นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
ในห้องขนาดใหญ่ เสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียงอันปราณีตดังสั่นอย่างต่อเนื่อง สร้างความรำคาญให้กับนรีรัตน์อยู่ไม่น้อย
เธอเอื้อมมือไปเพื่อที่จะหยิบโทรศัพท์ แต่ชายที่อยู่บนตัวเธอกลับออกแรงเพิ่มขึ้น
“ชยุด คุณ” “อ่า”
ยังไม่ทันที่นรีรัตน์จะได้พูดอะไรต่อ มือของเธอนั้นกลับต้องขยำผ้าปูที่นอนจนแน่น คำตำหนิก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงหอบหายใจ
หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง นรีรัตน์ขบฟันแน่นจ้องมองไปที่เขา ร่างกายเธออ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟ
คืนนี้เขาหยาบคายมาก
ชายคนนั้นได้ผละออกจากร่างของนรีรัตน์
เขายิ้มมุมปาก การแสดงออกของเขาช่างเอ้อระเหยเอื่อยเฉื่อย
ในขณะนรีรัตน์มองค้อนอยู่นั้น เขาได้เอื้อมมือออกไปกดรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “ครับที่รัก ผมอาบน้ำก่อน เสร็จแล้วจะลงไปหานะครับ รอผมแป๊บนึงนะเด็กดี”
ชายคนนี้สูง 189เซนติเมตร รูปร่างสง่างาม มัดกล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วน ผสมลงตัวกับหยดเหงื่อจากกิจกรรมออกกำลังกายเมื่อสักครู่ ยิ่งทำให้มีเสน่ห์เป็นที่น่าหลงใหลแก่ผู้ที่ได้พบเห็น ดวงตาคู่งามหรี่ลงช่างดูเชื้อเชิญน่าเสน่หาเป็นเท่าตัว
มีเพียงแต่นรีรัตน์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาไร้ซึ่งความปราณีและโหดเหี้ยมเพียงใด
ความอบอุ่นอ่อนโยนของเขามีไว้ให้แต่เพียงบุคคลผู้เปรียบเสมือนเป็นดั่งแสงจันทร์ที่ส่องกลางใจของเขาแต่เพียงผู้เดียว
แววตาและสีหน้าของนรีรัตน์เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นเพื่อห่อร่างกายอันเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้ ขณะนี้ชยุด ได้เข้าไปในห้องอาบน้ำแล้ว
ประตูห้องน้ำเปิดอยู่ เสียงน้ำไหลมาจากด้านใน
ห้องขนาดใหญ่และสะอาด สิ่งของตกแต่งในนั้นล้วนส่งมาจากประเทศ D ทั้งนั้น
ถึงแม้ที่นี่คือวิลล่าของชยุด แต่นรีรัตน์กลับรู้สึกว่ามันไม่ต่างอะไรกับโรงแรม
“ลงไปข้างล่างแล้วถ่ายรูปให้ผม”
ชยุด ซึ่งออกมาจากห้องอาบน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
นรีรัตน์รู้ดีว่าชยุดนั้นเกลียดเธอมาก ถึงแม้เธอเป็นภรรยาของเขา แต่เขาไม่ได้รู้สึกชอบเธอเลยสักนิด
พวกเขาทั้งสองก็แค่ทำตามพันธสัญญาก็เท่านั้น
พันธสัญญาที่ว่า ชยุดจะต้องทำให้นรีรัตน์ตั้งครรภ์ลูกของเขาให้ได้ภายในหนึ่งปี
นี่คือสัญญาของพวกเขา
หากภายในหนึ่งปีนี้เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ลูกของชยุด หุ้นของAN กรุ๊ปที่อยู่ในมือเธอทั้งหมดก็จะถูกเพิกถอน และเธอก็จะถูกขับไล่ออกจากเมือง A
‘AN กรุ๊ป’คือบริษัทชั้นนำความมั่งคั่งอันดับหนึ่งโดยการจัดอันดับของฟร์อบส์ ซึ่งทิ้งห่างจากอันดับสองอย่างไม่ติดฝุ่น
‘ชยุด เกียรติโรจนปรีชา ’ผู้เป็นประธานของ AN กรุ๊ป คือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง และได้รับการขนานนามสามปีซ้อนว่าเป็น ‘ชายหนุ่มในฝันที่ผู้หญิงต้องการจะแต่งงานมากที่สุด’จากการจัดอันดับของนิตยสารโกล์ดบอล รีเจ้นท์
เขาได้นำพา AN กรุ๊ป ทะยานอย่างก้าวกระโดด จากอันดับที่ 7 ขึ้นที่อันดับ 1 จากการจัดอันดับความมั่งคั่งของฟร์อบส์ ด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปี
คนที่ชยุดเพิ่งคุยโทรศัพท์เมื่อสักครู่ คือคนที่เป็นยอดดวงใจของเขา ซึ่งตอนนี้กำลังรอเขาอยู่ด้านล่าง
แววตาของนรีรัตน์ดูเยือกเย็น เธอกล่าวกับชยุดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพสักหน่อย”
“ผมใช้ให้เธอถ่ายรูป เธอก็ถ่ายไปเถอะอย่าเรื่องมากนักเลย” ส้าวฉาวถลึงตาใส่นรีรัตน์ “ถ้าเรื่องมากนัก ตำแหน่งรองประธานบริษัทก็ไม่ต้องเป็นมันแล้ว”
“คุณ” นรีรัตน์จ้องไปที่ชยุดด้วยความแค้นเคือง
พูดจบชยุดก็เดินหันหลังมุ่งไปยังประตูโดยไม่หันกลับไปมองเธออีกแม้แต่ปลายหางตา พร้อมกล่าวว่า “อ่อ แล้วอย่าลืมหล่ะว่า คืนนี้เธอมีนัดทานข้าวที่สวรรค์เพลส ถ้าชักช้าล่ะก็เธอจะต้องชดใช้”
นรีรัตน์มองดูเขาหันหลังเดินออกไป ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความแค้น
สำหรับชยุดไม่มีใครสำคัญเกินไปกว่ายอดดวงใจของเขา‘ปรียาวดี เจริญพรอุดม ’
ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่กว่าที่นรีรัตน์จะสงบสติอารมณ์ลงได้ แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้า
เพื่อหุ้นของ AN กรุ๊ป เธอจำเป็นต้องอดทน
แต่ทำไมเมื่อเวลาที่เธอเห็นชยุดทำดีกับผู้หญิงคนอื่นเธอถึงได้เจ็บแปลบขึ้นมา
เมื่อคิดเช่นนี้แววตาของเธอค่อย ๆ เคลือบแฝงไปด้วยความเศร้าเล็ก ๆ
ความจริงแล้วภายในส่วนลึกของหัวใจเธอยังมีความปรารถนาอยู่
เธอหวังว่าจะได้รับความรักจากชยุด ตลกสิ้นดี
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่กว่าที่นรีรัตน์จะสามารถหยิบกระโปรงยาวพลิ้วขึ้นมาสวมใส่ นอกจากความไม่สบายส่วนล่างของเธอแล้ว ชยุด ก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอื่นบนร่างกายเธอแต่อย่างใดเลย
เขาไม่สนใจที่จะสัมผัสส่วนใดส่วนหนึ่งของเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องให้กำเนิดลูกของครอบครัวฟู่ เกรงว่าเขาไม่อยากจะแตะต้องตัวของเธอเลยด้วยซ้ำ
นรีรัตน์ฝืนความเจ็บร้าวช่วงเอวของเธอ และเดินลงบันไดไปทีละขั้น
ณ ห้องโถง ชยุดกำลังประคองกอดปรียาวดีเตรียมพร้อมที่จะถ่ายรูป
ปรียาวดี ตอนนี้อยู่ในชุดยาวสีขาวราวหิมะ เหมาะกับใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างที่ได้สัดส่วนของเธอ กำลังยิ้มบาง ๆ อย่างมีความสุข
เมื่อเธอและชยุดยืนเคียงข้างกัน ยิ่งทำให้ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
เมื่อเขาสังเกตเห็นนรีรัตน์ที่เพิ่งเดินลงมาถึง รอยยิ้มของเขาก็หุบลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมถึงได้ชักช้านัก”
เมื่อได้ยินคำถามบาดหูของชยุด นรีรัตน์ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ พยายามสงบอารมณ์โกรธที่อยู่ภายใน
เธอค่อย ๆ เดินไปอย่างเงียบ ๆ ปรียาวดีซึ่งมีศักดิ์ลูกพี่ลูกน้องเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชยุดนั้น ส่งยิ้มให้นรีรัตน์พร้อมกล่าวขอโทษ“ขอโทษทีนะนรีรัตน์ แต่พอดีว่าชยุดเค้าอยากจะได้รูปคู่ให้ได้เลย บอกว่าจะเอาไปแชร์ในกลุ่มเพื่อน แถมยังบอกอีกว่าต่อไปนี้วันเกิดของฉันทุกปีจะต้องแชร์รูปคู่หนึ่งรูปเป็นอย่างน้อยล่ะ”
ปรียาวดีชอบพูดอวดอย่างนี้เป็นประจำ จนนรีรัตน์ชินชา
ดังนั้นนรีรัตน์จึงไม่แสดงท่าทีอื่นใด และแบบมือออกไปหาชยุดอย่างไม่ยินดียินร้าย “มือถือ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ
ชยุดโยนโทรศัพท์ให้นรีรัตน์ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ถ้าเธอถ่ายได้ไม่ดี ก็อยู่บ้านเรียนถ่ายรูปมาใหม่ให้ดี ๆ เพราะจากนี้เรื่องพวกนี้คงจำเป็นต้องใช้เธอ
นี่เป็นการกลั่นแกล้งกันชัด ๆ เขารู้ทั้งรู้ว่าเวลาเธอมีไม่มาก น่ารังเกียจที่สุด
หัวใจของนรีรัตน์นั้นกำลังรุ่มร้อนดั่งไฟสุมอก แต่บนใบหน้านั้นกลับเรียบเฉยไม่แสดงอาการใด ๆ
ชยุดเหล่มองนรีรัตน์ด้วยปลายหางตา กลับไม่พบความผิดปกติใด ๆ บนใบหน้า ทำให้รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างไรก็ไม่รู้
เขารวบต้นขาของปรียาวดี และท่าทางการโพสท่าของพวกเขาดูคลุมเครืออย่างมาก
“คนบ้า” ปรียาวดีพูดด้วยใบหน้าที่แดงอย่างเขินอาย
เธออายมากจนแกล้งเอาหน้าลงไปซบที่อกของชยุด พลางมองไปทางนรีรัตน์ด้วยแววตาที่โอ้อวดยั่วยุอย่างมีนัยยะ
เมื่อชยุดกอดขาของปรียาวดีแล้วเอนกายแนบชิด ทำให้กระโปรงของปรียาวดีที่พะรุงพะรังเกี่ยวรั้งเข้ากับเสื้อ ก็ยิ่งทำให้ท่าทางของทั้งสองยิ่งดูคลุมเครือมากขึ้น
นรีรัตน์ไม่ได้แยแสการยั่วยุของปรียาวดี ถ่ายภาพต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ชยุดทั้งโอบขาโอบเอวของปรียาวดี อีกทั้งยังประทับจูบลงบนใบหน้าของเธอ
ปรียาวดียิ้มแสร้งทำเป็นเขินอาย
นรีรัตน์รับรู้ทุกท่าทางการกระทำของพวกเขา
ชยุดโพสทุกท่าที่ล่อแหลม คลุมเครือทุกท่าเท่าที่เขานึกออก แต่สีหน้าของนรีรัตน์ก็ยังไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เมื่อเป็นดังนั้นยิ่งทำให้เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด เขาคว้าโทรศัพท์จากมือของนรีรัตน์ “ไหนขอดูรูปหน่อยสิ ถ้าถ่ายปรียาวดีของผมไม่สวยล่ะก็เธอต้องถ่ายใหม่”
นรีรัตน์อยู่ในท่าทีที่เงียบสงบ เธอยื่นโทรศัพท์ให้ชยุดอย่างใจเย็น
ปรียาวดีทุบแขนชยุดเบา ๆ แกล้งกล่าวคำตำหนิเล็ก ๆ “นี่คุณไม่วางใจในรูปร่างหน้าตาของฉันเหรอ”
ชยุดจูบลงบนหน้าผากหนึ่งที “ไม่ใช่หรอก ปรียาวดีของผมน่ะสวยที่สุดในโลกอยู่แล้ว” “แค่ผมกลัวว่าฝีมือถ่ายภาพของนรีรัตน์จะแย่เกินไปน่ะ”
ปรียาวดียิ้มอย่างเข้าใจและกล่าวว่า “คุณไม่วางใจยีนส์ของตระกูลฉันเหรอคะ”
ความหมายก็คือนรีรัตน์และปรียาวดีนั้นทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ทั้งสองคงไม่ต่างกันมากนักหรอก
ชยุดพยักหน้ารับ
ปรียาวดีสวยมาก ผิวพรรณขาวผุดผ่อง ผมยาวตรงเงางาม ตาคู่โตสุกใส
เธอสูง186เซนติเมตร ทรวดทรงดูได้รูปได้สัดส่วน ผู้ชายได้เห็นเป็นต้องหลงรัก
อย่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน อย่างไรเสียก็ออกมาสวยอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนรีรัตน์นั้นถ่ายรูปอย่างตั้งใจ
ชยุดเปิดดูรูปทั้งหมดที่นรีรัตน์ถ่าย พบว่ารูปถ่ายที่ออกมานั้นสวยอย่างไร้ที่ติ ทุกรูปปรียาวดีนั้นดูสวยงดงามราวกับภาพวาด ส่วนตัวเขาเองก็ดูดี ท่วงท่าสง่างาม ทำให้เขาไม่สามารถหาบกพร่องแม้แต่นิดเดียว
ดูเหมือนว่านรีรัตน์จะรับเอาเรื่องนี้เป็นภารกิจจริง ๆ เลยไม่แปลกใจเลยที่เธอจะไม่แสดงถึงอาการผิดปกติ
อย่างนี้แล้วชยุดก็ไม่สามารถหาข้อติได้ ทำให้ยิ่งรู้สึกร้อนรนขึ้นไปอีก
เขาเก็บโทรศัพท์มือถืออย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมพูดว่า“หมดเรื่องของเธอแล้ว จะไปไหนก็ไปซะ”
นรีรัตน์เดินหันหลังกลับด้วยท่าทีเรียบเฉยไม่ต่างจากเดิม
“เดี๋ยวก่อน” เขาจ้องไปยังร่างของนรีรัตน์ “ไปเปลี่ยนชุดซะ สีชุดของเธอเหมือนกับของปรียาวดี” “อย่าใส่ชุดสีเดียวกับปรียาวดีไปงานเลี้ยงคืนนี้ เดี๋ยวปรียาวดีจะดูไม่โดดเด่นเท่าที่ควร”
หลังจากพูดจบใบหน้าของเขาก็เย็นชายิ่งขึ้นราวกับยมทูต “ปรียาวดีต้องเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นชุดของเธอที่มีสีเดียวกับปรียาวดีเอาไปทิ้งให้หมดซะ”
ทันทีที่ได้ฟังดังนั้น หัวของนรีรัตน์ก็เต็มไปด้วยความโมโหอีกครั้ง
เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่อาจระงับความโกรธได้อีกต่อไป ในที่สุด เธอก็ต้องกัดฟันตอบออกไป “คำสั่งของคุณฟู่ ดิฉันจะจำไว้แล้วนำไปปฏิบัติอย่างครบถ้วนค่ะ”
การที่เธอใส่เสื้อผ้าสีเดียวกับปรียาวดีจะทำให้ปรียาวดีโดดเด่นน้อยลงงั้นเหรอ ฉันก็ไม่ได้อยากใส่เสื้อผ้าสีเดียวกับผู้หญิงเสแสร้งพรรณนั้นหรอก
นรีรัตน์ค่อย ๆ คลายหมัดลงแล้วเดินขึ้นบันไดไป
เมื่อเห็นนรีรัตน์เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างโกรธเคือง มุมปากของปรียาวดีก็กระตุกขึ้นและยิ้มอย่างมีชัย
หลังจากขึ้นห้องไป นรีรัตน์ก็กระชากเสื้อผ้าสีขาวทั้งหมดลงไปกองกับพื้น
ปรียาวดีชอบเสื้อโทนสีอ่อน โดยเฉพาะสีขาว
สิ่งที่ปรียาวดีชอบ นรีรัตน์ก็ไม่อยากจะแตะต้องนักหรอก
“ตัวเอง คุณโพสต์รูปเราหรือยังคะ” ปรียาวดีซึ่งเอาหน้าแนบอกของชยุดอยู่ เงยหน้าขึ้นถามเขา
ชยุดที่เหม่อมองตามแผ่นหลังของนรีรัตน์อยู่นั้นก็รู้สึกตัวขึ้น ก้มหน้าตอบรับคำของปรียาวดี “อัปโหลดเดี๋ยวนี้แหละ”
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูรูปของเขากับปรียาวดี
ในภาพทั้งสองยิ้มอย่างมีความสุข ดูเหมาะสมกันอย่างสวรรค์สร้าง แต่ยิ่งดูก็ยิ่งเสียอารมณ์ จึงเลือกอย่างไม่ใส่ใจมาหนึ่งรูปแล้วแชร์ลงโมเมนต์
ตั้งแคปชั่นประกอบว่า“สุขสันต์วันเกิดครับที่รัก รักคุณตลอดไป”
ทันทีที่เขาแชร์โมเมนต์เสร็จก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์
คุณเห้อ “อิจฉา ตาร้อน”
คุณซุน “ตายสงบศพสีชมพู” ‘ฆ่าคนโสด’ ‘เหม็นความรัก’ ‘ทำร้ายจิตใจ’
มีข้อความดี ๆ อยู่บ้างเช่น‘สุขสันต์วันเกิดปรียาวดีคนสวย ขอให้อ่อนเยาว์และดูดีตลอดไป’ หรือ‘ชยุดรักคุณสามพัน’
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่รู้ว่าชยุดนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว แต่พวกเขายังรู้อีกว่า หัวใจของชยุดเป็นของใครคนนั้นคนเดียว
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร