เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ ลืมความรักที่แสนห่วยยยยย ความรักเหมือนควายยยย ทำไมฉันถึงโง่เป็นควายยย”
เสียงร้องเพลงที่ไม่ตรงกับเนื้อ แถมยังลากยาวกว่าทำนอง บอกได้ว่าคนร้องนั้น กำลังสติไม่อยู่กับตัวมากขนาดไหน แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่ปล่อยไมโครโฟน ยังคงพร่ำร้องเพลงต่อไป ไม่สนว่าเพื่อนรักสองคนตอนนี้ กำลังเอามืออุดหู และต่างมองหน้ากัน ขยิบตาให้กัน เหมือนเป็นสัญญาณว่า ใครก็ได้ ช่วยห้ามเธอที!
อย่ามาห้ามอะไรเธอตอนนี้
ไม่! เธอไม่ฟังอะไรใครทั้งนั้น เพราะเธอจะร้องเพลง ร้อง ร้องและร้อง ร้องให้มันระบาย
เธอถูกคนรักบอกเลิก!
ไอ้ห่านั่นหนีเธอไป มันบอกว่ามันจะแต่งงาน
ฮือ! ไม่ใช่เธอหรือยังไงกันที่จะต้องแต่งงานกับมัน
โอ๊ย! ช้ำใจ
แล้วแถมด้วยการแท็คภาพงานแต่งมาให้ดูยิ่งตอกย้ำความช้ำไปอีก
อื้อหือ...
จะมีอะไรเจ็บไปกว่านี้อีกไหมนะ ประกาศโต้งๆ ออกสื่อขนาดนี้ ปู้ยี้ปู้ยำหัวใจกันได้ขนาดนี้
อยากจะร้อง แต่ก็ร้องไปหมดแล้วเมื่อสองวันก่อน ร้องจนต้องลางานเพราะไปทำงานสภาพนั้นไม่ไหว เป็นการลางานครั้งแรกในรอบหลายปีของเธอตั้งแต่ทำงานมาก็ว่าได้ ลาเพราะแฟนทิ้ง เหอๆ ร้องไห้หนัก รู้ไปถึงไหน ก็อายไปถึงนั่นล่ะ
“ก็อยากจะเมาให้ลืมเธอ”
“พอแล้วยัยวาววา ร้องเป็นรอบที่ร้อยแล้ว เพลงของฉันล่ะยะ แบ่งกันมั่งสิ” ริญญารับอาสาเป็นหน่วยกล้า แย่งฉกไมโครโฟนออกมาจากคนอกหัก และเมากึ่มๆ อชิรญาส่งตาขวางให้ทันที แล้วทำท่าจะโผนมาแย่งไมค์กลับ เลยกลายเป็นศึกชิงไมค์วิ่งกันไปวนกันมารอบห้องคาราโอเกะวีไอพี ที่วันนี้ริญญาเป็นคนพาเพื่อนสาวมาเหมาเลี้ยง ในโอกาสฉลองวันแต่งงาน...
วันแต่งงานของแฟนเก่าของอชิรญา
“เอาไมค์มา เอามา แกมันคนใจร้าย ใจดำ ฮือๆ” แย่งไม่ได้เข้า หนนี้คนเมาก็ทำท่าจะร้องไห้ จนทองอุไรเพื่อนสนิทอีกคน ต้องดึงไมโครโฟนคืนมาจากริญญาแล้วส่งให้กับเธอ
“เอ้าๆ เอาคืนไป แต่พอก่อนนะเพลงนี้ แบบฉันฟังจนเบลอไปหมดแล้ว ขอนะเพื่อนนะ”
“เอ่อ...ไม่ร้องแล้วก็ได้ ไม่ให้ร้องเพลง ร้องไห้แทนได้ไหมล่า” สองสาวมองสบตากัน ก่อนที่ริญญา จะร้องเฮ้อ แล้วดึงเพื่อน มานั่งกอดคอให้เพื่อนรักอยู่ตรงกลางระหว่างเธอกับทองอุไร
“อย่าร้องไห้วาววา เพื่อนเลิฟ พอทีพอเถอะ กับไอ้ผู้ชายขี้เก๊กแบบนั้นอะ แกลืมๆ มันไปเหอะ”
“อยากลืม แต่เจ็บใจงะ มันเจ็บใจ” ว่าแล้วก็ตบไปที่หน้าอกของตัวเอง ดังปึกๆ ริญญารีบห้ามด้วยการเบรกเพื่อนเสียงนิ่งๆ
“อย่าตบแรงแก นมยิ่งน้อยๆ อยู่ เดี๋ยวยุบไปกันใหญ่”
“ยัยหญิง ยัยเพื่อนใจร้าย ฮือๆ มิ้นช่วยด้วย เพื่อนโดนรังแกเรื่องขนาดนม” ว่าแล้วก็โผไปซบทองอุไร ที่ทำทีขยับแว่นตาที่สวม มองดูริญญาที่ทำท่าไม่รู้ไมชี้ แต่อมยิ้มด้วยสายตาดุๆ
“แกนี่...แทนที่จะพูดดีๆ กับเพื่อนมั่ง ปลอบใจอะไรมั่ง ตั้งแต่แย่งไมค์มันแล้วนะ เพื่อนกำลังเศร้าอยู่ด้วย”
“พูดดีก็แล้ว ด่าก็แล้ว มันก็ยังร้องไม่เลิก จนแบบว่านี่ชักจะปวดหัวงะ” ริญญากอดอก มองดูคนที่กำลังซบอยู่กับอกของทองอุไร แล้วก็สั่นหน้า
“เศร้าโศกาอะไรขนาดนั้นหะ ยัยวาววา อีตาเดย์แฟนเก่าหล่อน มันก็ไม่ได้วิเศษอะไรนักไม่ใช่หรือไงอะ ขี้เก๊ก ขี้อวด สารพัดขี้ อ้อ...มันขี้เอาลับหลังแกด้วย มันเอาไปเรื่อย ขนาดฉันมันยังเคยคิดจะมาเอา”
“แล้วให้มันไหมล่ะ” หนนี้คนถามคือทองอุไร คนตั้งใจฟังจนหูผึ่งคืออชิรญา รู้กันในหมู่เพื่อนสนิท ที่คบกันมายาวนานในหมู่พวกเธอสามคนว่า ริญญานั้น เป็นสาวแรด และแรงเบอร์ไหน หล่อนเป็นสาวไฮโซ นามสกุลดัง ที่บิดามารดาเสียชีวิตไปในอุบัติเหตุเครื่องบินตก เรื่องนี้พวกเธอก็พึ่งเคยได้ยินริญญาหลุดปากออกมานี่แหละ เจ้าหล่อนรีบเอามือปิดปาก แล้วทำตาโต
“อุ๊บ”
“ตกลงว่า หล่อนเคยได้กับไอ้เดย์ไหมน่ะ”
“แรดขนาดไหนก็ไม่เอาปะวะ ผัวเพื่อนอะ” ริญญารีบโวย “แถมเอาก็ไม่คุ้ม อี๋ หนอนน้อยอะ”
คำพูดของหล่อน เล่นเอาอชิรญาหน้าแดง ก่อนจะขำก๊าก ส่วนทองอุไร คนที่เรียกได้ว่าใสๆ ที่สุดในกลุ่ม ทำตาปริบๆ แล้วถามหน้าซื่อ
“อะไรอะหนอนน้อย”
“แหม...แรดแล้วคุ้มค่า เสี่ยงผิดใจกับเพื่อนแล้วคุ้มกับปริมาณก็ดีอยู่หรอก แต่แบบ” ริญญายักไหล่ ก่อนจะยกมือไหว้เพื่อน ที่ตอนนี้ยังเปลี่ยนอารมณ์ขำไม่หยุดกับคำพูดว่าหนอนน้อยของเธอ
“ขอโทษนะยัยวาววา แต่แบบบังเอิญไปโดนงะ ไม่ได้เคยเห็นนะ ไม่ได้อยากเห็น ไม่ได้อยากเย เย้ พ่อคนหล่อของหล่อนแต่อย่างใด”
“อดีตแล้วย่ะ เหอๆ ใช่อย่างที่แกพูด ไอ้ผู้ชายกระเจี๊ยวเล็ก ทำก็ไม่เคยจะเสร็จ ถ่มถุยมากเหลือเกินชีวิต พวกแกคิดดูสิ๊ ฉันอะมีมันเป็นแฟน ไม่เคยนอกใจมัน ตั้งใจจะแต่งงานกับมันเพราะเสียจิ้นให้มันตอนอายุ 25 แล้วแบบ...อะไรอะ มันคืออะไร นี่คือสิ่งที่ฉันควรได้รับไหม ผู้ชายจอมทรยศ แถมยังไม่ได้เรื่อง มาพรากชีวิตวัยสาวของฉันไป ที่ผ่านมาฉันทำอะไรกับตัวเองวะ ฉันน่าจะเลิกกับมันไปตั้งแต่มันนอกใจฉันหนแรกแล้วด้วยซ้ำ ไม่น่าจะรอมาจนสามสิบกว่า ปูนนี้แล้วจะหาผัวใหม่ได้ปะละ”
ไฟร้ายอย่างเขา ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความสุขจากเซ็กส์แลกได้จากร่างกายอันแข็งแกร่ง และเงินตรา ผู้หญิงหน้าไหนก็อยากได้เขาเพราะสองสิ่งนี้ จนมาเจอกับเธอ หญิงสาวคนแรกที่กล้าสะบัดหน้าหนีเขา ฉีกเงินของเขาทิ้ง แล้วบอกให้ว่าเขาช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี! กล้าดีแบบนี้ เกมล่าใจจึงเริ่มต้นขึ้น “ไม่ได้นะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้ คุณอาร์ตมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยปลาไปนะ ถ้าไม่อย่างนั้นปลาจะไปฟ้องคู่หมั้นคุณ” เห็นว่าไม้นวมไม่ได้ผล ปราณปรียาก็ชักไม้แข็งขึ้นมาขู่ เธอหวังว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดี โดยไม่รู้เสียเลยว่าคำพูดคำนั้น มันยิ่งจุดเพลิงให้ไฟที่กำลังจะสงบ กลับลุกโพลงขึ้นมาอีก “คู่หมั้น เหอะ ! ใครจะหมั้นกับใครกัน” เขาจับต้นแขนเธอแล้วดันเธอให้ผละออกจากอกกว้างเพื่อจะมองเผชิญหน้ากัน ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง เขาเปลี่ยนไวจริงๆ วันนี้ อารมณ์เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี แล้วเธอจะทำอย่างไรดีนะ กับไฟร้อนที่กำลังคลุ้มคลั่งตรงหน้า สมองน้อยๆ เริ่มคิดถึงทางรอดอย่างว่องไว แต่ก็คิดไม่ออกเพราะความกลัวเขา “ผมไม่มีพันธะ ผมไม่ยอมให้ใครมาจับผมทั้งนั้น จำไว้นะปลา ผมจะไม่มีวันแต่งงาน” “ตะ แต่ว่า” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เนื้อตัวเริ่มสั่นเพราะความกลัว แต่อัคคีห้ามตัวเองไม่ได้เสียแล้ว เขากำลังร้อน กำลังพาลไปเสียทุกอย่าง เขามองจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ยิ้มเหี้ยม เมื่อเอ่ยเสียงเย็น “ผู้หญิง...หึๆ ชอบเล่นเกมใช่ไหมปลา เหมือนที่ปลากำลังเล่นเกมกับผม เกมใจแลกใจอะไรนั่น ผมไม่เล่นด้วยแล้ว ผมจะทำตามใจตัวเอง แล้วอย่าหวังว่าจะจับผมไปแต่งงานมีพันธะได้นะ ไม่มีทาง!”
ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรักเข้าขั้นสาหัส จนอาการหนักแอนตีผู้หญิงไปแล้วทั้งโลกอย่างเพลิง มีอันต้องป่วนหัวใจ เมื่อเธอก้าวเข้ามาวุ่นวายในสวนส้มตะวันฉาย ผู้หญิงอะไรน่ารักน่าหยิก แถมมาด้วยเป้าหมายไม่ธรรมดา อย่างนี้ต้องแกล้ง...เสียให้เข็ด เมื่อถูกยื่นข้อเสนอให้ไปเป็นสปายสายลับจับเกย์ ในสวนส้มตะวันฉาย ตวงรักจึงตะครุบงานนี้ไว้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตั๋วเครื่องบินไปสวิส พร้อมกับพอกเก็ตมันนี่ มันจะคุ้มไหมนะ ถ้าเจอกับคนเจ้าเล่ห์แสนเนียนอย่างอีตาเพลิง! “ไม่มีครายเข้าใจผมเลยสักคน รู้ไหม คุณตวงรัก” น้ำเสียงยานคาน แฝงแววน้อยอกน้อยใจนั่น ทำเอาตวงรักหยุดดิ้นรนได้ชั่วครู่ เมื่อสัมผัสได้ว่า คนตัวโตที่กำลังกอดเธอไว้ กำลังทำเหมือนคนขาดความอบอุ่น จึงไขว่คว้าหามันจากเธอ ตวงรักเงยหน้ามองเขา แล้วสบกับสายตาคมกริบที่กำลังฉายแววตัดพ้อ ตวงรักมองเขานิ่ง หยุดดิ้นไปแล้ว มือนิ่มโอบตอบร่างหนา แถมลูบหลังให้เขาเบาๆ อีกต่างหากเหมือนจะปลอบโยน อาการของเธอทำให้เพลิงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาเสียแล้ว ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเศร้าและนัยน์ตาโศกมากกว่าเดิม “ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ” “คุณเพลิงเป็นอะไรไปเหรอคะ บอกตวงก็ได้นะ” เธอกล่าวอย่างปลอบประโลม ใจอ่อนยวบไปเสียแล้ว กับคนที่เธอกำลังลูบหลังไหล่ให้อยู่นี่ เขาเป็นอะไรไปกันนะ ทำไมถึงต้องเมามามากขนาดนี้ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังเศร้าโศกอย่างหนักด้วย “ผมบอกใครไม่ได้” เพลิงส่ายหน้าเบาๆ ถือโอกาสโอบร่างเพรียวเข้าหาตัว และซบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมกรุ่น แอบสูดกลิ่นหอมน่าชื่นใจนั่นเข้าปอด ตวงรักถึงกับครวญออกมาอย่างสงสารคนตัวโต ที่วันนี้ทำท่าท้อแท้ หมดแรงต่อสู้อย่างน่าประหลาด “โธ่...บอกตวงได้นะคะ ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่คุณเพลิงก็ไว้ใจตวงได้นะ เล่าให้ตวงฟังได้ทุกอย่างเลยค่ะ ตวงยินดี” “มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยครับ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้า แล้วแอบยิ้มกับกลุ่มผมของเธอ “อย่าเก็บไว้เลยนะคะ ตวงไม่เคยเห็นคุณเพลิงเป็นแบบนี้สักที มีอะไรอัดอั้นตันใจ ก็เล่าให้ตวงฟังได้เลยค่ะ” ยิ่งฟังน้ำเสียงของเขา ตวงรักก็ยิ่งสงสารเขา มือเรียวยังคงลูบหลังให้อย่างปลอบใจ เธอลืมไปสนิทว่า เธอกำลังกอดกับเขาอยู่ อย่างแนบชิดเสียด้วย เพราะมัวแต่จะปลอบโยนเขาให้คลายเศร้า “คือว่า ฟังแล้วคุณตวงอย่ารังเกียจผมนะครับ” เพลิงผละออกจากร่างนุ่มอย่างเสียดาย นัยน์ตาคมกริบที่สบกับตวงรัก มีประกายประหลาด ขณะที่เขาสารภาพเสียงอ่อน “ผมกำลังคิดว่า ผมคงจะเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย จะทำยังไงดีครับ คุณตวงรัก” “หา!”
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ปรมะพลาดพลั้งมีความสัมพันธ์กับนักศึกษาของตัวเองจนตั้งท้อง เขาจำใจต้องรับผิดชอบอย่างไม่มีทางเลือก แต่ผู้ชายระดับไฮเอ็นเช่นเขาไม่ยอมเข้าตาจนง่ายๆ หรอก ในเมื่อพลาดไปแล้วก็ช่างมัน รับแค่ลูกเอาไว้ และเขี่ยแม่ของเด็กทิ้งลงถังขยะ นี่แหละคือทางออกที่ยอดเยี่ยมที่สุด! ตัวอย่างเล่ม : ระหว่างที่รองเท้าสีดำเงาวับกำลังย่ำลงไปบนพื้นกระเบื้องราคาแพง เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาชนเข้าที่ขาด้านหลัง ปรมะหยุดเดิน และก็หมุนตัวกลับไปมองสิ่งที่พุ่งเข้ามาปะทะร่างกายของตัวเอง เด็กผู้หญิงถักเปียสองข้าง... เขายิ้มที่มุมปากน้อยๆ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งเผชิญหน้ากับเด็กตัวจ้อย “อย่าวิ่งซนนะครับเด็กดี...” เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมามองเขา ก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างดีใจ “คุณพ่อ...” เขาไม่ได้ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของเด็กหญิงตรงหน้า แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจจนแทบช็อกคือใบหน้าของเด็กหญิงคนนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับเขาตอนเด็กไม่มีผิด ปรมะถึงกับอึ้งงันไป แต่เด็กน้อยยังคงยิ้มแถมยังยกมือขึ้นลูบหน้าของเขาไปมา “คุณพ่อจริงๆ ด้วย... ไข่มุกไม่ได้ฝันไป... เย้...” “หนู...” ตอนนี้แม้แต่จะพูดออกมาให้เป็นคำยังยากสำหรับปรมะเลย เด็กคนนี้เรียกเขาว่าพ่อ แถมยังมีหน้าตาถอดแบบมาจากเขาในตอนเด็กอีกต่างหาก ซีรีส์ในชุดที่เกี่ยวข้องกัน 1. ขายหัวใจให้ท่านประธาน 2. มลทินรัก CEO 3. คืนเผลอรัก 4. อุ้มรักเมียแสนชัง
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด