เพราะความเข้าใจผิดในค่ำคืนหนึ่ง ทำให้ ลี่เฉิน ประธานหนุ่มหล่อจากเมืองจีนที่เข้ามาทำธุรกิจที่เมืองไทย เกิดเหตุบังเอิญจนสลับคีย์การ์ดอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เขาได้พบกับเธอ มิริน สาวน้อยแสนหวานบริสุทธิ์ที่ถูกน้องสาววางยา จนลี่เฉินคิดว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงบริการที่ถูกส่งมารับรองเขา กว่าจะรู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น เขาก็สัมพันธ์ลีกซึ้งกับเธอไปแล้ว
หน้าไนต์คลับ ไนติงเกล ซึ่งเป็นไนต์คลับที่บรรดาเหล่าไฮโซและผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นเท่านั้นที่จะเข้ามาเยือนในที่แห่งนี้ได้ บริเวณ ไนต์คลับ จะเชื่อมต่อกับโรงแรมระดับห้าดาว ชั้นนำของเอเชีย ซึ่งจัดโซนแยกอย่างหรูหรา
มิริน หญิงสาวร่างเล็ก ดวงตากลมโตราวกับตุ๊กตา ผมสีดำเงางามของเธอยาวสลายไปยังกลางหลัง เธอก้าวขาลงมาจาก Taxiกระโปรงสีขาวของเธอพัดปลิวเบาๆ ไปกับสายลมอ่อนที่โชยเข้ามา ทว่าสีหน้าของเธอกลับไม่ค่อยสู้ดีนัก มือเธอยังควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ ก่อนหยิบมันออกมากดไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย
“ลิญา เธออยู่ไหน พี่มาถึงแล้ว วัฒน์ เขา..เขายังอยู่ข้างใน กับผู้หญิงคนนั้นไหม" เสียงหวานใสของเธอเอ่ยออกมาแต่ทว่าน้ำเสียงกลับแฝงไปด้วยความกังวล
เธอคือ มิริน หรือ มารินา ลูกสาวคนโต ของตระกูล เศตากุล ขณะที่เธอกำลังเดินเล่นอยู่ที่สวนภายในบ้าน เธอได้รับโทรศัพท์จาก ลิญา หรือ ลลิญา น้องสาวต่างมารดา ว่า พบคู่หมั้นของเธอที่กำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับอยู่สาวเซ็กซี่ ที่ไนต์คลับของโรงแรมแห่งนี้
มิริน พยายามโทรหา วัฒน์ คู่หมั้น แต่ทว่าเขาปิดโทรศัพท์ เธอจึงรีบเดินทางมาที่ผับแห่งนี้ เพื่อพิสูจน์ด้วยตาตนเอง ในขณะที่เธอยังยืนละล้าละลัง อยู่ ลิญา น้องสาวคนสวยของเธอ ในชุดแซกสีดำรัดรูป ได้เดินตรงเข้ามาหา
“พี่ริน ทำไมมาช้าจัง ญาเฝ้าให้อยู่ตั้งนานแล้ว พี่รินมาช้ามากกก ดูสิเหมือนพี่วัฒน์จะรู้ตัว เขาพากันกอดยัยนั่น เดินออกไปแล้ว” ลิญามองใบหน้าสวยของพี่สาว ที่ปราศจากรอยยิ้ม เธอทำท่าลังเลไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปดีหรือไม่
“พูดมาเถอะลิญา พี่รับได้”
“แน่ใจนะ”
“อืม พูดมาเถอะ”
“คือญาแอบสะกดรอยตามไป เห็นพี่วัฒน์ควงผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในโรงแรม นี่ไงญาถ่ายรูปเอาไว้ในมือถือ แต่ถ้าพี่อยากจะดูให้เห็นกับตา ญาจะพาไป ญารู้ว่าเขาพักห้องไหน” ลิญา ส่งรูปในโทรศัพท์ที่เป็นรูปชายหนุ่มหญิงสาว คู่หนึ่งเดินโอบกอดกันอยู่ ในล็อบบี้โรงแรม ดวงตากลมโตของมิริน เอ่อแดงราวกับจะมีน้ำตาเธอเม้มปากแน่น ประหนึ่งจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
“ญา ช่วยพาพี่ไปดูให้เห็นกับตา... ได้ไหม” มิรินพูดเสียงพร่าไหว
“ได้สิพี่ริน แต่พี่เข้ามาในผับนี่ก่อนนะ ขอญาเข้าไปเคลียร์บิลก่อน ตอนญาออกมาเพื่อนๆ ยังรอญาอยู่ พอดีญาบอกจะเลี้ยงเพื่อนๆ เดี๋ยวเสียหน้าอะ” ลิญาพูดยิ้มๆ ก่อนจะลากแขน มิริน เข้าไปข้างใน
“พี่รอข้างนอกดีกว่า พี่ไม่ชอบเสียงดัง” มิรินขืนตัว ที่น้องสาวของเธอจับแขนไว้
“น่า แปปเดียว ไม่ถึง 5 นาทีหรอก” ว่าแล้วลิญาก็ดึงแขนมิริน เข้ามาภายในจนได้
ในที่สุดมิรินก็เดินตามน้องสาวเข้ามาอย่างเสียมิได้ ภายในไนต์คลับมีเสียงเพลงดังอึกทึกจนมิรินถึงกับยกมือขึ้นป้องหู เธอไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เอาซะเลย มองดูไปรอบ มีแต่หนุ่มสาวที่พากันเต้นโยกย้ายกันไปมา บ้างก็กอดกันกลมอยู่ตามโต๊ะ มิรินมีสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ก่อนที่ลิญาจะดึงตัวพี่สาวเธอนั่งลง
“นั่งก่อนพี่ริน แป๊บเดียว เคลียร์บิลเสร็จแล้วจะฉันจะพาพี่ไปบุกเลย “
มิรินพยักหน้าเบาๆ เธอจำต้องหย่อนตัวนั่งลงที่โต๊ะของน้องสาวและเพื่อนๆ ของเธออย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ถึงกระนั้นเธอก็ยังมีมารยาทพอที่จะโค้งศีรษะพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยแทนการแนะนำตนเอง
“นี่ทุกคน นี่พี่สาวฉันเอง" ลิญาแนะนำ
“พี่สาวญาสวยจัง ยังกับตุ๊กตา แต่แหม พี่มาเที่ยวที่แบบนี้แต่งตัวเรียบร้อยจัง”
“นั่นสิพี่ แต่งแบบนี้พวกเราเลยกลายเป็นนางมารร้ายกันพอดี” เพื่อนลิญาส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากชอบใจ
มิรินอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอะไรดี ได้แต่ส่งยิ้มบางแทนคำตอบ ในเวลาแบบนี้ มิรินไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะในใจของเธอ กลับกังวลคิดเรื่องคู่หมั้นเธอมากกว่า
“ฉันพาพี่สาวฉันมาจับกิ๊กเว้ย คุณพี่วัฒน์ว่าที่พี่เขยฉัน ท่าทางจะนอกใจพี่สาวฉัน เดี๋ยวจะรีบไปจัดการล่ะ"
ลิญาชิงตัดบท ก่อนที่เพื่อนเธอจะพูดอะไรกันมากไปกว่านี้ แล้วหันไปสั่งน้ำกับบริกร
“พักแป๊บนะพี่ริน เตรียมตัวให้พร้อมก่อน ลุยกัน” ลิญาส่งยิ้มหวาน
“อืม จ๊ะ”
“ญาเรียกพนักงานมาเช็กบิลแล้ว รอแป๊บนะคะ” เธอหันไปบอกพี่สาวก่อนหันไปบอกเพื่อนๆ เธออีกครั้ง
“นี่พวกแก กินต่อกันเลยได้นะ เหล้ายังไม่หมด ของที่สั่งไว้ก็ยังไม่มาอีกหลายอย่าง ตามสบายเลย ฉันจ่ายเงินไว้ให้”
เพื่อนๆ ของลิญาถึงกับส่งเสียงหัวเราะอย่างชอบใจ มีคนเปย์แถมกินฟรีแบบนี้มีหรือจะไม่ชอบ
ลิญาเป็นสาวสวยสายปาร์ตี้ ด้วยความที่เธอเป็นลูกคนเล็ก ของตระกูล เศตากุล ทำให้ที่บ้านค่อนข้างจะตามใจ และใช้เงินราวกับผลิตได้เอง สองพี่น้อง มิริน กับ ลิญา แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มิริน คนพี่เป็นคนสวยแถมยังดูอ่อนหวาน ผิดกับ ลิญา น้องสาว ที่เป็นสาวสังคมสายปาร์ตี้
คุณแม่ของมิริน ได้เลิกรากับคุณพ่อ ทำให้คุณพ่อเธอได้แต่งงานใหม่คือคุณแม่ของลิญา และแน่นอนว่าเป็นธรรมดา ที่แม่เลี้ยงทมักจะไม่ค่อยชอบใจในตัวมิริน ที่เป็นลูกติดภรรยาเก่าเท่าไหร่นัก ยิ่งคุณศาสตรา ผู้เป็นพ่อ แลดูจะรักใคร่และห่วงใยลูกสาวคนโตมากเป็นพิเศษ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่ชอบหน้ามิรินที่ดูจะเหนือกว่าลูกสาวของเธอเสียทุกอย่าง
ไม่นานนัก เมื่อบริกรยกน้ำดื่มที่สั่งไว้มาเสิร์ฟให้มิริน ลิญารีบกุลีกุจอรับแทนพลางส่งให้พี่สาว
“อ่ะ พี่ริน กินน้ำก่อน ฉันสั่งเมื่อกี้รับรองไม่มีแอลกอฮอล์ สบายใจได้” ลิญาส่งแก้วน้ำให้กับมิริน เธอจึงรับมาลองจิบดูเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าเครื่องดื่มที่น้องสาวสั่งมาให้ไม่มีแอลกอฮอล์ และรสชาติก็หวานอ่อนๆ เธอจึงดื่มได้อย่างสนิทใจโดยไม่ได้คิดอะไร
ลิญา ได้แต่เหลือบมองยิ้มๆ เมื่อเห็นมิรินดื่มน้ำในแก้วจนหมด เธอจึงฉุดแขนพี่สาวของเธอให้ลุกขึ้น
“ป่ะ พี่ริน พร้อมไหม ฉันจะพาไปจัดการพี่วัฒน์ล่ะ ดูสิถ้าหลักฐานคาตาจะเฉไฉอะไรได้อีก”
“ไปก่อนนะ เพื่อนๆ เอาไว้ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือ ฉันจะโทรหาพวกแก รับสายฉันด้วยละ”
ลิญาจับมือมิริน เดินออกไปด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
ในขณะที่มิริน รู้สึกแปลกๆ เหมือนจะเริ่มมีอาการร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วลำคอ
-เธอเป็นอะไรไปนะ-
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
"หัวใจ ความรัก และภักดี เขาจะเลือกอย่างไหน" “ไอ้เพชรแกเอาไป นี่เมียแก!” หญิงสาวที่อยู่ในชุดนอนมีร่องรอยฉีกขาด ถูกผลักเข้าไปในกระท่อมเก่าซอมซ่อของพัชระหรือทุกคนเรียกกันว่า เพชร ซึ่งเป็นเพียงช่างคนหนึ่งในไร่ชาของที่นี่ “คุณจันทร์นี่มันอะไรกันครับ” เจ้าของหนวดเคราครอบหน้าหันไปมองคนบนพื้นแล้วหันมาถามนางจันทร์นิล ด้านหลังก็มีลูกน้องของเจ้านายอีกสองคน “นังอ้อนมันร่านไง มันมาอ่อยผัวลูกสาวฉัน ไอ้เพชรฉันยกนังอ้อนให้แกจัดการ” นางจันทร์นิลชี้นิ้วใส่ลูกเมียน้อยของสามีอย่างจงเกลียดจงชัง “จัดการยังไงครับคุณจันทร์” พัชระได้ยินว่าคนที่ตนแอบรักถูกทำร้าย แววตาของเขาก็ประกายแข็งกร้าวขึ้นด้วยความโกรธ “ก็จัดการมันให้เป็นเมียแกซะ เดี๋ยวนี้เลย!” (เมียร้อนจำยอมรัก)
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"