ไฟร้ายอย่างเขา ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ความสุขจากเซ็กส์แลกได้จากร่างกายอันแข็งแกร่ง และเงินตรา ผู้หญิงหน้าไหนก็อยากได้เขาเพราะสองสิ่งนี้ จนมาเจอกับเธอ หญิงสาวคนแรกที่กล้าสะบัดหน้าหนีเขา ฉีกเงินของเขาทิ้ง แล้วบอกให้ว่าเขาช่างไร้เสน่ห์สิ้นดี! กล้าดีแบบนี้ เกมล่าใจจึงเริ่มต้นขึ้น “ไม่ได้นะคะ เราไม่ควรทำแบบนี้ คุณอาร์ตมีคู่หมั้นแล้วนะคะ ปล่อยปลาไปนะ ถ้าไม่อย่างนั้นปลาจะไปฟ้องคู่หมั้นคุณ” เห็นว่าไม้นวมไม่ได้ผล ปราณปรียาก็ชักไม้แข็งขึ้นมาขู่ เธอหวังว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปแต่โดยดี โดยไม่รู้เสียเลยว่าคำพูดคำนั้น มันยิ่งจุดเพลิงให้ไฟที่กำลังจะสงบ กลับลุกโพลงขึ้นมาอีก “คู่หมั้น เหอะ ! ใครจะหมั้นกับใครกัน” เขาจับต้นแขนเธอแล้วดันเธอให้ผละออกจากอกกว้างเพื่อจะมองเผชิญหน้ากัน ปราณปรียาถึงกับอ้าปากค้าง เขาเปลี่ยนไวจริงๆ วันนี้ อารมณ์เดี๋ยวร้ายเดี๋ยวดี แล้วเธอจะทำอย่างไรดีนะ กับไฟร้อนที่กำลังคลุ้มคลั่งตรงหน้า สมองน้อยๆ เริ่มคิดถึงทางรอดอย่างว่องไว แต่ก็คิดไม่ออกเพราะความกลัวเขา “ผมไม่มีพันธะ ผมไม่ยอมให้ใครมาจับผมทั้งนั้น จำไว้นะปลา ผมจะไม่มีวันแต่งงาน” “ตะ แต่ว่า” หญิงสาวเอ่ยตะกุกตะกัก เนื้อตัวเริ่มสั่นเพราะความกลัว แต่อัคคีห้ามตัวเองไม่ได้เสียแล้ว เขากำลังร้อน กำลังพาลไปเสียทุกอย่าง เขามองจ้องหน้าเธอด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ยิ้มเหี้ยม เมื่อเอ่ยเสียงเย็น “ผู้หญิง...หึๆ ชอบเล่นเกมใช่ไหมปลา เหมือนที่ปลากำลังเล่นเกมกับผม เกมใจแลกใจอะไรนั่น ผมไม่เล่นด้วยแล้ว ผมจะทำตามใจตัวเอง แล้วอย่าหวังว่าจะจับผมไปแต่งงานมีพันธะได้นะ ไม่มีทาง!”
เสียงครางกระเส่าดังจากริมฝีปากของสองหนุ่มสาว ที่กำลังปฏิบัติกิจกรรมบนเตียงอย่างถึงพริกถึงขิง ฝ่ายชายหอบหายใจแรงขณะพลิกร่างงามอวบอิ่มของคู่นอนให้พลิกคว่ำ เผยสะโพกสวยให้กับเขา ชายหนุ่มตรงเข้าประกบพร้อมกับสอดแทรก แล้วเริ่มกระแทกกระทั้นอย่างเมามัน ทำให้ฝ่ายหญิงถึงกับครวญออกมาเสียงอ่อย เพราะความเหนื่อยอ่อนกับบทรักอันรุนแรงและเร่าร้อน
“คุณอาร์ตขา...คุณอาร์ต กี้จะไม่ไหวแล้ว อา...”
“ไหวน่ากี้ ผมรู้ว่ากี้ไหว”
เขาไม่ยอมหยุดอย่างที่ฝ่ายหญิงร้องขอ เพราะว่ารู้ว่าอีกฝ่ายนั้นปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกให้หยุดแต่กลับส่ายสะโพกตอบโต้การบุกรุกของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ชายหนุ่มกระแทกตัวแรงๆ และเร็วๆ ตามที่ปากอิ่มเอ่ยอ้อนขอ ร่างสูงใหญ่เกร็งไปทั้งร่างเมื่อใกล้จุดสูงสุด ขณะที่สาวสวยซบหน้าหมดแรงลงกับเตียงกว้างเพราะทะยานไปยังวิมานน้ำผึ้งก่อนเขาแล้ว
“อีกนิดนะ อา สุดยอดจริงๆ”
ฝ่ายชายครางเสียงลั่นเมื่อก้าวตามเธอไปติดๆ ร่างสูงใหญ่ซวนซบลงบนหลังขาวเนียนชื้นเหงื่อ หอบหายใจเร่าร้อนเพราะความเหนื่อยอ่อน
“คุณอาร์ตขา ทำไมวันนี้รุนแรงจังเลย กี้เกือบทนไม่ไหวแล้วนะคะ เพลียไปหมดแล้ว”
สาวงามเอ่ยเสียงอ้อนๆ พร้อมกับไล้มือเล่นกับหน้าอกเปล่าเปลือยกำยำด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม อาร์ต หรืออัคคี มองใบหน้าสวยราวกับนางฟ้านั้นก่อนจะยิ้มเหมือนหมิ่น ใบหน้าของสาวเจ้านามกี้ หรือ คุณาลัย สาวพริตตี้แสนสวยรายนี้ สวยเกินธรรมชาติเกินไป มองก็รู้ว่าเจ้าหล่อนไปปฏิบัติการทำให้สวยราวกับนางฟ้านี้มาหลายครั้งพอดู ความสวยพลาสติกของเธอเขาพอทนไหว แต่ที่ทนไม่ค่อยไหวก็คือจริตของผู้หญิง ที่แกล้งทำเป็นอ้อนออเซาะนั่นเอง เขาอัคคี เสรษฐภูมิ ผ่านผู้หญิงมามากมาย เจอมารยามาเยอะแยะ มองพวกหล่อนทะลุไปถึงไหนๆ ว่าสิ่งที่หญิงสาวพวกนี้ต้องการจากเขานอกเหนือจากเซ็กซ์ที่ร้อนแรงคืออะไร
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
อัคคีถาม พร้อมกับหัวเราะหึๆ มือไล้ไปตามแขนเนียนก่อนจะผลักร่างอิ่มออกจากตัว ทำเอาคุณาลัยถึงกับตกใจกับอาการที่เปลี่ยนไปของเขา สงสัยเธอจะเล่นละครมากไปหรือเปล่านะ อัคคีถึงผละออกจากเธอเร็วขนาดนี้
“เอ่อ...คือว่ากี้”
มือของชายหนุ่มคว้ากระเป๋าเงินที่ทำจากหนังชั้นดี ถูกวางอยู่บนหัวเตียงมาเปิด ก่อนจะควักธนบัตรส่งให้เธอ รอยยิ้มร้ายกาจถูกส่งมาพร้อมกับนัยน์ตาสวยคมกริบ ระยับบาดตาคนมองที่จ้องแล้วแทบละลาย
“เอาไปรักษาตัวนะครับกี้ หึๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ผมพอใจ”
คุณาลัยทำตาโต แล้วกราบเขาอย่างนอบน้อมที่อก โน้มคอเขาลงมาให้รางวัลเป็นจูบดูดดื่มกับชายหนุ่มอีกครั้ง แม้จะรับศึกจากเขามาหนัก แต่เมื่อสัมผัสร่างแกร่งเปี่ยมเสน่ห์นั่น คุณาลัยก็เริ่มทนไม่ไหว อยากขึ้นสังเวียนรักอีกสักรอบ มือนิ่มไล้ปลุกเร้า จนฝ่ายชายต้องหยุดมือเธอไว้ พร้อมกับถอนจูบและบอกเธอยิ้มๆ
“พอก่อนเถอะ ผมเหนื่อย อยากกลับบ้านแล้ว ผิดเวลาแบบนี้โดนสวดยับเยินแน่ๆ”
คำพูดของเขาทำให้คุณาลัยถึงกับอึ้ง เพราะข่าวที่ทราบมา อัคคี เสรษฐภูมิ เพลย์บอยหนุ่ม ทายาทเจ้าของกิจการสื่อสารคนนี้ ยังไม่มีภรรยา เขาเนื้อหอมมากเพราะรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลา โดยเฉพาะสายตาคมกริบระยับบาดตา ที่ทำให้สาวๆ หลงใหลค่อนเมือง บางรายถึงกับอยากจะเพียงแค่ขึ้นเตียงกับเขาสักครั้ง ด้วยความเป็นกิตติศัพท์นักรักผู้เชี่ยวชาญ แถมด้วยการจ่ายที่ใจถึงแบบไม่ขี้เหนียว บางรายก็อยากจะจับเขาอย่างออกนอกหน้า เพราะหลงใหลในเสน่ห์ของชายหนุ่ม เธอก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่อัคคีเลือกมาเป็นคู่นอน เพราะนอกจากจะได้เงินแล้ว ยังได้ ‘สนุก’ กับลีลาเร่าร้อนบนเตียงของเขาที่ประทับใจจนแทบลืมผู้ชายอื่นไปเลย
“เอ๋...คุณอาร์ต ตกลงว่าคุณอาร์ตมีแฟนรออยู่ที่บ้านแล้วเหรอคะ”
พริตตี้สาวถามออกไปอย่างลืมตัว ทำเอาฝ่ายชายหรี่ตาคมกริบอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาทันที
“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผม เราแค่เจอกันบนนี้”
มือเขาชี้ไปที่เตียง ก่อนจะมองกวาดร่างอิ่มที่ซ่อนอยู่หลังผ้าห่มของคุณาลัยเอาด้วยสายตาบางอย่าง ที่คนถูกมองถึงกับหน้าร้อน...หาใช่ด้วยความร้อนเร่าหรือเขินอาย หากแต่เพราะความรู้สึกราวกับโดนดูถูกด้วยสายตานั้น
“กติกาของผมมีแค่นั้น กี้น่าจะเข้าใจนะ ผมกลับล่ะ”
มือใหญ่รวบรวมเสื้อผ้าขึ้นมาลวกๆ และหายเข้าไปในห้องน้ำ คุณาลัยถึงกับกัดริมฝีปาก และต่อว่าตัวเองเบาๆ ที่ไปพูดมากจนได้เรื่อง
ไม่ถึงสิบนาที อัคคีก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำ เขายังหล่อเหลาชวนมองเหมือนเดิมแม้จะมีสีหน้าบึ้งตึงไปนิดก็ตามที คุณาลัยไม่ได้เอ่ยอ้อนอะไรอีก เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดี ชายหนุ่มสาวเท้าออกไปจากห้องสูทหรูอย่างรวดเร็วโดยไม่เอ่ยลาคนบนเตียงที่เขากอดรัดฟัดเหวี่ยงอย่างเมามันเมื่อครู่สักคำ
นี่คือเขา อัคคี เสรษฐภูมิ ชายหนุ่มผู้ขึ้นชื่อว่าเพลย์บอยตัวเอ้ คาสโนว่าอีกคนของเมืองไทย ผู้ชายที่มีแต่ผู้หญิงจ้องจะเสนอตัวให้ โดยแลกกับบทรักร้อนแรง และเงินทองมากมายที่เขาพร้อมจะตอบแทนสำหรับเซ็กซ์ดีๆ บนเตียงกว้าง ผู้หญิงแทบทุกคนที่เขาหมายตาไม่เคยมีใครหลุดพ้นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม จะเล่นตัวเล่นเกมขนาดไหนก็ตามที อัคคีพิชิตมาหมดได้ทุกคน
ชายหนุ่มที่ผิดหวังในความรักเข้าขั้นสาหัส จนอาการหนักแอนตีผู้หญิงไปแล้วทั้งโลกอย่างเพลิง มีอันต้องป่วนหัวใจ เมื่อเธอก้าวเข้ามาวุ่นวายในสวนส้มตะวันฉาย ผู้หญิงอะไรน่ารักน่าหยิก แถมมาด้วยเป้าหมายไม่ธรรมดา อย่างนี้ต้องแกล้ง...เสียให้เข็ด เมื่อถูกยื่นข้อเสนอให้ไปเป็นสปายสายลับจับเกย์ ในสวนส้มตะวันฉาย ตวงรักจึงตะครุบงานนี้ไว้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าตั๋วเครื่องบินไปสวิส พร้อมกับพอกเก็ตมันนี่ มันจะคุ้มไหมนะ ถ้าเจอกับคนเจ้าเล่ห์แสนเนียนอย่างอีตาเพลิง! “ไม่มีครายเข้าใจผมเลยสักคน รู้ไหม คุณตวงรัก” น้ำเสียงยานคาน แฝงแววน้อยอกน้อยใจนั่น ทำเอาตวงรักหยุดดิ้นรนได้ชั่วครู่ เมื่อสัมผัสได้ว่า คนตัวโตที่กำลังกอดเธอไว้ กำลังทำเหมือนคนขาดความอบอุ่น จึงไขว่คว้าหามันจากเธอ ตวงรักเงยหน้ามองเขา แล้วสบกับสายตาคมกริบที่กำลังฉายแววตัดพ้อ ตวงรักมองเขานิ่ง หยุดดิ้นไปแล้ว มือนิ่มโอบตอบร่างหนา แถมลูบหลังให้เขาเบาๆ อีกต่างหากเหมือนจะปลอบโยน อาการของเธอทำให้เพลิงเกือบจะหลุดยิ้มออกมาเสียแล้ว ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงเศร้าและนัยน์ตาโศกมากกว่าเดิม “ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้กันนะ” “คุณเพลิงเป็นอะไรไปเหรอคะ บอกตวงก็ได้นะ” เธอกล่าวอย่างปลอบประโลม ใจอ่อนยวบไปเสียแล้ว กับคนที่เธอกำลังลูบหลังไหล่ให้อยู่นี่ เขาเป็นอะไรไปกันนะ ทำไมถึงต้องเมามามากขนาดนี้ แล้วก็ทำท่าเหมือนกำลังเศร้าโศกอย่างหนักด้วย “ผมบอกใครไม่ได้” เพลิงส่ายหน้าเบาๆ ถือโอกาสโอบร่างเพรียวเข้าหาตัว และซบหน้าลงกับกลุ่มผมหอมกรุ่น แอบสูดกลิ่นหอมน่าชื่นใจนั่นเข้าปอด ตวงรักถึงกับครวญออกมาอย่างสงสารคนตัวโต ที่วันนี้ทำท่าท้อแท้ หมดแรงต่อสู้อย่างน่าประหลาด “โธ่...บอกตวงได้นะคะ ถึงเราจะรู้จักกันได้ไม่นานนัก แต่คุณเพลิงก็ไว้ใจตวงได้นะ เล่าให้ตวงฟังได้ทุกอย่างเลยค่ะ ตวงยินดี” “มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยครับ” ชายหนุ่มทำเสียงเศร้า แล้วแอบยิ้มกับกลุ่มผมของเธอ “อย่าเก็บไว้เลยนะคะ ตวงไม่เคยเห็นคุณเพลิงเป็นแบบนี้สักที มีอะไรอัดอั้นตันใจ ก็เล่าให้ตวงฟังได้เลยค่ะ” ยิ่งฟังน้ำเสียงของเขา ตวงรักก็ยิ่งสงสารเขา มือเรียวยังคงลูบหลังให้อย่างปลอบใจ เธอลืมไปสนิทว่า เธอกำลังกอดกับเขาอยู่ อย่างแนบชิดเสียด้วย เพราะมัวแต่จะปลอบโยนเขาให้คลายเศร้า “คือว่า ฟังแล้วคุณตวงอย่ารังเกียจผมนะครับ” เพลิงผละออกจากร่างนุ่มอย่างเสียดาย นัยน์ตาคมกริบที่สบกับตวงรัก มีประกายประหลาด ขณะที่เขาสารภาพเสียงอ่อน “ผมกำลังคิดว่า ผมคงจะเป็นเกย์ ผมชอบผู้ชาย จะทำยังไงดีครับ คุณตวงรัก” “หา!”
เมื่อได้รับมอบหมายจากท่านประธาน ให้ฝึกงานบอสใหม่ และเฝ้ายามเขาไม่ให้ริ้นไต่ไรตอม แต่ยังไง๊ ยังไง เธอดันไปงาบเขาซะเอง แง๊! บอสคะ เรื่องระหว่างเรามันจะต้องเป็นความลับนะคะ
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน