หญิงสาวที่ได้พบกับชายหนุ่มที่ผับเกิดปิ๊งเป็นความรักขึ้นมา แต่เมื่อเค้ามารู้ที่หลังว่าชายหนุ่มคนนั้นกลับเป็นบอสใหม่ของเค้า แล้วเค้าจะทำยังไง รักครั้งนี้จะลงเอ่ยหรือไม่โปรดติดตามตอนต่อไป
หญิงสาวที่ได้พบกับชายหนุ่มที่ผับเกิดปิ๊งเป็นความรักขึ้นมา แต่เมื่อเค้ามารู้ที่หลังว่าชายหนุ่มคนนั้นกลับเป็นบอสใหม่ของเค้า แล้วเค้าจะทำยังไง รักครั้งนี้จะลงเอ่ยหรือไม่โปรดติดตามตอนต่อไป
"คืนนี้ออกล่าป่ะ"
"เอาดิเบื่อ ๆอยู่พอดี"
"งั้นเลิกงานเจอกันนะ"
สวัสดีค่ะฉันชื่อนับและบทสนทนาเมื่อกี้เป็นฉันได้คุยโทรศัพท์กับกี้เพื่อนสนิทฉันเอง มันชอบโทรมาชวนฉันออกแรดแทบจะทุกวัน.
เราสองคนไปไหนด้วยไปกัน มีเพื่อนค่อยข้างน้อยเพราะฉันสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดพึ่งจะอยู่เมืองหลวงได้ไม่กี่ปี
กี้ทำงานเป็นผู้จัดการร้านอาหารในห้าง ส่วนฉันทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งฉันเลือกที่จะคบเพื่อนน้อยเพราะมันมีใจให้กัน100% กว่ามีเยอะ
ตกเย็นวันนั้นฉันก็ได้ออกไปแรดกับกี้ที่ร้านประจำของฉันสองคน
ร้านนี้ฉันสนิทกับพนักงานดี เพราะพวกฉันมากันอาทิตย์หนึ่งไม่ต่ำกว่า4-5วัน ไม่แปลกที่พนักงานทุกคนจะรู้จักและสนิทกับพวกฉันสองคนมาก
"วันนี้เหมือนเดิมนะลิน" ลินคือพนักงานที่นี่ที่ฉันรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทของพวกฉันสองคนด้วยและเขายังคงเป็นภรรยาของเจ้าของที่นี่
"ได้เลย วันนี้มาเร็วเชียวนะ" นั้นฉันถือว่าเป็นคำทักทายสำหรับเขาก็แล้วกัน
"วันนี้เครียดเรื่องงานนิดหน่อย"
"จัดไป วันนี้ไม่เมาไม่กลับใช่ไหม ฮ่าๆ"
"ฮ่าๆ คงงั้น"
"งั้นรอแป๊บนะเดี๋ยวจัดการให้"
ลินก็ทำการจัดเหล้าโปร์ใหญ่มาให้ฉันสองคน
แน่นอน ว่าฉันสองคนคงไม่รอช้า เมื่อเห็นเหล้าแล้วฉันสองคนก็ได้ทำการสาดเหล้าลงคอเป็นที่เรียบร้อยแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะชนแก้วกันก่อนดื่มเสมอ
"กี้วันนี้ลากฉันกลับด้วย" นี่คือคำที่ฉันเอ่ยปากขึ้นกับเพื่อนเพราะรู้ตัวดีว่าวันนี้ยังไงฉันคงดื่มหนักเหมือนเช่นเคย
"แกนั้นแหละลากฉันกลับ"
"ไม่! แกแหละลากฉันกลับ"
"แกนั้นแหละ!"
ฉันสองคนถกเถียงกันไปมาเพื่อหาคนที่ลากกลับแต่ก็ยังไม่ลงรอยกันสักทีจนมีผู้ชายรูปร่างหน้าตาดี สูงขาวดั่งเทพบุตรหลุดมาจากนิยายได้เดินตรงเข้ามาให้พวกฉันสองคน
"โทษนะครับ ขอชนแก้วหน่อยจะได้ไหมครับ"
ในระหว่างที่ฉันยังตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะลากใครกลับอยู่นั้น ก็มีผู้ชายเดินเข้ามาขอชนแก้ว
โอ้ว!! หล่อจัง ผู้ชายอะไรขาวออร่าซะขนาดนี้..
ปากชมพูน่าจูบเชียว นี่ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าเขามาขอชนแก้วกับคนอย่างพวกฉัน ฉันได้แต่มองผู้ชายคนนั้นตาค้างจนกี้เพื่อนรักของฉันสะกิด
"นับเขาของชนแก้วด้วย"
"อ่อ ค่ะๆ " ฉันรีบดึงสติตัวกลับมาอย่างไว
ก่อนที่ฉันชนแก้วกับผู้ชายคนนั้นแล้วฉีกยิ้มให้เขาไปทีหนึ่ง เค้าก็ยังคงส่งยิ้มกลับมาให้ฉันเช่นเดียวกัน รอยยิ้มเขามันช่างดึงดูดกระชากใจฉันยิ่งหนัก
"ชื่ออะไรกันหรอครับ" ฉันไม่ทันจะเอ่ยปากพูดกี้เพื่อนรักของฉันก็พูดขึ้นซะก่อน
"ชื่อกี้นะคะ ส่วนอินี่มันชื่นนับ ยังไม่มีแฟน โสดสนิท แถมยังแดกเหล้าเก่งด้วยค่ะ"
สาบานนั้นคือเพื่อนฉันกำลังโปรโมทขายฉันออกอยู่ใช่ไหม
"อิกี้" ฉันตีมันไปหนึ่งทีเพราะคำพูดคำจามันหน้าตีล้วนๆ
"ก็มันจริงนี่นา"
ผู้ชายคนนั้นยิ้มเหมือนจะหัวเราะในสิ่งที่กี้พูดไปเมื่อกี้ด้วยซ้ำ
"ผมชื่อไฟล์นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
"ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ" ฉันสองคนเอ่ยคำยินดีรับพร้อมกัน
"ว่าแต่คุณไฟล์มาคนเดียวหรอคะ"
"ครับ พอดีผมพึ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่กี่วันเอง อยากลองเที่ยวผับที่ไทยดูบ้าง"
"อ่อ เด็กนอกนี่เอง นี่เลยค่ะถ้าสายเที่ยวกลางคืนต้องให้เพื่อนกี้เป็นไกด์เลยค่ะ อินี่มันตัวแม่แห่งการดื่ม"
ไฟล์ชายหนุ่มรูปงามยิ้มอ่อนๆก่อนที่จะมองไปทางนับ
ฉันอยากจะตบปากเพื่อนตัวดีของฉันซะจริงๆเลย
จะพูดให้ฉันดูดีบ้างซะหน่อยไม่ได้หรือยังไง
"ชอบสายนี้หรอครับ"
"ไม่ขนาดนั้นค่ะ เพื่อนนับมันพูดเวอร์ไปงั้นแหละค่ะ แต่ถ้าคุณอยากเที่ยวจริงๆ นับแนะนำให้ได้ค่ะ"
"ไม่ต้องพูดห่างเหินขนาดนั้นก็ได้ครับ เรียกผมพี่ไฟล์ก็ได้ดูท่าทางแล้วผมหน้าจะเป็นแก่กว่าพวกคุณหลายปี"
"ได้เลยค่ะพี่ไฟล์ว่าแต่พี่มีแฟนยังคะ"
"อิกี้!" ฉันเรียกเพื่อเตือนสติเพื่อนของฉันว่าไม่ให้เข้าไปก้าวล้ำในเขตพื้นที่ส่วนตัวของเค้าจนมากเกินไป
"เอ้ากูก็ถามพี่เค้าเฉย ๆไง เพื่อพี่เค้ามีแฟนแล้วเกิดมาตบพวกเราทำไง" ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆก่อนที่จะหันหน้ามาทางฉัน
"ยังไม่มีครับ"
ทำไมต้องหันมาตอบแล้วยิ้มให้ฉันด้วยล่ะ ฉันไม่ได้เป็นคนถามคำถานนี้ซะหน่อย
"อุ๋ย! แกเดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ"
"ฉันไปด้วย"
"แกคุยกับพี่เขารอไปก่อน ฉันชชปวดท้อง"
กี้มันพูดจบมันก็เดินไปเลย ทิ้งฉันไว้กับพี่ไฟล์สองคน
เราสองคนก็ต่างคนต่างเงียบ ฉันก็กระดกเหล้าอย่างเดียวไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา และไม่กล้าแม้ที่จะหันไปสบตาเขาเพราะสายตาเขามันช่างดึงดูดซะจริง ๆ
'นับอายุเท่าไหร่หรอ"
"26ค่ะ พี่ละคะ"
"พี่ให้ทาย"
"ไม่เกิน29แน่นอน"
"ฮ่า ๆ พี่30แล้วครับ"
"หืม... จริงดิ ยังดูดีอยู่เลยนะคะ"
"แล้วนับล่ะไม่มีแฟนจริงๆ เหรอหื้ม..."
"พึ่งเลิกไปได้ไม่นานค่ะ ตอนนี้เลยอยากพักใจยาวๆซะมากกว่า"
ฉันยิ้มแห้งทันทีเมื่อตอบคำถามนั้นไป
"แล้วไม่คิดจะเปิดใจให้ใครอีกบ้างหรอ"
"ไม่ค่ะ ขอพักใจอีกซะนิด"
ในระหว่างที่ฉันนั่งคุยกับเขาก็ยกแก้วขึ้นชนกันอยู่เรื่อย จนตอนนี้ฉันเริ่มเมาหนักมากแล้ว
เมื่อกี้เดินกลับมาฉันก็ได้ทำการชวนกี้กลับห้องกันเพราะพรุ่งนี้มีงานเช้าอีก แต่พี่ไฟล์ก็อาสาที่จะไปส่งฉันสองคนจนถึงที่พัก
ฉันสองคนนั่งเบาะหลังกันทั้งคู่ แต่ถึงฉันจะเมาฉันก็ยังสังเกตเห็นว่าเค้ามองฉันผ่านกระจกเป็นระยะ ๆตลอดหรือทว่าฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปหรือป่าว
ตื่นเช้ามาฉันก็ไปทำงานตามปกติ แต่วันนี้แฮงค์สุด ๆ กินได้แต่กาแฟดำ ข้าวปลาก็กินไม่ลงแถมวันนี้ทั้งวันยังทำงานผิดๆถูกๆอีกตั้งหากอีกทั้งยังคงโดนผู้จัดสุดโหดดุทั้งวันอีกด้วย! เห้อ!! ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อเดินทางกลับมาถึงห้องซะทีฉันทิ้งตัวลงเตียงนอนทันทีเพราะความเหนื่อยล่า
กริ๊ง!! 📲📲นั่นเป็นเสียงโทรศัพท์ของฉันที่มีสายเรียกเข้าแต่เอ๊ะ... นี่เบอร์ใครกันไม่เห็นจะคุ้นเลยสักนิด
ฉันจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจรับสายคนที่โทรมา
"ฮัลโหลค่ะ "
"ฮัลโหลครับ" เอ๊ะ ใครกันนะทำไมเสียงหล่อเช่นนี้...
"นั้นใครคะ"
"พี่เองครับ"
"ค่ารู้ ว่าแต่ใครคะ! " ฉันใช้เสียงกระแทกไปนิดหน่อยเพราะหงุดหงิดมาจากที่ทำงาน วันนี้โดนดุทั้งวันอารมณ์เลยไม่ค่อยจะดีซะเท่าไหร่
"พี่ไฟล์ครับ"
"อ่อค่ะ ว่าแต่ได้เบอร์นับมาจากไหนหรอคะ"
ฉันรีบเปลี่ยนโทนเสียงแทบไม่ทัน ฮ่าๆสำหรับผู้ชายแล้วฉันต้องใช้เสียงสองเท่านั้น
"กี้ให้มาเมื่อคืนนี้ครับ" นี่ยัยกี้อีกแล้วสินะ
"อิกี้นะอิกี้"ฉันพูดเบาๆแล้วบ่นให้เพื่อนรักฉัน
"อะไรนะครับ"
"อ่อป่าวค่ะ ว่าแต่มีอะไรหรือป่าวคะ"
"พอดี พี่ว่าจะชวนไปทานข้าวครับ"
"เอ่อคือ ..." ฉันตอบยึกยักสำหรับฉันมันเร็วไป เพราะเราพึ่งจะรู้จักกันไปเอง
"ชวนกี้ไปด้วยก็ได้ พี่ไม่ซีเรียส"
*ค่ะ แล้วเจอกันที่ไหนดีคะ" เมื่อฉันได้ยินสิ่งที่เค้าพูดฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
"งั้นเดี๋ยวพวกหนูแต่งตัวอะไรเสร็จพี่ไปรับเองครับ"
หนู! เมื่อกี้เค้าเรียกฉันว่าหนูใช่ไหม กรี๊ด!! โอ้ยหัวใจอินับพ่องโตขึ้นทันใด
"ได้ค่ะ"
พอฉันคุยกับเขาจบฉันก็นอนกลิ้งบนที่นอนไปมาเพราะรู้สึกเขินคำที่เค้าใช้กับฉันเมื่อกี้
มันเป็นคำธรรมดาแต่ทำไมมันทำให้ฉันรู้สึกเขินได้ขนาดนี้กันนะ
ไม่ได้ ๆวันนี้ฉันจะต้องสวย จากที่ทำงานเหนื่อยมาพอได้ยินผู้ชายพูดคำเดียวเท่านั้น ฉันรู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาทันทีฉันรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวหรอให้กี้มาแล้วรอไปพร้อมกัน
แต่พอกี้มาถึงมันก็บอกว่าปวดท้องไม่สามารถไปกับฉันได้ทำให้ฉันรู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที
สรุปฉันต้องไปกับเขาสองคนจริง ๆหรอเนี้ย
พึ่งรู้จักกันแค่วันเดียวเอง อีกอย่างฉันยังไม่รู้จักนิสัยใจคอเขาเลยแม้แต่นิด แต่ถ้าฉันจะโทรไปบอกเขาว่าไม่ไปแล้วมันก็จะเสียมารยาทมาก เพราะแกติฉันเป็นคนรักษาคำพูดของตัวเองมาก
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด