การพบเจอที่ไม่คาดคิด... แรกเริ่มคือการ 'บังคับ' แต่นานวันกลับกายเป็น 'รัก' สุดหัวใจ เชื่อเถอะว่า พรหมลิขิต... มีจริง!! รักแรกพบ... ก็มีจริง!!! ความรัก แบบใน นิยาย... ก็มีจริง!! เคลวินพรากความสาวของสาวแปลกหน้า เขาชนะยกแรก แต่ใครจะรู้ล่ะ ยกต่อมาเขากลับแพ้ ผู้หญิงธรรมดาที่คว้าหัวใจเขาไปทั้งดวง หล่อนพยศ และไม่ยอมศิโรราบ เคลวินจะทำยังไง ยอมทิ้งหัวใจ หรือตามเธอกลับมา
บทที่1.แสงหรือเงาที่ทำให้หลงใหล
แสงสว่างมลังเมลืองของป้ายไฟหน้าสถานบันเทิงสว่างวิบวับ ป้ายต่างๆ ที่เรียงรายเป็นพืดอยู่ริมถนนย่านเอสกวิลี ใจกลางกรุงโรม ทิชากรเดินตามขบวนมัคคุเทศก์ โดยที่มีไกด์พามาเที่ยวแหล่งบันเทิงตอนกลางคืน ตามคำเรียกร้องของผู้ที่มาเที่ยวในทริปเดียวกันนี้ หลังจากเมื่อกลางวันเดินย่ำชมศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ของอิตาลีมาจนเกือบทั่ว พวกเขาเรียกร้องยากสัมผัสความร้อนแรงของเสียงเพลงสไตล์อิตาเลียน ที่ทั้งกระแทกกระทั้นโดนใจ กับกลิ่นอายวัฒนธรรมที่ร้อนแรงพอๆ กับรสชาติจัดจ้านของอาหารพื้นเมือง
“อย่าแยกห่างจากเพื่อนๆ นะครับเดี๋ยวจะหลง ประชาชนส่วนใหญ่ของเขาใช้ภาษาอิตาเลียน เดี๋ยวจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง... เกาะกลุ่มกันไว้นะครับ”
ไกด์หนุ่มส่งเสียงบอกดังลั่น เขาพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ดูแลนักท่องเที่ยวให้ทั่วถึง เพราะมันเป็นอาชีพของเขาเอง
เสียงสาวๆ ในกลุ่มส่งเสียงวี้ดว้าย ตอนเห็นหนุ่มๆ อิตาเลียนหล่อเหลา พวกเขาส่วนมากรูปร่างสูงใหญ่ แผงอกเป็นมัดๆ รูปกายกำยำเมื่ออาชีพหลักของคนในโรมคือการออกเรือหาปลาในทะเล แม่น้ำไทเบอร์เป็นแม่น้ำสายหลักที่เป็นสายส่งน้ำกินน้ำใช้ในกรุงโรม รวมทั้งเป็นท่าจอดเรือ เมื่อเรือใหญ่ย้อนกลับมาหลังออกไปตระเวนกลางน่านน้ำ แสงไฟสว่างๆ สาดส่องกระทบกับแผ่นน้ำมองดูระยิบระยับ เหมือนกับเกร็ดเพชรที่หล่นร่วงฉาบทาเอาไว้ เงาวูบวาบฉาบแผ่นน้ำ สะท้อนกับแสงไฟมองดูมลังเมลือง
ทิชากรชอบอยู่กับธรรมชาติเงียบๆ มากกว่าการมาเที่ยวในแหล่งที่มีแต่เสียงอึกทึกครึกโครม แต่เมื่อมันเป็นความต้องการของผู้คนกลุ่มใหญ่ เธอก็จำใจตามมาด้วยทั้งๆ ที่อยากจะนอนซุกตัวบนที่นอนนุ่มๆ มากกว่า เพราะการเดินนานๆ เพื่อดูศิลปวัฒนธรรมเมื่อกลางวันก็สูบพลังงานในร่างกายของเธอไปมากโข แต่เมื่อเห็นพ้องต้องกันทั้งหมด เธอก็จำเป็นต้องมาด้วย...อีกอย่างจะได้ดูแหล่งท่องเที่ยวตอนกลางคืนไว้ประดับความรู้!!
ผีเสื้อราตรีที่ออกมาหากินตอนกลางคืนแต่ละนางแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาด แต่งแต้มหน้าด้วยเครื่องสำอางจนหน้างดงามไม่มีที่ติ จนทิชากรกลายเป็นเด็กกะโปโลไปเลย เมื่อเทียบกับเจ้าหล่อนทั้งหลาย ทรวงอกอวบอัดถูกดันจนเกือบจะล้นทะลักออกมาจากชุดรัดติ้ว สัดส่วนยวนตาอวบอูมหน้าอกหน้าใจล้นทะลัก ทิชากรก้มมองหน้าอกของตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้า เมื่อมันแบนราบและถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ เธอกวาดตามองสาวสวยเพลินๆ หลังไกด์นำทางหาที่นั่งให้เรียบร้อย น้ำผลไม้ในมือผสมแอลกอฮอล์เจือจางและมันทำให้หน้าหวานแดงจัดขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตากลมโตแพรวพราวระยับ เธอมองทุกสิ่งรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“นกๆ !!! เห็นสาวๆ กลุ่มนั้นบอกว่า คลับนี่เป็นของคุณเคลวินล่ะ”
เคลวินคือใคร! ทิชากรขมวดคิ้ว เธอไม่คุ้นชื่อที่เพื่อนๆ พูดถึงเพราะความที่เป็นคนตั้งใจเรียน เธอไม่สนใจข่าวกอสซิป จึงไม่รู้จักผู้ชายที่ชื่อเคลวินนั้นสักนิดเดียว
“ใครคะ? นกไม่รู้จักเลย เขาเป็นดารา นักแสดงหรือคะ”
ความไม่รู้ทำให้เธอปล่อยไก่ออกไปฝูงใหญ่ๆ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากเพื่อนๆ สาวกลุ่มนี้กันถ้วนหน้า
“ตายต๊าย! ยังมีหนึ่งคนตรงนี้ที่ไม่รู้จักคุณเคลวิน โดม เขาเป็นผู้ชายที่ถูกโหวตขึ้นหน้าหนังสือแมกาซีนชื่อดังในยุโรป...เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทั่วโลกอยากกอดด้วยมากที่สุดจ้า”
พวกเพื่อนๆ พากันอธิบายให้ทิชากรรู้ แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี...
“แฮะๆ นกไม่รู้จริงๆ นี่คะว่าเขาสำคัญขนาดนั้น” เธอหัวเราะแหะๆ นึกเค้าหน้าเขาไม่ออกด้วยซ้ำไป
“ช่างเถอะๆ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอเขาหรือเปล่าด้วยนะ เขามีธุรกิจแบบนี้อยู่เกลื่อนเมืองไปหมด จะโผล่หน้ามาให้เราพบเห็นได้ง่ายๆ ได้ยังไงกันล่ะ”
สาวๆ ทั้งหมดพากันวิเคราะห์ สีหน้าบ่งบอกถึงความเสียดาย แต่ก็ยังไม่วายแอบมีความหวัง ทิชากรพึ่งจะรู้ เพราะสาเหตุนี้นี่เองที่ทำให้กลุ่มสาวๆ ทั้งหมดพากันเรียกร้องที่จะมาเที่ยวกลางคืน ทั้งที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน เพราะเป้าหมายสำคัญคือชายหนุ่มนาม เคลวินนี่เอง...
อดีตที่น่าอับอาย กับแววตาหยามหยันของใครบางคน เลยทำให้ ‘บุหลัน’ ฮึดสู้ขึ้นมา มันจะเป็นยังไงนะ หากเธอสามารถ ‘หลอกล่อ’ เขาให้ติดกับได้ มันจะเป็นไงนะ หากเธอทำให้ ‘เขา’ หลงรักเธอได้สักครั้ง ...แม้ความหวัง จะมีเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ตาม... แต่หากเสี่ยงแล้วได้ผลลัพธ์เหมือนที่ตั้งความหวังไว้ ‘เกมล้างอัปยศ’ ครั้งนี้ก็น่าจะคุ้มค่า แต่...บุหลันลืมไป ก้อนเนื้อที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ ไม่มีมนุษย์คนไหนควบคุมได้ เรื่องที่เกินความคาดหมายเลยเกิดขึ้น
ดีแลนถอนหายใจแรงๆ รีบเดินเข้าไปในคลับชั้นสูง สถานที่นัดหมายเพื่อเจรจาธุรกิจ และคู่ค้าของเขา เลือกสถานที่แห่งนี้สำหรับการเจรจา รอยยิ้มเย็นชาประทับอยู่บนมุมปากได้รูป ตลอดทางที่เดินเข้าไปด้านในบรรยากาศเหมือนเดิม คลับไหนๆ ก็เหมือนกันหมด เป็นแหล่งที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นที่ปลดปล่อย หาความสนุกใส่ตัวเอง แตกต่างที่เฟอร์นิเจอร์และการตบแต่ง ที่เหมือนกันจนแยกไม่ออก ทุกๆ คลับจะต้องมีผู้หญิงสาว สวยไว้คอยให้บริการ สำหรับสกายล์ฮอลล์ แห่งนี้ ตัวเจ้าของคือณรงค์ ดีแลนรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อสองหนุ่มเรียนมาด้วยกัน ตั้งแต่ประถม จนถึงระดับวิทยาลัย’ มีผู้หญิงสาวสวยหลายคนพยายามส่งสายตาให้ จนดีแลนเริ่มรำคาญ “Hi!” มีใครบางคนโบกมือเรียก ชายผู้นั้นลุกขึ้นยืนและส่งเสียงทัก ดีแลนเพ่งมอง เขาส่งยิ้มให้ เมื่อคนคนนั้นคือคู่ค้าคนสำคัญของเขานั่นเอง อดัม เทียร่า นักธุรกิจลุกครึ่งจีน-โปรตุเกต ชายผู้นี้กำลังสนใจ และอยากร่วมทุนในโครงการใหม่เอี่ยมของ หวังเทียนกรุป เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่ ชายหนุ่มโบกมือรับ เขามองฝ่าความมืด เพื่อหาทางเดินไปยังโต๊ะ VIP เพลงคลาสสิคดังเบาๆ บรรยากาศสลัวๆ เหมาะสำหรับทำอย่างอื่นมากกว่าการเจรจาทางธุรกิจ แต่เมื่อคู่ค้ามีความต้องการแบบนี้ ดีแลนก็เลี่ยงไม่ได้ เขาไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย... เหม็นทั้งควันบุหรี่ และกลิ่นเหม็นหืนอื่นๆ จนแทบจะสำลัก “คุณมาช้า” อดัมบ่น เขาเสือกแก้วบรั่นดีให้กับคนมาใหม่ “ขอโทษครับ ผมไม่ชินทางนักเลยหลงทางเพราะต้องใช้ตัวช่วย” ดีแลนไม่ได้ขยาย เขาหลงทางเพราะวิ่งตามคำชี้นำของแอพพิเคชั่นตัวหนึ่ง กว่าจะรู้ตัวว่าออกนอกเส้นทาง ก็เตลิดไปไกลเกินกว่าจะวกรถกลับมา สาเหตุเพราะเขาทิ้งร้างการขับรถยนต์มาหลายปี ดีแลนมีคนขับรถให้แต่เมื่อมีนัดกะทันหัน เขาเลยจำเป็นต้องขับรถมาเอง “คุณจริงจังกับชีวิตเกินไป ผมเลยอยากให้คุณผ่อนคลายบ้าง” อดัมเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องทำงานก็มีกิน เขาเลยใช้ชีวิตได้เต็มที่ ดีทว่าเขามีหัวธุรกิจ ถึงจะผลาญสมบัติของตระกูลไปบ้าง ก็ไม่ทำให้เทียร่าสะเทือน สาวสวยสามนางเดินมายืนขนาบข้างเขา ดีแลนขยับตัวหนี เขาส่งสายตาปราม เมื่อตนเองไม่ชอบผู้หญิงบริการเหล่านี้ “มาสนุกกันเถอะ สาวๆ พวกนี้ผมจัดไว้ให้คุณเลยนะ”
ท่ามกลางบรรยากาศรอบตัวที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คน กับสายลมหนาวที่พัดโชยเอื่อยๆ ไม่ว่าจะตึกราม บ้านช่องแปลกตาจนลอออรอดไม่ได้ที่จะเหลียวหน้าเหลียวหลัง อารยะธรรมที่แตกต่างจากถิ่นเกิดของตัวเองแบบสิ้นเชิง ความเป็นอยู่ที่ลอออรไม่ชินตา ไม่แปลกหรอก ลอออรคือสาวน้อยที่เสี่ยงดวงมาแสวงโชคในเมืองใหญ่อย่างปารีส เธอไม่ใช่นักตกทองที่อาศัยรูปร่างหน้าตาเป็นใบเบิกทาง ลอออรมีความฝันยิ่งใหญ่ นับตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน ลอออรชอบออกแบบเสื้อผ้าเป็นงานอดิเรก ความฝันของเธอคือการเป็นดีไซเนอร์นั่นเอง ความฝันของลอออรใหญ่เกินกว่าจะเอื้อมถึง ทุกครั้งที่พูดให้เพื่อนหรือคนรู้จักฟัง สิ่งที่ได้คือเสียงหัวเราะ ลอออรไม่โกรธ เธอใช้แรงดูถูกจากคนรอบตัวเป็นแรงผลักดัน ใครจะรู้ล่ะ ไม่แน่ในอนาคต ลอออรอาจเป็นดีไซเนอร์ชื่อเสียงโด่งดังก็ได้ แค่วันนี้ วันที่ลอออรเหยียบเท้าลงบนถนนในมหานครแห่งแฟชั่น มันก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อแล้วนี่นา ความฝันของเธอขยับเข้ามาใกล้อีกก้าว แม้หนทางยังอีกยาวไกล แต่แค่นี้ก็ถือว่ามาไกลแล้วสำหรับเธอ
ในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูล แม็กแคนซี เคลตันต้องจัดการแทบทุกอย่างเพื่อให้สมาชิกส่วนใหญ่มีความสุข เขารับตำแหน่ง CEO ที่เคซีคอนสตัคชั่นแทนลุง เมื่อท่านเบื่องานและอยากพัก เรื่องงานไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนมีไฟอย่างเคลตัน เขาเต็มที่กับทุกอย่าง งานและผู้หญิง....แต่ที่ทำให้เขาปวดหัวคือเรื่องของน้องสาว...มาริเบลน้องสาวคนสุดท้องที่ร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เกิด เธอถูกเลี้ยงมาประหนึ่งเจ้าหญิง แต่เจ้าหญิงที่สมาชิกทุกคนถนอม...เกิดนึกอยากแต่งงานขึ้นมา แต่ทว่า...ก็มีเรื่องกวนใจเคลตันจนได้ ว่าที่น้องเขยหนุ่มไฮโซขอร้องให้เขาจัดการปัญหาบางอย่างให้ และเธอ... ไลลา ทอมป์สัน แม่สาวนัยน์ตาเรียวรี ท่าทางไร้เดียงสาก็ปรากฏตัวขึ้น...พร้อมกับเรื่องเลวร้ายที่คืบคลานเข้ามา...ผู้หญิงคนนี้ที่ตั้งใจเดินเข้ามาแบล็กเมลคริสเตียโน่โดยเฉพาะ ลูกไม้ตื้นๆ กับข้อเสนอห่วยๆ หล่อนต้องการให้คริสเตียโน่ยอมรับลูกในท้องของหล่อน เคลตันไม่อยากเสือกกับเรื่องพรรค์นี้เลย แต่เรื่องนี้ปล่อยผ่านไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมาริเบลคงน้ำตาตก เขาไม่ต้องการเห็นน้ำตาของน้องสาวแม้แต่หยดเดียว คาสโนว่าหนุ่มเลยต้องอาสา...สอดขาเข้าไปแทน เขาใช้แผนลวง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของแม่นักตกทองคนนั้น แต่เรื่องมันลึกกว่าที่เขาคิดไว้ แม่สาวกระหายเงินนั่น ท้องอยู่แท้ๆ แต่ดันกลายเป็นสาวพรหมจรรย์ขึ้นมาได้ ให้ตายเถอะ!! เขาคิดฟันหล่อนแล้วก็ชิ่ง เรื่องมันน่าจบ... ที่ไหนได้...ผู้หญิงคนนั้นควรอายที่ถูกเขาจับได้กับแผนลวงโลกของหล่อน มานีหายไป... เคลตันสบายใจ แม้จะรู้สึกติดค้าง...แต่แล้ว...วันที่มาริเบลหมั้นกับว่าที่คู่หมั้นของเธอ ก็ดันมีผู้หญิงโผล่มากลางงาน พร้อมกับทารกเพศชายที่เพิ่งลืมตาดูโลก หญิงผู้นั้นประกาศกร้าว....ว่านี่คือลูกของ คริสเตียโน่ ฉิบหายล่ะ!! แล้วคนที่เขาปู้ยี่ปู้ยำเป็นใคร? ผู้หญิงคนนั้นกับคนที่ยืนพูดปาวๆ อยู่นี่ หน้าเหมือนกันยังกะแกะ??? เคลตันถึงกับมึนตึบ... มานี-ไลลา สองคนนี้เป็นคู่แฝด และไอ้ว่าที่น้องเขยตัวแสบมันโกหก มันทำผู้หญิงท้องจริงๆ
ณ.ดินแดนเสี่วยเป้ย ท่ามกลางขุนเขาล้อมรอบด้วยป่าสน สายลมรุนแรงพัดผ่านทุกช่วงเวลา เกล็ดหิมะสีขาวปกคลุมดินแดนแห่งนี้ขาวโพลนทุกหย่อมหญ้า จนพื้นดินมีแต่ความหนาวเย็น ‘เรือนนารี’ เป็นสถานที่ที่ผู้คนด้านนอกอยากเข้ามาชมความงาม แต่เรือนนารีปิดตัวตายมานับสิบปี นับตั้งแต่เจ้าของเรือนตายแบบปริศนา ผ่านมาสิบปี ...ต้นวสันต์ฤดู ใบไม้เริ่มผลิบานหลังหิมะที่ปกคลุมมาหลายเดือนเริ่มละลาย ด้านนอกไม่มีใครสักคนรู้ ภายในเรือนที่ปิดตายหลังนี้ ยังหลงเหลือสายเลือดของสกุลเจียว เจียวเจี๋ย (เจี๋ยเอ๋อ) พี่สาวคนโต อายุยี่สิบห้าปี ตอนนี้นางคือผู้สืบทอดที่คอยดูแลสมาชิกสกุลเจียวที่ยังมีชีวิตรอด สตรีงามสะคราญโฉมเหล่านี้ ต้องซ่อนตัวจากสายตาผู้คน เพื่อให้ปริศนาการตายของเจ้าของเรือนนารี ลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่ทว่า...ความแค้นที่สะสมอยู่ในใจบุตรหลานสกุลเจียวไม่มีทางลบเลือน เจียวลู่ (ลู่เอ๋อ) น้องคนสุดท้องที่เพิ่งมีอายุล่วงเข้าปีที่สิบห้า ตามธรรมดาแล้ว บุตรสาวสกุลเจียวจะถูกส่งเข้าวัง หลังมีอายุครบสิบห้าปี แต่เมื่อสิบปีก่อน ก่อนที่เจียวเจี๋ยจะถูกส่งเข้าวัง มีมือสังหารชายชุดดำบุกมาเข่นฆ่าคนสกุลเจียวจนหมดสิ้น เหมือนฟ้าไม่อยากให้ลมหายใจที่ถูกพรากอย่างไม่เป็นธรรมจบสิ้นลงแค่วันนั้น สองพี่น้องที่สมควรตาย เลยยังมีชีวิตรอด อยู่จนถึงวันนี้
เพราะมีพี่สาวในหมู่บ้านเป็นต้นแบบ เด็กกตัญญูและขยันสุดๆ แบบข้าวขวัญเลยอยากดำเนินรอยตาม ครอบครัวของเธอยากจน ข้าวขวัญเลยอยากเรียนสูงๆ ยายลำดวนที่สนิทกับยายสร้อยเลยบากหน้าไปขอร้องเพื่อนรัก ข้าวขวัญเลยมีโอกาสได้ไปทำงานไกลถึงเบลเยี่ยม ความไร้เดียงสาของเธอเตะตาใครบางคนเข้า เขาหวังครอบครองเธอ แต่ไม่อยากรับผิดชอบ คงเพราะเคลวิน ฟานเดอเวล เคยมีประสบการณ์ด้านความรักในแง่ไม่ดี ข้าวขวัญก็เหมือนสาวๆ ทั่วไป เธอหลงใหลหนุ่มหล่อทันทีที่ได้สบตากัน และเพราะความเจียมตัว หากเทียบกับผู้ชายคนนั้น ข้าวขวัญยอมเก็บความลับ เธอไม่เคยบอกใครเลยเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่ง... ‘คู่หมั้น’ ของเคลวินมาเยือน ข้าวขวัญได้แต่กลืนน้ำตา เธอตั้งใจจะไม่พูด และลืมความหลังทั้งหมด เธอแค่มาหาเงิน และกลับไปสานฝันให้ยายลำดวน อนาคตของเธอไม่ควรจมอยู่ในความทุกข์ เธอยังมีคนที่รักและหวังดีกับเธอรออยู่
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เคยรักใครสักคนไหม ผูกพัน... แม้ว่าจะอยู่ห่างไกลคนละชาติภพ หัวใจเฝ้ารอคอยอย่างมีความหวัง... ว่าสักวันเราสองจะมีโอกาสได้พบกัน สักเพียงครั้งก็ยังดี