ใบหน้าหล่อเข้มคมคายของร่างสูงใหญ่หันไปตามแรงตบเล็กน้อย ตามมาด้วยรอยแดงเป็นปื้นบนใบหน้าที่เริ่มเหี้ยมเกรียมนั่น

ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าทำกับเขาแบบนี้มาก่อน ดวงตาที่เปล่งประกายวาวโรจน์ดั่งมีเปลวไฟร้อนแรงอยู่ภายในช่างดูน่ากลัวยิ่งนัก โดยเฉพาะในนาทีนี้ มันแทบจะเผาร่างเล็กตรงหน้าให้มอดไหม้เป็นจุณไปในพริบตาเลยทีเดียวถ้าเขายังมองเธออยู่อย่างนั้น

ร่างบางถึงกับขนลุกเกรียวไปทั่วร่าง เมื่อรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวผู้ชายร่างกายใหญ่โตตรงหน้า แววตาที่เขามองมายังเธอทำให้หญิงสาวต้องรีบถอยหลังกลับอย่างลนลานแต่กว่าจะรู้ตัวว่าภัยมาถึงตัว มันก็สายเกินไปเสียแล้ว ไม่มีใครในที่นั่นกล้าเข้ามาช่วยหญิงสาวได้ เพราะทุกคนต่างก็รักตัวกลัวตายกันทั้งนั้น ร่างบางจึงถูกนำตัวออกมาจากผับ และพามาขึ้นรถเมอร์ซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสสีดำคันหรูออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วดุจสายลม

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY