เขาตกหลุมรักเด็กสาว ม.ปลายใจบุญที่ชอบช่วยเหลือสัตว์ โดยเฉพาะหมาแมวจรจัดข้างถนนเมื่อหลายปีก่อน แม้จะเคยเห็นกันไกลๆ แต่ไม่เคยได้คุยกันเลยสักครั้งเดียว หลายปีต่อมาเขาได้เจอเธออีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะมุ่งมั่นที่จะจีบเธอให้สำเร็จ
เขาตกหลุมรักเด็กสาว ม.ปลายใจบุญที่ชอบช่วยเหลือสัตว์ โดยเฉพาะหมาแมวจรจัดข้างถนนเมื่อหลายปีก่อน แม้จะเคยเห็นกันไกลๆ แต่ไม่เคยได้คุยกันเลยสักครั้งเดียว หลายปีต่อมาเขาได้เจอเธออีกครั้ง และครั้งนี้เขาจะมุ่งมั่นที่จะจีบเธอให้สำเร็จ
“คุณหมอช่วยมันด้วยครับ มันโดนรถชน” ตฤณรีบอุ้มสุนัขบาดเจ็บที่โดนรถชนเข้าไปในโรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งอย่างรีบร้อน
“ใจเย็นๆ นะคะ เดี๋ยวหมอจะช่วยมันเองค่ะ” เสียงหวานใสก้องกังวลของปิ่นแก้วทำให้ตฤณเงยหน้าจากร่างโชกเลือดของเจ้าสุนัขจรจัดเพื่อมองสัตวแพทย์สาว
ตฤณยืนมองร่างอรชรที่สั่งให้เจ้าหน้าที่รีบพาสุนัขบาดเจ็บเข้าห้องไปด้วยหัวใจเต้นถี่กระชั้น เขาจำเธอได้ เด็กผู้หญิงคนนั้นที่ชอบเอาอาหารไปให้สุนัขจรจัดหิวโหยน่าสงสารที่โดนทิ้งอยู่ข้างถนน
ตฤณนั่งลงที่เก้าอี้หน้าห้องรักษาสัตว์ เขามองบรรยากาศโดยรอบของโรงพยาบาลสัตว์อย่างคุ้นเคย เนื่องจากเขาพาสุนัขและแมวจรจัดมารักษาที่นี่บ่อยๆ
“มันปลอดภัยแล้วนะคะ” เสียงหวานใส เจ้าของใบหน้ารูปไข่หวานละมุนทำให้ตฤณหลุดจากภวังค์ความคิด เขานั่งอยู่ตรงเก้าอี้สลับกับเดินไปมาด้วยความร้อนใจ ด้วยรู้สึกว่ามันนานเหลือเกินกับการเอาใจช่วยให้ชีวิตหนึ่งรอดพ้นความตามไปได้
“ขอบคุณมากครับ” ตฤณยืนขึ้นเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร เขายิ้มกว้างให้สัตวแพทย์สาวในทันทีที่ได้ยินเรื่องน่ายินดีนี้
“แต่มันต้องนอนพักรักษาตัวสักระยะก่อนนะคะ” ปิ่นแก้วบอกชายหนุ่มตรงหน้า
“ผมตฤณครับ เรียกสั้นๆ ว่าสองก็ได้” เขาแนะนำตัวเองยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน
“ค่ะคุณสอง ฉันชื่อปิ่นแก้วค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าปิ่นก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มตอบเขากลับไป ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้กันล่ะ ผู้ชายใจดีคนนั้น เธอเคยเห็นเขาเอาอาหารไปให้สุนัขจรจัดบ่อยๆ แต่น่าแปลกที่เธอกับเขาไม่เคยได้คุยกันเลยสักครั้ง เธอเห็นเขาแค่ไกลๆ ตอนที่เขากำลังจะจากไป
“ผมขอไปเยี่ยมมันหน่อยได้ไหมครับ” ตฤณบอกหญิงสาวตรงหน้า
“ได้สิคะ มันหลับอยู่น่ะค่ะ”
“มันโดนรถชนครับ ถ้าไม่พามารักษาคงพิการเดินลากขาเหมือนสุนัขบางตัว”
“น่าสงสารจังเลยนะคะ แสดงว่ามันเป็นสุนัขจรจัดใช่ไหมคะ”
“ครับ” ทั้งสองเดินมาหยุดหน้าเตียงสุนัขสีดำผ่ายผอม
“คุณตั้งชื่อมันหรือยังคะ” เธอเอ่ยถาม เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ยังครับ เราเพิ่งเจอกันก่อนหน้านี้ไม่นานครับ หมายถึงผมเจอมัน ตอนโดนรถชนแล้ว”
“งั้นเรามาตั้งชื่อมันกันดีไหมคะ” ปิ่นแก้วพูดยิ้มๆ
“ชื่ออะไรดีครับ” เขาเหลือบมองสัตวแพทย์สาว เธอมีส่วนสูงประมาณหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรโดยประมาณ ผิวของเธอขาวอมชมพู ปากอวบอิ่ม คิ้วเรียวสวย แก้มเนียนใสไร้ไฝฝ้าจุดด่างดำ ผมของเธอดำขลับมัดเป็นหางม้าอยู่ด้านหลัง ดวงตาเรียวสวยรับกับคิ้ว จมูกโด่งเล็ก หน้าผากนูนเกลี้ยง เขามองเธอพูดอย่างเพลินตา มองปากสวยที่ขยับขึ้นลงไปมาแล้วเผลอแตะลิ้นเลีย ริมฝีปากเบาๆ ปากน่าจูบจัง...
“คุณสองคะ คุณสอง”
“ครับ” ตฤณหลุดจากภวังค์ความคิดอันแสนสับสนวุ่นวายของตัวเอง หัวใจของเขาสั่นไหวรุนแรง
“ปิ่นถามว่าให้ชื่อเจ้าดำดีไหมคะ มันตัวดำ” เธอพูดติดตลก
“ดีครับ”
“ต้องพักรักษาตัวอีกหลายวันนะคะ คุณสองโอเคไหมคะ”
“โอเคครับ ค่ารักษาพยาบาลผมจะรับผิดชอบทั้งหมดนะครับ”
“ทางโรงพยาบาลจะลดให้พิเศษนะคะ กรณีที่สุนัขตัวนั้นเป็นสุนัขจรจัดและถูกคนใจบุญช่วยเอาไว้”
“ดีจังครับ”
“โรงพยาบาลที่นี่ปิ่นกับพี่ชายช่วยกันสร้างขึ้นมาน่ะค่ะ เราชอบเลี้ยงสัตว์และรักสัตว์ เลยอยากเป็นหมอรักษาสัตว์กันตั้งแต่เด็ก”
“แสดงว่าครอบครัวของคุณเป็นหมอรักษาสัตว์กันหมดเลยเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ปิ่นมีพี่ชายอีกสามคน ปิ่นเป็นลูกคนเล็กน่ะค่ะ”
“ดีจังครับ”
“ฝนตกหนักเลยนะคะ คุณสองมีร่มไหมคะ” เธอเอ่ยถาม ตฤณส่ายหน้าไปมา
“ไม่มีร่มครับ”
“งั้นเอาร่มของปิ่นไปก่อนนะคะ”
“ขอบคุณครับ เอ่อ... ผมขอเบอร์โทรศัพท์ของคุณปิ่นเอาไว้ได้ไหมครับ คือเอาไว้สอบถามอาการของเจ้าดำน่ะครับ” คนเอ่ยขอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ยิ้มเขินเพราะใจเขาแอบอยากได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอจากสาเหตุอื่น
“ได้สิคะ เดี๋ยวเอาไลน์ของปิ่นไปด้วยนะคะ แล้วก็ของโรงพยาบาลด้วย”
“ผมมีไลน์และเบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาลแล้วครับ เพราะว่าผมเป็นลูกค้าประจำของที่นี่”
“จริงเหรอคะ ปิ่นเพิ่งเรียนจบมาทำงานน่ะค่ะ แสดงว่าพี่ๆ ของปิ่นก็ต้องรู้จักคุณสองสิคะ”
“ก็คิดว่าแบบนั้นครับ แต่มีลูกค้าเยอะ ผมอาจจะไม่เป็นที่จดจำก็ได้ นะครับ
"มะนาว" นักศึกษาสาวปีสามผู้ฉลาดแกมโกง คิดว่าตัวเองเอาตัวรอดเก่ง แต่เมื่อหัวใจดันตกหลุมรัก "พี่ธันวา" รุ่นพี่ปีสี่สุดหล่อ สุขุม และเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่า เธอจึงต้องวาง "แผน" เพื่อให้ได้ใกล้ชิดเขา แต่ทุกครั้งที่คิดจะเหนือกว่า กลับกลายเป็นว่าเธอตกหลุมพรางหัวใจของเขาซะเอง เกมนี้ไม่มีใครแพ้ เพราะสุดท้ายความรักที่มีแผนซ่อนอยู่ก็คือความรักที่ทำให้ทั้งคู่ยิ้มได้ จะหลอกล่อหรือจะวางแผนยังไงก็ไม่พ้น…เพราะพี่เขาวาง "แผนรัก" รออยู่แล้ว
การแก้แค้นที่แท้จริง เหมือนประโยคที่ว่า... "สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร"
1. เจ้าสาวส้มหล่นของท่านประธานพันล้าน เธอ…หญิงสาวธรรมดาผู้มีหัวใจกล้าหาญ อาสากู้ภัย ช่วยชีวิตชายแปลกหน้ากลางเหตุอุบัติเหตุโดยไม่รู้เลยว่า…เขา คือประธานหนุ่มพันล้าน ผู้เย็นชา สุขุม และเป็นชายที่เธอจะต้องผูกพันไปตลอดชีวิต ค่ำคืนหนึ่งที่ผับ…เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ชีวิตของทั้งสองพันเกี่ยวกันแน่น จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักที่ไม่อาจย้อนกลับ จาก "ประธานผู้ทรงอิทธิพล" กลายมาเป็น "คนรัก" ที่พร้อมดูแลเธอและครอบครัว จากหญิงสาวธรรมดา กลายเป็น "ภรรยาส้มหล่น" ที่หัวใจของเขายกให้ทั้งดวง แต่เส้นทางนี้ไม่ได้มีเพียงความหวาน ยังมีไฟริษยา ความแค้น และบททดสอบมากมายรออยู่ข้างหน้า ความรักของเขาและเธอจะก้าวผ่านทุกอุปสรรคไปได้หรือไม่ มาร่วมลุ้นไปกับเรื่องราวสุดฟินจิกหมอนที่ทั้งหวาน ซึ้ง เข้มข้น และอบอุ่นหัวใจ 2. หลงใหล เขาหลงรักเธอตั้งแต่วันแรกที่เห็น...จากเด็กสาวผู้ยิ้มสดใสผู้รับทุนการศึกษา กลายเป็นหญิงสาวแสนอบอุ่นที่เข้ามาเติมเต็มหัวใจของเขาในรีสอร์ทกลางขุนเขา ธาวิน ชายหนุ่มเจ้าของรีสอร์ทผู้แอบมอบทุนให้เธอมานานแรมปี นลินฉัตร หญิงสาวธรรมดาที่ไม่เคยรู้เลยว่าผู้ชายคนหนึ่งแอบมองเธอมาตลอดด้วยความรัก เมื่อโชคชะตาพาให้ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง ในสถานที่ที่โอบล้อมด้วยสายหมอกและกลิ่นดอกไม้ หัวใจสองดวงที่เคยห่างไกล... กลับเต้นเป็นจังหวะเดียวกันอีกครั้งอย่างอบอุ่นและอ่อนหวาน บางที... ความรักที่แท้จริงอาจไม่ต้องการคำสัญญาใหญ่โต แค่ใครสักคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเข้าใจ และมอบ "รีสอร์ทกลางใจ" ไว้ให้ดูแล... ตลอดชีวิต 3. เพลิงพ่ายรัก เมื่อ "เพลิงฟ้า" ชายหนุ่มผู้เย็นชาและเคยผิดหวังจากความรัก ต้องมาเจอกับ "รดา" พยาบาลสาวแสนซื่อ ที่คุณย่าของเขารับเข้ามาดูแลในบ้าน เพียงแรกพบสบตา เขากลับจดจำเธอได้ในฐานะ "ผู้หญิงของเพื่อน" หญิงสาวที่เขาเคยเชื่อว่าเสแสร้งและหวังจับคนรวย! ความเข้าใจผิดในวันนั้น กลายเป็น "เพลิงแค้น" ที่เขาเผาตัวเองให้มืดมิด แต่ยิ่งได้ใกล้ ยิ่งได้เห็น เขากลับพบว่าเธอไม่ใช่อย่างที่คิด เธอคือคนที่มีหัวใจอ่อนโยน ซื่อสัตย์ และยอมเสียสละเพื่อคนอื่นจนหมดสิ้น จากความรังเกียจ กลายเป็นความห่วงหา จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความรักที่ไม่อาจปฏิเสธ เมื่อหัวใจของเพลิงฟ้า "พ่าย" ให้กับผู้หญิงที่เขาเคยดูแคลน ความรักจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางเงาแห่ง
เมื่อหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าไปอยู่ในบ้านของคนแปลกหน้า และกลายเป็น น้องสาว ของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง... ความลับ ความใคร่ และพันธะที่ไม่มีใครเลือกได้ ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ต้องห้าม ที่ไม่มีใครห้ามหัวใจตนเองได้อีกต่อไป เขา คือพายุ ชายหนุ่มเจ้าอารมณ์ที่ไม่เคยยอมรับใคร เธอ คือพลอยชมพู เด็กสาวที่อยากให้แม่มีชีวิตใหม่ที่ดี แต่เมื่อโลกใบใหม่กลับกลายเป็นคุกทอง และเขาคือผู้กักขัง...เธอจะหนีไปได้อย่างไร ในเมื่อหัวใจของเธอ...กำลังถูกพันธนาการไว้ด้วยความรัก
บนเกาะเงียบสงบที่ทอดตัวอยู่กลางทะเลใต้ คือพื้นที่ต้องห้ามของความปรารถนาที่ไม่มีใครล่วงรู้... สิบปีที่เขาเฝ้ารอนับจากวันที่ส่งเธอไปเรียนในเมือง ด้วยเงื่อนไขที่ไม่มีใครรู้ สิบปีที่ไฟราคะสุมอยู่ในใจของ "นายหัวคณิน" ผู้ชายที่เธอเคยเรียกว่า พ่อเพื่อน และเมื่อ "ไหมแก้ว" หวนกลับคืนสู่เกาะที่เคยจากไป เธอไม่อาจคาดคิดเลยว่าตัวเองไม่ได้กลับมาในฐานะ ลูกสาวของคนรู้จัก แต่กลับถูกเรียกว่า "เจ้าสาวที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อเป็นของเขาเพียงคนเดียว" ระหว่างคำว่าบุญคุณ กับความปรารถนาอันร้อนแรง ระหว่างคำว่าเจ้าของ กับความรักที่ถูกปลูกฝังผ่านวันเวลา เธอจะหนี... หรือจะยอมจำนนให้หัวใจและร่างกายถูกผูกไว้กับผู้ชายที่รักเธอจนยอมทิ้งทั้งโลกเพื่อแลกกับแค่เธอเพียงคนเดียว...
บิดามารดามีฐานะลำบาก ตอนแรกเธอคิดจะหลอกเขา เพื่อหวังเงิน และหลอกผู้ชายคนอื่นแบบนี้ แต่เชียรไม่ใช่หมูในอวยให้เธอหลอกเล่นได้ง่าย ๆ เพราะเขาเอาจริง เธอไม่เอาเขาไม่เป็นไร แต่เขาพร้อมเอาเธอทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
สตรีนางอื่นคงจะข้ามภพมาเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนกลายเป็นวีรสตรี กู้ชาติกู้แผ่นดิน แต่สำหรับข้านั้น “ความรักไม่แน่นอน แต่ความง่วงเป็นสิ่งที่ต้องนอนแน่ๆ”
[ตามง้อเมียแบบเจ็บลึก + รักสองทางต่างมุ่งหน้าเข้าหากัน + โฟกัสเรื่องงาน/สร้างอาชีพ] แต่งงานกันแบบปิดเงียบมาได้สามปี เหอซือชิงเคยคิดว่าความอุ่นร้อนจากหัวใจเธอจะละลายหลู่เป่ยหลินได้สักวัน แต่สุดท้าย ต่อให้เธอทุ่มเททั้งใจเท่าไหร่ ก็สู้การหวนคืนอย่างสวยงามของหญิงคนรักเก่าที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอดไม่ได้เลย “หย่ากันเถอะ ในเมื่อเราทั้งคู่เห็นหน้ากันก็ยิ่งรู้สึกเบื่อหน่าย งั้นปล่อยให้เราต่างคนต่างเป็นอิสระจะดีกว่า ”หัวใจของเหอซือชิงเหมือนมอดไหม้จนไร้ความรู้สึกแล้ว หลู่เป่ยหลินปฏิเสธอย่างเย็นชา “ฉันไม่เห็นด้วย เธอไม่มีวันได้หย่าจากฉันเด็ดขาด!” เขาคิดจะกักเธอไว้ข้างกาย แต่ยิ่งบีบก็ยิ่งผลักเธอให้ห่างออกไปเรื่อย ๆจนสุดท้าย…ก็สูญเสียเธอไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้พบกันอีกครั้ง เธอกลับรุ่งโรจน์ในหน้าที่การงาน ชื่อเสียงโด่งดังในวงการแพทย์ ผู้ชายที่ตามจีบล้อมรอบไม่ขาดสาย ชีวิตไปได้สวย และที่สำคัญ เธอลืมเขาไปอย่างหมดสิ้น หลู่เป่ยหลิน “ลืมเหรอ? ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอนึกขึ้นได้เอง!” จากนั้นเป็นต้นมา— เหอซือชิงกุมเอว หน้าแดงจัดพร้อม “ต่อว่า” ไปว่า “หลู่เป่ยหลิน คุณมันเผด็จการ จะพอได้รึยัง!” หลู่เป่ยหลินยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีวันพอหรอก!”
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
รักแรกพบ อาจเกิดขึ้นไม่ง่ายนัก แต่เมื่อได้เกิดกับหัวใจของผู้ชายที่ชื่อพระนาย ชายหนุ่มจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ ขวัญข้าว ดวงใจของเขา ++++ “นายช่วยฉันหน่อย ฉันทรมาน” ขวัญข้าวพร่ำบอกความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย ความต้องการส่วนลึกดูจะมีอิทธิพล จนทำให้ขวัญข้าวเอ่ยพูดสิ่งนั้นออกไป สติของเธอตอนนี้แทบจะหลุดลอย “ทรมาน คุณเป็นอะไร?” “ไม่รู้... แต่ฉันแค่ต้องการ น่ะ... นาย... ขอร้องทำอะไรก็ได้ ฉัน... ฉัน... ทนไม่... หวะ... ไหว” ขวัญข้าวพูดติดขัดปานจะขาดใจ พูดจบก็หอบเหนื่อย ใบหน้าร้อนผ่าวๆ เพราะความเขินอายที่ตัวเองเป็นฝ่ายเชิญชวนเขาไปตรงๆ ก่อนจะก้มหน้าต่ำมองพื้นห้อง พระนายรั้งใบหน้าของขวัญข้าวให้มองมายังเขา
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจภายหลังจากมารดาเสียชีวิตเด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดพร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลกอีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกพรากไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY