CEO หนุ่มหล่อ น่าล่อ ทายาทอันดับหนึ่งของวงศ์ตระกูลมูลค่านับหมื่นล้าน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ชีวิต VS พนักงาน HR นอกจากแสนสวยกับแสนดีแล้วก็ ขาดคุณสมบัติเกือบทุกข้อที่เขาวางไว้ ------------------------------------ ‘จักรภัทร ส่งเสริมสกุลไทย’ CEO หนุ่มหล่อ น่าล่อ ทายาทอันดับหนึ่งของวงศ์ตระกูลมูลค่านับหมื่นล้าน เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเลือกคู่ชีวิต หนุ่มผู้กลายเป็นที่ต้องการของสาวค่อนเมือง เขาจำเป็นต้องเลือกอย่างละเอียดถี่ถ้วนและระมัดระวัง เพื่อกันความผิดพลาดหรือเลิอกคนผิดนั่นเอง คติประจำใจที่เขาและนักธุรกิจหลายต่อหลายคนมีไว้ นั่นคือ 'สมภารไม่กินไก่วัด' _______ ‘มัทรี ทรัพท์สมบูรณ์’ พนักงานสาวในฝ่าย HR ผู้ขาดคุณสมบัติเกือบทุกข้อที่เขาวางไว้สำหรับเลือกมาเป็นคู่ชีวิต ยกเว้นแต่ความสวยบาดใจโดยไม่ต้องแต่งแต้มมากมายนัก กับความเป็นกุลสตรีที่เธอมีครบถ้วน และเขาก็ไม่ควรจะมองข้ามจุดนี้ไป ++++++++++++++++++++++ ‘เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!’ ‘ตูม!!!’ ‘พรึบ!’ “ว๊าย!!!!” ยังไม่ทันจะได้รับกระเป๋าจากมือบางด้วยซ้ำ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงๆ ลงมาอย่างรุนแรง ตามด้วยเสียงอะไรสักอย่างระเบิดขึ้นมา เดาว่าน่าจะเป็นหม้อแปลงไฟฟ้าของหมู่บ้าน แล้วไฟก็ดับพรึบลง คนตรงหน้าของเขาคงตกใจ ถึงกับร้องเสียงหลง แล้วกระโดดเข้ามากอดเขาทันที “ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ” และด้วยสัญชาตญาณ สองวงแขนของเขา ก็รับเอาร่างเล็กๆ มากอดแนบอกไว้เช่นกัน ตอนแรกนั้นเพราะความอยากปกป้องเพศที่อ่อนแอกว่า และกำลังต้องการที่พึ่งพิง ต่อมานั้นมีความต้องการด้านจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ใครจะไปอดรนทนไหว ในเมื่อมีสาวสวยมาให้กอดขนาดนี้ สองวงแขนของเขาเลยกระชับเอาไว้แนบแน่น ‘เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!! เปรี้ยง!!!’ เสียงฟ้าร้อง บวกกับสายฟ้าแลบแปลบปลาบ จนเกิดแสงสว่างว้าบเป็นครั้งคราวนั้น ทำให้เขาเห็นเจ้าของใบหน้าสวย ที่ดูเหมือนจะตกอกตกใจไม่หายได้ชัดเจน สองแขนเล็กเรียวที่โอบกอดเขาอยู่นั้น ก็กระตุ้นให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นได้ไม่ยาก กลิ่นกายหอมๆ บวกกับกลิ่นแชมพูอ่อนๆ จากเรือนผมยาวสลวย ก็ช่วยให้เขาไม่อาจจะผละหนีไปไหนได้ ปลายคางมนของคนตกใจ เลยถูกเขาเชยขึ้นช้าๆ สายฟ้าแลบแต่ละครั้ง ทำให้เขาได้เห็นใบหน้าสวยใสได้ไม่ยาก รวมทั้งริมกระจับงาม ที่เขาทนฝืนใจไม่ให้ก้มลงไปหาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ไม่กี่วินาที เขาก็ได้ลิ้มลอง และเจ้าของก็ไม่มีท่าทีขัดขืนใดๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเชื้อเชิญด้วย เป็นเขาเองที่โน้มใบหน้าลงไปหา ด้วยยากจะหักห้ามใจ และไม่รู้มาก่อน ว่าตัวเองปรารถนาจะลิ้มลองสองกลีบบุปผางามมากมายขนาดนี้ หลังจากที่เจ้าของกลีบเข้าไปแย่งพื้นที่สาวอื่น มีอำนาจเหนือจิตใจเขากินอาณาบริเวณมากระดับหนึ่งมานับแรมเดือน ในบรรดาสาวๆ ที่เขาคัดสรรไว้นั้น เธอคือคนแรกที่เขาเผลอตัว เผลอใจเข้าใกล้ขนาดนี้ ใช่ว่าเขาจะอ่อนประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ หรือเรื่องผู้หญิง ตรงกันข้าม เขากลับช่ำชองไม่น้อย แต่เขาจะฝึกปรือกับผู้หญิงอีกประเภท ที่ซื้อหามาได้ด้วยเงิน และเงินก็จบปัญหาด้านความสัมพันธ์ต่อเนื่องได้ ส่วนผู้หญิงที่จะยกย่องให้เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูกนั้น เขาจะไม่มีวันปล่อยให้อารมณ์ใคร่ เข้ามามีบทบาทเหนือเหตุผลเด็ดขาด ยกเว้นก็ครั้งนี้ จะด้วยเพราะอะไรเขาเองก็ยากจะหาข้ออ้างได้ รู้แต่ว่ากำลังเป็นสุข กับการได้ดูดดื่มเรียวกระจับงาม หอมหวานอยู่ตอนนี้ แผงอกกว้างที่มีอีกอกบดเบียดอยู่นั้น ช่างอบอุ่นเหลือเกิน แม้ด้านนอกจะมีสายฝนโปรยปรายลงมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่ากลับไม่รู้จักหนาวเหน็บแม้แต่นิดเดียว ความรู้สึกนี้ก็เกิดขึ้นกับเจ้าของเรียวกระจับงาม ที่กำลังยกสองแขนกอดเกี่ยวกายเขาเอาไว้ ด้วยหัวใจนั้นเต็มตื้นด้วยความตกใจระคนเป็นสุข จนไม่แน่ใจ ว่าตัวเองกำลังตื่นหรือว่าหลับฝัน ถ้าเป็นฝัน ก็คงจะเป็นฝันอันแสนหวาน ที่สาวๆ ทั้งตึก จะต้องอิจฉาแน่ ใครเลยจะคาดคิดว่าชีวิตนี้ จะได้มีห้วงเวลาที่ผู้อยู่สูงเทียมฟ้าอย่างเขา กำลังมอบจุมพิตที่แสนรัญจวนใจให้ กลิ่นกายของเขานั้นช่างหอมเฉพาะตัว แผงอกของเขานั้น ช่างอบอุ่นราวกับมีผ้าผวยหลายร้อยผืนมาห่อหุ้มเอาไว้ สองวงแขนของเขาที่โอบกอดไว้นั้น ช่างให้ความรู้สึกปลอดภัย ยิ่งกว่ามีสรรพสิ่งใดๆ มาโอบล้อมไว้ ร่างเล็กๆ ที่พอมีเรี่ยวแรงเมื่อครู่ ใกล้จะเข่าทรุดแล้ว หากไม่มีเขาคอยประคองช่วยเอาไว้ มัทรีอยากหยุดเวลาอันแสนสุขเอาไว้แค่นี้ จะได้มีเขาอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ตลอดไป จะได้เก็บความทรงจำอันแสนหวานล้ำนี้ไว้ตราบนานเท่านาน และสำหรับชายหนุ่มผู้เคร่งครัดในกฎเหล็กของตัวเอง ว่าจะไม่ปฏิบัติกับหญิงที่คัดสรรไว้เป็นภรรยา เป็นแม่ของลูก ก็กำลังบังคับตัวเองให้หยุดอย่างหนักหน่วง ‘เปรี้ยง!!!’
ตอนหนุ่มเนี๊ยบ
ไม่ว่าจะวันใด เวลาไหน หรือเมื่อไหร่ สนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่เคยบางเบาผู้คนไปเลย ในความคิดนักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าอย่าง ‘จักรภัทร ส่งเสริมสกุลไทย’ เพราะดูทุกคนต่างรีบเร่งไม่เคยเปลี่ยนแปลง และต่างคนต่างจุดหมายปลายทาง
ส่วนตัวเขาเองนั้น กลับอยู่ในท่าทีสบายไม่รีบร้อนใดๆ เพราะตารางเวลาที่จัดไว้ เป็นไปตามแผนทุกอย่าง เขาก้าวเดินอย่างอกผายไหล่พึง และมาดแมน ปะปนอยู่กับผู้โดยสารขาเข้านับร้อย
กับส่วนสูงร้อยแปดสิบแปด ผิวขาวสมกับมีเชื้อชาวจีนผสมอยู่ ผมตัดสั้นรองทรงช่วยส่งให้เขามีท่าทีสูงสง่าน่าเกรงขาม ใบหน้ารูปไข่และผิวขาวราวสตรีนั้น ทำให้ไม่ยุ่งยากในการเลือกแว่นสายตามาสวมใส่ให้เข้าหน้าและเข้าชุดแต่อย่างใด
และมันก็ช่วยส่งให้เขาดูหล่อเหลาราวกับพระเอกเกาหลีไม่มีผิดเพี้ยน ต่อให้ต้องเดินปะปนอยู่กับผู้คนนับร้อยนับพัน เขาก็ยังคงดูโดดเด่น สะดุดตาใครต่อใครได้ไม่เคยเปลี่ยน จนบางครั้งเกิดอาการเก้อเขิน เมื่อถูกมองมากๆ แม้จะชาชินกับการเป็นเป้าสายตามาตั้งแต่เด็กแล้วก็ตาม
แต่พอถูกจ้องนานๆ เข้า บางครั้งเขาก็ทำตัวไม่ถูกและไปไม่เป็นเช่นกัน เหมือนตอนนี้ที่กำลังถูกสาวน้อยสาวใหญ่มองมาหาไม่วางตา ในใจนั้นให้เก้อเขิลอยู่ลึกๆ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากก้าวเดินด้วยท่าทีสง่างามไปเรื่อยๆ เท่านั้น
“ป้าอรรออยู่ตรงโน้นครับคุณเกียร์”
เขาหันไปมองเนติ ผู้ช่วยคนเก่งวัยสามสิบเท่าน้องชายเขา ซึ่งกำลังเข็นรถกระเป๋าสัมภาระเดินเคียงข้างมา เขายิ้มนิดๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร นอกจากมองไปหาเลขาคู่ใจ ในวัยสี่สิบห้าปี ทำงานดีไร้ที่ติติงมากับเขาสิบสองปีเต็ม ส่วนทำกับพ่อเขานั้น ก็นับตั้งแต่จบปริญญาตรี รวมแล้วอายุงานยี่สิบสองปี
“สวัสดีค่ะคุณเกียร์ เหนื่อยหรือเปล่าคะ อรเตรียมเครื่องดื่มมาไว้ให้อยู่ในรถแล้วค่ะ”
“นิดหน่อยครับ”
“ไปเลยมั้ยคะ อรจะได้โทรบอกประมวนค่ะ”
“ครับ”
อรนภารีบโทรหาคนขับรถ ซึ่งรออยู่ลานจอดด้านนอก จากนั้นก็เดินนำเจ้านายหนุ่มหล่อไปหาประตู ไม่นานเมอร์เซเดส-เบนซ์ วีโต้หนึ่งหนึ่งหก ก็แล่นมาเทียบบาทวิถี จักรภัทรก้าวเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว พอๆ กับเลขาและผู้ช่วย ก็จัดการขนสัมภาระทั้งหมดเข้าไปในรถ แล้วขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็วเช่นกัน
“นี่ค่ะของคุณเกียร์”
อรนภาส่งน้ำแอปเปิล ที่ผู้ช่วยของตัวเอง ทำใส่ขวดจากออฟฟิศมาใส่ในกระติกน้ำแข็ง ซึ่งมีไว้ประจำรถให้ เพราะเจ้านายจะไม่ค่อยโปรดเครื่องดื่มมีน้ำตาลแบบอื่นสักเท่าไหร่
“ขอบคุณครับ แล้วมีอะไรบ้าง”
คนรับรีบเปิดฝาขวดยกขึ้นจิบ ส่วนเลขาก็ส่งอีกขวดไปให้เนติ ที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วย แล้วถึงหันกลับมาคว้าแฟ้มงานของตัวเอง ซึ่งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะทุกครั้งเวลาเจ้านายเดินทางไปต่างประเทศนานเกินอาทิตย์ ก็อยากรู้ความเป็นไปในออฟฟิศก่อนเสมอ บวกกับพรุ่งนี้เป็นวันหยุด
“ก็มีเรื่อง....”
เจ้านายหนุ่มปรับเบาะเอนลง แล้วยกสองขาขึ้นพาดเบาะ ตาก็ปิดลง หูนั้นฟังรายงานจากเลขาไปด้วย รถก็แล่นไปตามถนนอย่างไม่รีบเร่ง จุดหมายปลายทางคือ คฤหาสน์ ‘ส่งเสริมสกุลไทย’ ซึ่งกำลังมีจะปาร์ตี้ใหญ่ จนเขาจำต้องรีบบินกลับให้ทันในค่ำนี้
ราวชั่วโมงครึ่ง ประมวนก็นำวีโต้มาจอดอยู่ประตูรั้วเหล็กดัดอิตาลี มีอักษรตัวเอส สีทองเหลืองอร่ามติดอยู่ทั้งสองบาน แล้วมันก็ค่อยๆ เปิดออก เมื่อ รปภ. เห็นว่าเป็นรถเจ้านายอีกคนของบ้าน
บ่อน้ำพุขนาดใหญ่ดักหน้ารถไว้เพื่อบังคับให้เลี้ยวซ้าย น้ำใสๆ ต่างกำลังพวยพุ่งออกมาราวกับจะสื่อว่า ตระกูลนี้กำลังเจริญรุ่งเรืองไปเรื่อยๆ ไม่มีวันสิ้นสุดก็ไม่ปาน ติดกันเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจี ทอดยาวไปถึงหน้าคฤหาสน์สไตล์ยุโรปสีขาว
“โห! คนเริ่มมางานแล้วนี่ครับคุณเกียร์”
เนติมองออกไปนอกหน้าต่าง ขณะรถแล่นช้าๆ ไปตามถนนคอนกรีต ตรงสนามหญ้ากว้างใหญ่ มีโต๊ะตั้งเรียงรายเอาไว้ รถจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ประทับโลโก้โรงแรมห้าดาวจอดอยู่หลายคัน แทนการจะให้คนในบ้านช่วยกันทำอาหารเอง เหมือนงานเลี้ยงอื่นๆ เหตุเพราะวันนี้แม่ไม่มีเวลาคอยควบคุม
“เพิ่งหกโมงเองนะ”
จักรภัทรลืมตาขึ้นมองนาฬิกาข้อมือราคาเฉียดล้าน แล้วมองไปยังจุดเดียวกับผู้ช่วย เขาถอนหายใจหนักๆ ออกมา เพราะอยากนอนพักสักชั่วโมงก่อน ถึงจะลงมาร่วมงานวันเกิดของแม่ แต่เมื่อมีผู้คนเริ่มมาแล้วแบบนี้ เขาคงได้ทำได้แค่ อาบน้ำแต่งตัวเท่านั้น
“งั้นอรไปช่วยคุณท่านก่อนนะคะ”
อรนภารู้งานเสมอ เลยรีบเอ่ยหลังออกจากรถแล้ว เจ้านายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ให้แทนคำขอบคุณ ก่อนจะพยักหน้ารับ จากนั้นก็มองผู้ช่วยกับคนรถ ต่างช่วยกันลากกระเป๋าเข้าบ้านไปอย่างรู้งานไม่แพ้กัน เขามองไปสนามเห็นแม่กับน้องสาวทั้งสอง กำลังวุ่นอยู่ เลยรีบเดินเข้าบ้านไปแบบไม่ทักทายใคร
‘โฮ่งๆ ๆ’
เสียงเห่าดังมาจากข้างบ้านฝั่งสระน้ำ ไม่นานก็มี ‘เจ้าฮ็อตด็อก’ สุนัขพันธุ์อเมริกันค็อกเกอร์สีน้ำตาลวิ่งหน้าตั้งมา แถมมีตามหลังอีกคือ ‘เจ้าไส้กรอก’ สุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์สีน้ำตาล
ตบท้ายด้วยตัวเล็กสุดคือ ‘เจ้าปังปัง’ สุนัขพันธุ์ตุ๊กตา สเปเนียล คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สีขาวหน้าตาน่ารักน่ากอด ทั้งสามต่างทำท่าดีอกดีใจเมื่อเห็นเจ้านายกลับบ้าน และต่างวิ่งกรูเข้ามาหา
จนเขาจำต้องทรุดกายลงนั่งตรงขั้นบันไดหน้าประตูเข้าบ้าน แล้วอ้าแขนรับเจ้าฮ็อตด็อกกับเจ้าไส้กรอกมากอดไว้ ส่วนเจ้าปังปังนั้น คลอเคลียอยู่กับขาของเขา เพราะมีสองตัวกันท่าเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้เจ้านายได้
ตรวนบาปที่ครอบครัวเขา มีต่อครอบครัวเธอก็ร้ายแรงจนดิ้นไม่หลุดแล้ว แต่เขายังสร้างตรวนใหม่ขึ้นมา ผูกมักให้ตัวเองหมดหนทางดิ้นให้หลุดได้ แม้เธอจะไม่ปรารถนาจะล่ามเขาไว้ยังไง แต่เขาก็ไม่อาจจะหนีไปไหนได้แล้ว ------------------------------ นายแพทย์เมธี พัฒนาธรสกุล ได้พาตัวเองและครอบครัว ถูกพันธนาการด้วยตรวนบาปกับครอบครัวศรีสมบูรณ์ จนไม่อาจจะปลดปล่อยให้หลุดพ้นได้ *** ซ้ำร้ายไปกว่านั้น นายแพทย์เขมินท์ พัฒนาธรสกุล ลูกชายคนโตของตระกูล *** กลับทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าที่เป็น ด้วยการสร้างตรวนบาปใหม่ขึ้นมา *** และยิ่งเป็นตรวนแห่งเสน่หาด้วยแล้ว ใยเลยที่เขากับครอบครัวจะพาตัวเองให้เป็นอิสระได้ ปรียา ศรีสมบูรณ์ ผู้ไม่คิดจะหยิบยื่นตรวนให้ใคร แต่เมื่อได้สูญเสียแล้ว ใยเลยจะปล่อยให้ตัวเองและครอบครัวยุ่งยาก หม้ายสาวจึงไม่คิดจะปลดตรวนบาปให้ใครง่ายๆ *** สถานการณ์ของตัวเองยิ่งเป็นต่อ เมื่อ มัสยา ศรีสมบูรณ์ ลูกชายคนโตของบ้าน *** ถูกดึงเข้าไปอยู่ในเกมที่ทำให้อีกฝ่ายย่ำแย่ขึ้นกว่าเดิม นั่นเป็นโอกาสให้หม้ายสาวมีอำนาจต่อรองมากขึ้น *** แต่มัสยากลับไม่ปรารถนาจะล่ามเขาไว้ ในเมื่อเขาไม่ได้มีใจ ใยเลยที่เธอจะต้องจองจำเขาให้ตัวเองเจ็บช้ำใจไปเปล่าๆ ------------------------------
ชายหนุ่มผู้ที่วิ่งหนีข้อผูกมัด แต่ต้องมาเจอหญิงสาวที่สุดแสนธรรมดาผูกมัดและล่ามเขาไว้ในสถานะ'สามีที่ถูกต้องตามกฏหมาย' คราแรกรังเกียจนักหนา แต่เอาไปเอามากลับเป็นเขาที่วิ่งตามล่า&มัดเธอไว้กับเขาตลอดกาล ------------------------------ แสงตะวัน หนุ่มใหญ่วัยสามสิบหก เจ้าของฟาร์มแสงตะวัน ซึ่งเป็นฟาร์มม้าใหญ่ที่สุดในประเทศ ผู้มากด้วยเงินทองและเสน่ห์ --------- เหมือนดาว สาวแสนสวย เปรี้ยว เฉี่ยวและน่ารัก ผู้มีมาดมั่น และไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ êตัวอย่างสักเล็กน้อย [น้ำจิ้ม] ê "ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่หย่า ผมแค่บอกว่าจะยืดเวลาหย่าไปอีกสามปี เพื่อเหมือนดาวจะได้พิสูจน์ให้ผมเห็นก่อนว่าสามารถดูแลอะไรต่อมิอะไรได้เอง ไม่ใช่เอาไปทำโดยไม่มีประสบการณ์ไม่นานเดี๋ยวก็เจ้ง หรือไม่ก็ขาดทุนเหมือนครั้งก่อนจนผมต้องเหนื่อยมาทำให้มันฟื้นขึ้นมาอีก” แสงตะวันเลยอธิบายด้วยความใจเย็นอีกครั้งหลังจากทนายบอกไปในรอบแรก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีใครอยากเชื่อ “ถ้าถึงสามปีแล้วคุณเห็นว่าฉันยังไม่พร้อมเหมือนวันนี้ล่ะ”คนไม่ยอมใครเลยรีบยิงคำถามตรงๆ “คุณก็คงต้องไปฟ้องเอาแล้วล่ะ และผมขอแนะนำให้หาทนายเก่งๆ ไว้ด้วยนะ เพราะคุณสุทินฝีมือไม่เป็นสองรองใคร แล้วค่าใช้จ่ายในส่วนนี้คุณไม่มีสิทธิ์มาเบิกจากผมแม้แต่บาทเดียว” “ว่ายังไงล่ะ จะเอายังไงก็บอกมา คุณสุทินจะได้ทำข้อตกลงร่วมกันอีกรอบ” แสงตะวันไม่ใคร่จะแยแสนักว่าเด็กสาวตรงหน้าจะคิดยังไง เพราะรู้ดีว่าไม่อาจจะปล่อยทุกอย่างให้พังลงมาอีกรอบได้แน่ “ฉันจะไม่หย่าและจะทำงานที่นี่อย่างที่คุณต้องการ ถ้าคุณตกลงจะจัดงานแต่งงานระหว่างเราให้ทุกคนรอบข้างคุณและฉันรับรู้ ฉันจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านของคุณในฐานะภรรยาไม่ใช่ฐานะพนักงานธรรมดาๆ ทุกคนรอบข้างคุณจะต้องให้ความนับหน้าถือตาว่าฉันที่เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเท่าๆ กับคุณในทุกๆ เรื่อง พอครบสามปีหรืออาจจะช้าหรือเร็วกว่านั้นที่คุณเห็นว่าฉันมีความสามารถจะบริหารงานเองได้ เราถึงจะหย่ากัน” “ผมไม่ได้อยากมีเมีย และไม่คิดว่าจะมีด้วย โดยเฉพาะเมียเด็กที่ฟันน้ำนมยังไม่หลุดด้วยซ้ำ” “ฉันเป็นเพียงภรรยาในนามของคุณเท่านั้น เราจะไม่เกี่ยวข้องกันใดๆ เหมือนที่เคยเป็นมา ยกเว้นให้คนรอบข้างรับรู้ และฉันเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ร่วมกับคุณ มีสิทธิ์มีเสียงเหนือบรรดาคู่นอนของคุณเท่านั้น ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันไม่ว่าอะไรในเรื่องนี้หรอก เพราะฉันเองก็มีแฟนอยู่แล้วทั้งคน เราจะให้อิสระกันและกันในเรื่องนี้ คุณจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ฉันไม่สน และในทางเดียวกันคุณก็ต้องไม่สนด้วยว่าฉันจะไปไหน กับใคร เมื่อไหร่ แฟร์ไหมคะวิธีนี้” “ทำไมผมต้องยอมด้วยล่ะ ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่อยากจะได้อำนาจบริหารคืนเหมือนคุณนี่”
อสมา อิศรานุกล เขาและน้อง ๆ ทั้งสี่คน คือนันทินี นันทิตา และสรนันท์ต่างไม่มีใครลืมอดีตอันแสนขมขื่นจากน้ำมือพ่อได้ แม้ทั้งพ่อและแม่จะจากไปหลายปีแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอสมาซึ่งเป็นพี่คนโตและจำทุกอย่างได้อย่างแม่นยำนั้นไม่มีวันลืมเลย บวกกับที่ชีวิตคู่ของเขาต้องพบกับความล้มเหลว ด้วยตัวเขาเองเป็นคนทำลายลงอย่างไม่น่าให้อภัย จนภรรยาคือเจนนิเฟอร์ขอหย่าขาดมาเป็นสิบปีแล้ว และหนีกลับไปอยู่อเมริกาตั้งแต่นั้นมา แต่เขาก็ยังเฝ้าตามง้องอนขอคืนดีกับเธอและขอโอกาสแก้ตัวกับเธอมาตลอดเช่นกัน ------------------------------- ปาลิตา พฤกษาชาติ นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน ------------------------------------- แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง
พลาธิป ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดาส่วนปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา ---------------------------------- พลาธิป พงษ์พันธุ์สถาพร ชายหนุ่มผู้เจ็บช้ำจากคนรัก ปิยธิดา ศรีสวัสดิ์วัฒนา ที่สลัดเขาทิ้งอย่างไม่เสียดาย แล้วหันหน้าเข้าสู่ประตูวิวาห์กับเพื่อนรักของเขา ด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ที่ว่า ‘เขามีพ่อที่เจ้าชู้ หลายลูกหลายเมีย ซึ่งนั่นอาจจะทำให้เขาได้เลือดแย่ๆ จากพ่อมาด้วยล้านเปอร์เซ็น และโอกาสที่เขาจะทำให้คนรักต้องกลายเป็นเมียหลวงมีมากมายจนอาจจะทำให้ชีวิตครอบครัวพินพังลง’ นั่นทำให้เขาไม่เข้าใจ ขุ่นเคืองใจ และแค้นเคืองแฟนสาว กับเพื่อนสนิทที่พิชิตใจหญิงคนรักของเขาไปได้ในเวลาอันเฉียดฉิว ก่อนที่เขาจะคว้าชัยชนะได้ไม่กี่อึดใจ ปราณปริยาวดี ศรีสวัสดิ์วัฒนา ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่กับคนรักเก่าของเขา คือหญิงสาวที่เขามองเห็นเป็นคนแรกที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการเย้ยหยันแฟนสาวที่มองไม่เห็นค่าของเขา และทันทีที่คิดได้ เขารีบส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอและแต่งงงานด้วยทันที ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคาดหวังจะให้คนรัก ถูกหยิบยื่นให้ปราณปริยาวดี ซึ่งเป็นลูกเมียน้อยและเป็นผู้หญิงที่อดีตคนรักของเขาเกลียดชังมาก นั่นทำให้เขาสะใจที่ได้เห็นอดีตแฟนเต้นเป็นเจ้าเข้าด้วยความเสียดายที่สลัดคนอย่างเขาไป แต่สุดท้ายเขาก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดที่ดึงเธอเข้ามาในชีวิต เพราะจากเดิมที่เขาเกลียดลูกเมียน้อยเข้าไส้ กลับกลายเป็นว่าเขาเผลอใจรักเธอเข้าเต็มๆ หากก็ยังปากหนักปากแข็งอยู่นั่นเอง ปรานปริยากรเองก็ไม่คิดจะมอบหัวใจให้เขาง่ายๆ ทั้งสองจะลงเอยกันด้วยดีได้หรือไม่ เพราะอะไร เพราะใคร และทำไม ‘ไฟล้อมน้ำ’ มีคำตอบรอให้ท่านค้นหาแล้ว แม้ในโลกความเป็นจริงจะต่างจากความฝัน แต่โลกในนิยายรักนั้นจะสรรค์สร้างรอยยิ้มให้คุณได้ ด้วยรักและมิตรไมตรี / กันเกรา ---------------------------------- “ถ้าคุณเสียดายมันมาก ฉันจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ ปล่อย!!! ฉันจะกลับไปนอนบ้าน คุณพร้อมเมื่อไหร่นัดวันหย่ามาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ” “คิดเหรอว่าผมจะอยากได้เงินคืน แล้วคิดเหรอว่าผมจะปล่อยคุณให้ไปออเซาะกับไอ้มือระนาดนั่นได้ง่ายๆ แล้วคิดเหรอว่าคืนนี้ผมจะปล่อยให้คุณก้าวออกจากห้องนี้ได้ง่ายๆ โดยที่ผมไม่ได้ทำหน้าที่ผัวให้สมบูรณ์ก่อน มานี่!!! อยากหย่านักใช่มั้ย” ร่างสูงเพรียวปลิวไปหาเตียงด้วยแรงเหวี่ยงของเขาจนชุดนอนเปิดไปถึงไหนๆ มือบางต้องรีบดึงชายชุดลงและพยายามจะพาตัวเองหนีให้รอดพ้นเขา แต่มีหรือที่คนโกรธจัดจะยอมให้ทำอย่างนั้นได้ง่ายๆ “จะไปไหน!!! คืนนี้คุณต้องเป็นเมียผมสักที หลังจากที่ผมปล่อยให้คุณไปอ่อยใครต่อใครๆ หรืออาจจะไปเอากับใครๆ มาหลายเดือนแล้ว หรืออาจจะนานหลายปีแล้วก็ได้ใครจะไปรู้” “อย่านะ!!! ออกไป!!! อื้มมมมมมม” สองแขนเล็กเรียวถูกตึงไว้กับที่นอนเมื่อร่างสูงกระโดดไปขึ้นคร่อมไว้ ใบหน้าสวยก็สบัดหลบใบหน้าคมที่ก้มลงไปหาอย่างเร่งรีบ “อย่า....” ปากบางก็ร้องห้าม ขาขาวเรียวก็ถีบไปทั่ว แต่ก็ไม่อาจจะทัดทานแรงมหาศาลของอีกคนได้ “ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยคุณไว้อีกแล้ว ต่อให้ผมเกลียดและขยะแขยงลูกเมียน้อยอย่างคุณมากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีทางเก็บคุณไว้จนถึงวันที่เราจะหย่ากันโดยไม่คิดจะทำอะไรแน่ และคนที่จะเอ่ยปากเรื่องหย่าได้จะต้องเป็นผมเท่านั้นไม่ใช่คุณ จำเอาไว้” ริมฝีปากที่กำลังเผยอขึ้นไปต่อว่าเขาถูกอีกปากบดเบียดลงไปหา แม้ใบหน้าจะสบัดซ้ายขวาสักแค่ไหน แต่เขาก็ช้อนมือขวาลงไปใต้ท้ายทอยแล้วล็อกไว้เพื่อให้ได้ก้มไปครอบครองสะดวกขึ้น อีกมือมือก็ออกแรงกดสองแขนลงบนที่นอนอีก เมื่อรับรู้ว่ากำลังจะยกขึ้นมาขัดขืน ช่วงขายาวและหนักอึ้งก็ยกไปทับสองขาที่ถีบที่นอนไปมาจนไม่ให้ขยับเขยื้อนไปไหนได้อีก นานหลายนาทีกว่าเขาจะสยบคนอยู่เบื้องล่างให้สงบลงด้วยแรงจุมพิต จนมั่นใจว่าแขนเรียวจะไม่ยกขึ้นมาฟาดฟันเขาอีก ถึงได้ปล่อยให้เป็นอิสระแล้วเลื่อนมาหาอกตั้งตรงแล้วบีบเค้นอย่างหนักหน่วง ปลายนิ้วชำนาญการสบัดหยอกเย้าไปมาตรงปลายยอดเพื่อหมายให้อีกฝ่ายยินยอมพร้อมใจไปกับบทรักที่กำลังจะเริ่มต้น มือบางที่ว่างเว้นจากการรัดตรึงรีบยกขึ้นมาปัดป้อง แม้จะหวั่นไหวกับการกระทำของเขาสักแค่ไหนก็ตาม แต่เขาไม่สนใจจะหยุดยั้ง แถมยังยกขึ้นไปดึงสายเดี่ยวออกจากไหล่ลากไล่ลงไปจนเลยอกสวย แล้วถลกบราผ้าเนื้อนุ่มขึ้นทันที ตามด้วยบีบขยี้ตรงปลายให้ตื่นตระหนกอย่างรวดเร็วปากก็ยังคงลิ้มลองของหวานบนเรียวปากไม่ยอมห่าง “อย่าค่ะคุณหนึ่ง ปล่อยฉันนะ” ปากบางได้อิสระเมื่อเขาละลงมาหาอกอิ่ม “ไม่มีทาง คุณต้องทำหน้าที่เมียให้ผมสักที หลังจากที่คนอื่นทำงานแทนคุณมานานแล้ว” นั่นคือคำยืนยันของเขา ก่อนจะก้มลงไปลิ้มลองยอดอกนุ่ม แล้วสอดมือไปใต้แผ่นหลังนุ่มปลดตะขอบราดึงออกจากร่างอรชร ก่อนจะดึงชุดนอนหวานแว๋วลงไปกรอม์อยู่ปลายเท้า ลูบไล้เรียวขานุ่มขึ้นมาเรื่อยๆ กระทั่งถึงแพนตี้สีหวานที่ปกปิดสิ่งหวงแหนเอาไว้ เขาวนฝ่ามืออุ่นไปมาก่อนจะหยอกเย้ากลีกกุหลาบจนเจ้าของสะดุ้งสุดตัวเมื่อก้อนความสุขแล่นเข้าไปเล่นงานอย่างไม่เคยมีมาก่อน เรื่องที่คุณน่าจะสนใจ ----------------------------------
ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”
เพื่อเอาชนะและเพื่อทวงคืนให้ตัวเองและครอบครัว เขาขอมแลกทุกอย่างแม้กระทั่งหัวใจและความรัก เพื่อให้ได้ความรัก เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว เพื่อบ้านเกิด เธอยอมแลกด้วยทุกอย่าง แม้กระทั่งร่างกาย --------------------------------- คฑาธร ไวทยาพาณิชย์ นักธุรกิจหนุ่ม ผู้สร้างตัวเองด้วยมันสมอง สองมือกับหนึ่งหัวใจ เขามีอัตตาของความไม่ยอมแพ้ใคร โดยเฉพาะสตรีเพศ และเมื่อก็ตามที่ผู้หญิงคนไหนมาลบอัตตาเขาลง เขาก็จะเอาคืนให้สาสม ผสมกับความแค้นครอบครัวเข้าด้วยกันแล้ว เขาคือชายที่อันตรายสุดขีด “ผมบอกว่าผมจะไม่ทำ แต่ไม่ได้หมายความว่า คนในบริษัทผมจะทำไม่ได้นี่ แล้วผมพูดหรือทำอะไรผิดไม่ทราบ” “ทำไมผมจะต้องจ่ายด้วย ในเมื่อผมไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าคุณอยากไปก็เชิญตามสบาย แต่ก่อนไป ช่วยคิดให้ดีๆ หน่อยนะ ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่ ช่วยคิดถึงตัวเองและคนรอบข้างให้มากๆ” “ผมแค่อยากบอกว่า ถ้าคุณก้าวออกจากชีวิตผมไปเมื่อไหร่ คุณก็จะเหมือนคนไม่เหลืออะไรทันที แม้แต่คนในครอบครัวของคุณ ค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่ารักษา ค่าเลี้ยงดูที่ผมจ่ายให้จะถูกยกเลิก และถ้าคุณเห็นว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนมากพอล่ะก็ คุณคงจะคิดผิด เพราะผมสามารถทำให้พ่อค้าทุกคน เมินผลไม้ในสวนคุณได้อย่างสบาย น้องๆ ของคุณที่เรียนอยู่ ผมก็สามารถทำให้มีปัญหาการเรียน หรือแม้แต่ด้านความประพฤได้ไม่ยาก เพื่อนบ้านร้านตลาดที่เป็นพวกพ้องพ่อของคุณ ผมก็ทำให้คนพวกนั้นเกลียดพ่อคุณ เกลียดคุณและคนในบ้านคุณได้สบายมาก ทีนี้คุณยังอยากจะไปจากผมอีกหรือเปล่า” --------- พิมพ์ภิษา วัฒนากรณ์ หญิงสาวผู้โหยหาความรักและอ้อมกอดของพ่อผู้ให้กำเนิด เมื่อพ่อไม่เคยหยิบยื่นให้ เธอจึงยอมใช้ร่างกายเข้าแลก เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อ เพื่อครอบครัว และเพื่อเพื่อนร่วมสังคมเล็กๆ ที่คุ้นเคย แต่สุดท้าย เธอก็พบว่า สิ่งที่ได้มาคือความว่างเปล่า “คุณทำแบบนี้ทำไม คุณหลอกฉันทำไม แล้วคุณสัญญากับฉันทำไม ในเมื่อคุณไม่เคยคิดจะรักษาสัญญาอยู่แล้ว” “รักเหรอ! ไม่มีทางที่ฉันจะรักคนใจร้ายอย่างคุณได้ มีเพียงความรู้สึกเดียวที่ฉันจะให้ได้ นั่นก็คือ ความเกลียด...” “ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อฉันไม่เคยรู้สึกอย่างที่คุณว่าเลยสักนิดเดียว ช่วยกรุณาฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าฉันไม่มีวันจะรักคุณ ในใจของฉันมีแต่ความเกลียดเท่านั้น ฉันเกลียดคุณตั้งแต่แรกเห็น กระทั่งเดี๋ยวนี้ ความรู้สึกฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ตรงกันข้าม ฉันกลับเกลียดคุณมากกว่าเดิมอีกร้อยเท่าพันเท่า ได้ยินมั้ยว่าฉันกละ...” --------- อดีต ไพรัช กองทอง หนุ่มผู้ด้อยเงินแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรัก ปัจจุบัน ไพทัช ไวทยาพาณิชย์ ผู้มากด้วยเงินแต่ไร้รัก --------- ขจร วัฒนากรณ์ อดีตคือหนุ่มมากด้วยเงินแต่ไร้รัก ปัจจุบันคือผู้ไร้เงินและไร้รัก --------- ศุภิษา วัฒนากรณ์ อดีตคือหญิงสาวผู้เป็นต้นเหตุแห่งโศกนาฏกรรมรัก ปัจจุบันคือผู้หล่อหลอมสองดวงใจให้เป็นหนึ่งเดียวด้วยรัก ---------------------------------
เพลิงกัลป์ / Ryuu ริว ซาโต้อิชิบะ หัวหน้าแก๊งมาเฟียใหญ่ในคราบคุณหมอ หล่อ เลว เถื่อน ร้ายกับทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งกับ เธอ "กฎของการเป็นของเล่นคือห้ามรักเขา" ลูกพีช รินรดา สวย เซ็กซี่ สดใส ร่าเริง ปากร้าย กล้าได้กล้าเสีย สายอ่อยตัวแม่ "ของเล่นที่มีหัวใจของผู้ชายที่ไร้หัวใจ"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน