เรื่องของอารมณ์และความรู้สึก มันห้ามกันได้ซะที่ไหน เมื่ออยากรู้ มันก็ต้องลอง พบกับเรื่องราวแรกลิ้มรสของอารมณ์ด้านมืดในอารมณ์ที่หลายคนอยากสัมผัส ใน “แรกรู้ รสสวิง” เขาและเธอจะพาคุณเข้าสู่โลกอีกใบที่เร้าอารมณ์จนบางครั้งคุณเองก็อาจจะอยากตามเข้าสู่โลกใบนี้
แม้ในปัจจุบันคำว่าสวิงกิ้งอาจจะไม่ใช่ศัพท์ใหม่อะไร แต่ผมยังเชื่อว่าการจะพาตัวเองก้าวข้ามเส้นบางๆ ไปสู่วงการนี้สำหรับใครหลายคนรวมถึงตัวผมเองด้วยนั้นมันไม่ใช่เรื่อง่ายเลย โดยเฉพาะกับครั้งแรก
สวัสดีครับ ผมชื่อนาย อายุ 38 ปี ทำงานอยู่ในบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง หน้าที่การงานก็ระดับหัวหน้าที่ต้องดูแลทั้งลูกค้าและลูกน้อง เปิดเรื่องมาแบบนี้ก็แน่นอนว่าจะต้องมีภรรยาของผมเป็นตัวละครหลักอีกคนของเรื่องนี้
ภรรยาผมชื่อ เก๋ อายุ 35 ปี ทำงานเป็นข้าราชการอยู่ในหน่วยงานหนึ่ง ซึ่งด้วยอาชีพที่ทำอยู่ทำให้เก๋ต้องวางตัวให้ดูดีในสายตาของคนอื่น หากถามถึงความสวยผมก็กล้าพอจะบอกว่าแม้ไม่ได้สวยระดับนางงาม แต่เดินไปไหนด้วยกันหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต้องอิจฉาผมก็แล้วกัน
เก๋เป็นผู้หญิงรูปร่างสมส่วน หน้าอกหน้าใจอาจไม่ใหญ่มากแต่ก็ถือว่าเต็มไม่เต็มมือเวลาได้สัมผัสลูบไล้ แถมยังเข้าขั้นสวยทั้งเต้านมและหัวนมเม็ดเล็กสีน้ำตาลอ่อน มีฐานจางๆ กำลังพองาม ด้วยความที่เก๋ชอบออกกำลังกายแม้อายุจะสามสิบกว่าแต่ก็ยังดูดี ผมเองยังอดแอบมองเมียตัวเองไม่ได้เวลาที่ไปออกกำลังกายด้วยกัน แน่นอนว่าคนอื่นก็ต้องมีแอบมองเก๋บ้างล่ะ
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของเก๋นะครับ ก่อนจะมาลงเอยกับผมเก๋นั้นเคยมีแฟนมาแล้ว 2 คน คนแรกคบกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนอีกคนเป็นเพื่อนที่ทำงานเก่าคบกันตอนเรียนจบใหม่ๆ แล้วก็เลิกรากันไปเพราะความขี้หึงของฝ่ายชาย ซึ่งเอาเข้าจริงก็เข้าใจได้ เพราะมีแฟนสาวสวยแบบเก๋ เป็นใครก็ต้องหึง แต่มันอาจจะเกินงามจนเก๋รับไม่ได้ สุดท้ายเลยเลิกรากันไปแล้วก็มาเจอผมนี่ล่ะ
แรกๆ ชีวิตคู่ของเราก็ดูจะสมบูรณ์ไปแทบทุกด้าน ทั้งหน้าที่การงาน ฐานะในสังคม รวมถึงเรื่องบนเตียงที่เราต่างไม่ได้บกพร่อง ซึ่งเก๋นั้นแม้ภายนอกจะดูเรียบร้อยแต่พออยู่บนเตียงลีลารักของเธอนั้นทำเอาผมถึงกับต้องยอมสยบ แต่พออยู่กันมา 3-4 ปี ของที่เคยกินทุกวันมันก็ย่อมมีเบื่อบ้าง
ผมกับเก๋จากที่เคยมีอะไรกันแทบทุกวันก็เริ่มห่างๆ ออกไป เป็นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะหน้าที่การงานที่ความรับผิดชอบเยอะด้วยกันทั้งคู่ แต่โชคดีที่หลังเลิกงานเรามักจะยังให้เวลากับการดูแลสุขภาพด้วยการพากันไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะบ้าง ไม่ก็ฟิตเนตแถวบ้าน จากนั้นก็หาอะไรกินก่อนกลับ ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาของคู่รักในยุคนี้ นานๆ ครั้งถึงจะทำอะไรกินกันที่บ้าน
อารัมภบทมาหลายย่อหน้าแล้วเพื่อให้คุณรู้จักกับเราสองคนสักเล็กน้อย คราวนี้เรามาเข้าเรื่องที่คุณรออ่านกันอยู่ดีกว่า เพราะคุณคงไม่อยากรู้ว่าแต่ละวันผมกับเก๋กินอะไรกันบ้างใช่ไหมล่ะ
จุดเริ่มต้นของความต้องการด้านมืดของผมนั้นอาจจะคล้ายกับรุ่นพี่หลายคนในวงการนี้ คือการอ่านเรื่องเสียวจากเว็บไซต์ต่างๆ และที่ชอบมากก็หนีไม่พ้นเรื่องการแลกคู่นอนหรือว่าสวิงกิ้งที่เรารู้จักกันนั่นแหละ แต่ของผมอาจจะย้อนไปนานกว่านั้นหน่อย มันเป็นความรู้สึกที่อยู่ในความนึกคิดของผมมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
เรื่องของเรื่องคือที่บ้านผมมีหอพักให้เช่า เป็นหอรวมที่มีทั้งนักศึกษาและคนทำงานมาเช่าอยู่ ซึ่งเรื่องราวคาวโลกีย์ในหอมันก็เป็นเรื่องปกติ แค่แต่ละคู่ก็ทำกันในห้องของตัวเอง อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ห้องอื่นได้เงี่ยหูฟังบ้าง
ส่วนที่มันไม่ปกติก็คือวันหนึ่งหลังเลิกเรียนผมก็ไปกินเที่ยวกับเพื่อนเหมือนนักศึกษาทั่วไป กับเข้าบ้านก็เกือบเที่ยงคืนเพราะวันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด ซึ่งห้องผมมันต้องเดินผ่านห้องของสามีภรรยาคู่หนึ่งคือพี่นิดกับพี่ต้อม ก่อนจะขึ้นบันไดไปชั้น 2 ซึ่งเป็นที่พักของคนในครอบครัวเรา
ระหว่างเดินทางผ่านผมได้ยินเสียงคนกำลังร่วมรักกัน แน่นอนล่ะผมไม่ใช่เด็กที่จะไม่รู้ว่าเสียงที่ได้ยินมันคืออะไร ด้วยความที่เมามานิดหน่อยบวกกับความอยากรู้อยากเห็น ผมก็เลยแอบส่องตรงช่องผ้าม่านที่วันนั้นดูจะเป็นใจให้นักสอดแนมอย่างผม
แล้วผมก็ถึงกับใจเต้นแรงเพราะภาพที่ผมเห็นก็คือ พี่นิดกำลังนอนหงายให้ไปทางหัวเตียง มีร่างของพี่ต้อมกำลังสอดใส่ท่อนลำเข้าหาร่องรูของพี่นิด พร้อมซอยเอวเข้าหาถี่ๆ เหมือนใกล้ถึงฝั่งเต็มที แต่ที่ผมตกใจและไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นกับตาก็คือ ปากของพี่นิดกำลังอ้าอมท่อนลำของชายอีกคนไปด้วย ซึ่งมันใหญ่จนพี่นิดอมแทบไม่ได้
ทั้งสามคนเหมือนกำลังแข่งกันไปให้ถึงจุดหมายหลายทาง เสียงครางที่แม้จะพยายามเก็บกลั้นเอาไว้แค่ไหนแต่ก็เล็ดลอดออกมาให้ผู้ชมอย่างผมได้ยิน พี่ต้อมซอยเอวเข้าหาหนักๆ ได้ยินเสียงดัง ตั่บๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะ
ปากของพี่นิดที่ไม่ว่างก็ได้แต่ครางอู้อี้ในลำคอ อืมมมๆๆๆ อ่อกๆๆๆๆ ส่วนชายอีกคนหน้าเชิดสวนเอวเข้าหาปากพี่นิดไปพลาง มือก็บีบเคล้นไปบนเต้านมของพี่นิดพร้อมบี้ไปบนหัวนมเม็ดเล็ก จนพี่นิดต้องแอ่นอกส่ายไปมา
ผมทั้งตื่นเต้นทั้งเสียวจนต้องเอามือบีบท่อนลำในกางเกงที่แข็งชันจากภาพและเสียงตรงหน้า สายตาก็คอยดูว่าจะมีใครเดินผ่านมาเห็นหรือไม่ โชคดีที่ส่วนใหญ่ไม่กลับบ้านก็เข้านอนกันแล้ว
ทั้งสามยังคงแข่งกันครางเสียว พร้อมร่วมรักแบบชาย 2 หญิง 1 แบบไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะพี่นิดที่แม้ตัวจะเล็กแต่ก็สู้ไม่ถอยแม้จะโดนประกบบนล่างด้วยชายถึงสองคน แต่ตอนนี้พี่ต้อมสลับตำแหน่งกับชายคนนั้นแล้ว ผมไม่คิดเลยว่าจะได้ดูหนังสดแบบนี้ แม้จะเคยผ่านตามาบ้างจากเว็บโป๊ที่เข้าไปดูเวลาช่วยตัวเอง
แล้วในที่สุดภาพที่ทำให้ผมเสียวจนน้ำเล็ด และติดตาตรึงใจผมมาจนถึงวันนี้ก็มาถึง ชายคนนั้นที่ผมไม่รู้ว่าใครแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะตอนนี้เขากำลังกระแทกร่องรูของพี่นิดเน้นๆ รัวๆ เพราะน่าจะใกล้เสร็จสม ส่วนพี่ต้อมก็สาวท่อนลำกับปากของพี่นิดใบหน้าเหยเกไม่ต่างกัน
สุดท้ายทั้งชายคนนั้น พี่ต้อม และพี่นิด ก็พากันถึงจุดหมายปลายทางของการร่วมรักในครั้งนี้
“อ๊ะๆๆๆๆ ผัวขา เมียเสียว ไม่ไหว ใกล้แล้ว แรงอีก ค่ะ อีกนิดน้า อ่าาา”
พี่นิดร้องครางเรียกชายแปลกหน้าว่าผัว ทั้งที่ผัวตัวจริงกำลังชักท่อนลำของตัวเองอยู่แถวริมฝีปาก จ้องมองท่อนลำของชายคนอื่นที่กระแทกร่องรูเสียวเมียตัวเอง
“ผัวก็ไม่ไหวแล้วเมียจ๋า จะแตกแล้ว วันนี้ขอแตกในนะ”
“ค่ะ แตกในเลยค่ะ ปล่อยใส่ของเมีย เมียรอรับ อูวววว เมียไม่ไหวแล้ว อร๊ายยยย แตกแล้วผัวขาาา”
“โอววววว ผัวก็แตกแล้วววววว”
ชายแปลกหน้ากระแทกเน้นๆ อีกไม่กี่ทีก็กดท่อนลำเข้าหาจนลึกและแช่เอาไว้ ร่างเกร็งกระตุก พี่นิดเองก็ไม่ต่างกัน
แล้วภาพติดตาอีกภาพก็ตามมา เมื่อพี่ต้อมทนเสียวที่เห็นภาพการร่วมรักของเมียตัวเองกับชายอื่นไม่ไหว สาวท่อนลำในมือตัวเองเข้าหาปากของพี่นิดที่เหมือนจะรู้ใจกัน พี่นิดอ้าปากรอน้ำรักด้วยใบหน้ายั่วยวนไม่ต่างจากนางเอกหนัง AV ที่ผมเคยดู
“อ่าาาา เมียจ๋า กินน้ำผัวหน่อย ผัวแตก แตกแตกแล้วเมียจ๋า โอววววว”
สิ้นคำพี่ต้อมก็ทนไม่ไหวปล่อยน้ำรักขาวข้นเข้าหาปากคอของพี่นิด ที่รอกลืนกินมันอยู่ ก่อนจะกดท่อนลำเข้าหาให้พี่นิดดูดกลืนส่วนที่เหลือจนหมด พร้อมๆ กับที่ผมเองก็ทนไม่ไหวน้ำเสียวแตกออกมาแทบจะพร้อมกับพี่ต้อมจนเลอะกางเกงในไปหมด
สิ่งที่ผมได้เห็นในวันนั้นยิ่งทำให้ผมสนใจเรื่องเสียวแนวสวิงมากขึ้น เรียกว่าเสพติดเลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ลองด้วยตัวเอง แม้จะมีแฟนมาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่กล้าพอจะชวนแฟนตัวเองให้ทำแบบที่ในใจลึกๆ ต้องการ เป็นเหมือนปมในใจที่รอวันปะทุขึ้นสักวัน…
“Sex Note บันทึกเสียวของเราสอง” กับเรื่องราวและประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในชีวิตคู่ระหว่างผมกับแฟน ที่จะมาผลัดกันเล่าให้พวกคุณได้อ่านกัน
เราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจากการเริ่มต้นออกเดินทางท่องเที่ยวและถ่ายคลิปลงโซเชียลจะนำไปสู่ประสบการณ์ซ่านเสียวในแทบทุกทริปที่ได้ไป ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เราได้รู้จักกับพี่แทน หนุ่มมาดเซอร์นักผจญภัยที่ภายหลังกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเราและพาเราเข้าไปสู่อีกฝั่งของอารมณ์ราคะที่เราไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะได้สัมผัสกับมันด้วยตัวของเราเอง
ครูทรายพอบอกเลิกกับครูวิชิตไปแล้วก็คิดว่าตัวเองจะพ้นออกจากวังวนสวาทแบบเดิม ๆ แต่เธอหารู้ไม่ว่าผัวของตัวเองนี่ล่ะที่จะพาเธอวนกลับไปหาเรื่องราวความเสียวที่ตื่นเต้น แปลกใหม่ และเร้าใจมากขึ้น
ทรายครูสาวแสนเรียบร้อยมองเผินๆอาจไม่เห็นความต้องการด้านมืดของเธอแต่ใครจะรู้ว่าภายใต้ความเจ้าระเบียบที่แสดงออกมานั้นแอบเก็บความต้องการทางเพศที่เกินคนรู้จักจะจินตนาการ พบกับเรื่องราวของครูสาวกับการเดินทางในโลกแห่งอารมณ์ด้านมืดของเธอได้ใน “ครูสาว สวิงเสียว”
ซีรี่ส์ “รสรักสวิงร้อน2” กับเรื่องราวของชายเดี่ยวคนแรกของคนคอเดียวกันที่ชื่นชอบรสชาติความเร้าใจที่ได้เห็นคู่ของตัวเองร้อนร่านกับชายเดี่ยวที่มาเติมเต็มอารมณ์และความต้องการ
“รวมเรื่องสั้นอารมณ์เสียวของเมียสาว ที่จะพาคุณก้าวไปสู่อีกโลกของพวกเธอ ที่แต่ละคนร่านร้อนจนคิดไม่ถึง” สำหรับเล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นของบรรดาเมียสาวกับความเสียวและรสชาติของชีวิตที่แอบไปเติมเต็มหรือไม่ก็มีผัวตัวดีคอยส่งเสริมและวางแผนการเสียวซะเอง บอกเลยว่าเรื่องราวของเมียสาวแต่ละคนจะทำให้คุณต้องคอยติดตามพวกเธอ ว่าสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก