เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
มุมมองของสการ์เล็ต:
ฉันหันไปดูเวลาแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา ฉันอยู่ที่สนามบินมาชั่วโมงกว่าแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่าดูนาฬิกามากี่รอบ แต่ชาร์ลส มัวร์ คนที่ฉันเรียกว่าสามีกลับยังไม่มารับฉันสักที ตอนนี้เขาคงอยู่กับแฟนเขาล่ะมั้ง ฉันยิ้มเฝื่อน ๆ แล้วลุกขึ้นลากกระเป๋าสัมภาระเดินออกจากสนามบิน
สามปีก่อน ฉันแต่งงานกับชาร์ลส หลังจากแต่งงาน ฉันก็ได้รับหนังสือตอบรับให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในฝันของฉัน ที่ต่างประเทศ สามปีมานี้ ฉันไม่เคยได้เจอชาร์ลสเลยสักครั้ง เหตุผลง่าย ๆ เขาคงอยากอยู่กับผู้หญิงที่เขารัก ฉันไม่สามารถไปเป็นก้างขวางคอเขาได้
ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว ฉันกลับมาครั้งนี้ จะได้ยุติการแต่งงานแต่เพียงในนามนี้ของฉันลงสักที ฉันไม่จำเป็นต้องรักเขาข้างเดียวอยางนี้ต่อไปอีกแล้ว
ฉันส่งข้อความไปหาเขาตอนอยู่บนรถแท๊กซี่: เรามีเรื่องต้องคุยกัน
พอกลับถึงบ้าน ฉันก็นั่งลงบนโซฟา มองเรือนหอที่ว่างเปล่า และเงียบเหงาหลังนี้ รูปแต่งงานของเราถูกแขวนอบู่บนผนัง มันดูขัดหูขัดตาสิ้นดี
ฉันเผลอเหลือบไปมองโทรศัพท์ แล้วก็เห็นว่าเขายังไม่ตอบข้อความฉันมาเลย คืนนี้ไม่น่าจะกลับมาแล้วล่ะมั้ง
เวลาผ่านไป เสียงเครื่องยนต์ดับลงที่นอกบ้าน ฉันยืนขึ้นพร้อมใจที่เต้นระส่ำ นี่ฉันยังคาดหวังอะไรกับผู้ชายไร้หัวใจคนนี้อยู่อีกเหรอ ไม่มีทาง ฉันถูมือไม้ที่สั่นเทาเข้าด้วยกัน และย้ำเตือนตัวเองว่าฉันกลับมาเพื่อขอหย่าเท่านั้น
ทันใดนั้น ลูกบิดประตูใหญ่ก็ถูกหมุนออก ก่อนที่ประตูจะถูกผลักเข้ามา ไฟที่โถงทางเดินสว่างขึ้น สะท้อนเงาร่างสูง ๆ ชาร์ลสเดินเข้ามา เขาสวมชุดสูทสีดำ ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใบหน้านั้นหล่อเหลาคมคายราวรูปปั้น เขายังคงเหมือนเดิม ใบหน้านิ่ง ๆ ที่เย็นชาของเขา ยังคงเหมือนเมื่อสามปีที่แล้วไม่มีผิด
หัวใจฉันเต้นระส่ำจนหายใจไม่ออก ชาร์ลสยังคงหล่อเหลาปานเทพบุตรเหมือนเดิม ราวกับว่าเขาไม่ใช่มนุษย์เดินดิน เสน่ห์ของเขาชวนให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหล
กาลเวลาทำให้เขาเปลี่ยนไป เขาดูเป็นสุขุมขึ้น ร่างของเขาดูแข็งแรงบึกบึน ทำเอาพวงแก้มฉันร้อนผ่าว
เขาเดินมานั่งที่โซฟาด้วยท่าทีห่างเหิน
สายตาคมกริบของเขาพุ่งมาที่ฉัน ฉันพยายนามจะไม่ก้มหน้าลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว ฉันมองเห็นเงาของตัวเองสะท้อนอยู่ในแววตาของเขา
“กลับมาแล้วเหรอ” น้ำเสียงเขายังคงเย็นชาเช่นเคย
“อืม” ฉันตอบเขาขณะยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา
“ทนายเพิ่งส่งอีเมลให้คุณ” ชาร์ลสพูดพลางคลายเนคไทออ เผยให้เห็นแผ่นอกกว้างกำยำของเขา คล้ายกับจะแหวกกระดุมเสื้อเชิ้ตออกมาเสียให้ได้
“โอเค เดี๋ยวฉันเปิดดู” ฉันกลืนน้ำลายอย่างประหม่า ก่อนจะพยายามทำให้เสียงตัวเองให้เป็นธรรมชาติที่สุด
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดอ่านอีเมล ฉันเห็นหัวข้ออี้มลเขียนว่าหนังสือข้อตกลงการหย่า แม้จะเป็นเรื่องที่คิดเอาไว้แล้ว แต่ฉันอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ ฉันรู้สึกเจ็บแปลที่หัวใจ แต่ก็ต้องขอบคุณความเจ็บปวดนี้ ที่ทำให้ฉันตื่นจากมนต์เสน่ห์ของชาร์ลาล์
“ตกลง” ฉันปิดอีเมลลง แล้วเงยหน้าขึ้นพูดกับเขา ฉันมองคนตรงหน้า ที่กำลังจะไม่ใช่คนของฉันอีกต่อไปแล้ว เมื่อก่อนฉันเคยหลอกตัวเองว่าชาร์ลสเป็นของฉัน และฉันเป็นคุณนายมัวร์ แต่ตอนนี้ ฉันกำลังจะผลักผู้ชายคนนี้ออกไปจากชีวิตของฉัน
“ไม่อ่านหน่อยเหรอ?”
“ไม่ต้องหรอก คนอย่างคุณมัวร์คงจะไม่เอาเปรียบ ภรรยาเก่าหรอกจริงไหม?” ฉันออกมายิ้มบาง ๆ ภรรยาเก่างั้นเหรอ? คงเป็นแต่ในนามเท่านั้น
“บ้านที่อยู่แถวถนนการ์ดเนอร์นี้ผมจะยกให้คุณ และคอนโดใจกลางเมืองอีกชุด...”
“เมื่อไร?” ฉันตัดบทขึ้น
“หืม?” เขาขมวดคิ้วหันศีรษะ และมองมาที่ฉัน
“จะไปเซ็นใบหย่าเมื่อไร?” ฉันถามเบา ๆ
“แล้วผมจะนัดเวลากับทนายอีกที” ชาร์ลสก้มลง ก่อนจะตอบออกมา
“เอาไว้บอกฉันด้วยก็แล้วกัน”
หลังจากเงียบไปสักพัก ชาร์ลสก็ก้มลงมองฉัน
“ริต้าสุขภาพไม่ค่อยดี ผมอยากจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเธอ ชาร์ลสอธิบาย
ฉันรู้สึกเจ็บ จนเผลอกำโทรศัพท์แน่น ทำตามความปรารถนาสุดท้ายของเธองั้นเหรอ? เขาพูดเสียอย่างกับตัวเองยิ่งใหญ่ซะเต็มปะดา และฉันคงเป็นคนที่ต้องเสียสละสินะ! เอาเถอะ ฉันมันก็แค่คุณนายมัวร์แต่เพียงในนามอยู่แล้วหนิ ก็แค่ฐานะปลอม ๆ
“เข้าใจแล้ว” แม้ในใจฉันจะตะโกนบอกว่าไม่เต็มใจอยู่เป็นพันเป็นหมื่นครั้ง แต่สุดท้ายฉันก็ยังพยักหน้าบอกเขาว่าเข้าใจ
“ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บอกให้ทนายเพิ่มลงไปในข้อตกลงได้เลยนะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แบบนี้ดีแล้ว” ฉันเม้มริมฝีบางแล้วแสร้งยิ้มบาง ๆ
“พรุ่งนี้ไปเจอริต้าสักหน่อยนะ” ชาร์ลสว่าพลางลุกเดินมาข้างหน้าฉัน
น้ำเสียงเขาเหมือนกับกำลังสั่งฉันอยู่ เขาไม่ได้ขอร้องออกมาตรง ๆ แต่กลับพูดเพื่อให้ฉันต้องทำแทน เขาเห็นฉันตัวอะไรกัน ทำไมฉันต้องไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วย นี่เขาต้องการซ้ำเติมฉันเหรอไง?
“ฉันต้องทำอะไร?” ฉันหุบยิ้ม แล้วหันไปมองเขา
“อย่าทำให้เธอโทษตัวเอง อย่าทำให้เธอต้องรู้สึกผิด บอกเธอว่าคุณมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ทำให้เธอวางใจ เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฉัน และสบตาฉัน
“ได้”
ฉันอยากจะปฏิเสธ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ฉันไม่เคยขัดสิ่งที่เขาต้องการเลย ราวกับมันกลายเป็นความเคยชินของฉันไปแล้ว
“พรุ่งนี้ผมจะมารับคุณ”
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอก บอกที่อยู่ฉันมาก็พอ”
ชาร์ลสหันมามองฉันแวบนึง ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เมื่อเห็นเขาเดินจากไป น้ำตาฉันก็เอ่อทะลักออกมา สามปีที่ผ่านมา เราแต่งงานกันโดยไม่มีใครรู้ นอกจากคนในครอบครัว และเพื่อนสนิทแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเราแต่งงานกันเลย หลายเดือนก่อน สื่อเผยแพร่ข่าวการแต่งงานระหว่างเขากับริต้าออกมา ในข่าวยังมีรูปพวกเขาลองชุดแต่งงานกันด้วย ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน!
ครั้งหนึ่ง เมื่อไรก็ตามที่ชาร์ลสปรากฏตัวขึ้น สายตาฉันจะตามติดเขาเป็นเงา ในตอนแรกฉันคิดอย่างโง่งมว่าขอเพียงฉันแต่งงานกับเขา ต่อให้เขาไม่ได้ชอบฉันนัก แต่ขอแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย เขาจะค่อย ๆ รักฉันเอง ต่อให้มันจะแค่นิดเดียวก็ไม่เป็นไร เพราะว่าฉันรักเขา ขอแค่ฉันรักเขาก็พอแล้ว
ต่อมาฉันถึงได้รู้ว่า เวลาที่เรารักใครสักคน เราก็มักจะต้องการความรักของเขาทั้งหมด ความรักเล็กน้อยนั้นมันไม่เพียงพอเลยสักนิด
สามปีที่ผ่านมา ไม่รู้กี่วันกี่คืนที่ฉันเฝ้ารอเขา แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ได้อะไรจากเขาเลย หัวใจของฉันค่อย ๆ ด้านชา ด้านชาจนถึงขีดสุด
ฉันเข้าใจแล้วว่าสการ์เล็ตต์ที่โง่เง่านั้นตายไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้หัวใจของฉันแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
ฉันกลับห้อง แล้วหยิบชุดนอนออกมาจากกระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันมองไปรอบ ๆ ห้อง ถึงได้เห็นว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม สามปีที่ผ่านมา เขากับแฟนเขาคงไปอยู่ที่อื่นกัน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา ฉันเดินไปสูดอากาศตรงระเบียง แล้วก็พบว่ารถของชาร์ลสยังจอดอยู่ในสนาม ทำไมเขาถึงยังไม่ไปอีก เขาควรจะรีบกลับไปหาริต้าสุดที่รักของเขาไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่ฉันมองรถของเขาอยู่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จากเทียน่าเพื่อนรักของฉันเอง ฉันรับโทรศัพท์
“ไฮ ที!”
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะจ๊ะเพื่อนรัก!”
“ขอบใจจ้า”
“โทษทีนะที่ไม่ได้ไปรับเธอที่สนามบิน ฉันมาทำงานนอกสถานที่น่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เธอทำธุระของเธอไปเถอะ”
“กลับมาคราวนี้ยังจะกลับไปอีกไหม?”
“ยังไม่กลับน่ะ”
“งั้นมาทำงานที่สถานีเราสิ! เธอจบสาขาการสื่อสารมาหนิ เสียงเธอก็เพราะ สวยก็สวย เหมาะสมที่สุด!”
“เอาสิ”
“เจอชาร์ลสหรือยัง” เสียงของเทียน่าพลันเบาลง ราวกับกระซิบ
“อืม” ฉันมองไปยังรถที่จอดอยู่นอกบ้านอีกครั้ง
“เขาบอกเธอเรื่องนังผู้หญิงแพศยานั่นหรือยัง?”
“อืม”
“หน้าไม่อาย! นี่เขายังมีหน้ามาพูดเรื่องนี้กับเธออีก”
“ไม่เป็นไรน่า พรุ่งนี้ฉันจะไปหาริต้า”
“เธอจะไปหานังผู้หญิงแพศยานั่นเหรอ? ยัยนั่นต้องยุให้ชาร์ลสหย่ากับเธอแล้วไปแต่งงานกับมันแน่! เมื่อสามปีที่แล้วตระกูลมัวร์ไม่ยอมรับริต้า ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีวันยอมรับเหมือนเดิมนั่นแหละ!” เสียงขู่คำรามของเทียน่าดังผ่านมาในสาย
“มันจบไปแล้วน่า” ฉันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจนัก
“จบไปแล้วงั้นเหรอ? นี่สการ์เธอยังรักเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
ฉันไม่ตอบ ใช่ฉันรักเขา รักมาหลายปีแล้วด้วย
“สการ์เล็ตต์” เสียงเทียน่าดังขึ้นอีกครั้ง เรียกสติฉันให้กลับมา
“ฉันเหนื่อยแล้ว ไว้เจอกันนะ”
ฉันวางสายแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รถยังคงจอดอยู่ที่เดิม ทำไมฉันต้องสนใจด้วย?
นั่งเครื่องมาตั้งนาน ฉันชักจะล้าจริง ๆ แล้ว พอกลับมาถึงห้อง เธอก็เอนกายลงบนเตียง ไม่นานความง่วงงุนก็เข้าครอบงำ ทันใดนั้นเอง ฉันก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
ฉันลุกขึ้นไปเปิดประตูทั้งที่ยังงัวเงีย แล้วยื่นหน้าออกไปดู ถึงได้เห็นว่าชาร์ลสยืนอยู่หน้าประตู
เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
เมื่อสามปีก่อน ครอบครัวมัวร์ได้คัดค้านการแต่งงานของชาร์ลสกับไรลีย์ผู้หญิงที่เขารัก และบังคับเขาให้แต่งงานกับสการ์เล็ตต์ แต่ชาร์ลสไม่ได้รักสการ์เล็ตต์ อันที่จริงเขาไม่ชอบหน้าเธอด้วยซ้ำไป ไม่นานหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน สการ์เล็ตต์ก็ได้รับจดหมายตอบรับจากทางมหาวิทยาลัยที่เธอใฝฝัน ซึ่งทำให้เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก สามปีต่อมาไรลีย์ป่วยหนัก ชาร์ลส์ตัดสินใจเรียกสการ์เล็ตต์ให้กลับมา และขอหย่ากับเธอเพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของไรลีย์ การตัดสินใจอย่างกะทันหันของชาร์ลส์ทำให้สการ์เล็ตต์ปวดใจเป็นอย่างมาก แต่เธอก็เลือกที่จะเซ็นใบหย่า และปล่อยเขาไป ทว่าชาร์ลส์กลับชะลอการหย่า ทำให้สการ์เล็ตต์รู้สึกสับสน และไม่พอใจ ขณะนี้ความลังเลของชาร์ลส์ ทำให้สการ์เล็ตต์ยังไม่ได้รับอิสระ เธอจะหลุดพ้นจากเขาได้หรือไม่? แล้วสุดท้ายชาร์ลส์จะรู้ตัว และสามารถเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้หรือไม่?
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?