เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
ฉันกลอกตามองบนใส่ตัวเองในกระจก ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะแต่งตัวเปิดเผยยั่วยวนได้ขนาดนี้ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกนี่นา
ฉันแต่งงานกับเหอซวี่มาได้สองปีแล้ว วันนี้ ก็เป็นวันฉลองครบรอบวันแต่งงานของเราทั้งคู่ ตลอดสองปีมานี้ เขาไม่ค่อยมีอารมณ์ที่จะมีอะไรกับฉันเท่าไหร่นัก ถ้าฉันไม่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน ฉันกลัวว่า สักวันนึง ฉันจะต้องเสียเขาไป คืนนี้ฉันจึงตัดสินใจที่จะลงทุนทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจของเขาให้ได้
วินาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงดับเครื่องยนต์รถดังมาจากหน้าต่าง
ฉันจึงถอดเสื้อคลุมออก แล้วเดินออกจากห้องในชุดกระโปรงสลิปสีแดง
“ฉันคิดถึงคุณมากเลยค่ะ ที่รัก” ฉันเอื้อมมือไปโอบรอบคอของเขาแล้วบรรจงจูบที่ริมฝีปากของเขา
เหอซวี่กลับผลักฉันออก ก่อนจะเหลือบมองมาทีฉัน ฉันรู้สึกได้ว่า เขาเคลิบเคลิ้มไปชั่วครู่
ฉันเลยแอบดีใจขึ้นมา ที่ฉันทำแบบนี้ เขาคงชอบสินะ
“ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?”
เขาถามขึ้นขณะที่กำลังเดินไปนั่งที่โซฟา
“ที่รัก คุณจำได้ไหมคะว่า วันนี้วันอะไร?” ฉันถามแบบลองชิง หลังจากที่นั่งลงข้าง ๆ เขา
เหอซวี่อึ้งไปครู่นึง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “วันอะไรเหรอ?“
ความผิดหวังแวบเข้ามาในใจของฉัน แต่ฉันก็ยังฝืนยิ้ม
“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ“ ฉันเอนตัวเข้าไปซบในอ้อมแขนของเขา สอดมือเข้าไปในเสื้อ ลูบไล้หน้าอกของเขา “คุณอยากจะไปอาบน้ำมั้ยคะ ที่รัก ฉันจะไปเตรียมน้ำให้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ถ้าไม่มีอะไร ผมขอไปพักสักก่อนนะ”
จากนั้นเขาก็ผลักฉันออกไปแล้วเดินไปยังห้องหนังสือ
ฉันได้แต่นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนโซฟา พลางกำหมัดแน่นจนรู้สึกเจ็บจากเล็บกำลังจิกฝ่ามือ
เขาย้ายไปนอนห้องหนังสือตั้งแต่ฉันท้อง โดยบอกว่า ไม่อยากให้ลูกในท้องได้รับบาดเจ็บหรือกระทบกระเทือน
ฉันเพิ่งจะอายุครบยี่สิบหกปีเท่านั้นเอง ฉันแต่งงานแล้วและกำลังตั้งท้องอยู่ และฉันต้องนอนโดดเดี่ยวคนเดียวทุกคืน ทุกวันนี้ฉันรู้สึกเหงามาก
ครั้งหนึ่ง ฉันเคยแอบหาคำตอบทางออนไลน์ แล้วก็เจอความคิดเห็นหนึ่งที่กระตุ้นความสนใจของฉัน มีคนบอกว่าที่สามีฉันไม่มีอารมณ์กับฉันอาจเป็นเพราะว่า เขาได้เห็นเรือนร่างของผู้หญิงมามากแล้ว
ซึ่งมันก็เป็นไปได้ เพราะเหอซวี่ทำงานเป็นสูติแพทย์
แต่มันก็มีอะไรบางอย่างกวนใจฉันมาตลอด
ทุกครั้งที่เขาอยู่ในห้องหนังสือ เขามักจะล็อคประตูห้องเสมอ ในบ้านหลังนี้ มีเราแค่สองคนเท่านั้น ทำไมต้องล็อกประตูห้องด้วยล่ะ? มันช่างดูไร้สาระสิ้นดี มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาอาจจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในนั้นหรือเปล่า
ฉันครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายวันจนกระทั่งกลายเป็นคนวิตกจริตไปเลย ฉันคิดมากจนมันเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันของฉันแล้ว
บ่ายนี้ ฉันจึงแอบติดเครื่องดักฟังไว้ใต้เตียงของเขาแล้วจะได้เลิกสงสัยไปต่าง ๆ นา ๆ สักที
ทันทีที่กลับถึงห้อง ฉันก็รีบใส่หูฟังเลย
พอเชื่อมต่อสัญญาณได้ ฉันก็ได้ยินเสียงหอบและเสียงครางอย่างชัดเจน ทันทีนั้น ฉันรู้สึกลำคอตีบตันน้ำตาไหลปริ่ม
เขาเลือกที่จะช่วยตัวเองแทนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับฉันงั้นเหรอ?
ทว่าสิ่งที่ฉันได้ยินตามมาทำให้ฉันถึงกับช็อค
“รู้สึกดีใช่ไหม หืม?”
“ไม่…ไม่เอา ไม่เอา“
“นี่ ที่รัก เธอบอกว่าไม่เอา แต่น้องสาวของเธอเปียกชุ่มแล้วนะ”
“ในเมื่อตัวเองก็รู้อยู่แล้ว…จะถามทำไมล่ะ? อย่านะ อย่าทำแบบนี้สิจ๊ะ เราไม่ชอบแบบนี้หน่ะ โอ๊ย ฉันอดใจไม่ไหวแล้วค่ะ ที่รัก เข้าในตัวฉันเถอะค่ะ ที่รัก“
“มาถอดกางเกงในของผมออกซะ เร็วเข้า! ถอดมันออกไปซะ แล้วผมจะให้ตัวเองได้กินอะไรดี ๆ สักอย่าง”
ฉันช็อคไปกับสิ่งที่ได้ยิน
คำพูดเร้าอารมณ์ของพวกเขานั้นดังก้องอยู่ในหูของฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกำลังมีคนราดน้ำเย็นจัดทั้งถังลงบนหัวของฉัน ทั้งแขนและขาของฉันชาจนแข็งยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก
“อีม นุ่มนวลหน่อยค่ะ เหอซวี่ เบา ๆ หน่อยค่ะ“
“โอ๊ย เธอบีบผมแน่นจริง ๆ เก็บเสียงครางให้มันเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวคนข้างนอกก็ได้ยินหรอก”เขาบอก
“คุณคงกลัวว่าภรรยาของคุณจะมาได้ยินเราเข้าใช่ไหม เหอซวี่”
“เปล่าสักหน่อย ผมจะไปกลัวเธอทำไม? เมื่ออยู่บนเตียง เธอเป็นแค่ร่างที่ไร้วิญญาณทุกที น่าเบื่อจะตายไป เวลามีอะไรกับเธอ ไม่มีความสุขเลยสักนิด! ผมล่ะอยากจะให้เธอรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหน! ร้องครางให้ดัง ๆ ไปเลย เธอจะได้รู้ว่าผมกำลังทำให้เธอรู้สึกดีมากแค่ไหน!“ แล้วเหอซวี่ก็ส่งเสียงครวญครางออกมา
สุดท้ายฉันก็รุ้ว่า ที่แท้เขารังเกียจฉันมาตลอดเลย
“อุ๊ย ไม่เอาหน่ะ ตัวเองนี่ น่าเกลียดจริง ๆ เลย ตอนนี้เธอกำลังท้องอยู่นะ ถ้าเธอโกรธหรือเครียดขึ้นมา เธออาจแท้งได้นะ คุณไม่กลัวเหรอ?”
“แท้งน่ะเหรอ อืม…ก็ฟังดูจะเป็นความคิดที่ดีนะ” เหอซวี่ตอบ
“คุณนี่มันเหลวไหลจริง ๆ เลย เหอซวี่ โอ๊ย เบา ๆ หน่อยนา”
พวกเขาต่างดื่มด่ำกับร่างกายของกันและกันโดยไม่คิดซ่อนเร้นแรงปรารถนา จนฉันสามารถรู้สึกได้เลยว่าเซ็กส์ของพวกเขากำลังดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อนแค่ไหน
ฉันต้องเอามือปิดปากไว้แน่นเพื่อกั้นไม่ให้ร้องสะอื้นออกมาดัง ๆ แต่ฉันไม่อาจหยุดน้ำตาตัวเองได้เลย
ทุกคำพูดของสามีฉันและเสียงหอบกระหายด้วยไฟปรารถนาของเขาเหมือนมีดสั้นทิ่มแทงเข้าหัวใจของฉันให้แตกสลาย ฉันเจ็บปวดมากจนเกินบรรยาย ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญในความเงียบ แล้วหมอนของฉันก็เปียกชุ่มอย่างรวดเร็วด้วยน้ำตาของฉันเอง
ฉันไม่อาจทนฟังการพร่ำพรอดทรยศของพวกเขาได้อีกต่อไปเลยถอดหูฟังออก กอดขาตัวเองแล้วขดตัวกลม
ในคืนนั้น ฉันต้องเสียน้ำตาไปมากมาย มันเป็นค่ำคืนที่เจ็บปวดทรมาณที่สุดในชีวิตของฉัน
ฉันได้แต่คิดคร่ำครวญวนไปวนมาตลอดทั้งคืน
แม้ว่าหลักฐานทั้งหมดจะชี้ให้เห็นถึงความจริงเรื่องนี้ แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องหนังสือ เพราะว่ามันไม่มีที่ไหนในนั้นที่จะซ่อนใครไว้ได้ ดังนั้น ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือ เขาอาจกำลังช่วยตัวเองไปพร้อมกับคุยทางวิดีโอกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
แล้วฉันก็นึกเสียใจที่ติดตั้งแค่เครื่องดักฟังไม่ได้ติดกล้องขนาดเล็กไว้ด้วย ฉันน่าเอากล้องวงจรไปติดไว้ด้วย
หลังจากครุ่นคิดด้วยความแค้นใจมาตลอดทั้งคืน ฉันก็ค่อย ๆ สงบลงจากความตกใจนั้น หลังจากนั้น ฉันก็ตัดสินใจไปที่ห้องหนังสือเพื่อสืบหาเบาะแสเพิ่มเติม
"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
"เธอมาหาน้องชายฉันเพราะอยากขายตัวแลกหนี้ใช่ไหม .. เสียใจด้วยนะเพราะฉันไม่ใช่ไอ้วิลเซนต์ แล้วผู้หญิงอย่างเธอน่ะ อย่าว่าแต่เอาตัวแลกหนี้หลักล้านเลย แค่หลักร้อยฉันยังเสียดายเงิน" วิลเซอร์ หนุ่มหล่ออายุ 24 ปี เป็นชาวฝรั่งเศสโดยกำเนิด และเป็นหนึ่งในลูกชายแฝดสาม ที่รู้จักกันในนามทริปเปิลวิล เขาเป็นแฝดคนกลางของพี่น้องฝาแฝดชายสามคน หรือบางคนเรียกเขาว่า V2. ครอบครัวพวกเขาเป็นมาเฟียกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ย่าตาทวด มีกิจการตั้งแต่ขาวไปจนถึงเทา เขาเป็นคนเงียบๆ เนี้ยบ และเฉียบขาด สิมิลัน หรือ เก้า เด็กสาวอายุ 22 ปี ที่ชีวิตอาภัพเหลือเกิน เพราะตั้งแต่สูญเสียพ่อไป ชีวิตของเธอก็เริ่มเสียศูนย์และดิ่งลงเหว ชีวิตตกอับขั้นสุดแม้กระทั่งคนที่เธอเรียกว่าแม่ ยังทำให้เธอผิดหวังและเจ็บปางตาย เธอพยายามรักษาบ้าน ที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของพ่อไว้เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ แต่สุดท้ายก็ถูกทริปเปิลวิลล์ยึดไป สิมิลันขอเข้าพบเจ้าหนี้ หวังว่าจะได้รับความเมตตาจากพวกเขาบ้าง แต่เธอคิดผิดถนัด เพราะนอกจากเขาจะไม่ช่วยแล้ว ชีวิตเธอกลับยุ่งวุ่นวายมากกว่าเดิมเสียอีก ชีวิตเธอจะขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงเหว มาลุ้นไปด้วยกันค่ะ "ญาตาวีมินทร์" นิยายเซ็ทมาเฟียตระกูลทริปเปิลวิลล์ แฝดสามสุดหล่อที่มีบุคลิกและนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง มีทั้งหมดสามเรื่องตามแผนผังดังนี้ค่ะ แผนผังตัวละคร ชุดทริปเปิลวิลล์ สุภาพบุรุษมาเฟีย (คู่หลัก) วิลสัน+พุทธมิกา = วินเนอร์ - วินนี่ / วิโอร่า - วีโอเล็ต (คู่รอง) จอนนี่-วันมาตา = มาร์ติน – มารียา หลงกลรักมาเฟีย (คู่หลัก) วิลเซอร์+สิมิลัน = สมิหลา – อันดามัน / วิคเตอร์ – พีพี - ลันตา (คู่รอง) อัลเฟรด-ดาหลา = ลีออง – รีอัล ผัวมาเฟียเมียกำมะลอ (คู่หลัก) วิลเซนต์+ไอด้า = วิลตัน-วิลแฮม-วิลล์ด้า-วิลลาเบลล์ (คู่รอง) นาวิน+ยิปซี = ราเชลล์ – ดาวินซี คำเตือน - นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริงอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ขอองนามปากกา "ญาตาวีมินทร์" แต่เพียงผู้เดียว ห้ามเผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ใดละเมิดถือว่าทำผิดกฏหมายตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 มาตรา 15 17 31 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
เธอได้รับมอบหมายให้สัมภาษณ์นักธุรกิจชื่อดัง แต่ไม่นึกเลยว่าการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอ...จะทำให้เธอสูญเสียพรหมจรรย์ไป เขามีเงิน มีอำนาจ และมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เป็นผู้ชายที่เธอควรหลีกหนีให้ไกลที่สุด เธอตั้งใจจะลืมเรื่องคืนนั้นแล้วใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทว่า...เช้ามา เธอก็ตกงาน จากนั้นก็โดนนักเลงมาข่มขู่คุกคาม แถมยังโดนเจ้าของห้องเช่าไล่ออกอีกต่างหาก เธอมั่นใจว่าคนที่หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอก็คือคู่หมั้นของนนทิวรรธน์ ที่เธอต้องมาซวยก็เพราะผู้ชายคนนี้คนเดียว !! เธอบุกไปบ้านเขาเพื่อทวงความยุติธรรม เพื่อให้เขามอบความปลอดภัยให้เธอ แต่ไม่นึกเลยว่าเธอจากกลายเป็นเมียลับของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ สถานะเมียลับที่อยู่ในความคุ้มครองของเขา ได้เงินทองมากมาย ใช้ชีวิตสุขสบาย แต่ไม่เคยได้รับความรัก และในวันที่เขาจะแต่งงาน คือวันเดียวกับที่เธอเพิ่งรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ และที่สำคัญสุดคือ...หัวใจทั้งดวงของเธอเป็นของเขาไปแล้ว ซ้ำร้าย…เธอมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดเขาเพียง 1 เดือน ก็โดนเขาขับไล่อย่างไม่ไว้หน้า เธอต้องเก็บเสื้อผ้าออกมาจากชีวิตด้วยความรู้สึกที่ย่ำแย่...ทิ้งสถานะเมียลับให้เป็นเพียงความทรงจำ พร้อมกับฝังความลับเรื่องการตั้งครรภ์ไม่ให้ล่วงรู้ถึงหูเขา 2 ปีต่อมา เธอได้พบกับอดีตสามีอีกครั้ง ในฐานะเลขาชั่วคราวกับท่านประธานบริษัท ความลับเรื่องลูก...เขายังไม่รู้ และจะไม่มีวันได้รู้เด็ดขาด แต่ใครจะนึกล่ะว่าความลับไม่มีในโลก !
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง