'เบนจามิน' The nose หนุ่มไฟแรงจากอังกฤษ จับพลัดจับผลูต้องมาเป็นเขยฝรั่งของผู้ใหญ่ชาลี หากครอบครัวเก่าแก่ในสังคมชนบทต้องรับหนุ่ม ‘Beautiful Friend’ เป็นลูกเขยอย่างจำยอม ระเบิดคงลงท้องนาเป็นแน่ แล้ว 'ปาลิดา' จะช่วยว่าที่สามีของเธอยังไงกันล่ะ +++ ‘Beautiful Friend’ หรือที่เราอาจจะรู้จักกันในนาม “เพื่อนชายคลายเหงา” หรือ “หนุ่มโฮสต์” แต่ที่คุณไม่รู้คือ ‘Beautiful Friend’ มีกฎเหล็ก +++ พวกเขาเป็นเพียงเพื่อนเที่ยว เพื่อนดื่ม เพื่อนคุยคลายเหงา เพื่อนปรับทุกข์ แต่พวกเขาไม่ใช่เพื่อนนอน พวกเขาไม่บริการทางเพศ ไม่ขายตัว แต่หากความสัมพันธ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็เพราะความพึงพอใจทั้งสองฝ่ายเท่านั้น เรื่องราวความรัก ความขัดแย้ง ของคนใน ‘สังคมชนบท’ และ ‘สังคมเมือง’ ความคิดสมัยใหม่และความคิดสมัยเก่า ถูกร้อยเรียงผ่านตัวละครหลากหลาย 'เบนจามิน' จะทำอย่างไร เมื่อรักครั้งนี้เขาจริงจัง!!
เคลื่อนไหวเป็นจังหวะรุกเร้ากระชั้นถี่ ดั่งคนทั้งสองกำลังต่อสู้ฟาดฟันกันด้วยกายเนื้อที่เปลือยเปล่า
กล้ามเนื้อต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามดูยิ่งใหญ่แข็งแกร่งช้อนต้นขาอวบอิ่มของคนใต้ร่างและกระชากเข้าหาอย่างไม่ปรานี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เรือนร่างอวบอัดที่อยู่ด้านล่างร้องขออ้อนวอนให้เขายุติการกระทำลงเลยสักนิด กลับกันเธอยิ่งส่งเสียงสั่นรัญจวนชวนเสียวซ่านให้ดังมากยิ่งขึ้น ราวกับว่าไม่มีอะไรจะระบายความอัดอั้นของเธอเท่ากับการกรีดร้องและเปล่งเสียงด้วยความสุขสมนั้นออกมาอีกแล้ว
และเสียงนั้นก็มีผลทำให้ความแข็งแกร่งสอดแทรกรุนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าตามอารมณ์ จนเส้นสายแห่งแรงปรารถนาบรรจบกันและกัน มีเพียงเสียงเหนื่อยหอบสอดประสานราวกับคนสองคนนี้เพิ่งผ่านสมรภูมิรบที่ต้องวิ่งหนีอย่างไม่เกรงกลัวความตาย และเมื่อมาถึงจุดหมายที่ต้องการ ความเหนื่อยหอบนั้นจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขซ่านไปจนถึงหัวใจ
“อืม.. อริน เธอทำให้พี่ถึง.. ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ พี่หมดแรง..”
สาวใหญ่พลิกร่างออกจากเขาก่อนจะซุกซบใบหน้าสวยจัดที่ดวงตาหลับพริ้มลงกับหมอนสีขาวสะอาดตา เสียงลมหายใจระบายยาวๆ เพราะเหนื่อยอ่อนกับกิจกามที่เพิ่งผ่านพ้นจนไม่อาจฝืนดวงตาให้ทอดมองเรือนร่างแข็งแกร่งของคนที่ยังคงใช้ท่อนแขนของเขาค้ำอยู่บนเรือนร่างของเธอได้ แต่เมื่อเขาไม่ขยับเขยื้อนเธอก็คงทนที่จะนอนเฉยอย่างคนไม่รู้ไม่ชี้ต่อไปอีกไม่ได้
“อริน.. พี่ไม่ไหวแล้วนะ นะ.. พี่เหนื่อย” เสียงหวานบ่งบอกว่าเหนื่อยจริงทว่าดวงตาที่แต่งแต้มเสียจนสวยงามไม่ได้บอกแบบนั้นสักนิด
“หึหึหึ.. จริง? อืม.. ถ้าพี่ปรางเหนื่อยจริงก็ OK. ครับ แต่ผมคงทนหิวจนถึงเช้าไม่ไหว คงต้องไปกิน..”
“อิอิ.. อย่ามาพูดยั่วพี่ เธอนี่..สำคัญนักนะ เขาเรียกว่ายังกินไม่อิ่มหรือจะเรียกว่าตะกละกันแน่ล่ะ แบบว่ากินเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ”
อรินทอดสายตามองเจ้าของร่างเปลือยเปล่าใต้ร่างของเขา เรือนร่างอวบอัดพร้อมไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งที่ทำให้เขาตื่นตัวได้คืนละหลายๆ ครั้ง หน้าอกอวบใหญ่เต็มไม้เต็มมืออาจจะดูคล้อยลงเล็กน้อย ทว่าเมื่อมาพบกับช่วงเอวคอดที่สอดประสานกับสะโพกผายเขากลับคิดว่า..ปรางทิพย์สาวใหญ่วัย 40 คนนี้มีเสน่ห์อย่างมากล้น
แม่ม่ายสามีตายอย่างเธอไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักนิด ปรางทิพย์จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมาก บวกกับฐานะผู้บริหารสูงสุดของห้างสรรพสินค้าครบวงจรชื่อดังในเมืองไทย ปรางทิพย์จึงไม่ต่างไปจากกระดังงารนไฟที่ชายหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลายอยากจะเข้ามาสานไมตรีด้วย ทว่าตลอด 5 ปีมานี้ เธอไม่เคยมองใครเพราะเธอมีเขาคนเดียวก็เพียงพออยู่แล้ว และเขาก็ให้ความสุขกับเธอแทบจะเรียกได้ว่า..สำลักความสุขกันทีเดียว
“ใครกันที่กิน..ไม่รู้จักอิ่ม”
อรินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะแค่มองเขาก็รับรู้ได้ถึงความร้อนที่แผ่กระจายออกมาจากคนใต้ร่าง และตอนนี้เขาจะเลือกอย่างไหน จะเป็นลมให้ไฟโหมกระพือยิ่งขึ้น หรือว่าจะเป็นไฟที่เผาผลาญร้อนแรงยิ่งกว่า
“อืม.. OK. พี่ยอมรับก็ได้ อิอิ..”
ปรางทิพย์พลิกร่างนอนหงาย ฝ่ามือเอื้อมหาเขาก่อนจะรั้งต้นคอให้ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าใกล้ ทว่าอรินที่ขืนกายไว้กลับทำให้ดวงตาสวยตวัดขึ้นมองอย่างแง่งอน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหวานเชื่อมและพร้อมที่จะโหมกระพือขึ้นด้วยแรงลมที่เขาตั้งใจให้เป็น
เมื่อกายแกร่งที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของเพศชายอยู่ทุกอณูเนื้อพลิกร่างนอนหงายทอดยาว ทั้งที่ฝ่ามือหยาบกำลังสร้างความซ่านเสียวไปทุกที่ที่เขาสัมผัส ปลายนิ้วร้อนๆ เคล้าคลึงยอดอกชอกช้ำรู้งาน ก่อนจะดึงรั้งร่างอวบอิ่มเป็นสัญญาณให้เธอเป็นฝ่ายรุกเร้า โดยเขาจะเป็นกระแสลมใต้ร่างที่จะส่งเปลวไฟร้อนแรงให้ลุกโชติช่วงก่อนจะแผดเผาความกระสันอยากในค่ำคืนนี้ให้จบลง
“หึหึหึ.. จะไม่ยอมเสียเปรียบพี่เลยนะ”
“ก็ผมต้องเก็บแรงไว้ทำงานพรุ่งนี้นี่ครับ ถ้าปล่อยให้พี่ปรางสูบไปเสียหมด ผมคงจะคางเหลืองแน่”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าพี่จะสูบ..ไม่หมด รับรองสักหยดก็จะไม่ให้เหลือ”
“อืม.. ถ้าจริงตามพูดผมคงต้องยอม”
ดวงตาคมเข้มร้อนแรงค่อยๆ เคลื่อนสายตาลงตามสัดส่วนที่ผู้ชายปรารถนา ปรางทิพย์รู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายเพราะแววตาของเขาไม่ต่างกับเธอกำลังถูกลูบไล้จากฝ่ามือร้อนๆ นั้นสักนิด กลับทำให้เธอกระเจิงไปด้วยความอยากมากยิ่งขึ้น เมื่อลอนหน้าท้องที่ขึ้นลูกเป็นมัดสวยคล้ายจะเคลื่อนไหวยั่วเย้าให้เธอแตะสัมผัส ฝ่ามือสั่นประหม่าจึงเอื้อมลูบไล้เรือนกายแข็งแกร่งของเขาอย่างแสนเสน่หา
“อริน เกียรติพงษ์สิน” หนุ่มหล่อวัย 26 ปี ดีกรีนักเรียนนอกและปัจจุบันเขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกลคนหนึ่งของเมืองไทย เธอพบกับเขาเมื่อ 5 ปีก่อน สำหรับเขาการพบกันจะเรียกว่าอะไรเธอไม่รู้ แต่สำหรับเธอไม่ต่างจากพรหมลิขิตที่ทำให้มาพบกัน โดยเฉพาะเขาที่เลือกทำอาชีพพิเศษแบบนั้น
ในยามสามีที่รักจากไปกะทันหัน เธอที่ไม่สามารถทนอยู่เมืองไทยได้โดยลำพังจึงบินมาท่องเที่ยวที่อังกฤษเพราะเป็นสถานที่ที่ทำให้เธอและสามีพบรัก เธออยากเก็บเกี่ยวความทรงจำที่เหลืออยู่ให้มากที่สุด ไปในทุกที่ที่เคยมากับเขา เคยรักกัน เคยผูกพัน
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน