เมื่อสาวอกหัก ยอมมาเป็นเพียงแค่มดแดงแฝงพวงมะม่วง ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ชายที่รัก จนกว่าเขาจะแต่งงาน แต่หารู้ไม่ว่านั่นคือการเปิดประตูพรหมลิขิตเข้าอย่างจัง ตึกๆ ตักๆ ตึกๆๆ ตักๆๆ จังหวะการเต้นของหัวใจนาราชานั้นถี่กระชั้นขึ้นจนเธอเหมือนจะเป็นลม ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมองธามด้วยซ้ำ แม้จะไม่ได้มองแต่เพราะตอนนี้อยู่ใกล้กันมากเกินไป ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจอุ่นๆ ของธามได้ “โอ๊ย! ใจจ๋า อย่าเต้นดังไป เดี๋ยวเขาได้ยินหมด” นาราชาที่ยังคงหลับตาเอ่ยบอกหัวใจที่ตอนนี้เต้นรัวยิ่งกว่ากลองเพลยามออกรบ แต่เหมือนจะไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่นักและพอรับรู้ว่าปลายนิ้วของธามกำลังขยับ นาราชาก็ตัดสินใจเอ่ยถามออกไป “เอ่อ…ขะ…คุณธามคะ มันจำเป็นต้องจับตรงนั้นด้วยหรือคะ” “ตรงนั้นรู้เหรอว่าคือตรงไหน” “ก็ตรงที่คุณธามหยุดปลายนิ้วไว้น่ะค่ะ” เพราะยังคงหลับตา จึงไม่รู้ว่าตอนนี้มือธามอยู่ที่ไหน นั่นทำให้ธามอยากแกล้งคนรู้ดี “หึหึ…ถ้าไม่จับ แล้วฉันจะรู้ขนาดไหม” “หุ่นที่ปั้นนี่มันต้องรู้ขนาดของคนที่มาเป็นแบบ แบบเป๊ะๆ เลยเหรอคะ” “ใช่…ฉันชอบความเป๊ะ….” -------------------------------------------------------------------------------- “เสื้อเชิ้ตก็หอม เสื้อยืดก็หอม กางเกงยีนส์ก็ยังหอม โอ๊ย! เสื้อผ้าผู้ชายอะไรใส่แล้วยังหอมเหมือนยังไม่ได้ใส่ นี่ก็หอม เอ๊ย!” นี่ก็หอมที่ว่าคือบ็อกเซอร์สีขาวที่ตอนนี้อยู่ในมือเธอ แล้วเมื่อครู่เธอก็เอาเจ้านี่ขึ้นมาหอม มาดมไปตั้งหลายครั้ง หึหึ นาราชาเพ่งมองเจ้าบ็อกเซอร์สีขาวในมือ จินตนาการบางสิ่งบางอย่างก็โลดแล่นอยู่ในสมองอย่างไม่อาจห้ามได้ นั่นพลอยทำให้ใบหน้าเธอร้อนผ่าวๆ กับความคิดเชิงสิบแปดบวกของตัวเองในขณะนี้ “ยัยจิ้งบ้า คิดอะไรของหล่อน หล่อนเป็นผู้หญิงยิงเรือนะยะ” นาราชายิ้มเขิน แต่อยู่ๆ เสียงออดหน้าบ้านที่ดังขึ้นก็ทำให้คนที่กำลังเพ้อฝันถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบออกไปดูทันที แต่พอเห็นว่าในมือกำลังถืออะไรติดมาด้วย ก็รีบเหน็บไว้กับขอบกางเกงพร้อมกับดึงเสื้อยืดตัวยาวที่สวมอยู่ลงมาปิด
“ผมจะแต่งงานเร็วๆ นี้ครับ”
นี่คือประโยคที่เสียดแทงเข้าสู่หัวใจของคนฟังอย่างนาราชาอย่างจัง ประโยคนี้ทำเอาเธอหูอื้อไปเสียดื้อๆ รู้สึกอึนๆ อย่างบอกไม่ถูก อยากร้องไห้แต่กลับร้องไม่ออก เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มที่เธอเฝ้ามอบความรักให้ข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่งมานานหลายปีนั้น ได้ออกมาประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนว่าเขากำลังจะแต่งงาน! แต่งงาน! คำคำนี้ดังเป็นแอคโค่กึกก้องอยู่ในหัวของนาราชา
ข่าวที่ได้รู้ ทำให้เธอไม่อาจนิ่งเฉยได้ ในเมื่อหัวใจที่แสนเจ็บปวด มันเรียกร้องให้ต้องบินกลับมาเมืองไทยทันทีทั้งๆ ที่ขณะนั้นเธอกำลังเรียนต่อระดับปริญญาโทอยู่ที่ต่างประเทศ
ยังดีที่ตอนเกิดเรื่องเป็นช่วงค้นคว้าหาข้อมูลส่งงาน จึงไม่มีคลาสให้ต้องเข้าเรียนจริงๆ จังๆ แต่ก็ใช่ว่าเวลาจะมีมากนัก นั่นทำให้การกลับมาเมืองไทยครั้งนี้ นาราชาตัดสินใจที่จะใช้เวลาอยู่กับชายหนุ่มที่เธอรักให้คุ้มค่า ก่อนที่เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในสายตาเธอ ผู้หญิงที่ถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีใครได้เห็นรูปร่างหน้าตา แต่เชื่อมั่นได้ว่าต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจคว้าหัวใจของธามไปครอบครองได้เช่นนี้
“เฮ้อ! มันอิจฉารู้ไหม อิจฉาทุกที อิจฉาที่พี่รักเค้า ไม่รักใคร แอบตาร้อน ซ่อนเร้น อยากเป็นบ้างได้หม้าย อยากเป็นคนที่พี่ชาย รักคนเดียว…”
“อ้าว! ครึ้มอกครึ้มใจอะไร ถึงมานั่งร้องเพลง” พระแพงส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท ที่อยู่ๆ ก็ร้องเพลงขึ้นมาดื้อๆ แต่จะว่าไป เนื้อเพลงมันแปลกๆ ทะแม่งๆ หูอยู่นะ
“ครึ้มอกครึ้มใจซะที่ไหน อกหักอยู่ล่ะไม่ว่า เฮ้อ” ว่าแล้วเสียงถอนหายใจก็ดังมาจากนาราชาเฮือกใหญ่ ขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปยังบ้านหลังที่อยู่ติดกัน อดคิดไม่ได้ว่าป่านฉะนี้แล้วเจ้าของบ้านจะไปอยู่เสียที่ไหน เพราะนี่ก็หลายวันแล้วที่ไม่ได้เห็นหนุ่มในดวงใจกลับมาสักที
หรือเขามัวแต่ไปอยู่กับว่าที่เจ้าสาว คิดแบบนี้แล้ว นาราชาก็คอตกเหมือนดอกทานตะวันตอนบ่าย ออกแนวหงุดหงิด พานอยากจะติด จีพีเอสไว้บนตัวธาม ถ้าเมื่อไหร่อยากรู้พิกัด ก็แค่ใช้กูเกิ้ลค้นหาแต่ก็คงทำได้แค่คิด
“ร้องเพลงแล้วก็ให้เครดิตเจ้าของเพลงด้วย เดี๋ยวถูกฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง” พระเพื่อนตะโกนบอกออกมาจากห้องครัว เพราะรู้สึกหิวจึงเข้าไปหาอะไรลงท้อง
“ขอขอบคุณเพลงอิจฉา ของนักร้องบิว กัลยาณี อาร์ สยาม ที่มันโดนใจพี่มาก ฉึกๆ จนต้องขอซับน้ำตาแป๊บ” คิดแล้วคนอกหักก็ถอนหายใจยาว
“นี่ก็เอาจริง” พระแพงส่ายหน้าให้ทั้งเพื่อนสนิทและแฝดผู้พี่ ที่เล่นมุกส่งมุกกันอย่างถูกจังหวะ
“เฮ้อ! คิดแล้วก็อยากเห็นหน้าว่าที่ภรรยาคุณธาม”คนอกหักเพ้อแบบเจ็บๆ ออกมา ก่อนจะขยับแว่นสายตาที่สวมอยู่นิดหน่อย พระเพื่อนที่ตอนนี้กำลังเดินกลับมานั่งใกล้ๆ ทั้งคู่ได้ทีเอ่ยขึ้น
“เห็นแล้วได้อะไร”
“นั่นสิ เห็นแล้วได้อะไร พอเห็นคราวนี้แกก็จะยิ่งเจ็บช้ำระกำทรวงเข้าไปอีก อยู่แบบนี้แหละดีแล้ว ขืนได้เห็นจากที่อิจฉาจะกลายเป็นริษยา”คำพูดของพระแพงก็ทำเอาคนฟังถอนหายใจออกมาหนักๆ อีกครั้ง
“เฮ้อ! ตอนนี้บอกเลยว่าฉันเป็นทั้งสองคำที่แกพูดมาเลยแพงอิจฉาแรงมากจนกลายเป็นริษยาเข้าไปแล้ว ขนาดยังไม่ทันจะได้เห็นหน้า ก็ยังรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนั้นเข้ากระดูก ฮือๆ” นาราชาบอกไปตรงๆ เพราะถึงแม้จะทำใจมาส่วนหนึ่ง แต่เธอก็ใช่ว่าจะเป็นแม่พระ ถึงจะไม่รู้สึกอะไรก่อนจะทำเสียงร้องไห้ สงสารตัวเอง
“จะเกลียดก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้ฉันมั่นใจว่า ผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศก็มีอาการและความรู้สึกแบบเดียวกันกับแกเป๊ะ ใครๆ ก็คงอยากรู้ว่าผู้หญิงที่ไหนกันสามารถคว้าหัวใจหนุ่มฮอตอย่างคุณธามไปครอง ถึงขนาดประกาศต่อหน้าสื่อว่าจะแต่งงานได้แบบนี้” แต่ถึงจะพูดแบบนี้ แต่พระเพื่อนก็เบ้ปากเบาๆ เพราะเธอคือผู้หญิงที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่เอ่ยมาแน่ๆ นั่นธามไม่ใช่ชายในฝัน เพราะต่อให้เขาจะหล่อเหลามากแค่ไหน แต่สำหรับเธอไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
“ไปโพสต์ให้นักสืบพันทิปช่วยไหมจิ้ง” พระแพงเสนอความคิดเห็น ที่อยู่ๆ วิธีนี้ก็ผุดขึ้นมาในสมอง
“บ้า…ใครจะมาสืบให้”พระเพื่อนแย้งขึ้น ก่อนจะมองน้องสาว ฝาแฝดที่แม้รูปร่างหน้าตาจะเหมือนกันจนใครต่อใครต่างแยกไม่ออกว่าคนไหนพี่คนไหนน้อง แต่เรื่องอุปนิสัยใจคอก็มีบางมุมที่ต่างกันบ้าง แต่ถ้าไม่สนิทจริงก็ยากจะแยกออกอีกตามเคย
เธอนั้นเป็นสาวประเภทชอบลุย ชอบเที่ยวป่า เที่ยวเขาคนเดียว แต่กลับชอบการทานเค้กเป็นชีวิตจิตใจ ใครโพสต์ว่ามีเค้กที่ไหนเด็ด ที่ไหนดัง เธอต้องหาเวลาไปชิมให้ได้แม้จะต้องข้ามเขาลงห้วย นั่งเรือไปก็ตามส่วนพระแพงนั้นขาลุยเช่นกัน แต่ชอบเที่ยวตามห้างสรรพสินค้าเที่ยวตามเมืองมากกว่า ชอบทานของหวานที่เป็นขนมไทยแต่ไม่ชอบทานเค้กซะอย่างนั้น
“เอ้า! เผื่อมีคนในสมาคมอกหักรักคุดเหมือนแกเยอะไง หูตานักสืบพันทิปเป็นสับปะรด อาจจะรู้เห็นมาก็เป็นได้นะเพื่อนว่าใครคือว่าที่เจ้าสาวคุณธาม”
“อย่าเลย เพราะอีกไม่นาน เพื่อนรับรองว่ายัยจิ้งต้องได้เห็นว่าที่ ศรีภรรยาของคุณธามแน่นอน ดีไม่ดีอาจได้เห็นเป็นคนแรก” พระเพื่อนยิ้มมุมปาก แต่ก็ไม่วายถูกเบรกจากคู่แฝดของตัวเอง
“มั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอเพื่อน” พระแพงฟังแล้วก็คิ้วขมวดชวนสงสัย
“ใช่…เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมง ยัยจิ้งต้องไปเป็นแม่บ้านให้คุณธาม แล้วแพงคิดดูว่าแฟนที่ไหนจะไม่มาบ้านคนรักบ้าง จริงไหม”
“เออใช่”ได้ฟังแล้วพระแพงพยักหน้าเห็นด้วย ส่วนนาราชานั้นแค่นั่งฟังเฉยๆความรู้สึกมันก็เจ็บจี๊ดที่หัวใจจนทำให้ห่อเหี่ยว เฮ้อ! คนอกหักได้แต่นั่งถอนหายใจออกมา
“แล้วถ้าเจอเขาขึ้นมา แกจะทำไงจิ้ง” พระเพื่อนเอ่ยถามคนที่เอาแต่นั่งฟังเพราะตอนนี้ในสมองกำลังมโนภาพขณะที่เธอคว้าว่าที่เจ้าสาวของธามมาตบๆ แล้วก็ตบๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แค่การคิดไปเอง ก่อนที่นาราชาจะพูดออกมาด้วยโทนเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า
“ยังคิดไม่ออกเลย ว่าถึงตอนนั้นจริงๆ ฉันจะทำตัวยังไง”
“แต่ฉันคิดออก”
“หืม…คิดออก ยังไง” นาราชาหันไปถามพระเพื่อน
“คิดออก ว่าแกได้ซดน้ำใบบัวบกเป็นสวนอีกน่ะสิ เอานี่ กินก่อนเลย จะได้เป็นภูมิคุ้มกัน” ว่าแล้วพระเพื่อนก็วางน้ำใบบัวบกที่หยิบตืดมือมาให้นาราชา ซึ่งเธอก็รับไปดื่มอย่างไม่มีท่าทีอิดออดให้เห็น
“คนแบบฉัน คงทำได้แค่แอบรักอยู่แบบนี้ละมั้งชีวิตมันเศร้าจริงๆ” เอ่ยเสร็จก็ซดน้ำใบบัวบกไปอีกอึกใหญ่
“เอาน่ะ อย่างน้อยๆ แกก็ได้ทำตามหัวใจเรียกร้องด้วยการไปเป็นแม่บ้านให้คุณธาม อนาคตแกนี่มดแดงแฝงพวงมะม่วงเป๊ะ” พระแพงส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท เพราะทุกอย่างรอบตัวของนาราชานั้นดูจะสมบูรณ์แบบไปหมด ยกเว้นเรื่องความรักเรื่องเดียว
“ก็เห็นเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมาตั้งหลายปี เฝ้ามอง เฝ้ารักจนเขาจะแต่งงานอยู่แล้ว ยังไม่เลิกรักอีก” พระเพื่อนส่ายหน้าให้ เธอนั้นศรัทธาในความรักที่นาราชามีให้ธาม เพราะนาราชาไม่มองใครอื่นเลย แต่สุดท้ายดูเหมือนธามจะไม่ใช่เนื้องอกเพื่อนรักของเธอเสียแล้ว
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ไม่ได้อยู่ใกล้เขาน่ะสิ”คนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่งตัดพ้อเบาๆ แล้วตามด้วยเสียงถอนหายใจดัง เฮ้อ…แบบยาวเหยียด
“ไหนๆ ก็ตัดสินใจว่าจะลุยไปแล้วก็เอาให้รุ่ง ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลัง แล้วมาพูดว่ารู้แบบนี้น่าจะทำแบบนั้น แบบนี้ตั้งนานแล้ว” พระเพื่อนส่งยิ้มหวานให้นาราชา เพราะไม่ว่าเพื่อนคนนี้จะตัดสินใจยังไง เธอและพระแพงก็จะอยู่เคียงข้างเสมอ แบบนั้นถึงได้เรียกว่าเพื่อนกัน
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!
"หัวใจ ความรัก และภักดี เขาจะเลือกอย่างไหน" “ไอ้เพชรแกเอาไป นี่เมียแก!” หญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนมีร่องรอยฉีกขาด ถูกผลักเข้าไปในกระท่อมเก่าซอมซ่อของพัชระหรือทุกคนเรียกกันว่า เพชร ซึ่งเป็นเพียงช่างคนหนึ่งในไร่ชาของที่นี่ “คุณจันทร์นี่มันอะไรกันครับ” เจ้าของหนวดเคราครอบหน้าหันไปมองคนบนพื้นแล้วหันมาถามนางจันทร์นิล ด้านหลังก็มีลูกน้องของเจ้านายอีกสองคน “นังอ้อนมันร่านไง มันมาอ่อยผัวลูกสาวฉัน ไอ้เพชรฉันยกนังอ้อนให้แกจัดการ” นางจันทร์นิลชี้นิ้วใส่ลูกเมียน้อยของสามีอย่างจงเกลียดจงชัง “จัดการยังไงครับคุณจันทร์” พัชระได้ยินว่าคนที่ตนแอบรักถูกทำร้าย แววตาของเขาก็ประกายแข็งกร้าวขึ้นด้วยความโกรธ “ก็จัดการมันให้เป็นเมียแกซะ เดี๋ยวนี้เลย!” (เมียร้อนจำยอมรัก)
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
ผู้หญิงที่ทำงานเก่งและประสบความสำเร็จทุกอย่างในชีวิต แต่กลับประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด แล้วตื่นขึ้นมาในร่างของ “หลินจิ่วเอ๋อร์” ภรรยาคนที่สองของแม่ทัพซูเหยียนในทันทีที่นางเปิดตาขึ้นในร่างนี้...
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...