ไม่รู้ว่ากลกาลเวทมนต์อันใดสาปส่ง ถึงทำให้ตำรวจสาวที่กำลังจับผู้ร้ายคดีค้ายา ทะลุมิติไปอยู่บนโลกใหม่ โลกที่เธอกลายเป็นภรรยาของผู้ร้ายคนนั้น! จะจับคนร้ายหรือจับคนรักก็หนีความความร้อนแรงไปไม่ได้!
ตอนที่ 1.1
ณเดชน์ อุรัสยา
ในปัจจุบันภัยร้ายแรงของประเทศที่มีมาอย่างต่อเนื่องที่สุด คือ ภัยจากยาเสพติด มันส่งผลแก่ชีวิต ครอบครัว และความเป็นอยู่ของคนทุกคนที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะเป็นผู้เสพ ผู้ขาย หรือแม้กระทั่งชาวบ้านธรรมดาที่โชคร้าย เป็นเหยื่อให้กับยาเสพติดอีกมากมายนับไม่ถ้วน สาเหตุเหล่านี้เองจึงต้องมีทีมตำรวจพิเศษไว้คอยปราบปราม สืบหา ตัวการใหญ่ของแหล่งผลิตยาและค้ายา เพื่อปกป้องและสร้างความสงบสุขให้กับประชาชน
ในค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งภารกิจของกองปราบปรามยาเสพติดที่ต้องส่งลูกทีมมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่หลังโกดังแห่งหนึ่ง ทีมตำรวจได้รับเบาะแสจากแหล่งข่าวผู้ไม่ระบุชื่อว่าจะมีการขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ในวันนี้ ทางตำรวจจึงส่งลูกทีม ไปดักรอจับกุม หนึ่งในนั้นคือผู้กองเพียงฝัน ตำรวจหญิงเพียงไม่กี่คนในทีมที่มีความสามารถรอบด้านและไหวพริบดีเยี่ยม และรองสารวัตรปกรณ์ ตำรวจหนุ่มคู่หูของหญิงสาว
ขณะนี้เป็นเวลายี่สิบสามนาฬิกาแล้ว แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ รอบโกดัง ไม่มีทั้งคนเข้าและคนออก ผู้กองเพียงฝันจึงเริ่มคิดว่าข้อมูลที่ได้อาจเป็นเพียงเรื่องเท็จ จวบจนรถยุโรปราคาแพงคันหนึ่ง ขับเข้ามาจอดหน้าโกดัง สินค้า
อารัณย์ พิภักดิ์ดาศร
ริมฝีปากเรียวสวยยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าบุคคลที่ตนหมายตัวเอาไว้ปรากฏตัว ในที่สุดวันที่หญิงสาว จะได้จับกุมหนึ่งในเจ้าพ่อสถานบันเทิงยักษ์ใหญ่ของประเทศก็มาถึง เบื้องหน้าเขาเป็นหัวหน้าตระกูลพิภักดิ์ดาศร ที่ทำธุรกิจสถานบันเทิงและแอลกอฮอล์ แต่เบื้องหลังมีข่าวลือว่าเขาเป็นเจ้าของธุรกิจมืดเกือบทุกประเภท หนึ่งในนั้น คือ การค้ายาเสพติดที่เป็นเป้าหมายในการจับกุมครั้งนี้
“ณเดชน์มาแล้ว”
รองสารวัตรปกรณ์ต่อสายรายงานแก่ผู้บังคับบัญชาโดยทันทีที่เห็นนายอารัณย์ลงจากรถ ด้วยภารกิจในการ จับกุมทุกครั้งจำเป็นต้องมีฉายาเพื่อเรียกชื่อเป้าหมาย ในทีมตำรวจจึงโหวตให้นายอารัณย์มีฉายาว่า ณเดชน์ อ้างอิงมา จากดาราไทยที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ เพราะเนื่องจากว่า ชายหนุ่มเจ้าพ่อสถานบันเทิงคนนี้เป็นชายรูปงาม มากไปด้วยเสน่ห์ หากอยู่ในแวดวงสังคมเขาจะเป็นผู้ชายเจ้าสำราญที่รายล้อมไปด้วยผู้หญิงมากมาย
เหอะ! หล่อแต่แรด ไม่ใช่แนวของผู้กองเพียงฝันสักนิด
“ให้เข้าไปเลยมั้ยครับหัวหน้า" รองสารวัตรปกรณ์ทวงถามคำสั่งจากผู้เป็นนาย พวกเขาอยากจะรีบจับกุมพวกค้ายาให้ได้คาหนังคาเขา
“เข้าไปเลย ให้รองสารวัตรกับผู้กองเป็นคนนำเข้าไปได้เลย”
“รับทราบครับ/รับทราบค่ะ”
เมื่อผู้บัญชาการกองปราบมีคำสั่งให้เข้าไปยังพื้นที่ รองสารวัตรปกรณ์ก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องจำนวนสิบคนเตรียมพร้อม ส่วนเขาและเพียงฝันเดินนำหน้าไปยังประตูโกดัง ชายหนุ่มใช้แรงไม่มากผลักประตูเข้าไปด้านใน และสิ่งที่พวกเขาเจอคือภาพการขนย้ายลังบางอย่างหลายร้อยลังขึ้นรถบรรทุก โดยมีนายอารัณย์ควบคุมคนงานอยู่
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนชูสองมือขึ้น เดี๋ยวนี้!"
วินาทีที่ตำรวจเข้าจับกุม รองสารวัตรปกรณ์เป็นคนออกคำสั่งให้คนงานทุกคนยกมือขึ้น เขาส่งสัญญาณให้เพียงฝันเข้าไปตรวจดูของในลัง หญิงสาวเปิดกล่องลังที่อยู่ใกล้กับอารัณย์ เพื่อให้เขาเห็นพร้อมกันตรงหน้า
“นี่มันเรื่องอะไรกันครับคุณตำรวจ เราแค่กำลังย้ายสินค้าของเราขึ้นรถบรรทุก พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาบุกโกดังผมแบบนี้” อารัณย์โวยวาย ยกแขนกั้นไม่ให้ผู้กองสาวเข้ามาตรวจดูลัง
“มีสิทธิ์หรือไม่มี จะได้รู้กันหลังจากเปิดลังพวกนี้” เพียงฝันว่าอย่างท้าทาย “ถ้าคุณบริสุทธิ์ใจจริงก็ขอให้เราตรวจสอบก่อน หากมันไม่ใช่แบบที่เราคิด พวกเราทุกคนจะเป็นฝ่ายขอโทษและไม่ขัดขวางการทำงานของพวกคุณอีก”
“...”
“หรือว่าคุณกลัวคะ?” หญิงสาวยกยิ้ม
“โอเค เชิญตรวจดูให้สบายใจเลยครับ คุณตำรวจคนสวย” ชายหนุ่มมั่นใจว่าของในโกดังทุกชิ้นถูกกฎหมาย เขาจึงยอมลดมือลงแล้วผายมือเชิญให้ตรวจสอบ ไม่ลืมส่งยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้ผู้กองสาวสวยหนึ่งเดียวในนี้ เขาชอบนักผู้หญิงเก่งเนี่ย ถ้าไม่ใช่ตำรวจคงจับมาฟัดให้หนำใจแล้ว แม่คุณเอ้ย!
เพียงฝันเมินรอยยิ้มนั้นไปอย่างไม่ใยดี เธอเกลียดรอยยิ้ม เกลียดท่าทางของเขา มันช่างเจ้าชู้และถือดี วันนี้แหละเธอจะทำให้เขาถูกใส่กุญแจมือให้ได้!
พรึบ!
หญิงสาวใช้แรงเพียงเล็กน้อยในการเปิดกล่องลัง สิ่งแรกที่เห็นคือกล่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากมายหลายสิบกล่อง
“จะเปิดดูข้างในกล่องก็ได้นะครับ”
“เปิดอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง”
มือเรียวหยิบกล่องมาแกะเปิดออกดูพอให้เห็นว่ามีขวดเครื่องดื่มอยู่ในนั้น พยายามไม่แสดงอาการผิดหวังออกมาให้ชายหนุ่มที่คอยมองอยู่เห็น เธอวางกล่องไว้ตามเดิม เกือบจะถอยแล้วให้คำตอบที่น่าผิดหวังกับรองสารวัตรปกรณ์แล้ว หากไม่นึกลองล้วงมือเข้าไปข้างในสุดจนเกือบก้นกล่อง เจอกับของที่ซุกซ้อนอยู่ชั้นสุดท้าย มือเรียวกำถุงขนาดเท่าฝ่ามือขึ้นมาโชว์ให้อารัณย์ดู เธอฉีกถุงที่บรรจุผงสีขาวจนแน่นออกมาแล้วส่งให้เจ้าของมันดม
“นี่มัน...! เป็นไปไม่ได้!!” อารัณย์แสดงสีหน้าตกใจอย่างแนบเนียน เขาล้วงหยิบซองอื่น ๆ ที่ซ้อนอยู่ออกมาฉีกดมก็พบว่าเป็นยาไอซ์ทั้งหมด
วันนี้เป็นโชคดีของตำรวจ แต่เป็นคราวซวยของชายหนุ่ม
“ฉันขอจับกุมคุณข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครองและเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะมีไว้เพื่อจำหน่ายหรือส่งออก”
“ดะ...เดี๋ยวก่อน” อารัณย์พยายามจะหนีไม่ยอมให้เพียงฝันใส่กุญแจมือ
“อย่าขัดขืนนะครับ ไม่งั้นพวกผมคงต้อง...”
ปัง! ปัง!
ยังไม่ทันที่รองสารวัตรปกรณ์จะพูดจบ กระสุนปืนก็ยิงเข้าใส่ฝั่งตำรวจอย่างปริศนา ในจังหวะนั้นเองที่ทุกคนแตกตื่น เหล่าคนงานได้วิ่งหนีออกจากโกดังกันสุดชีวิต อารัณย์เห็นช่องโอกาสในการหลบหนีจึงไม่รอช้ารีบวิ่งออกไปทางด้านหลังโกดัง ท่ามกลางเสียงปืนที่ยิงสู้กัน
“เดี๋ยวฉันตามเอง!!” เพียงฝันตะโกนบอกคู่หู เธอเป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้อารัณย์มากที่สุด จึงอาสาวิ่งตามเจ้าพ่อค้ายาไป
ตึก ตึก ตึก
ผู้กองสาววิ่งออกมาจากโกดัง ความมืดในเวลาเกือบตีหนึ่งบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นไปเกือบครึ่ง หญิงสาวจึงต้องอาศัยฟังเสียงวิ่งแทน
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าคนดังมาจากซอยด้านขวามือ สองเท้าของหญิงสาวจึงวิ่งไปทางนั้น ยิ่งวิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่ก็ยิ่งได้ยินเสียงเขาชัดเจน แต่ก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของชายหนุ่ม
ตึก ตึก ตึก
เธอเริ่มวิ่งออกมาไกลมากแล้วจากโกดัง ระหว่างทางก็เริ่มเป็นตึกร้าง เปลี่ยว วังเวง เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ากำลังตามจับเขา หรือกำลังถูกเขาวางกับดัก
บางทีเขาอาจลวงเธอมาฆ่า...
ตำรวจควรมีคู่หู เธอไม่ควรมาเพียงลำพัง มันประมาทเกินไป แต่ให้ตายสิ! จะปล่อยคนร้ายไปทั้งที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ใช่นิสัยของผู้กองเพียงฝันเสียด้วย หญิงสาวจึงตัดสินใจต่อสายหาคู่หู
ตรูด...ตรูด...
“ฮัลโหล! ตอนนี้ณเดชย์กำลังตรงไปที่ซอยห้างร้างเก่า รีบส่งกำลังคนมาด่วนเลย ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นกับดักหรือเปล่า”
[ได้! กำลังจะรีบไป อุรัสยาประกบไว้อย่าให้คาดสายตา]
“โอ๊ย! ขอเถอะ ช่วยเปลี่ยนฉายาฉันทีได้มั้ย ขนลุกว่ะ” คนกำลังจะเข้าโหมดจริงจังกับการจับผู้ร้าย รองสารวัตรปกรณ์ หรือใช้ฉายาว่า บอย ปกรณ์ก็ยังจะมาล้อฉายาของเธออีก
ในภารกิจครั้งนี้เธอได้ฉายาว่า อุรัสยา อ้างอิงมาจากดาราสาวและแฟนสาวของณเดชย์ ซึ่งก็มาจากการกลั่นแกล้งของเพื่อนสนิทอย่างปกรณ์นั่นเอง
[ฮ่า ๆ เอาน่า น่ารักจะตาย พอจับณเดชน์ได้จะให้เปลี่ยนแล้ว รีบจับมันให้ได้แล้วกัน ฝากด้วยนะอุรัสยา]
ปิ๊บ!
สายถูกตัดไปแล้ว ด้วยความอดทนที่มีจำกัดของผู้กองสาว เธอยอมรับก็ได้ว่าส่วนหนึ่งที่อยากปิดคดีนี้ได้เร็ว ๆ ก็เป็นเพราะฉายานั่น หญิงสาวส่ายหน้าให้กับเพื่อนร่วมงาน
สวบ...สวบ
“...!” เธอได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมาอยู่ไม่ไกล ลังเลเล็กน้อย แต่ก็กระชับปืนในมือแน่นแล้วตัดสินใจเดินเข้าไปยังตึกร้าง
เอาว่ะ! รีบปิดคดีให้จบจะได้กลับบ้าน
หมับ!
“ฉายาของผมคือณเดชย์เหรอ...”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"