เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วยยยยย ความรักเหมือนควายยยย ทำไมฉันถึงโง่เป็นควายยย”
เสียงร้องเพลงที่ไม่ตรงกับเนื้อ แถมยังลากยาวกว่าทำนอง บอกได้ว่าคนร้องนั้น กำลังสติไม่อยู่กับตัวมากขนาดไหน แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่ปล่อยไมโครโฟน ยังคงพร่ำร้องเพลงต่อไป ไม่สนว่าเพื่อนรักสองคนตอนนี้ กำลังเอามืออุดหู และต่างมองหน้ากัน ขยิบตาให้กัน เหมือนเป็นสัญญาณว่า ใครก็ได้ ช่วยห้ามเธอที!
อย่ามาห้ามอะไรเธอตอนนี้
ไม่! เธอไม่ฟังอะไรใครทั้งนั้น เพราะเธอจะร้องเพลง ร้อง ร้องและร้อง ร้องให้มันระบาย
เธอถูกคนรักบอกเลิก!
ไอ้ห่านั่นหนีเธอไป มันบอกว่ามันจะแต่งงาน
ฮือ! ไม่ใช่เธอหรือยังไงกันที่จะต้องแต่งงานกับมัน
โอ๊ย! ช้ำใจ
แล้วแถมด้วยการแท็คภาพงานแต่งมาให้ดูยิ่งตอกย้ำความช้ำไปอีก
อื้อหือ...
จะมีอะไรเจ็บไปกว่านี้อีกไหมนะ ประกาศโต้งๆ ออกสื่อขนาดนี้ ปู้ยี้ปู้ยำหัวใจกันได้ขนาดนี้
อยากจะร้อง แต่ก็ร้องไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ร้องจนต้องลางานเพราะไปทำงานสภาพนั้นไม่ไหว เป็นการลางานครั้งแรกในรอบหลายปีของเธอตั้งแต่ทำงานมาก็ว่าได้ ลาเพราะแฟนทิ้ง เหอๆ ร้องไห้หนัก รู้ไปถึงไหน ก็อายไปถึงนั่นล่ะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ”
“พอแล้วยัยวาววา ร้องเป็นรอบที่ร้อยแล้ว เพลงของฉันล่ะยะ แบ่งกันมั่งสิ” ริญญารับอาสาเป็นหน่วยกล้า แย่งฉกไมโครโฟนออกมาจากคนอกหัก และเมากึ่มๆ อชิรญาส่งตาขวางให้ทันที แล้วทำท่าจะโผนมาแย่งไมค์กลับ เลยกลายเป็นศึกชิงไมค์วิ่งกันไปวนกันมารอบห้องคาราโอเกะวีไอพี ที่วันนี้ริญญาเป็นคนพาเพื่อนสาวมาเหมาเลี้ยง ในโอกาสฉลองวันแต่งงาน...
วันแต่งงานของแฟนเก่าของอชิรญา
“เอาไมค์มา เอามา แกมันคนใจร้าย ใจดำ ฮือๆ” แย่งไม่ได้เข้า หนนี้คนเมาก็ทำท่าจะร้องไห้ จนทองอุไรเพื่อนสนิทอีกคน ต้องดึงไมโครโฟนคืนมาจากริญญาแล้วส่งให้กับเธอ
“เอ้าๆ เอาคืนไป แต่พอก่อนนะเพลงนี้ แบบฉันฟังจนเบลอไปหมดแล้ว ขอนะเพื่อนนะ”
“เอ่อ...ไม่ร้องแล้วก็ได้ ไม่ให้ร้องเพลง ร้องไห้แทนได้ไหมล่า” สองสาวมองสบตากัน ก่อนที่ริญญา จะร้องเฮ้อ แล้วดึงเพื่อน มานั่งกอดคอให้เพื่อนรักอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับทองอุไร
“อย่าร้องไห้วาววา เพื่อนเลิฟ พอทีพอเถอะ กับไอ้ผู้ชายขี้เก๊กแบบนั้นอะ แกลืมๆ มันไปเหอะ”
“อยากลืม แต่เจ็บใจงะ มันเจ็บใจ” ว่าแล้วก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง ดังปึกๆ ริญญารีบห้ามด้วยการเบรกเพื่อนเสียงนิ่งๆ
“อย่าตบแรงแก นมยิ่งน้อยๆ อยู่ เดี๋ยวยุบไปกันใหญ่”
“ยัยหญิง ยัยเพื่อนใจร้าย ฮือๆ มิ้นช่วยด้วย เพื่อนโดนรังแกเรื่องขนาดนม” ว่าแล้วก็โผไปซบทองอุไร ที่ทำทีขยับแว่นตาที่สวม มองดูริญญาที่ทำท่าไม่รู้ไมชี้ แต่อมยิ้มด้วยสายตาดุๆ
“แกนี่...แทนที่จะพูดดีๆ กับเพื่อนมั่ง ปลอบใจอะไรมั่ง ตั้งแต่แย่งไมค์มันแล้วนะ เพื่อนกำลังเศร้าอยู่ด้วย”
“พูดดีก็แล้ว ด่าก็แล้ว มันก็ยังร้องไม่เลิก จนแบบว่านี่ชักจะปวดหัวงะ” ริญญากอดอก มองดูคนที่กำลังซบอยู่กับอกของทองอุไร แล้วก็สั่นหน้า
“เศร้าโศกาอะไรขนาดนั้นหะ ยัยวาววา อีตาเดย์แฟนเก่าหล่อน มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักไม่ใช่หรือไงอะ ขี้เก๊ก ขี้อวด สารพัดขี้ อ้อ...มันขี้เอาลับหลังแกด้วย มันเอาไปเรื่อย ขนาดฉันมันยังเคยคิดจะมาเอา”
“แล้วให้มันไหมล่ะ” หนนี้คนถามคือทองอุไร คนตั้งใจฟังจนหูผึ่งคืออชิรญา รู้กันในหมู่เพื่อนสนิท ที่คบกันมายาวนานในหมู่พวกเธอสามคนว่า ริญญานั้น เป็นสาวแรด และแรงเบอร์ไหน หล่อนเป็นสาวไฮโซ นามสกุลดัง ที่บิดามารดาเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุเครื่องบินตก เรื่องนี้พวกเธอก็พึ่งเคยได้ยินริญญาหลุดปากออกมานี่แหละ เจ้าหล่อนรีบเอามือปิดปาก แล้วทำตาโต
“อุ๊บ”
“ตกลงว่า หล่อนเคยได้กับไอ้เดย์ไหมน่ะ”
“แรดขนาดไหนก็ไม่เอาปะวะ ผัวเพื่อนอะ” ริญญารีบโวย “แถมเอาก็ไม่คุ้ม อี๋ หนอนน้อยอะ”
คำพูดของหล่อน เล่นเอาอชิรญาหน้าแดง ก่อนจะขำก๊าก ส่วนทองอุไร คนที่เรียกได้ว่าใสๆ ที่สุดในกลุ่ม ทำตาปริบๆ แล้วถามหน้าซื่อ
“อะไรอะหนอนน้อย”
“แหม...แรดแล้วคุ้มค่า เสี่ยงผิดใจกับเพื่อนแล้วคุ้มกับปริมาณก็ดีอยู่หรอก แต่แบบ” ริญญายักไหล่ ก่อนจะยกมือไหว้เพื่อน ที่ตอนนี้ยังเปลี่ยนอารมณ์ขำไม่หยุดกับคำพูดว่าหนอนน้อยของเธอ
“ขอโทษนะยัยวาววา แต่แบบบังเอิญไปโดนงะ ไม่ได้เคยเห็นนะ ไม่ได้อยากเห็น ไม่ได้อยากเย เย้ พ่อคนหล่อของหล่อนแต่อย่างใด”
“อดีตแล้วย่ะ เหอๆ ใช่อย่างที่แกพูด ไอ้ผู้ชายกระเจี๊ยวเล็ก ทำก็ไม่เคยจะเสร็จ ถ่มถุยมากเหลือเกินชีวิต พวกแกคิดดูสิ๊ ฉันอะมีมันเป็นแฟน ไม่เคยนอกใจมัน ตั้งใจจะแต่งงานกับมันเพราะเสียจิ้นให้มันตอนอายุ 25 แล้วแบบ...อะไรอะ มันคืออะไร นี่คือสิ่งที่ฉันควรได้รับไหม ผู้ชายจอมทรยศ แถมยังไม่ได้เรื่อง มาพรากชีวิตวัยสาวของฉันไป ที่ผ่านมาฉันทำอะไรกับตัวเองวะ ฉันน่าจะเลิกกับมันไปตั้งแต่มันนอกใจฉันหนแรกแล้วด้วยซ้ำ ไม่น่าจะรอมาจนสามสิบกว่า ปูนนี้แล้วจะหาผัวใหม่ได้ปะละ”
ไฟร้ายอย่างเขา ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความสุขจากเซ็กส์แลกได้จากร่างกายอันแข็งแกร่ง และเงินตรา ผู้หญิงหน้าไหนก็อยากได้เขาเพราะสองสิ่งนี้ จนมาเจอกับเธอ หญิงสาวคนแรกที่กล้าสะบัดหน้าหนีเขา ฉีกเงินของเขาทิ้ง แล้วบอกให้ว่าเขาช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี! กล้าดีแบบนี้ เกมล่าใจจึงเริ่มต้นขึ้น “ไม่ได้นะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้ คุณอาร์ตมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยปลาไปนะ ถ้าไม่อย่างนั้นปลาจะไปฟ้องคู่หมั้นคุณ” เห็นว่าไม้นวมไม่ได้ผล ปราณปรียาก็ชักไม้แข็งขึ้นมาขู่ เธอหวังว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดี โดยไม่รู้เสียเลยว่าคำพูดคำนั้น มันยิ่งจุดเพลิงให้ไฟที่กำลังจะสงบ กลับลุกโพลงขึ้นมาอีก “คู่หมั้น เหอะ ! ใครจะหมั้นกับใครกัน” เขาจับต้นแขนเธอแล้วดันเธอให้ผละออกจากอกกว้างเพื่อจะมองเผชิญหน้ากัน ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง เขาเปลี่ยนไวจริงๆ วันนี้ อารมณ์เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี แล้วเธอจะทำอย่างไรดีนะ กับไฟร้อนที่กำลังคลุ้มคลั่งตรงหน้า สมองน้อยๆ เริ่มคิดถึงทางรอดอย่างว่องไว แต่ก็คิดไม่ออกเพราะความกลัวเขา “ผมไม่มีพันธะ ผมไม่ยอมให้ใครมาจับผมทั้งนั้น จำไว้นะปลา ผมจะไม่มีวันแต่งงาน” “ตะ แต่ว่า” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เนื้อตัวเริ่มสั่นเพราะความกลัว แต่อัคคีห้ามตัวเองไม่ได้เสียแล้ว เขากำลังร้อน กำลังพาลไปเสียทุกอย่าง เขามองจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ยิ้มเหี้ยม เมื่อเอ่ยเสียงเย็น “ผู้หญิง...หึๆ ชอบเล่นเกมใช่ไหมปลา เหมือนที่ปลากำลังเล่นเกมกับผม เกมใจแลกใจอะไรนั่น ผมไม่เล่นด้วยแล้ว ผมจะทำตามใจตัวเอง แล้วอย่าหวังว่าจะจับผมไปแต่งงานมีพันธะได้นะ ไม่มีทาง!”
ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรักเข้าขั้นสาหัส จนอาการหนักแอนตีผู้หญิงไปแล้วทั้งโลกอย่างเพลิง มีอันต้องป่วนหัวใจ เมื่อเธอก้าวเข้ามาวุ่นวายในสวนส้มตะวันฉาย ผู้หญิงอะไรน่ารักน่าหยิก แถมมาด้วยเป้าหมายไม่ธรรมดา อย่างนี้ต้องแกล้ง...เสียให้เข็ด เมื่อถูกยื่นข้อเสนอให้ไปเป็นสปายสายลับจับเกย์ ในสวนส้มตะวันฉาย ตวงรักจึงตะครุบงานนี้ไว้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตั๋วเครื่องบินไปสวิส พร้อมกับพอกเก็ตมันนี่ มันจะคุ้มไหมนะ ถ้าเจอกับคนเจ้าเล่ห์แสนเนียนอย่างอีตาเพลิง! “ไม่มีครายเข้าใจผมเลยสักคน รู้ไหม คุณตวงรัก” น้ำเสียงยานคาน แฝงแววน้อยอกน้อยใจนั่น ทำเอาตวงรักหยุดดิ้นรนได้ชั่วครู่ เมื่อสัมผัสได้ว่า คนตัวโตที่กำลังกอดเธอไว้ กำลังทำเหมือนคนขาดความอบอุ่น จึงไขว่คว้าหามันจากเธอ ตวงรักเงยหน้ามองเขา แล้วสบกับสายตาคมกริบที่กำลังฉายแววตัดพ้อ ตวงรักมองเขานิ่ง หยุดดิ้นไปแล้ว มือนิ่มโอบตอบร่างหนา แถมลูบหลังให้เขาเบาๆ อีกต่างหากเหมือนจะปลอบโยน อาการของเธอทำให้เพลิงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาเสียแล้ว ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเศร้าและนัยน์ตาโศกมากกว่าเดิม “ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ” “คุณเพลิงเป็นอะไรไปเหรอคะ บอกตวงก็ได้นะ” เธอกล่าวอย่างปลอบประโลม ใจอ่อนยวบไปเสียแล้ว กับคนที่เธอกำลังลูบหลังไหล่ให้อยู่นี่ เขาเป็นอะไรไปกันนะ ทำไมถึงต้องเมามามากขนาดนี้ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังเศร้าโศกอย่างหนักด้วย “ผมบอกใครไม่ได้” เพลิงส่ายหน้าเบาๆ ถือโอกาสโอบร่างเพรียวเข้าหาตัว และซบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมกรุ่น แอบสูดกลิ่นหอมน่าชื่นใจนั่นเข้าปอด ตวงรักถึงกับครวญออกมาอย่างสงสารคนตัวโต ที่วันนี้ทำท่าท้อแท้ หมดแรงต่อสู้อย่างน่าประหลาด “โธ่...บอกตวงได้นะคะ ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่คุณเพลิงก็ไว้ใจตวงได้นะ เล่าให้ตวงฟังได้ทุกอย่างเลยค่ะ ตวงยินดี” “มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยครับ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้า แล้วแอบยิ้มกับกลุ่มผมของเธอ “อย่าเก็บไว้เลยนะคะ ตวงไม่เคยเห็นคุณเพลิงเป็นแบบนี้สักที มีอะไรอัดอั้นตันใจ ก็เล่าให้ตวงฟังได้เลยค่ะ” ยิ่งฟังน้ำเสียงของเขา ตวงรักก็ยิ่งสงสารเขา มือเรียวยังคงลูบหลังให้อย่างปลอบใจ เธอลืมไปสนิทว่า เธอกำลังกอดกับเขาอยู่ อย่างแนบชิดเสียด้วย เพราะมัวแต่จะปลอบโยนเขาให้คลายเศร้า “คือว่า ฟังแล้วคุณตวงอย่ารังเกียจผมนะครับ” เพลิงผละออกจากร่างนุ่มอย่างเสียดาย นัยน์ตาคมกริบที่สบกับตวงรัก มีประกายประหลาด ขณะที่เขาสารภาพเสียงอ่อน “ผมกำลังคิดว่า ผมคงจะเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย จะทำยังไงดีครับ คุณตวงรัก” “หา!”
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY