เพราะความเข้าใจผิดทำให้เขาคิดว่าเธอโสเภณีราคาถูก เพราะพิษรักทำให้เธอดำดิ่งลงสู่อเวจีแสนหวานไปชั่วนิรันดร์ “คุณยั่วจนผมสติแตกได้ทุกทีสิน่า...” เขาพึมพำ ขณะล้วงลิ้นเข้าไปในอุ้งปากหวานที่เผยออ้าออกรับอย่างเต็มใจ ร่างกายหยัดขึ้นหาร่างหนาด้วยความต้องการเต็มหัวใจ ยาห์มิลครางออกมา นี่เขาจะทนต่อสัมผัสที่เรียกร้องของสาวน้อยไร้เดียงสาแบบบัวบุษบาได้นานเพียงไหนกัน “ผมต้องการคุณมาก... บัวบุษบา ต้องการจนแทบจะทนไม่ได้...” เขาพึมพำแทรกจุมพิตที่เกือบจะเรียกได้ว่าบ้าคลั่งออกมา ขณะที่ร่างกายแนบสนิทแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน มือหนาซุกซนลูบไล้ต่ำลงไปที่แถวหน้าขา สอดใต้ชายกระโปรงขึ้นไปกอบกุมความอวบของเนินสาวที่ซ่อนอยู่ใต้กางเกงชั้นในเนื้อบางเบา “ตอนนี้ผมภาวนาขอให้เราถึงบ้านพักให้เร็วที่สุด ก่อนที่ผมจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว และร่วมรักกับคุณในรถคันนี้”
บรรยากาศอื้ออึงของสถานบันเทิงมีชื่อที่สุดกลางเมืองหลวง กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมผสานกับควันบุหรี่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณ นักท่องราตรีนับร้อยชีวิตอัดแน่นเข้ามาในที่อโคจรแบบนี้กันอย่างล้นหลาม บางคนก็ดื่มเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตาย บางคนก็เต้นแร้งเต้นการาวกับคนเสียสติ
หากเป็นในยามที่จิตใจปกติ บัวบุษบาก็คงแทบจะอาเจียนกับสิ่งที่ได้สัมผัสตรงหน้า แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ มันไม่ใช่ตอนที่หัวใจพังยับเยิน ภาพแฟนหนุ่มกำลังประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะกับเพื่อนสาวที่ตัวเองไว้ใจกระหน่ำเข้ามาในหัว ความผูกพันตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา ทำไมช่างไม่มีความหมายเอาเสียเลย
นาวินเพื่อนร่วมชั้นที่พัฒนามาเป็นแฟน กลับนอกใจหล่อนอย่างไม่ละอาย เขาไม่มีท่าทีตกใจสักนิดที่เห็นหล่อนยืนร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู แถมแม่เพื่อนสุดรักของหล่อนก็ยังมอบรอยยิ้มแห่งชัยชนะสาดใส่หน้าหล่อนสมทบมาอีก และพวกเขาก็ยังเล่นรักกันต่อหน้าของหล่อนอย่างเมามันไร้สิ้นความอับอาย เป็นหล่อนเสียอีกที่ต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีออกมา ภาพการร่วมรักสด ๆ ที่มีแฟนหนุ่มกับเพื่อนสาวเป็นพระเอก - นางเอก ทำร้ายหัวใจดวงน้อยจนพังยับเยิน เลือดสด ๆ ไหลทะลักออกมา
หญิงสาวมองแก้วที่ใส่เครื่องดื่มสีสวยอย่างชั่งใจ หล่อนไม่รู้หรอกว่าไอ้ของเหลวในแก้วนี้มันเรียกว่าอะไร รู้เพียงแต่ว่ามันคงแรงน่าดู เพราะหล่อนเป็นคนร้องขอกับบริกรเอง มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาที่มันไหลออกมาเรื่อย ๆ ทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนจะยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมด สาวน้อยเบ้หน้าเมื่อของเหลวรสชาติบาดคอพวกนั้นไหลผ่านลำคอลงสู่กระเพาะอาหารอย่างรวดเร็ว
แก้วแล้วแก้วเล่าถูกทั้งกรอกทั้งสาดใส่ลำคอระหง สาวน้อยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สมองลบเลือนภาพที่ได้เห็นเมื่อเย็นนี้ ต้องการให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อทุกอย่างที่ได้เห็น ทุกอย่างที่ได้ยินมันคือเรื่องจริง
นาวินกับชมนาดร่วมมือกับทรยศหล่อน พวกเขาร่วมหัวกันใช้มีดปักที่กลางแผ่นหลัง ก่อนจะใช้เท้าขยี้ที่ดวงใจน้อย เสียแรงที่หล่อนไว้ใจพวกเขาไม่เคยคิดระแวงแม้แต่ครั้งเดียว ไม่เอะใจเลยสักนิดที่ชมนาดขอไปอาศัยอยู่คอนโดเดียวกับนาวิน หล่อนคิดว่าเพื่อนสาวไม่มีที่พักจึงตกลง เพราะคอนโดของนาวินอยู่ใกล้กับที่ทำงานของชมนาด แต่แท้ที่จริงแล้วทั้งสองคนหลอกลวงหล่อน
บัวบุษบาสะอึกสะอื้นออกมาปานจะขาดใจ หล่อนจะร้องไห้ ให้กับความโง่ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ขอสาปส่งนาวินและชมนาดให้ลงนรกหมกไหม้ และต่อจากนี้ไป ในวันพรุ่งนี้ชื่อของทั้งสองคนจะไม่อยู่ในสมองของหล่อนอีกเลย หล่อนจะต้องทำได้ จะต้องลืมคนต่ำช้าพวกนี้ให้ได้
ความเจ็บปวดผสมผสานกับความผิดหวังสาดซัดเข้าใส่หัวใจไม่ยอมหยุด หญิงสาวนั่งดื่มเหล้าจนเมามาย สติสตังบินหายไปหมด ตอนนี้หล่อนไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้แม้แต่น้อย สมองสั่งการช้าทุกขณะ หนังตาเริ่มหนัก ศีรษะปวดระบมแทบระเบิด มือบางพยายามยกขึ้นกวักมือให้เด็กเสิร์ฟมาคิดเงิน ก่อนจะค่อย ๆ พยุงกายเดินออกไป
ระหว่างทางที่ค่อนข้างเบียดเสียด สาวน้อยชนคนนู้นคนนี้สะเปะสะปะ ร่างอรชรในชุดเสื้อพอดีตัวกับกระโปรงสั้นโชว์เรียวขาขาวเซไปมาแทบจะล้มก็หลายครั้งแต่ก็ฝืนไว้ได้ แต่ครั้งสุดท้ายนี่สิ หล่อนหลงมาตรงส่วนไหนของร้านไม่รู้ รู้แต่ว่ามันค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนกว่าตรงส่วนที่หล่อนพึ่งจากมา สมองพยายามคลำหาทางออกเพื่อหาทางกลับบ้านบัวขาว แต่ร่างกายที่มีปริมาณแอลกอฮอล์มากเกินพิกัดไม่ยอมทำตาม มันร่วงปลิดปลิวลงสู่พื้นอย่างไม่เตือนล่วงหน้า ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับไป
ยาห์มิล บิน ชาร์คีล อัล อัซซาด กษัตริย์แห่งซาคีฟาร์ กัดฟันแน่น ดวงตาคมกล้าสีทองที่มีแพขนตายาวงอนสีนิลประดับอยู่อย่างเหมาะเจาะเจิดจ้าด้วยไม่พอใจ ขณะก้มมองร่างอรชรที่นอนกองอยู่แทบเท้าด้วยความรังเกียจ เรือนกายสูงใหญ่เดินผ่านไปหยุดที่หน้าห้องหนึ่งที่อยู่ห่างจากตรงจุดที่บัวบุษบานอนหมดสตินั้นไม่ไกลนัก
“ชารีฟ ช่วยไปดูแม่สาวใจแตกคนนั้นหน่อยสิ ว่าตายหรือไง”
ยาห์มิลเอ่ยเสียงกระด้างกับคนสนิทที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะก้าวยาว ๆ หายเข้าไปด้านในเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก
ชารีฟองครักษ์คนสนิทประจำตัวของกษัตริย์ยาห์มิล ค้อมศีรษะให้กับเจ้านายด้วยความเคารพ ก่อนจะปลีกตัวออกมาทำตามคำสั่งของยาห์มิลทันที
“สงสัยนางจะเป็นคนที่ทางร้านนี้จัดไว้ให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ” ชารีฟก้มหน้าบอกเสียงนุ่ม ขณะประคองสาวน้อยที่หลับใหลไม่รู้สติไว้ในอ้อมแขน
ยาห์มิลตวัดสายตาขึ้นมองอย่างไม่พอใจ “เราไม่ต้องการผู้หญิง เจ้าไม่ได้แจ้งความประสงค์เหล่านี้ให้กับเจ้าของร้านหรือ”
กรามแกร่งสีน้ำตาลทองขบกันแน่น ใบหน้าที่คมเหลี่ยมกระด้างจัด ริมฝีปากหยักสวยสีเข้มที่มีจมูกโด่งแหลมอยู่ด้านบนเม้มเข้าหากันแน่น
“ที่เรามาที่นี่ก็เพราะมีการเจรจาเรื่องธุรกิจ ไม่ได้มาหาความรื่นเริงจากเนื้อตัวของพวกผู้หญิงเหล่านี้”
“กระหม่อมแจ้งแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ว่า...”
“เราไม่อยากฟังคำแก้ตัว ถ้าอยากให้เราผ่อนคลายนัก ก็พานางมาวางบนโซฟา แล้วเจ้าก็ออกไปได้แล้ว”
น้ำเสียงกระด้างน่ากลัว ความไม่พอใจที่ถูกขัดใจระบายชัดเจนเต็มใบหน้าที่หล่อราวกับเทพบุตรชั้นฟ้าของกษัตริย์ยาห์มิล
“พ่ะย่ะค่ะ”
ชารีฟก้มศีรษะให้อย่างนอบน้อมก่อนนำร่างอรชรของผู้หญิงในอ้อมแขนไปวางไว้บนโซฟาตามคำสั่งของเจ้าเหนือหัว และรีบถอยหลังออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหยุดยืนตระหง่านค้ำอยู่เหนือร่างอรชรที่ตอนนี้หลับใหลไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาด้วยความขยะแขยง ร่างสูงใหญ่ กำยำ ทรุดนั่งลงบนส้นเท้า ศีรษะทุยได้รูปสวยที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีนิลก้มต่ำลงพิจารณาใบหน้าของแม่สาวน้อยผีเสื้อราตรี
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"