เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
“ยูชิงซู คุณ ตายแน่!”
บนเตียงขนาดใหญ่ปรากฎร่างชายผู้หนึ่งที่แววตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความโกรธ เขาใช้มือทั้งสองของเขากำรอบลำคอของหญิงสาวแล้วออกแรงบีบอย่างแรง
หายใจไม่ออก!
หญิงสาวเพี่งจะตื่นมาก็ถูกชายผู้นั้นรัดคอโดยที่เธอยังไม่ทันรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอสัมผัสได้แค่เพียงว่าออกซิเจนในปอดค่อย ๆ จางลง และความปรารถนาที่จะเอาตัวรอดจากสัญชาตญาณของเธอ ทำให้เธอต้องยกมือขึ้นเพื่อจับมือของอีกฝ่ายแล้วพยายามดึงมันออกจากกัน
แต่เธอก็สู้แรงของเขาไม่ไหว การต่อต้านของเธอกลับทำให้เขาออกแรงเพิ่มขึ้นไปอีก ดวงตาทั้งสองของชิงซูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ประสาทการรับรู้ของเธอค่อย ๆ เลือนลาง สติของเธอกำลังจะหลุดลอยไป
ปัง!
แม่บ้านพังประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นภาพดังนั้น เธอรีบรุดเข้าไปคว้าแขนของชายผู้นั้นออก “นายน้อยคะ นายน้อย ปล่อยสิคะ ปล่อย! นายหญิงกำลังจะตายแล้วนะคะ”
“เธอสมน้ำหน้าที่โดนมันแล้ว!” เขาส่งเสียงรอดไรฟัน ดวงตาทั้งสองของเขาเต็มไปด้วยความคับแค้น
แม่บ้านพบว่าร่างของชิงซูนั้นค่อย ๆ อ่อนแรง จนเกือบนิ่งสนิทในที่สุด แม่บ้านจึงรีบคุกเข่าขอร้องข้างเตียง “นายน้อยคะ ถ้าฉันปล่อยให้นายน้อยพลั้งมือฆ่านายหญิงไปแล้ว แล้วอย่างนี้คุณจะให้ฉันมีหน้าไปพบคุณท่านได้อย่างไร วิญญาณของคุณท่านคงจะไม่มีทางสงบสุขแน่ ๆ ” แม่บ้านร่ำไห้
‘คุณย่า?’
อารมณ์ของ ‘จ้านซือซั่ว’ สั่นคลอนเมื่อได้ยินแม่บ้านเอ่ยถึงคุณย่า แรงบีบที่มือจึงค่อย ๆ คลายลง
ชิงซูใช้โอกาสนี้ดึงมือของซือซั่วออก แล้วลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เธอหอบหายใจแล้วเขยิบถอยหลังด้วยใบหน้าซีดเผือด
“นายน้อยคะ ไหน ๆ วันนี้คุณทั้งสองก็จะหย่ากันแล้ว จากนี้คุณก็ไม่ต้องทนเห็นหน้านายหญิงต่อไปอีกแล้ว!ปล่อยเธอไปเถิดค่ะ” “นายน้อยได้โปรดเห็นแก่หน้าแม่ของนายหญิงที่เคยช่วยชิวิตคุณท่านไว้ด้วยนะคะ ฉันขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรนายหญิงเลย อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นอย่างนี้อีกเลยนะคะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้นายน้อยซือซั่วก็สงบลง เขาผละลุกออกจากเตียงแล้วคว้าเสื้อมาสวมไว้ด้วยท่าทีเย้อหยิ่ง
“ใบหย่าฉันจะให้เฟินฉีส่งมาให้ เธอเซ็นเสร็จก็รีบไสหัวออกไปซะ!อย่าให้ฉันได้เห็นหน้าเธอที่นี่อีก!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เมื่อพูดจบเขาก็จากไปพร้อมแม่บ้านตามไปด้วย
ประตูถูกปิดอย่างรุนแรงจนเสียงนั้นดังกระเทืยนโสตประสาทของชิงซู เธอเอามือทาบอกด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดขาว สมองของเธอสับสน
เธอก้มศีรษะลงและมองสำรวจดูรอยช้ำบนร่างกายที่เปลือยเปล่าของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา
เหตุการณ์เมื่อสักครู่นอกจากจะทำให้เธอเกือบจะลมหายใจลงในนาทีสุดท้ายแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เธอไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดอื่นบนร่างกายที่เธอได้รับ
เมื่อสติของเธอกลับมาทำให้เธอรู้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบนกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน
ชิงซูไม่พบเสื้อผ้าของสตรีในห้องแต่งตัว ตู้เสื้อผ้ามีเพียงแค่เสื้อเชิ้ต กับกางเกง และชุดสูทสีทึบสำหรับผู้ชายเท่านั้น
เธอจึงทำได้แค่เลือกหยิบเสื้อเชิ้ต และกางเกงขายาวสีดำมาสวมใส่ แต่ไซส์มันใหญ่เกินไป ขากางเกงนั้นยาวลงไปกองกับพื้นห้องจนเกิดเป็นภาพที่ดูไม่จืดเลย
ความเจ็บปวดบนร่างกายของเธอยังไม่บรรเทาลง ขมับของเธอเต้นเป็นจังหวะ ชิงซูทรุดตัวลงบนโซฟา แล้วหลับตาพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ในไม่ช้าความทรงจำอื่นที่ไม่ใช่ของเธอก็แทรกเข้ามาในหัวของเธอเต็มไปหมด
ผ่านไปพักใหญ่ เธอจึงค่อย ๆ ยกเปลือกตาขึ้น เธอได้เรียบเรียงเหตุการณ์ผ่านความทรงจำทั้งหมดของเจ้าของร่างเดิมก่อนที่เธอจะเสียชีวิต และในที่สุดก็ได้ข้อสรุปสองประการ
เธอได้กำเนิดใหม่จาก ‘หลัวหยาน’ สู่ร่างของ ‘ยูชิงซู’
เจ้าของร่างเดิมชิงซูนั้นเป็นคุณหญิงน้อยกำพร้าแม่ แม่ของเธอจากไปด้วยอาการป่วยที่ยากเกินรักษา ส่วนพ่อของเธอนั้นเป็นผู้ชายสารเลวที่ไม่เอาถ่าน อีกทั้งชิงซูยังหลงรัก ‘จ่านซือซั่ว’ อย่างสุดหัวใจ
ก๊อก ก๊อก
เสียงคนมาเคาะประตู พร้อมด้วยเสียงเรียกที่เย็นชาของใครคนหนึ่ง “นายหญิง คุณอยู่ในนั้นหรือเปล่า?”
ชิงซูจัดการพับแขนเสื้อ และม้วนกางเกงขึ้นก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อเปิดประตู ชายร่างสูงที่ดูเย็นชายืนอยู่ข้างหน้าเธอพร้อมกับเอกสารในมือของเขา
“เฟินฉี” เธอค้นหาความทรงจำเกี่ยวกับชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ยากเย็นนัก
เขายื่นปากกาพร้อมเอกสารการหย่าให้เธอ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย “นายหญิง คุณซือซั่วส่งให้ผมมาดำเนินการเรื่องการหย่าระหว่างคุณ กับนายน้อยซือซั่ว นี่เป็นข้อตกลงทั้งหมด กรุณาเซ็นชื่อในเอกสารด้วย”
ชิงซูเหลือบมองเอกสารการหย่าร้างที่ถูกส่งมา เธอนึกถึงคำที่แม่บ้านพูดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ เธอถึงตระหนักได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบการแต่งงานปีที่สองของเจ้าของร่างเดิมและจ่านซือซั่ว
นี่เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เอกสารการหย่าก็ถูกร่างขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหรอ? ‘เห็นได้ชัดว่า ซือซั่วรังเกียจชิงซูได้มากเพียงใด’
เธอหยิบเอกสารขึ้นมาพร้อมเซ็นชื่อลงไปอย่างรวดเร็ว
“เสร็จแล้ว” ชิงซูยื่นเอกสารกลับไปให้เฟินฉี
เฟินฉีรู้สึกประหลาดใจกับการยินยอมอย่างง่ายดายของชิงซู ก่อนที่เขาจะเข้ามาหาชิงซู เขาได้รับคำสั่งจากคุณซือซั่วว่า ‘หากชิงซูไม่ยินยอม ก็ให้บังคับเธอพิมพ์ลายนิ้วมือลงไปให้ได้’
“คุณชิงซู คุณจะไม่อ่านข้อตกลงการหย่าหน่อยเหรอครับ?” เฟินฉีรับมันไว้โดยไม่รีบร้อนกล่าว
ชิงซูเลิกคิ้วแล้วตอบว่า “ไม่ล่ะ”
“คุณไม่อยากรู้หรอกว่าคุณจะได้อะไรหลังจากการหย่าร้างในครั้งนี้” เฟินฉีขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามย้ำอีกครั้ง
ชิงซูถลกขากางเกงขึ้นอีกครั้ง แล้วยิ้มตอบกลับไปว่า “ไม่นิ ไม่เห็นมีอะไรต้องอยากรู้เลย” เธอไม่ต้องดูก็เดาได้ไม่ยาก ‘ผลลัพธ์คงมีได้แค่สองอย่าง คือทำให้เธอล้มละลาย หรือไม่ก็ไล่เธอให้พ้นจากบ้านไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินใด ๆ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็แล้วแต่ เพราะคงไม่เกินความสามารถของทนายมืออาชีพไปได้หรอก
เมื่อเห็นท่าที่เฉยเมยของชิงซู เฟินฉีก็หลับตาแล้วตอบกลับไปว่า “คุณชิงซู คุณหยูเฉิงแค่ต้องการให้คุณย้ายออกจากบ้านไปโดยไม่ได้รับทรัพย์สินใด ๆ เท่านั้น”
“ถ้างั้นฉันก็ฝากขอบคุณเจ้านายของคุณแทนฉันด้วยก็แล้วกัน” เธอยังทำท่าเฉยเมยต่อ ชิงซูเจ้าเดิมจะรักจ่านซือซั่วมากเท่าไร แต่เธอไม่สน เพราะเธอเองไม่ได้รัก
เธอไม่อยากอยู่กับคนที่อยู่ดี ๆ ก็ทำร้ายเธออย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เล่นเอาซะเธอเกือบตายรอบสอง มันไม่ง่ายที่รอดชีวิตได้ เธอต้องรักษาชีวิตตัวเองไว้
เฟิงฉีจ้องมองไปยังลำคอขาวเรียวของเธออย่างไม่ตั้งใจ
“คุณอยากให้ผมช่วยเรียกหมอมาให้ไหมครับ?”
เมื่อชิงซูได้ยินคำเหล่านี้ก็สะกิดให้เธอนึกขึ้นได้ ถึงรอยแดงปื้นใหญ่รอบลำคอที่เกิดขึ้น หวนให้นึกถึงความรู้สึกที่ใกล้จะขาดใจตายกลับเข้ามาอีกครั้ง
เธอส่ายหัว “ไม่ ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอก”
“ถ้าอย่างนั้น ก็ขอให้คุณรีบเก็บสัมภาระแล้วออกไปให้จากที่นี่ให้เร็วที่สุดด้วยครับ” น้ำเสียงของเฟิงฉีเย็นชา
ชิงซูพยักหน้าโดยไม่ลังเล เธอถกขากางเกงขึ้นพร้อมกับเดินเท้าเปล่ากลับไปยังห้องของเธอทันที ซือซั่วเกลียดชิงซูเป็นอย่างมาก เขาแทบไม่อยากเห็นหน้าเธอ เพราะฉะนั้นระยะห่างระหว่างห้องของเธอและเขาจึงห่างออกมาพอสมควร
หลังจากเดินมาได้สักพัก ในที่สุดก็ถึงห้องของเธอ
เดิมทีห้องนี้เป็นเพียงแค่ห้องที่ไว้ใช้สำหรับเก็บของ แต่เมื่อเธอได้จดทะเบียนสมรสกับจ่านซือซั่ว ห้องนี้ก็กลายเป็นห้องนอนของเธอไป เธอผลักบานประตูออก แล้วพาขากางเกงที่ยาวพะรุงพรังลากผ่านทางเดินแคบ ๆ เข้าไปในห้อง
ห้องนี้มีขนาดเล็กมากซะจนไม่อาจจะขยับตัวไปไหนได้เลย ทั้งห้องมีเพียงแค่เตียงนอน และโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ เท่านั้น
ของส่วนตัวของชิงซูมีไม่มากนัก เธอมีแค่เสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น และเครื่องสำอางค์เล็กน้อยแค่นั้นเอง เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและจัดแจงยัดเสื้อผ้าสองสามชิ้นใส่กระเป๋าเดินทางของเธอ จากนั้นก็ถือมันออกไป
“เอาล่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้วล่ะเฟินฉี ฉันไปก่อนนะ ไปแล้วไปลับไม่หวนกลับน่ะ!” พฤติกรรมของชิงซูตอนนี้ราวกับนกน้อยที่ได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ
“จะไปไหนคะพี่สาว?” ทันใดนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างของหญิงสาวที่สวมชุดสูทคนหนึ่งก้าวออกมา ปลายของรองเท้าส้นสูงของเธอกระทบกับกระเบื้องหินอ่อนเกิดเป็นเสียงดังก้อง เสียงพูดของเธอนั้นนุ่มนวลน่าฟัง
เธอตกหลุมพรางของว่าที่สามีและเพื่อนสนิทของตัวเอง ทำให้เธอสูญเสียไปทุกอย่าง เธอตายอยู่บนถนน เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกที ก็พบว่าสามีของเธอกำลังพยายามรัดคอเธอให้ตาย แต่โชคดี ที่สุดท้ายเธอรอดชีวิตมาได้ แล้วเธอก็ตกลงเซ็นข้อตกลงการหย่ากับสามีของเธออย่างไม่ลังเล ที่เธอคิดไม่ถึงคือ แม่ของเธอได้ทิ้งทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาลก้อนหนึ่งให้เธอ ซึ่งช่วยให้เธอได้มีโอกาสแก้แค้นและพลิกสถานการณ์ทั้งหมด จากนั้น ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น และเธอก็ได้รับความรักอีกครั้งกับอดีตสามีของเธอ...
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้