เรื่องมันเริ่มขึ้น ตั้งแต่ตอนที่พี่ชายผมแต่งงาน และพาพี่สะใภ้แสนสวยมาอยู่ในบ้าน ต้องบอกก่อนว่าพี่สะใภ้ผมนั้นเป็นคนที่สวยมาก ดูจากแววตาท่าทางแล้วค่อนข้างจะเจ้าชู้เสียด้วย โดยเฉพาะในเวลาที่พี่เขามองมาที่ผม ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ อยู่ตลอดเวลา วันที่เกิดเรื่องนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน พี่สะใภ้ผมเป็นคนทำกับข้าว เลยเข้าไปเก็บผักในสวนหลังบ้าน ซึ่งผักอยู่ตามรั้วที่ค่อนข้างสูง ทำให้แกต้องปีนขึ้นไปเก็บ จนเกิดพลัดตกลงมาข้อเท้าแพลง ผมก็เลยรีบไปช่วย นวดเท้านวดทายาให้ สายตาของพี่สะใภ้มองผมด้วยแววตาแปลกๆ ช่วงที่พยุงพี่สะใภ้นอนบนเตียง ความไม่ตั้งใจบวกกับความประหม่า อารมณ์หนุ่มที่ควรสงบกับคุกรุ่น ทั้งกลิ่นทั้งแรงเสียดสีที่เกิดบนความไม่ตั้งใจ ผมบังเอิญถูไถอยู่ด้านหลังสะโพกงอนๆ กับความอวบอัดที่เฉียดมือใต้ราวนม บอกตรงๆ ท่อนลำในเป้ากางเกงผมดีดผึ่ง กระดี๋กระด๋าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ผมพยายามควบคุมความหื่น รีบทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จๆ แต่ผมไม่ได้คิดไปเองนะครับ สะโพกของพี่สะใภ้ ส่ายตามทุกครั้งที่ผมขยับตัว เหมือนกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้น คือการจงใจทำ...
บทที่1.เมื่อสัญชาตญาณของผมถูกปลุกให้ตื่น
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเรื่องแบบนี้มันเริ่มขึ้นตอนไหน และจะจบลงอย่างไร เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก ตัณหา ราคะ ที่ยากที่จะควบคุม...เมื่อพี่สะใภ้เห็นผมมีอารมณ์ร่วมไปกับเธอ เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ เอียงหน้าเข้ามาใกล้ และในจังหวะที่ผมเผลอตัว เธอก็ยื่นหน้าเข้ามาหาและจูบปากผมทันที กลิ่นกายของเธอหอมมาก ทำให้ผมรู้สึกคึกคัก ผมลืมตัวจูบตอบ แลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ดูเหมือนจะมีอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาเช่นกัน พี่สะใภ้ผมพริ้มตาหลับ หน้าแดงเหมือนกำลังเสียวซ่านเต็มที่ ผมจึงอุ้มร่างอวบอัดของพี่สะใภ้ไปยังห้องเก็บของหลังบ้าน ซึ่งน่าจะลับตาคนหน่อย จากนั้นผมก็เริ่มจูบและไซ้ไปตามซอกคอของเธออย่างเมามัน จนทำให้เธอถึงกับส่ายหน้าครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
“ซี๊ดดดด…พี่เสียวจัง…อ๊า”
ผมค่อยๆ ไซ้ต่ำไปเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างรีบแกะกระดุมเสื้อของพี่สะใภ้ออก ตามด้วยเสื้อชั้นใน เมื่อผมปลดตะขอเสื้อในของเธอออก นมขนาดมหึมาก็ดัดผึ่งใส่หน้าผม หัวนมของเธอตั้งชันเป็นสีชมพูคล้ำนิดๆ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะห่อปากแล้วรีบก้มหน้าลงดูดไปที่ยอดอกของเธอทันที
“โอ้ยยยย…เสียววววว...ซี๊ดดดด” เธอร้องครางออกมาดังๆ เมื่อผมดูดเม้ม และตวัดลิ้นเลียที่หัวนมทั้งสองข้างอย่างเอร็ดอร่อย เสียงครางกระเส่าของเธอทำให้ผมดูดหนักขึ้น จนพี่สะใภ้ถึงกับแอ่นตัวไปมาเอามือกดที่หัวผมอย่างเสียวซ่านเต็มที่
“โอ้ยยยย…พี่เสียวมากเลยเบส…จะทำอะไรก็ทำเถอะ เดี๋ยวคนอื่นกลับมา จะอด...ซี๊ดดดด”
พี่สะใภ้ร่ำร้องบอกผม ผมเองก็สองจิตสองใจ จะเดินหน้าต่อ หรือหยุดแค่นี้ มันไม่ดีกับตัวผมเองและพี่ชาย ผู้หญิงตรงหน้าคือพี่สะใภ้ เป็นเมียพี่ชายผมนะ ผมพยายามเตือนตัวเองแบบนั้น...แต่ ตัณหาอะ ใครห้ามได้ เมื่อความเงี่ยนเข้าครอบงำ อะไรที่ไม่ควรทำก็ยังเกิดขึ้น
เรื่องผิดศีลธรรมไม่อยู่ในหัวผมแล้ว
ผมชั่งใจตัวเอง...ผมกับพี่ชายมักจะแบ่งผู้หญิงให้กันบ่อยๆ แต่นั่นสมัยที่พี่ชายผมโสด ไม่ได้ลงเอยกับพี่สะใภ้
ขณะที่ผมกำลังคิดทบทวน พี่สะใภ้ผมกลับใจร้อน
เธอดึงมือผมวางไว้บนเนินโหนกใต้กระโปรงสั่นแค่หน้าขาร่องเสียวของเธอกำลังฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำเงี่ยน เมื่อเห็นแบบนั้นผมเองก็ทนไม่ไหว รีบถอดกางเกงของตัวเองออก แยกขาของพี่สะใภ้ แล้วกระดกบั้นเอวดันท่อนเอ็นเข้าในรูเสียวของเธอทันที มันฟิตมาก แต่ก็สามารถเข้าได้ง่ายเพราะมีน้ำเงี่ยนหล่อลื่นอยู่มาก แต่ความฟิตก็เล่นเอาผมต้องห่อปากครางออกมาด้วยความเสียวเช่นกัน
ผมโยกเอวไปมา พร้อมกับครางเบาๆ ผสมกับเสียงครางของพี่สะใภ้ ไม่ถึงสิบนาที ความเสียวซ่านก็มาถึงจุดจบจนได้ ผมเขย่งตัวกระเด้าบั้นเอวถี่ยิบ ก่อนจะปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปในรูของเธอเต็มแรงจนเธอสะดุ้ง ผวาเข้ามากอดผม เราสองคนจูบปากแลกลิ้นกันไปมาอย่างดูดดื่มครู่หนึ่ง ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้องเก็บของหลังบ้านเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า
ผมคิดว่านั่นจะเป็นความระยำครั้งสุดท้ายของตัวเอง
ผมไม่ได้กลัวบาปหรอกนะครับ เพราะผมคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เกิดจากความร่วมมือของผมกับพี่สะใภ้ อย่างย้อยความผิดนี่ก็แบ่งกันคนละครึ่ง
ผมคงเป็นเป็นผู้ชายเลวในสายตาของพวกคุณสินะ
เรื่องไม่ได้จบแค่นี้หรอก...
ผมระวังตัว พยายามอยู่ห่างจากพี่สะใภ้ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์เหมือนที่เล่าข้างต้นเกิดขึ้นอีก ถึงผมจะเป็นคนเลว สำนึกฝ่ายดีผมก็ยังพอมีอยู่
อย่างว่าแหละ พี่ชายผมกับพี่สะใภ้คนนี้ ไม่มีทางไปรอด หากพี่สะใภ้ผม ยังเอวไว้ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ผู้ชาย
ผมกลับไปเรียน เมื่อกลับบ้าน พี่ชายผม ก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว พี่ผมจับได้ ว่าพี่สะใภ้ผม แอบเล่นเสียวกับผู้ชายเกือบทั้งหมู่บ้าน
“แม่มเอ่ย กูก็นึกว่ามันทำงานบ้านเหนื่อยเลยไม่อยากกวน ที่ไหนได้ ออกไปแรดๆ เอากะคนอื่นจนเพลีย เลยไม่มีแรงให้กูเด้า” บาส พี่ชายผมบ่น
ผมนั่งอมยิ้ม ไม่พูดแทรกให้พี่ชายอารมณ์เสีย
“มึงละไอ้เบส เสร็จอีนอมมันด้วยไหม?”
พี่ชายผมหันมาถาม ผมสะดุ้งแต่ก็รีบปฏิเสธ ไม่ได้กลัวพี่ชายโกรธหรอกนะครับ ผมกลัวมันอาย
“ดีแล้วแหละ ต่อไปนี้ กูจะหาเมียอีกที คงต้องดูนานๆ”
บาสมันบ่นต่อ ท่าทางมันไม่เข็ดเรื่องผู้หยฺงหรอก ตัวพี่ชายผมก็เจ้าชู้ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร คงได้สายเลือดแบบนี้มาจากพ่อของเรานั่นเอง
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"